CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 877.1 ต่างคนต่างมีท่าเรือ

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 877.1 ต่างคนต่างมีท่าเรือ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“ได้​สิๆ ต้อง​ได้​อยู่แล้ว​!”

แม่นาง​น้อย​รีบ​วาง​คาน​หาบ​สีทอง​และ​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​ลง​ มือ​กำ​เชือก​ของ​กระเป๋า​ผ้าฝ้าย​ใบ​เล็ก​ที่​สะพาย​เอียง​ๆ เอาไว้​แน่น​ วิ่ง​ตะบึง​ไป​ที่​โต๊ะ​ตลอดทาง​ ตัว​สูงจริงๆ​ เลย​นะ​ หาก​รู้​แต่แรก​คง​วิ่ง​น้อยลง​สอง​ก้าว​ไป​แล้ว​

หมี่​ลี่​น้อย​แหงนหน้า​ถาม “หาก​ผู้มาเยือน​แค่​ผ่าน​ทาง​มาแล้ว​กระหายน้ำ​ ต้อง​รีบ​เดินทาง​ต่อ​ บน​โต๊ะ​มีน้ำเปล่า​วาง​อยู่​ หาก​ยินดี​นั่ง​พัก​ชมทัศนียภาพ​สักครู่​ก็​สามารถ​ดื่ม​ชาได้​ เดี๋ยว​ข้า​จะไป​ต้ม​น้ำร้อน​กา​หนึ่ง​มาให้​ท่าน​”

บน​ดวง​หน้า​เล็ก​ๆ คล้าย​คาดหวัง​อย่างยิ่ง​ให้​แขก​ผู้มาเยือน​พูด​คำ​ว่า​ไม่รีบร้อน​

คน​ผู้​นั้น​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่ได้​รีบร้อน​เดินทาง​เป็นพิเศษ​”

เพราะ​ก่อนที่​ห​ลี่​เซิ่งจะหวนกลับ​มายัง​ไพศาล​ เขา​ต้อง​อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้​ๆ กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก่อน​

หมี่​ลี่​น้อย​คลี่​ยิ้ม​กว้าง​ทันใด​ “ใบชา​เป็น​ของ​ที่​บ้าน​เอง​ ไม่ต้อง​เกรงใจ​ แต่​ก่อนหน้านี้​มีนักพรต​เฒ่าบางส่วน​ที่​ผ่าน​ทาง​มาที่นี่​เช่นเดียวกับ​ท่าน​ ต่าง​ก็​บอ​กว่า​น้ำชา​อร่อย​นะ​ แขก​ผู้มาเยือน​รอ​สักครู่​ นั่งลง​ก่อน​ ข้า​จะไป​ต้ม​น้ำ​ชงชาให้​เดี๋ยว​นี้แหละ​”

เห็น​ว่า​แขก​ยัง​ยืน​อยู่​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​รีบ​ปรายตา​ไป​มอง​ม้านั่งยาว​ ยิ้ม​เอ่ย​เสริม​ไป​หนึ่ง​ประโยค​ว่า​ “ท่าน​วางใจ​ได้​ แม้ว่า​ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​เพิ่งจะ​มีฝน​ใหญ่​ตก​ลงมา​ แต่​ข้า​เอา​ผ้า​กับ​ชาย​แขน​เสื้อ​เช็ด​อย่าง​ละเอียด​มาก่อน​แล้ว​”

ไม่กล้า​พูดว่า​บน​โต๊ะ​ไม่มีฝุ่น​ติด​สัก​เม็ด​ แต่​ก็​สะอาดสะอ้าน​แน่นอน​

ทุกๆ​ เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​จะต้อง​วิ่ง​มาเช็ด​รอบ​หนึ่ง​ จะไม่สะอาด​ได้​หรือ​?

บุรุษ​ยิ้ม​เอ่ย​ “ตกลง​”

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ไป​กลับ​อย่าง​รวดเร็ว​ นาง​เขย่ง​ปลายเท้า​ ท่วงท่า​คล่องแคล่ว​ มือ​เท้า​ว่องไว​ ยื่น​น้ำ​ชาร้อน​ๆ ถ้วย​หนึ่ง​ส่งให้​แขก​

บุรุษ​ใช้สอง​มือ​รับ​ถ้วย​ชามา เอ่ย​ขอบคุณ​หนึ่ง​คำ​

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ คลี่​ยิ้ม​เขินอาย​ โบก​มือเบา​ๆ แล้ว​เอ่ย​ขอตัว​ลา​ กลับ​ไป​นั่ง​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ที่อยู่​อีก​ฝั่งหนึ่ง​ของ​ประตู​ภูเขา​ ระหว่าง​ที่​เดิน​ยัง​หมุนตัว​กลับมา​บอก​กับ​แขก​ผู้มาเยือน​ว่า​หาก​มีเรื่อง​อะไร​ก็​เรียก​นาง​ได้​เลย​

บุรุษ​ดื่ม​ชาด้วย​ท่วงท่า​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​ มองดู​แล้ว​มีกลิ่นอาย​เซียน​อย่าง​มาก​

เห็น​สายตา​มอง​ประเมิน​ของ​แม่นาง​น้อย​ บุรุษ​ก็​ยิ้ม​พลาง​ยก​ถ้วย​ชาขึ้น​

แม่นาง​น้อย​คลี่​ยิ้ม​ รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​จึงรีบ​หันหน้า​กลับมา​ นั่ง​ตัวตรง​อย่าง​สำรวม​อยู่​กับ​ตัวเอง​ต่อไป​

ห่าง​ไป​ไกล​มีเด็กชาย​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​เดิน​เรอ​เพราะ​เพิ่ง​ดื่ม​สุรามา​ เห็น​ว่า​หมี่​ลี่​น้อย​นั่ง​อยู่​บน​ม้านั่ง​ตัวเล็ก​ ตรง​โต๊ะ​มีบุรุษ​แปลกหน้า​นั่ง​อยู่​อีก​คน​ สวม​เสื้อผ้า​เหมือนกับ​ห่าน​ขาวใหญ่​อย่าง​มาก​

เฉินห​ลิง​จวิน​จึงเดิน​อาด​ๆ จน​ชาย​แขน​เสื้อ​ส่าย​สะบัด​ ตะโกน​มาแต่ไกล​ “โอ้​ หมี่​ลี่​น้อย​ มีแขก​มาเยือน​อีกแล้ว​หรือ​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ตอบกลับ​ “อืม​ จิ่งชิงกลับมา​แล้ว​หรือ​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ถาม “ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ต้องการ​ให้​ช่วย​หรือไม่​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ยิ้ม​กว้าง​ โบกมือ​เป็น​วง​ใหญ่​ “ฮ่า ไม่ต้อง​ๆ”

รอ​กระทั่ง​ค่อยๆ​ ขยับ​เข้าใกล้​โต๊ะ​ตัว​นั้น​ เฉินห​ลิง​จวิน​จึงเริ่ม​ชะลอ​ฝีเท้า​ ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​ก็​ไม่โบกสะบัด​อีก​

เห็น​ว่า​บุรุษ​คล้าย​บัณฑิต​ เป็น​บัณฑิต​ก็ดี​น่ะ​สิ เพราะ​ต้อง​พิถีพิถัน​ใน​คำ​ว่า​วิญญูชน​ขยับ​ปาก​ไม่ขยับ​มือ​

เฉินห​ลิง​จวิน​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ บัง​อยู่​ตรงกลาง​ระหว่าง​แขก​กับ​หมี่​ลี่​น้อย​ไว้​พอดี​

เฉินห​ลิง​จวิน​ประสานมือ​คารวะ​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “เฉินห​ลิง​จวิน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​คารวะ​ท่าน​อาจารย์​ ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​อาจารย์​มาเยี่ยมเยียน​สหาย​หรือ​แค่​ผ่าน​ทาง​มาชมทัศนียภาพ​เท่านั้น​?”

บุรุษ​ยิ้ม​บาง​ๆ “ไม่ต้อง​เกรงใจ​ ข้า​กับ​อาจารย์​ของ​เจ้าเป็น​สหาย​รัก​กัน​”

เฉินห​ลิง​จวิน​มึนงง​ ตน​มีสหาย​ใน​ยุทธ​ภพ​มาก​เกิน​จะนับ​จริงๆ​ ไม่รู้​ว่า​คน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​พูดถึง​ใคร​อยู่​กัน​แน่​

พลัน​เกิด​ความ​กระวนกระวาย​ไม่สบายใจ​

กังวล​ว่า​จะเป็น​นักพรต​หนุ่ม​ของ​ยอดเขา​พา​ตี้​อีก​คน​

คาด​ว่า​นักพรต​น้อย​คน​นั้น​ เวลา​ปกติ​คงจะ​ค่อนข้าง​เกียจคร้าน​ฝึก​ตน​ ขอบเขต​ถึงได้​ไม่สูง เรียก​ได้​ว่า​ธรรมดา​สามัญสุด​ๆ

แต่​ก็​ช่วยไม่ได้​ที่​อาจารย์​ของ​คน​เขา​เป็น​ถึงลูก​พี่ใหญ่​แห่ง​วิถี​ขาว​ดำ​สอง​สาย​ของ​อุตรกุรุทวีป​

เฉินห​ลิง​จวิน​ยิ้ม​ถามต่อไป​ว่า​ “อาจารย์​คง​มาจาก​ทาง​เมือง​หง​จู๋กระมัง​ เคย​ถูก​เด็ก​ตัว​เท่า​ก้น​ที่​ตั้งโต๊ะ​อยู่​ใน​ศาลา​คน​หนึ่ง​ดัก​ขวางทาง​เพื่อ​บันทึก​ชื่อ​หรือไม่​?”

บุรุษ​ยังคง​ตอบ​ไม่ตรง​คำถาม​อยู่​เหมือนเดิม​ “อาจารย์​ของ​ข้า​คือ​เฉินจั๋ว​หลิว​แห่ง​อุตรกุรุทวีป​”

เฉินห​ลิง​จวิน​กระจ่างแจ้ง​โดยพลัน​ มารดา​มัน​เถอะ​ ในที่สุด​นาย​ท่าน​ใหญ่​เฉิน​ก็ได้​เจอ​กับ​คนธรรมดา​กับ​เขา​สักที​!

ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​เหมือน​ลูกศิษย์​ของ​เจ้าเฉินจั๋ว​หลิว​ผู้​นั้น​ ก็​บัณฑิต​นี่​นะ​ ทั่ว​ร่าง​ย่อม​มีแต่​กลิ่นอาย​ตำรา​

แต่​เฉินจั๋ว​หลิว​ที่​ยากจน​จน​ใน​กระเป๋า​ไม่มีเสียง​เงิน​กระทบ​กัน​ก็​ใช้ได้​เลย​นี่​นา​ คาด​ว่า​คง​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​ใน​กระเป๋า​มีเงิน​ซึ่งเขา​รับ​มาไว้​สินะ​? ขาด​อะไร​ก็​เสริม​อย่างนั้น​จริงๆ​ เสีย​ด้วย​

เฉินห​ลิง​จวิน​กระแอม​สอง​สามที​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​ นั่งลง​บน​ม้านั่งยาว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต้อง​นับ​ลำดับ​อาวุโส​แยกกัน​ไป​ ไม่ต้อง​เรียก​ข้า​ว่า​อาจารย์​ลุง​หรอก​ เรียก​ข้า​ว่า​สหาย​จิ่งชิงก็​พอแล้ว​ ถึงอย่างไร​อาจารย์​ของ​เจ้าก็​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​ พวกเรา​ก็​คบหา​กัน​โดย​นับ​เป็น​คนรุ่นเดียวกัน​ไป​ก็แล้วกัน​”

เห็น​ว่า​บุรุษ​คน​นั้น​หยุด​ดื่ม​ชา คลี่​ยิ้ม​มีเลศนัย​

เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​คล้าย​ได้​กิน​ยา​สงบใจ​ ต้อง​เป็น​ลูกหลาน​ตระกูล​ร่ำรวย​ของ​ล่าง​ภูเขา​ที่​เฉินจั๋น​หลิว​หลอก​มาได้​แน่นอน​ ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ใน​ภูเขา​อย่าง​พวก​ข้า​หน้าตา​ไม่แปรเปลี่ยน​ แล้​วจะ​วิเคราะห์​อายุ​จาก​หน้าตา​ได้​อย่างไร​?

หรือว่า​เจ้าเฉินจั๋ว​หลิว​ทำตัว​ไร้​คุณธรรม​ ไม่เคย​พูดถึง​พี่น้อง​คนดี​อย่าง​ตน​กับ​ลูกศิษย์​ของ​ตัวเอง​มาก่อน​? มารดา​มัน​เถอะ​ หาก​อีก​ฝ่าย​ไร้​ความพิถีพิถัน​เช่นนี้​จริงๆ​ คราวหน้า​เจอกัน​ คอย​ดูเถอะ​ว่า​ข้า​จะจัดการ​เขา​อย่างไร​

ใน​หัว​เฉินห​ลิง​จวิน​พลัน​มีลำแสง​เปล่ง​วาบ​ กลายเป็น​ว่า​อกสั่นขวัญแขวน​ขึ้น​มาอีก​ ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “เฉินจั๋ว​หลิว​ได้​ลูกศิษย์​ที่​ดี​จริงๆ​ ข้า​ว่า​ขอบเขต​ของ​น้องชาย​ก็​คง​ไม่ต่ำ​กระมัง​?”

ใน​เรื่อง​ของ​การ​ไม่ทำ​ความผิด​ซ้ำเดิม​ เฉินห​ลิง​จวิน​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​มีฝีมือ​อย่าง​มาก​

เจิ้งจวี​จงตอบ​กึ่ง​ยิ้ม​กึ่ง​บึ้ง​ “ไม่ต่ำ​ แต่​ก็​ไม่สูง ตอนนี้​ถือว่า​ขอบเขต​เท่ากับ​อาจารย์​”

ถ้าอย่างนั้น​ก็​แน่ใจ​ได้​แล้ว​!

เฉินห​ลิง​จวิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียง​ดังลั่น​อย่าง​ชอบใจ​ ยก​นิ้วโป้ง​ให้​อีก​ฝ่าย​ “ไม่เลว​ ไม่เลว​!”

เจิ้งจวี​จงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มังกร​บิน​ทะยาน​อยู่​บน​ฟ้า เมฆฝน​อบอวล​ คม​กระบี่​เก่า​ฝืด​ด้าน​ แต่​แสงศักดิ์สิทธิ์​ยัง​คงอยู่​ ฟ้าฝน​เคลื่อน​ผ่าน​ บน​ผนัง​มีเสียงคำราม​ดัง​กึกก้อง​ ขับขาน​เป็นหนึ่ง​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ได้ยิน​แล้วก็​อืม​ๆๆ พยักหน้า​รับ​อยู่​ตลอด​

นี่​เจ้ากำลัง​ร่าย​กวี​ให้​ข้า​ฟังรึ​

ไม่เสียที​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เฉินจั๋ว​หลิว​

เฉินห​ลิง​จวิน​ไม่รู้สึก​กังขา​อีก​แม้แต่​นิด​แล้ว​

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​อีก​ฝ่าย​อ้อม​ผ่าน​ป๋า​ย​เสวียน​กับ​จ้าว​ซู่เซี่ยจน​มาถึงที่นี่​ได้​อย่างไร​ ถึงอย่างไร​บน​ภูเขา​ก็​มีห่าน​ขาวใหญ่​อยู่​ ทางเหนือ​ยังมี​เว่ย​ซาน​จวิน​ ไม่มีทาง​เกิด​ข้อผิดพลาด​ขึ้น​ได้​หรอก​

ชุยตง​ซาน​ยืน​อยู่​บน​ขั้นบันได​บนสุด​ของ​เส้นทาง​ภูเขา​ หรี่ตา​มอง​เจ้าคน​ที่​กำลัง​พูดคุย​กับ​นาย​ท่าน​ใหญ่​เฉิน​

ต้อง​นับถือ​ใน​ความ​ใจกล้า​มหาศาล​ แต่กลับ​มีดวงชะตา​ที่​แข็ง​ยิ่งกว่า​ของ​เฉินห​ลิง​จวิน​จริงๆ​

นอกจาก​ปราก​ฎการณ์​ผิดปกติ​บน​ฟ้าแล้ว​ อันที่จริง​ใต้ดิน​ใน​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​ยังมี​การ​ซุ่มโจมตี​ไม่เล็ก​ไม่ใหญ่​ซ่อน​อยู่​อย่าง​ลึกลับ​มิดชิด​ด้วย​

หาก​โจว​มี่ทำสำเร็จ​ขึ้น​มา ผลลัพธ์​ย่อม​เลวร้าย​เกิน​กว่า​จะคาดคิด​ คน​ที่​ขอบเขต​ต่ำกว่า​เซียน​เห​ริน​และ​ปลายทาง​ทุกคน​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ต้อง​ตาย​ทั้งหมด​

โชคดี​ที่​เจิ้งจวี​จงเก็บกวาด​จน​สะอาด​เอี่ยม​แล้ว​ สะอาด​จน​เหมือน​ม้านั่งยาว​พวก​นั้น​

ก่อนหน้านี้​เห็นได้ชัด​ว่า​เพื่อ​ความปลอดภัย​ไว้​ก่อน​ ป้องกัน​ไม่ให้​เกิด​ข้อผิดพลาด​อย่าง​เด็ดขาด​ ก่อนที่​เจ้านคร​จักรพรรดิ​ขาว​ท่าน​นี้​จะลงมือ​ขัดขวาง​หมาก​ตัว​นั้น​ ก็ได้​ทำให้​กาลเวลา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​และ​ภูเขา​ใต้​อาณัติ​ไหล​ย้อนกลับ​ไป​ก่อน​แล้ว​

มีเพียง​เจิ้งจวี​จงที่อยู่​ภายใน​เท่านั้น​ที่​ไม่ถูก​กระแสน้ำ​แห่ง​กาลเวลา​หอบ​หุ้ม​ แต่​ทุก​คำพูด​ การกระทำ​และ​สีหน้า​ของ​เขา​กลับ​ ‘ย้อนหลัง​’ ไป​ตาม​กระแสน้ำ​ไหล​ด้วย​ รัดกุม​ไร้​ช่องโหว่​

แน่นอน​ว่า​ชุยตง​ซาน​เลือก​ที่จะ​อยู่​นิ่ง​ท่ามกลาง​กระแสน้ำ​ไหล​นี้​

ดูเหมือน​เจิ้งจวี​จงจะต้องการ​ถามชุยตง​ซาน​ที่อยู่​บน​ภูเขา​เรื่อง​หนึ่ง​

เจ้ารู้สึก​หรือไม่​ว่า​ อันที่จริง​แม้น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ไหล​ย้อนกลับ​อยู่​ตลอด​ เพียงแต่ว่า​พวกเรา​ไม่รู้​ก็​เท่านั้น​?

มอง​ดูเหมือน​เรื่อง​นี้​พิสูจน์​ได้​ง่าย​มาก​ แม้แต่​เด็กน้อย​ก็​ยัง​ทำได้​ ก็​แค่​เดิน​ก้าว​ออก​ไป​ข้างหน้า​ช้าๆ ก้าว​หนึ่ง​ก็ได้​แล้ว​ไม่ใช่หรือ​?

แต่​ในความเป็นจริง​แล้ว​ หาก​สืบเสาะ​เรื่อง​นี้​ลง​ลึก​อย่าง​แท้จริง​ แม้แต่​ชุยตง​ซาน​ก็​ยัง​ไม่กล้า​รับประกัน​อะไร​ แทบจะ​ไม่อาจ​อธิบาย​ได้​

ชุยตง​ซาน​ประสานมือ​คารวะ​ “ขอบคุณ​อาจารย์​เจิ้งที่​ลงมือ​ผดุง​ความเป็นธรรม​ พระคุณ​ใหญ่หลวง​ครั้งนี้​มิอาจ​หา​สิ่งใด​มาตอบแทน​ได้​”

เจิ้งจวี​จงส่ายหน้า​

ลงมือ​ผดุง​ความเป็นธรรม​? ไม่ใช่เลย​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ใต้​หล้า​นี้​ไม่เคย​มีพระคุณ​ใด​ที่​ตอบแทน​ไม่ได้​ ไม่อย่างนั้น​ก็​จะกลายเป็น​ว่า​ฝ่าย​หนึ่ง​มีน้ำใจ​ช่วยเหลือ​ แต่​ฝ่าย​หนึ่ง​กลับ​ลืม​บุญคุณ​

อย่า​มาแกล้ง​โง่อยู่​ตรงนี้​ ต่อให้​เจ้าจะเป็น​ซิ่ว​หู่​ครึ่งตัว​ก็ตาม​

ชุยตง​ซาน​ถอนหายใจ​ ใน​เมื่อ​ไม่อาจ​คลี่คลาย​เป็นการ​ส่วนตัว​ได้​ ถ้าอย่างนั้น​ก็ได้​แต่​ทำการค้า​แล้ว​

ชุยตง​ซาน​ชูนิ้ว​ขึ้น​มาสอง​นิ้ว​ จากนั้น​ก็​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​นิ้ว​

เรื่อง​ที่​นคร​จักรพรรดิ​ขา​วจะ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ไว้​ที่​เปลี่ยว​ร้าง​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​ยินดี​ช่วย​ออกแรง​สนับสนุน​ ยกตัวอย่างเช่น​เรียกหา​เซียน​กระบี่​มาสัก​สอง​ถึงสามคน​

ดูเหมือน​เจิ้งจวี​จงจะขี้เกียจ​สนใจ​ลูกไม้​เล็กๆ น้อยๆ​ พวก​นี้​ของ​ชุยตง​ซาน​ จึงพูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ที่​ร้าน​ใน​ตรอก​ฉีหลง​ ข้า​คุย​กับ​อาจารย์​ของ​เจ้าเรียบร้อย​แล้ว​ เจ้าที่​เป็น​ลูกศิษย์​ก็​อย่า​ได้​วาด​งูเติม​ขา​เลย​”

ชุยตง​ซาน​จนใจ​อยู่​บ้าง​ อันที่จริง​ใน​อดีต​ตอนที่​เห็น​กลอน​คู่​ใน​ร้าน​ฉ่าว​โถว​ครั้งแรก​ เขา​ก็​รู้สึก​สงสัย​แล้ว​

แม้จะบอ​กว่า​เป็น​ลายมือ​ของ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ทว่า​เนื้อหา​ใน​กลอน​คู่​นั้น​ ไม่ว่า​จะมอง​อย่างไร​ก็​ไม่ใช่ ขนาด​คนโง่​ยัง​มองออก​ว่า​ผิดปกติ​

ตอนนั้น​ชุยตง​ซาน​จึงหัวเราะ​ท้องคัดท้องแข็ง​ แย่ง​เอา​กลอน​คู่​มาแล้ว​วิ่ง​ออก​ไปนอก​ร้าน​ บอ​กว่า​จะเอา​ไป​ให้​ศิษย์​พี่​ของ​อาจารย์​ดู​ ทำเอา​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ตกใจ​ขวัญหนีดีฝ่อ​ โชคดี​ที่​ชุยตง​ซาน​แค่​แกล้ง​ขู่​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​เล่น​เท่านั้น​ เอา​วิ่ง​ออก​ไป​แปบ​เดียว​ก็​โยน​คืน​กลับ​ไป​ให้​เจี่ยเฉิง​ บอ​กว่า​แขวน​ไว้​ให้​ดี​

อันที่จริง​ตอนนั้น​ชุยตง​ซาน​ก็ได้​สังเกต​ดู​พวก​วัสดุ​ ตัวอักษร​ คำลงท้าย​และ​ตราประทับ​ของ​กลอน​คู่​ชิ้น​นั้น​มาแล้ว​รอบ​หนึ่ง​ มัน​ไม่มีความมหัศจรรย์​ใดๆ​ ให้​พูดถึง​เลย​จริงๆ​ เป็น​แค่​กลอน​คู่​ธรรมดา​ทั่วไป​ และ​ยิ่ง​เป็น​ลายมือ​ของ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

รอ​กระทั่ง​เจิ้งจวี​จงเป็น​คน​เปิด​เผยความลับ​ด้วยตัวเอง​ ชุยตง​ซาน​ถึงได้​ถอนหายใจ​ยาวเหยียด​ เข้าใจ​ความหมายแฝง​ที่​แท้จริง​ของ​คำ​ว่า​ ‘สถานที่​รู้ใจ​อยู่​ไม่ไกล​’ จริงๆ​ แล้ว​

ความรู้​นั้น​ไม่ได้​อยู่​ที่​ตัว​ของ​กลอน​คู่​ แต่​อยู่​บน​ตัว​ของ​เจี่ยเฉิง​ที่อยู่​ห่าง​จาก​กลอน​คู่​ ‘ไม่ไกล​’ ต่างหาก​

ขณะเดียวกัน​ก็​เป็นการ​บอก​เตือน​อาจารย์​ด้วยว่า​ ขอ​แค่​ใจคิดถึง​เรื่อง​นี้​ก็​จะอยู่​ห่าง​จาก​เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ไม่ไกล​แล้ว​

นี่​หมายความว่า​มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่​ตอน​เฉินจั๋ว​หลิว​อาจารย์​ของ​เจิ้งจวี​จงยัง​เป็น​เจี่ยเฉิง​ เจิ้งจวี​จงก็​ชิงฉวยโอกาส​ได้เปรียบ​มาไว้​ก่อน​ ก็​เหมือนกับ​ว่า​ได้​เป็น​เพื่อนบ้าน​กับ​อาจารย์​มานาน​หลาย​ปี​ เจิ้งจวี​จงจึงตั้งใจ​ใช้สิ่งนี้​มาพิศ​มรรคา​ มาเรียนรู้​เวท​กระบี่​จาก​คน​พิฆาต​มังกร​?

ในความเป็นจริง​แล้ว​เจิ้งจวี​จงสอง​คน​ก่อนหน้านี้​ต่าง​ก็​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​จริงๆ​ เพียงแต่ว่า​ตอน​เฉิน​ผิง​อัน​อยู่​ใน​ร้าน​ฉ่าว​โถว​เคย​ใช้เสียง​ใน​ใจพูดคุย​กับ​ ‘เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย’​ ก็​แค่​ว่า​ตัว​ของ​เจี่ยเฉิง​คล้าย​กับ​คน​ที่​ทำหน้าที่​ส่งจดหมาย​เท่านั้น​ ไม่ได้​รู้​เนื้อหา​ใน​จดหมาย​ที่​ทั้งสองฝ่าย​ส่งให้​กัน​แม้แต่น้อย​

เจิ้งจวี​จงแอบ​ติดตาม​หัน​เชี่ยว​เซ่อ​เดิน​ทางผ่าน​กุย​ซวี​ อาศัย​สิ่งนี้​ปิด​ฟ้าข้าม​มหาสมุทร​กลับคืน​มายัง​ไพศาล​ จากนั้น​จึงใช้ ‘เจี่ยเฉิง’​ เป็น​ท่าเรือ​แห่ง​หนึ่ง​ ข้าม​มหาสมุทร​ขึ้นฝั่ง​ ตรง​มาที่​ตรอก​ฉีหลง​แห่ง​นี้​ ส่วน​ข้อ​ที่ว่า​เหตุใด​ถึงทำ​เรื่อง​ที่​เกินความจำเป็น​ จงใจเผย​กาย​อยู่​ใน​ ‘สถานที่​รู้ใจ​อยู่​ไม่ไกล​’ ก็​แค่​ต้องการ​ให้​ชุยตง​ซาน​ ให้​ซิ่ว​หู่​ครึ่ง​ตัวผู้​นี้​ที่​ทบทวน​กระดาน​หลัง​เกิดเหตุ​ได้​คิดดู​ให้​ดี​ๆ ว่า​ จากลา​กันที่​เมฆหลาก​สีของ​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ใน​ปี​นั้น​ ร้อย​กว่า​ปี​ผ่าน​พ้นไป​แล้ว​ เหตุใด​ฝีมือ​การ​เล่น​หมากล้อม​ถึงยัง​ไม่เพิ่มขึ้น​ กลับกัน​ยัง​ลดลง​อีกด้วย​

ชุยตง​ซาน​พลัน​เข้าใจ​เรื่อง​หนึ่ง​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​จึงเอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เดือดดาล​ “อาจารย์​เจิ้งทำ​แบบนี้​ก็​เกินไป​แล้ว​นะ​! เกินไป​แล้ว​จริงๆ​!”

เจิ้งจวี​จงยิ้ม​รับ​ เตรียม​จะจากไป​

ชุยตง​ซาน​รีบ​เดิน​เร็ว​ๆ ตามติด​ไป​ “ไม่คิด​จะเปลี่ยน​วิธี​หาทาง​ที่​ทำให้​ทั้งสองฝ่าย​ได้ประโยชน์​มากกว่า​นี้​หรอก​หรือ​? ยอด​ฝีมือ​ที่​ใกล้​จะหลุดพ้น​จาก​สามภพ​เข้าไป​ทุกที​อย่าง​อาจารย์​เจิ้ง ไย​ต้อง​ขุ่นเคือง​กัน​เช่นนี้​ด้วย​?”

แม้แต่​คำ​เดียว​เจิ้งจวี​จงก็​คร้าน​จะพูด​ให้​มากความ​

ชุยตง​ซาน​เดิน​เบี่ยง​ตัว​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “ข้า​สามารถ​เล่น​หมากล้อม​กับ​อาจารย์​เจิ้งได้​อีก​สิบ​ตา​”

“ใน​เมื่อ​เทียบ​กับ​เมฆหลาก​สีสิบ​กระดาน​ของ​ปี​นั้น​ไม่ได้​แล้ว​ เจ้าคิด​ว่า​ข้า​มีเวลาว่าง​มาก​นัก​หรือ​?”

เจิ้งจวี​จงก้าวเดิน​เนิบ​ช้า “เจ้าอาจจะ​รู้สึก​ว่าการ​แพ้​ด้าน​หมากล้อม​มีรสชาติ​ แต่​ข้า​กลับ​รู้สึก​ว่าการ​ชนะหมากล้อม​ไม่มีความหมาย​อะไร​”

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ที่​มีไฝแดง​กลาง​หว่าง​คิ้ว​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่ซิ่ว​หู่​ที่​กว่า​จะเลื่อน​สู่ขอบเขต​ยอดเขา​ที่​ทั้งกายและใจ​ล้วน​สมบูรณ์แบบ​ไร้​ช่องโหว่​ เป็น​อริยะ​ผู้​ไร้อารมณ์​ความรู้สึก​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ผู้​นั้น​อีกแล้ว​

มีเรื่อง​ให้​ห่วง​พะวง​มากเกินไป​ เมื่อ​มีกลิ่นอาย​ความเป็นมนุษย์​มาก​เข้า​ ฝีมือ​การ​เล่น​หมากล้อม​ย่อม​ตื้นเขิน​

เจิ้งจวี​จงถอนหายใจ​

ก็​เหมือน​ประโยค​ติดปาก​ที่​ชุยตง​ซาน​มักจะ​พูด​บ่อยๆ​ ว่า​ ‘ข้า​คือ​ตง​ซาน​ไงล่ะ​’ นั่นแหละ​

ถูกต้อง​แล้ว​ เด็กหนุ่ม​ชุยตง​ซาน​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่ซิ่ว​หู่​ใน​ปี​นั้น​อีกแล้ว​

ใน​อดีต​บัณฑิต​หนุ่ม​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่งไป​เยี่ยมเยือน​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ ทั้งสองฝ่าย​ประชัน​หมากล้อม​กัน​ท่ามกลาง​เมฆหลาก​สี ชุย​ฉาน​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​กับ​เจิ้งจวี​จงคีบ​เม็ด​หมา​กวาง​เม็ด​หมาก​ ไม่พูดไม่จา​ แต่​สีหน้า​กลับ​คล้าย​กำลัง​บอก​เจิ้งจวี​จงว่า​ เจ้าสามารถ​เอาชนะ​ข้า​ตา​นี้​ได้​ แต่​ชุย​ฉาน​ตา​ถัดไป​จะต้อง​ชนะ​ชุย​ฉาน​ตา​ก่อน​ได้​แน่นอน​ ขอ​แค่​สถานการณ์​หมาก​มีเยอะ​มาก​พอ​ โอกาส​ที่จะ​ชนะ​ของ​เจิ้งจวี​จงก็​จะยิ่ง​น้อยลง​เรื่อยๆ​

นี่​ต่างหาก​จึงจะเป็นสาเหตุ​แท้จริง​ที่​เจิ้งจวี​จงยินดี​เล่น​หมากล้อม​ติดกัน​สิบ​กระดาน​กับ​บัณฑิต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​

ทั้งๆ ที่​พ่ายแพ้​ อีก​ทั้ง​ยัง​แพ้​แล้ว​แพ้​อีก​ แต่กลับ​ชนะ​ด้าน​ความมั่นใจ​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​มาได้​อย่าง​เต็มเปี่ยม​

เจิ้งจวี​จงไม่เคย​ย้อน​ดู​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​ตัวเอง​ มีเพียง​สถานการณ์​เมฆหลาก​สีเท่านั้น​ที่​เป็น​ข้อยกเว้น​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​จะดี​จะชั่ว​ชุยตง​ซาน​ก็​ยัง​เดา​ถึงการค้า​ระหว่าง​ตน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​ เจิ้งจวี​จงก็​ไม่อยาก​จะพูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​

ค่าตอบแทน​จาก​การ​ลงมือ​ขัดขวาง​โจว​มี่ เจิ้งจวี​จงบอก​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ไว้​ที่​ใบ​ถงทวีป​

ง่ายดาย​เพียงเท่านี้​

ขอ​แค่​ไม่ใช่ใบ​ถงทวีป​ จะเป็น​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ หรือ​แม้กระทั่ง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ก็​ล้วน​ตามแต่​ใจ

เป็น​เพราะ​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​มีแผนการ​บางอย่าง​ต่อ​ใบ​ถงทวีป​?

ไม่มีเลย​สักนิด​

เจิ้งจวี​จงก็​แค่​ต้องการ​ทำให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​รู้สึก​อึดอัด​ใจ

เรื่อง​ที่​เจ้าทำ​ไม่สำเร็จ​ตอน​อยู่​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ รอ​จน​เจ้าได้​เป็น​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่ง เป็น​เจ้าสำนัก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ และ​ยิ่ง​เป็น​เซียน​กระบี่​ท่าน​หนึ่ง​แล้ว​

อยู่​ที่​ใบ​ถงทวีป​แห่ง​นั้น​ ก็​ยังคง​ทำ​ไม่ได้​

ต่อให้​เจ้าจะวางแผน​สร้างสถานการณ์​ไว้​ที่​ใบ​ถงทวีป​นาน​แล้ว​ มีการชิง​ลงมือ​ก่อน​ ทุ่มเท​ตั้งใจ​ด้วย​ความยากลำบาก​ วางแผน​ลึกล้ำ​ยาว​ไกล​ มอง​ดูเหมือนว่า​ทั้ง​ฟ้าอำนวย​ดิน​อวยพร​และ​คน​สามัคคี​ล้วน​ไม่มีอะไร​ขาด​…

แต่​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยังคง​ทำ​ไม่ได้​อยู่ดี​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 877.1 ต่างคนต่างมีท่าเรือ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์