CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 906.3 บ้านเกิดที่ไม่เติบใหญ่

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 906.3 บ้านเกิดที่ไม่เติบใหญ่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ขยับเขยื้อน​เลย​แม้แต่น้อย​ เพียง​ยก​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ ใช้นิ้ว​มือสอง​นิ้ว​คีบ​ปลาย​มีด​จู๋ลู่​เอาไว้​ ยก​ฝ่ามือ​ตบ​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​หลิว​จงหนัก​ๆ หนึ่ง​ที​จน​หลิว​จงล้ม​ตึง​ลง​ไป​กับ​พื้น​ กริช​หลุด​ออกจาก​มือ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยก​เท้า​เตะ​ลง​บน​หัว​ของ​หลิว​จง พริบตาเดียว​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​ก็​กระเด็น​ไป​ใน​แนว​ขวาง​ไกล​หลาย​สิบ​จั้ง

เฉิน​ผิง​อัน​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ เพียงแค่​โยน​กริช​คืนให้​หลิว​จงเบา​ๆ

หลิว​จงกระโดด​ลุกขึ้น​ยืน​ ยื่นมือ​ไป​รับ​กริช​เอาไว้​ ใช้หลัง​มือ​เช็ด​คราบเลือด​บน​ใบหน้า​ ก่อน​จะเอียง​ศีรษะ​หันไป​ถ่มเลือด​เหนียว​ข้น​อีก​ทาง​ เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ว่า​ “เจ้าตัวดี​ ไม่กด​ขอบเขต​เลย​รึ​?

เฉิน​ผิง​อัน​ย้อนถาม​ “กด​ขอบเขต​หรือไม่​กด​ มีความต่าง​อย่างนั้น​หรือ​? ก็​ยัง​ต้อง​ให้​ข้า​ออมมือ​แล้​วอ​อมมือ​อีก​ ถึงจะป้องกัน​ไม่ให้​ตัวเอง​ไม่ทัน​ระวัง​ฆ่าเจ้าตาย​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​?”

เหยา​เซียน​จือ​ที่​ชมศึก​อยู่​ไกลๆ​ เบิกตา​กว้าง​ ได้ยิน​ประโยค​นี้​ของ​อาจารย์​เฉิน​ก็​พลัน​รู้สึก​เหมือน​เขา​เป็น​คนแปลกหน้า​ ราวกับว่า​ตัวเอง​ไม่เคย​รู้จัก​อาจารย์​เฉิน​อย่าง​แท้จริง​มาก่อน​

แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​ดื่มเหล้า​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าคิด​ว่า​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​เขา​เดินผ่าน​มาอย่างไร​ล่ะ​”

ข้าว​หนึ่ง​ชนิด​เลี้ยง​คน​ได้​หนึ่งร้อย​รูปแบบ​ ข้าว​ร้อย​บ้าน​เลี้ยง​คน​คน​หนึ่ง​ให้​มีชีวิตรอด​

ด้วย​วิถี​ทางโลก​และ​ใจคน​ การ​เอาชีวิต​รอด​จึงไม่ง่าย​ ความยากลำบาก​ที่​ต้อง​ประสบ​พบ​เจอ​ระหว่าง​นี้​ มิอาจ​เอื้อนเอ่ย​ให้​คนนอก​รับรู้​ได้​ บางที​คำพูด​เพียง​หนึ่งเดียว​หรือ​หลักการ​เหตุผล​ทั้งหมด​ สำหรับ​ผู้ฝึก​กระบี่​คงอยู่​แค่​ที่​กระบี่​ ส่วน​สำหรับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ก็​อยู่​แค่​ที่​หมัด​เท่านั้น​

ทาง​ฝั่งของ​ลาน​ประลอง​ยุทธ​ เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​กับ​ตัวเอง​ “พื้นฐาน​ขอบเขต​ร่าง​ทอง​แค่​พอ​ถูไถ เรือน​กาย​ไม่ใช่กระดาษ​เปียก​อย่าง​กล้อมแกล้ม​ ก็​รู้สึก​ว่า​สามารถ​เป็น​ขอบเขต​เดินทางไกล​ครึ่งตัว​ได้​แล้ว​หรือ​? ไม่บังเอิญ​เลย​ อยู่​กับ​ข้า​คน​นี้​ จะคิด​แบบนี้​ไม่ได้​จริงๆ​”

“จะขอให้​ข้า​กด​ขอบเขต​ก็ได้​ ข้า​จะกด​ขอบเขต​ทีเดียว​สามขั้น​ ใช้ขอบเขต​เดียวกัน​เรียนรู้​วิชา​มีด​ของ​อีก​ฝ่าย​”

“หรือ​ทางเลือก​ที่สอง​ กด​หรือไม่​กด​ขอบเขต​แล้วแต่​ข้า​ ข้า​จะยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ จะทำให้​ข้า​เคลื่อนที่​ได้​หรือไม่​แล้วแต่​เจ้า หาก​ข้า​ขยับ​แม้แต่​ครึ่ง​ก้าว​ก็​จะถือว่า​ข้า​แพ้​”

สาย​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

แต่ไหนแต่ไร​มาก็​ล้วน​ป้อน​หมัด​สอน​หมัด​กัน​เช่นนี้​

รับ​ไม่ได้​ ทนไม่ไหว​ก็​ถอยกลับ​ไป​ดื่มเหล้า​เสีย​ ทั้งสองฝ่าย​ยังคง​เป็น​พี่​หลิว​กับ​น้อง​เฉิน​เหมือนเดิม​

หลิว​จงไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ แน่นอน​ว่า​เขา​เลือก​อย่าง​ที่สอง​

ภายใน​หนึ่ง​ก้านธูป​ เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​นิ่ง​มั่นคง​ดุจ​ภูผา​ หากว่า​กริช​ขยับ​เข้าใกล้​ตัว​ก็​จะใช้คม​กริช​ของ​ตัวเอง​ดัน​ออก​เบา​ๆ แต่​หาก​หมัด​เท้า​ของ​หลิว​จงขยับ​เข้ามา​ใกล้​ หาก​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ยืน​นิ่ง​ให้​อีก​ฝ่าย​ต่อย​เตะ​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ ผู้ฝึก​ยุทธ​คอขวด​ขอบเขต​ร่าง​ทอง​คน​หนึ่ง​ออกกำลัง​อย่าง​เต็มที่​ เมื่อ​หล่น​ลง​บน​ร่าง​ของ​คน​ชุด​เขียว​ กลับ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่เจ็บ​ไม่คัน​ ไม่อย่างนั้น​เขา​ก็​…ยก​ฝ่ามือ​ตบ​ให้​หลิว​จงกระอัก​เลือด​กระเด็น​ออก​ไป​โดยตรง​

การ​ถามหมัด​ที่​แปลกประหลาด​อย่าง​ถึงที่สุด​ หลิว​จงคล้าย​กับ​เป็น​มนุษย์​ธรรมดา​ที่​คิด​จะขยับ​เคลื่อน​ภูเขา​ ไม่รู้จัก​ประมาณตน​ ถึงท้ายที่สุด​หมัด​ก็​มีแต่​จะได้รับ​ความเสียหาย​ ยิ่ง​ออก​หมัด​หนัก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ได้รับบาดเจ็บ​มาก​เท่านั้น​

โงนเงน​ลุกขึ้น​ยืน​ เรือน​กาย​ส่าย​ไหว​ หลิว​จงกำ​กริช​ที่อยู่​ใน​มือ​แน่น​ ก้มหน้า​ลง​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​คราบเลือด​ หยด​เลือด​ไหล​กระทบ​พื้น​

หลิว​จงพลัน​เงยหน้า​ขึ้น​ ผู้ฝึก​ยุทธ​เฒ่าที่​ไม่รู้​ว่า​เปลี่ยน​ลมปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​ไป​แล้ว​กี่​ครั้ง​ เส้น​สายตา​พลัน​พร่า​เลือน​ ได้​แต่​มองเห็น​อย่าง​เลือนราง​ว่า​บุรุษ​ชุด​เขียว​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ถึงกับ​ผิดคำพูด​ อยู่ดีๆ​ ก็​ตั้งท่า​หมัด​ที่​โบราณ​เรียบง่าย​แต่​ปณิธาน​เข้มข้น​อย่าง​ไม่มีบอกกล่าว​ เหมือนกับ​ว่า​จะเป็น​ฝ่าย​ปล่อย​หมัด​ใส่ตน​

ไม่ใช่เหมือนกับ​แล้ว​ แต่​ปล่อย​มาจริงๆ​

ในที่สุด​อีก​ฝ่าย​ก็​ออก​หมัด​แล้ว​

เมื่อ​ครู่​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​ก็​เผาผลาญ​พละกำลัง​ทั้งหมด​ของ​หลิว​จงไป​จน​สิ้น​แล้ว​ เพียงแค่​การกระทำ​เรียบง่าย​เช่นนี้​กลับ​ไม่ต่าง​ไป​จาก​ช่วงเวลา​ที่​ปณิธาน​หมัด​ของ​หลิว​จงพุ่ง​สูงถึงขีดสุด​ตอน​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​บ้านเกิด​ แล้ว​ได้​เข่นฆ่า​เอาชีวิต​กับ​ปรมาจารย์​ขอบเขต​เดียวกัน​พวก​นั้น​เลย​ เรือน​กาย​ของ​ผู้เฒ่า​ปลิว​ออก​ไป​ มีเพียง​มือ​ข้าง​ที่​กำ​กริช​ที่​ยังคง​กำ​ไว้​แน่น​ หลับตา​ลง​ อยาก​จะฝืน​ดึง​ปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​เอาไว้​ แต่​ไร้ผล​ ทำ​ไม่ได้​แล้ว​ ระหว่าง​ฟ้าดิน​ล้วน​มีแต่​ปณิธาน​หมัด​ของ​อีก​ฝ่าย​ ทำให้​ผู้เฒ่า​มีความรู้สึก​เหมือน​แมลงเม่า​ใน​ฟ้าดิน​ เหมือน​เมล็ด​งาใน​เขา​พระ​สุเมร​ ตัว​ข้า​ช่างเล็ก​จ้อย​ต่ำต้อย​เหลือเกิน​ อีก​ทั้ง​ยัง​รู้สึก​เพียง​ว่า​หลังจากที่​อีก​ฝ่าย​ปล่อย​หมัด​นี้​ออกมา​ ขอบเขต​ของ​ตน​ต้อง​ถดถอย​อย่าง​แน่น​อน.​..เพียงแต่ว่า​ชั่วพริบตา​นั้น​ แม้แต่​ความรู้สึก​ซับซ้อน​วุ่นวายใจ​ที่​แวบ​ผ่าน​ไป​รวดเร็ว​ดุจ​ม้าขาว​ควบ​ผ่าน​ช่องแคบ​พวก​นี้​กลับ​ล้วน​ถูก​ปณิธาน​หมัด​ที่​เอ่อ​ท้น​ท่วม​ฟ้าดิน​ราวกับ​กระแส​น้ำขึ้น​กลบ​ทับ​จน​ไม่เหลือ​แม้แต่​เศษเสี้ยว​ ไม่เหลือ​เส้น​แบ่ง​ระหว่าง​ความเป็นความตาย​ใดๆ​

หลิว​จงพลัน​เงยหน้า​ขึ้น​ สีหน้า​เหี้ยมเกรียม​ กัดฟัน​แน่น​ มือ​สั่นสะท้าน​ อาศัย​เรือน​กาย​ที่​โงนเงน​ ถึงกับ​พลิกตัว​หมุน​กลับ​ส่งมีด​ใส่เงาร่าง​ชุด​เขียว​ไป​อย่าง​สะเปะสะปะ​

เรือน​กาย​ขยับ​อย่าง​เชื่องช้า​ แขนขา​อ่อนแรง​ กริช​เฉาจื่อ​ที่อยู่​ใน​มือ​ไม่มีประกาย​มีด​แผ่​ออกมา​สัก​เสี้ยว​

ทว่า​มีด​นี้​ ผู้เฒ่า​ที่​คือ​หลิว​จง คือ​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ด้าน​วิชา​มีด​ของ​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​จำเป็นต้อง​ส่งออก​ไป​!

ครู่หนึ่ง​ต่อมา​ หรือ​บางที​อาจจะ​ผ่าน​ไป​นาน​มาก​ หลิว​จงที่​จิตสำนึก​พร่า​เลือน​พอ​จะคืนสติ​ได้​บ้าง​แล้ว​ ผู้เฒ่า​พลัน​ค้นพบ​ว่า​มีมือ​ข้าง​หนึ่ง​กด​ลงมา​ที่​ไหล่​ของ​ตัวเอง​ ได้ยิน​เพียง​คน​ผู้​นั้น​เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “หมัด​ดี​”

……

เสี่ยว​หลง​ชิว​ หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ที่​มาจาก​สำนัก​เบื้องบน​ได้​หวนกลับ​ไป​ยัง​แผ่นดิน​กลาง​แล้ว​ ขณะเดียวกัน​ก็​ไม่ได้​พบ​หน้า​ทั้ง​หลินฮุ่ย​จื่อ​เจ้าขุนเขา​และ​ผู้คุม​กฎ​เฉวียน​ชิงชิว​

โชคดี​ที่​นักพรต​หญิง​ซึ่งสร้าง​กระท่อม​อยู่​บน​ยอดเขา​ซิน​อี้​ของ​ภูเขา​บรรพบุรุษ​ก็​ขี่​กระบี่​ไป​จาก​เสี่ยว​หลง​ชิว​แล้ว​เช่นกัน​ นาง​แค่​บอก​ให้​ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​ช่วย​เฝ้ากระท่อม​หลัง​นั้น​ให้​

ใน​เมื่อ​มาถึงภูเขา​เซียน​ตู​แล้ว​ กั่ว​หรา​น​เซียน​เห​ริน​แห่ง​ภูเขา​ต้นไม้​เหล็ก​ที่​ช่วย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​เด็ก​ทั้งสอง​ซึ่งข้าม​ทวีป​เดินทางไกล​มาเยือน​ อุตส่าห์​ได้มา​ใบ​ถงทวีป​ทั้งที​ จึงออกจาก​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ ออก​ไป​ท่อง​ขุนเขา​สายน้ำ​ข้างนอก​เพียงลำพัง​

เจิ้งโย่วเฉียน​กับ​ถาน​อิ๋ง​โจว​จะต้อง​ไป​ที่​หาด​ลั่ว​เป่า​ทุกวัน​ ฟังอาจารย์​เสี่ยว​โม่ถ่ายทอดวิชา​คำสอน​ แล้ว​ยัง​ช่วยกัน​หมัก​เหล้า​อีกด้วย​

จวน​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ หวง​อี​อวิ๋น​ที่​บาดแผล​หาย​ดี​พอสมควร​แล้ว​ วันนี้​ออกจาก​บ้าน​มาชมหิมะ​ นาง​เดินเล่น​ไป​ตลอดทาง​ ก็ได้​เห็น​ว่า​ฉิว​ตู๋​ปั้น​ตุ๊กตา​หิมะ​อยู่​ตรงนั้น​เป็นเพื่อน​เด็กสาว​หู​ฉู่ห​ลิง​

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​รู้​มาจาก​หญิง​ชรา​ว่า​ เซวีย​ไหว​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​กับ​เผย​เฉียน​มีการ​ประลอง​ฝีมือ​กันที่​หอ​ซ่าวฮ​วา​อีกครั้ง​ ดูเหมือนว่า​จะได้รับ​ผลประโยชน์​ไป​ไม่น้อย​

เมืองหลวง​ต้า​หลี​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ บัณฑิต​คน​หนึ่ง​พา​เด็กรับใช้​ชุย​ซื่อ​เดินทาง​ไป​เยี่ยมเยือน​ศาล​เทพ​อัคคี​ด้วยกัน​ ไปหา​เฟิงอี๋​ที่​ใต้​ซุ้มดอกไม้​

เฟิงอี๋​เห็น​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ที่​มาจาก​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูก็​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ทะยาน​ลม​เดินทาง​ เบา​พลิ้ว​ล่องลอย​ทั้ง​ยัง​งดงาม​”

ห​ลี่​ซีเซิ่งประสานมือ​คารวะ​ เรือน​กาย​ของ​เฟิงอี๋​พลัน​หายวับ​ไป​จาก​ม้านั่ง​หิน​ใต้​ซุ้มดอกไม้​ ไม่รับ​การ​คารวะ​นี้​ นาง​ไป​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​หิน​แทน​

ห​ลี่​ซีเซิ่งยืดตัว​ขึ้น​แล้ว​ เฟิงอี๋​ก็​หยิบ​เหล้า​ออกมา​สอง​กา​ เอ่ย​ต่อว่า​ “แม้ว่า​จะมัน​จะไม่เหนื่อย​เท่า​เดินเท้า​ แต่​ก็​ยัง​ต้อง​พึ่งพา​อย่าง​อื่น​”

ชุย​ซื่อ​เด็กรับใช้​ทั้ง​ไม่รู้​ว่า​สตรี​ตรงหน้า​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​ ยิ่ง​ไม่รู้​ว่า​นาง​เล่นแง่​อะไร​อยู่​ เด็กหนุ่ม​รู้​แค่​ว่า​สอง​ประโยค​นี้​ของ​นาง​ แรกเริ่ม​สุด​นั้น​มาจาก​ลู่​เฉิน​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ห​ลี่​ซีเซิ่งยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มหา​มรรคา​ควร​เอ่ย​คำ​ใด​ ใบไม้​เหลือง​เกลื่อน​เต็ม​พื้น​”

ใน​อาณาเขต​ของ​ราชวงศ์​อวิ๋น​เซียว​แห่ง​ใหม่​ทางทิศใต้​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ บน​ยอดเขา​ที่สูง​ที่สุด​ของ​ภูเขา​สูงตระหง่าน​ มีคน​สอง​คน​มาหยุด​เท้า​อยู่​ที่นี่​ กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​

คน​หนึ่ง​คือ​บุรุษ​หนุ่ม​ที่​สวม​ชุด​ผ้าป่าน​สวม​รอง​เท้าสาน​ เรือน​กาย​แข็งแกร่ง​กำยำ​ สีหน้า​เฉยเมย​ ข้าง​กาย​มีเด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​รูปโฉม​หล่อเหลา​ สวม​มงกฎ​หยก​ม่วง​ รัดเข็มขัด​หยก​ขาว​

เด็กหนุ่ม​ก็​คือ​อู๋​ถีจิงผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ออก​มาจาก​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ เขา​มอง​บุรุษ​ที่​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​เคี้ยว​หญ้า​หวาน​ต้น​หนึ่ง​ เอ่ย​ว่า​ “หู​เฟิง ข้า​รู้สึก​ว่า​ที่นี่​ก็​ไม่เลว​”

ใน​รัศมี​หลาย​ร้อย​ลี้​รอบด้าน​ อันที่จริง​ปราณ​วิญญาณ​บางเบา​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ ‘สถานที่​ภูเขา​เขียว​น้ำ​ใสงดงาม​’ ใน​สายตา​ของ​มนุษย์​ธรรมดา​ทั่วไป​แล้วก็​ดีกว่า​หลายเท่า​แล้ว​ ทุกวันนี้​ทุกหน​แห่ง​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ล้วน​มีแต่​กองกำลัง​บน​ภูเขา​ที่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การแย่งชิง​พื้นที่​กัน​ แบ่ง​ที่​แห่ง​นี้​ไป​หนึ่ง​ส่วน​ วาด​วงกลม​กำหนด​ที่​แห่ง​นั้น​ไป​หนึ่ง​ชิ้น​ หรือไม่​ก็​เป็น​ราชวงศ์​ แคว้น​ใต้​อาณัติ​ที่​กอบกู้​แคว้น​สำเร็จ​ที่​ส่งตัว​ตี้​เซียน​จาก​กอง​โหราศาสตร์​ให้​มาช่วย​จวน​เซียน​บน​ภูเขา​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​บ้าน​ตน​ตามหา​สถานที่​แห่ง​ใหม่​ ก่อนหน้านี้​มีภูเขา​อยู่​หลาย​แห่ง​ที่​คน​ทั้งสอง​ถูกใจ​ ต่อให้​จะเป็นที่​กันดาร​ไร้​ผู้คน​อยู่อาศัย​ แต่​ก็​ยังมี​เงาของ​ผู้ฝึก​ตน​ให้​เห็น​ ถือว่า​ใคร​มาก่อน​ก็ได้​ก่อน​ พวกเขา​หา​ภูเขา​ที่​พอ​จะถือว่า​ถูไถได้​กล้อมแกล้ม​ลูก​นี้​เจอ​ก็​ถือว่า​ไม่ง่าย​อย่าง​มาก​แล้ว​

บุรุษ​ที่​มีชื่อว่า​หู​เฟิงเคี้ยว​ต้น​หญ้า​ พยักหน้า​ “งั้น​ก็​เอา​ที่​นี่แหละ​”

เพราะ​ภูเขา​ที่​คน​ทั้งสอง​คิด​จะก่อตั้ง​สำนัก​ อันที่จริง​ก็​มีแค่​หู​เฟิงกับ​อู๋​ถีจิงสอง​คน​เท่านั้น​

ทว่า​ทั้งสองฝ่าย​กลับ​ไม่คิด​ว่า​นี่​เป็น​เรื่องใหญ่​อะไร​

คน​ทั้งสอง​ต่าง​คน​ต่าง​ออก​เดินทางไกล​ จากนั้น​ก็ได้​รู้จัก​กัน​โดยบังเอิญ​ ไม่นาน​ก็ได้​มาเป็น​สหาย​กัน​ แล้วก็​ไม่มีเหตุผล​อะไร​ให้​อธิบาย​

อันที่จริง​นิสัยใจคอ​ของ​คน​ทั้งสอง​ต่างกัน​มาก​ คน​หนึ่ง​ใจใหญ่​ เรียก​ได้​ว่า​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​จน​ถึงขั้น​ทระนง​ตน​ ถึงอย่างไร​ข้า​อู๋​ถีจิงเกิด​มาก​็ควร​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​บน​คน​หนึ่ง​อยู่แล้ว​ แค่​จะเป็นได้​ช้าหรือ​เร็ว​ก็​เท่านั้น​

คน​ผู้​หนึ่ง​ใจกว้าง​ หู​เฟิงมีนิสัย​อบอุ่น​อ่อนโยน​ เวลา​ปกติ​มักจะ​พูด​ช้าๆ ข้อ​เดียว​ที่​เหมือนกัน​ก็​คง​เป็นเรื่อง​ที่​คน​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​

อู๋​ถีจิงหน้าบาน​เป็น​กระด้ง​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​มาก​ล้น​ เป็น​ความมั่นใจ​ที่​ราวกับว่า​มีมาตั้งแต่​อยู่​ใน​ท้อง​แม่ เขา​ยิ้ม​เอ่ย​ “หู​เฟิง พรรค​แห่ง​นี้​ของ​พวกเรา​ เจ้าเป็น​ประมุข​แล้วกัน​ ถือโอกาส​ดูแล​เรื่อง​เงินทอง​ไป​ด้วย​ ส่วน​ข้า​จะเป็น​แค่​บรรพ​จารย์​ผู้คุม​กฎ​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​กลายเป็น​สำนัก​วิถี​กระบี่​อักษร​จงแห่ง​หนึ่ง​ให้จงได้​ ถึงเวลา​นั้น​เจ้าก็​คือ​เจ้าสำนัก​แล้ว​ อืม​ เหมือน​ๆ กับ​เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อย่างไร​ล่ะ​”

คน​ผู้​หนึ่ง​อายุ​สี่สิบ​ต้น​ๆ คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ประตู​มังกร​

คน​ผู้​หนึ่ง​ยัง​ไม่ถึงยี่สิบ​ คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​

อายุ​ของ​คน​ทั้งสอง​รวมกัน​ก็​ยัง​ไม่ถึงหกสิบ​ปี​ แต่กลับ​จะลงมือ​สร้าง​พรรค​และ​สำนัก​ในอนาคต​แล้ว​

หาก​จะพูดถึง​แค่​เงิน​เทพ​เซียน​ อันที่จริง​เอา​เงิน​บน​ร่าง​ของ​คน​ทั้งสอง​มารวมกัน​ก็​ยัง​ได้​ไม่ถึงหนึ่ง​เหรียญ​ฝน​ธัญพืช​ด้วยซ้ำ​

“ผู้คุม​กฎ​? พรรค​แห่ง​นี้​ของ​พวกเรา​ คาด​ว่า​คง​มีแค่​พวกเรา​สอง​คน​ไป​อีก​นาน​เลย​ล่ะ​ นอกจาก​ข้า​แล้ว​ เจ้ายัง​จะคุม​ใคร​ได้​อีก​?”

หู​เฟิงเอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “ไป​เทียบ​กับ​เขา​ไม่ได้​หรอก​”

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ก็​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​เปรียบเทียบ​กัน​ ต่าง​คน​ต่าง​เดิน​บน​เส้นทาง​ของ​ตัวเอง​ ต่าง​คน​ต่าง​มีวิธี​ใช้ชีวิต​ของ​ตัวเอง​

อู๋​ถีจิงเอ่ย​ “หู​เฟิง นิสัย​ที่​ชอบ​ดูถูก​ตัวเอง​เช่นนี้​ของ​เจ้า วันหน้า​ต้อง​เปลี่ยน​แล้ว​นะ​ เรียนรู้​จาก​ข้า​ไป​ให้​มาก​”

หู​เฟิงเอ่ย​ “นิสัย​ที่​เห็น​ตัวเอง​เป็นใหญ่​ของ​เจ้าก็​เป็น​นิสัยเสีย​ๆ เหมือนกัน​ หาก​วันหน้า​ยัง​ไม่สำรวม​ตน​อีก​ ต้อง​เจอ​กับ​ความยากลำบาก​ใหญ่หลวง​แน่​”

อู๋​ถีจิงเด็กหนุ่ม​ที่​มอบ​ความรู้สึก​บ้าระห่ำ​ให้​ผู้คน​อย่าง​แท้จริง​หัวเราะ​เสียง​ดังลั่น​ ดังนั้น​ตน​ถึงได้​ถูกชะตา​กับ​หู​เฟิงอย่างไรเล่า​

ไม่เหมือน​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​แห่ง​นั้น​ ทุกครั้งที่​ตน​ออก​ไป​ข้างนอก​ รอบกาย​หาก​ไม่ใช่สายตา​ประจบ​เอาใจ​ สายตา​ยกยอ​สรรเสริญ​ ก็​ต้อง​เป็น​พวก​ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าที่​ใช้สีหน้า​ปลาบปลื้ม​ชื่นชม​เอ่ย​คำชมเชย​ ล้วน​เป็น​พวกเขา​ที่​คิด​เอง​เออ​เอง​กัน​ทั้งนั้น​ ไม่เข้าใจ​จริงๆ​ ข้า​อู๋​ถีจิงฝึก​กระบี่​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวก​เจ้าด้วย​?

อู๋​ถีจิงลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ถามว่า​ “เจ้ากับ​ไอ้​หมอ​นั่น​เป็น​คนบ้านเดียวกัน​ ทั้ง​ยัง​อายุ​เท่ากัน​ สนิท​กัน​หรือไม่​?”

หู​เฟิงหันหน้า​มามอง​อู๋​ถีจิงแล้ว​คลี่​ยิ้ม​ คล้าย​กำลัง​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ช่างหา​ได้​ยาก​จริงๆ​ ที่​อู๋​ถีจิงก็​รู้สึก​สนใจ​ใน​ตัว​คน​บางคน​เช่นนี้​

อู๋​ถีจิงเบ้​ปาก​ “ข้า​บ้าระห่ำ​ก็​จริง​ แต่​ก็​ไม่ใช่คนโง่​ ไม่เพียงแต่​เฉิน​ผิง​อัน​เท่านั้น​ ยังมี​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ด้วย​ที่​ข้า​เอาชนะ​ไม่ได้​”

หู​เฟิงเอ่ย​เพิ่ม​สามคำ​มาอย่าง​ไม่รีบ​ไม่ร้อน​ “แค่​ชั่วคราว​?”

อู๋​ถีจิงยิ้ม​กล่าว​ “ไม่อย่างนั้น​?”

บ้าน​บรรพบุรุษ​ของ​หู​เฟิงอยู่​ที่​ตรอก​เอ้​อห​ลาง​ ห่าง​จาก​บ้าน​บรรพบุรุษ​สกุล​หยวน​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ของ​ต้า​หลี​ไม่ไกล​นัก​

ตอน​เด็ก​เขา​มักจะ​ติดตาม​ท่าน​ปู่​เดิน​แวะเวียน​ไป​ตาม​ตรอก​ซอกซอย​ต่างๆ​ ช่วย​ซ่อมแซม​ถ้วย​โถโอ​ชาม ลับ​มีด​ ฯลฯ​

ขนบธรรมเนียม​เก่าแก่​ของ​ที่​บ้านเกิด​ ท่าน​ปู่​รู้​เยอะ​มาก​ จึงมักจะ​ไป​ช่วย​งานมงคล​บ่อยๆ​ แล้วก็​จะได้เงิน​บางส่วน​มาใช้จ่าย​ใน​บ้าน​ บวก​กับ​ที่​ท่าน​ปู่​เปิดร้าน​ขาย​ของกระจุกกระจิก​ด้าน​งานมงคล​อย่าง​พวก​กลอน​คู่​ กระดาษ​แปะ​หน้าต่าง​ ฯลฯ​ ชีวิต​ของ​หู​เฟิงตอน​เด็ก​จึงไม่ถือว่า​ยากจน​เกินไป​นัก​ เพียงแต่ว่า​ท่าน​ปู่​แซ่ไฉ เขา​กลับ​แซ่หู​ พวก​เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​ท่าน​ปู่​ของ​เขา​เป็น​เขย​ที่​แต่ง​เข้า​บ้าน​ ดังนั้น​ตอน​เด็ก​ๆ หู​เฟิงจึงถูก​คน​ดูแคลน​ไม่น้อย​ มักจะ​ถูก​คน​วัย​เดียวกัน​ยก​มาพูด​นินทา​ ส่วน​ชื่อ​ของ​ท่าน​ปู่​ก็​มีเพียง​ตอนที่​จำต้อง​แกะสลัก​ลง​ไป​บน​ก้อนหิน​เท่านั้น​ หู​เฟิงถึงเพิ่งจะ​ได้​รู้​เป็นครั้งแรก​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 906.3 บ้านเกิดที่ไม่เติบใหญ่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์