CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
หน้านิยาย
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 914.6 กลอนคู่ประตูมังกร

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 914.6 กลอนคู่ประตูมังกร
ตอนก่อน
หน้านิยาย

ริมขอบของลานประลองยุทธมีคนส่งเสียงขึ้นว่า “อ้อ? ต้องระวังอย่างไรหรือ?”

เจียงอวิ๋นหูดี ได้ยินเข้าก็ไม่สบอารมณ์ทันใด “อ้ออะไร ใครไม่เชื่อ? ลุกขึ้นมาเลย!”

คนผู้นั้นยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มตอบว่า “ข้าไม่เชื่อ”

เจียงอวิ๋นขยี้ตา เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดก็กลืนน้ำลายลงคอ กลอกตาเร็วรี่ คิดว่าควรจะแก้ไขอย่างไรจึงจะผ่านหายนะครั้งนี้ไปได้

คนผู้นั้นยิ้มตาหยียื่นมือมาข้างหนึ่ง “ไม่ต้องแก้ตัวแล้ว มา มาฝึกปรือฝีมือกันหน่อยสิ ถือเสียว่าข้าได้ช่วยตั้งเตาเล็กให้เจ้า จะได้ไม่มีใครไม่เชื่อเจ้า”

เจียงอวิ๋นถูมือเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้าอิ่นกวาน หลายปีมานี้ข้าคิดถึงท่านมากเลย ข้าไม่เหมือนเจ้าพวกคนใจจืดใจจำอย่างสวี่กง หยวนจ้าวฮว่าหรอกนะ ทุกวันก่อนข้าจะฝึกหมัดจะต้องท่องว่าใต้เท้าอิ่นกวานสามครั้งอยู่ในใจถึงจะปล่อยหมัดแรกที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณออกไปได้”

ใช้เหตุผลอธิบายให้เชื่อถือนั้นช่างเถิด ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเถ้าแก่รองขึ้นชื่อว่า ‘ทำการค้ายุติธรรม มีเหตุผลที่สุด’ ถ้าอย่างนั้นนายท่านน้อยอย่างข้าก็จะใช้ความรู้สึกทำให้หวั่นไหวก็แล้วกัน!

รอบด้านลานประลองยุทธพลันมีเสียงฮือฮาดังขึ้นทันมา

คือใต้เท้าอิ่นกวานในตำนานท่านนั้นจริงๆ หรือ?!

ปัญหาคือก็ไม่เห็นว่าเขาจะรูปโฉมหล่อเหลา สูงใหญ่ดุดันสักเท่าไรเลยนะ

มองไปแล้วแค่ผอมๆ สูงๆ อืม เหมือนอาจารย์ในโรงเรียนมากกว่าอีก

เขาคือปรมาจารย์ใหญ่วิถีวรยุทธคนหนึ่งจริงๆ หรือ?

อาจารย์เจิ้งบอกว่าเขาเคยชี้แนะวิชาหมัดหลายอย่างให้ใต้เท้าอิ่นกวานอย่างจริงจังตั้งใจมาก่อน ตอนนี้ดูแล้วน่าจะเป็นความจริงกระมัง

เฉินผิงอันปล่อยเจ้าตัวป่วนน้อยเจียงอวิ๋นไปก่อนชั่วคราว เดินเร็วๆ ไปกุมหมัดยิ้มเอ่ยกับผู้ฝึกยุทธต่างถิ่นสองคน “ลำบากแล้ว”

หนึ่งชายหนึ่งหญิงล้วนเป็นขอบเขตร่างทอง อายุประมาณหกสิบปีทั้งคู่ เพียงแต่ว่ารูปโฉมค่อนข้างอ่อนเยาว์ เหมือนคนอายุประมาณสี่สิบต้นๆ

ผู้ฝึกยุทธทั้งสองเอ่ยพร้อมเพรียงกันว่า “มิกล้ารับ!”

หากอยู่ที่อื่นในใต้หล้าห้าสี พวกเขาเลือกสถานที่แห่งหนึ่งก่อสำนักตั้งพรรค เดิมทีก็เป็นเรื่องเล็กที่ทำได้อย่างง่ายดาย

ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดปรมาจารย์วิถีวรยุทธที่เลื่อนเป็น ‘ขั้นสามหลอมจิต’ ทั้งสองท่านถึงได้มายังนครบินทะยาน ทุกบ้านล้วนมีคัมภีร์อ่านยาก เพราะต้องการหลบเลี่ยงศัตรูบนภูเขา จึงหนีภัยมาที่นี่

แล้วนับประสาอะไรกับที่นอกจากคฤหาสน์หลบร้อนจะช่วยยืนยันสถานะให้แล้ว ยังมีเจิ้งต้าเฟิงกับเหนี่ยนซินที่จับตามองอยู่ ไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาดได้แน่

ก็เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่นครอู่ขุยที่มีข้อเรียกร้องให้คนต่างถิ่นเขียนสำมะโนครัวและประวัติความเป็นมาให้ละเอียด คือเรื่องน่าเบื่อที่มองดูเหมือนทำให้พอเป็นพิธีอย่างหนึ่ง ง่ายที่จะตบตาให้ผ่านด่านไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นนอกหละหลวมในแน่นหนาตามแบบฉบับที่แท้จริง อีกทั้งยิ่งคนต่างถิ่นที่ถูกบันทึกลงบัญชีมีมากเท่าไร นครบินทะยานก็ง่ายที่จะทำการตรวจสอบร่วมกัน หากค้นพบว่าใครเล่นตุกติก จงใจปิดบังสถานะ ปลอมแปลงประวัติขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปพูดคุยกับเหนี่ยนซินที่ดูแลคุกในทุกวันนี้แล้ว

คนเย็บผ้าผู้หนึ่งที่ทำให้เฉินผิงอันหวาดผวามาจนถึงทุกวันนี้ ฝีมือเป็นอย่างไร แค่คิดก็พอจะรู้ได้

พอเฉินผิงอันปรากฏตัวบนลานประลองยุทธแห่งนี้ก็มีผู้ฝึกยุทธรุ่นเยาว์กลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่มากไม่น้อย สิบคนพอดี

คนผู้หนึ่งสวมชุดกว้าตัวยาวสีเขียว ยืนเบี่ยงข้าง ขณะเดียวกันก็พลิกข้อมือตบไปทางด้านหลัง กดลงบนใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ลอบโจมตี ผลักลงไปกับพื้น หัวของอีกฝ่ายกระเด้งกระดอนกับพื้นอยู่สามที

จากนั้นพลิ้วกายพลิกหมุนกระชากขาข้างหนึ่งที่ฟาดเหวี่ยงมาอย่างดุดัน มือขวายกขึ้นสูงตีศอกแล้วพลันกระชากลงต่ำ ข้อศอกถองเข้าที่หัวใจของเด็กหนุ่ม ฝ่ายหลังกระแทกลงพื้นดังโครม จากนั้นถูกเฉินผิงอันใช้ปลายเท้าเขี่ยขึ้นมา เด็กหนุ่มพลิกตลบกลางอากาศหลายสิบรอบก่อนจะลงไปนอนพังพาบอยู่บนพื้น พยายามลุกขึ้นหลายครั้งก็ไม่เป็นผล กระอักเลือดไม่หยุด

เด็กสาวที่มีชื่อว่าซุนฉวีตีเข่าเข้าใส่ ผลคือถูกขาข้างหนึ่งของเฉินผิงอันเตะเข้าที่เอวของนางอย่างแรง ร่างของซุนฉวีปลิวกระเด็นออกไป ชนเข้าไปในอ้อมอกของสตรีที่เป็นผู้ฝึกยุทธอีกคนหนึ่งแล้วพากันปลิวลอยออกไป

พริบตานั้นคนทั้งสิบก็ตีวงเข้ารุมล้อม ระหว่างกันและกันไม่จำเป็นต้องพูดคุยก็ร่วมมือกันได้อย่างประณีติงดงาม สุดท้ายก็พากันล้มไปกองอยู่กับพื้น สภาพอเนจอนาถจนแทบมิอาจทนมองได้

เจียงอวิ๋นที่ตาเขียวจมูกบวมนั่งอยู่บนพื้น เงยศีรษะขึ้นสูงเพราะว่าเลือดกำเดาไหล

เด็กผู้ชายตัวปลอมในอดีต แม่นางใหญ่ในวันนี้อย่างหยวนจ้าวฮว่านั่งอยู่บนพื้น นางใช้หมัดทุบลงบนพื้นอย่างแรง

สวี่กงแห่งตรอกมู่เหมิงนวดคลึงหัวใจ แสยะปากแยกเขี้ยว

เจียงอวิ๋น สวี่กง หยวนจ้าวฮว่า

คนทั้งสามมีคุณสมบัติดีเยี่ยมที่สุด เรียนหมัดเร็วที่สุด อาศัยการประทานพรจากฟ้าอำนวยของใต้หล้าใหม่เอี่ยม เจียงอวิ๋นจึงได้รับโชคชะตาบู๊มาสามครั้ง สวี่กงกับหยวนจ้าวฮว่าได้คนละสองครั้ง

นอกจากนี้ก็มีอีกหลายคนที่ได้การประทานพรจากโชคชะตาบู๊หนึ่งครั้ง

อันที่จริงนี่ก็มีความเกี่ยวข้องกับการที่หนิงเหยาฝ่าทะลุขอบเขตอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางได้นั่งครองตำแหน่งบุคคลอันดับหนึ่งของใต้หล้าอย่างแท้จริง บวกกับที่นครบินทะยานได้รับการดูแลบางอย่างจากฟ้าดินจึงเป็นเหตุให้ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในสายของคฤหาสน์หลบหนาวได้รับการประทานพร ซึ่งแน่นอนว่าเด็กน้อยในอดีตพวกนี้ก็มานะที่จะฝึกวรยุทธกันอย่างจริงจัง ต่างก็อดทนกับความยากลำบากได้ ไม่เคยใช้พรสวรรค์ส่วนตัวและโชควาสนาที่ได้มาเพิ่มเติมอย่างสิ้นเปลืองเสียเปล่า

เพียงแต่จำต้องยอมรับว่าโชคชะตาบู๊ที่ได้มาจากการเป็นผู้ ‘แข็งแกร่งที่สุด’ ในขอบเขตใดขอบเขตหนึ่งประเภทนี้ เมื่อเทียบกับใต้หล้าแห่งอื่นแล้วกลับถือว่ามีน้ำหนักอย่างมาก อีกทั้งน้ำหนักนั้นยังยิ่งใหญ่มากด้วย

หากว่าอยู่ที่ใต้หล้าไพศาล มีพรรคมีสำนักใดบ้างที่ได้ครอบครองผู้ฝึกยุทธเกือบสิบคน โชคชะตาบู๊ที่ทยอยได้มาอย่างถี่กระชั้นเช่นนี้ ไม่ใช่เปิดร้านโชคชะตาบู๊เป็นของตัวเองแล้วจะเรียกว่าอะไร?

เฉินผิงอันยืนอยู่ที่เดิม ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “หากว่าเป็นการประลองฝีมือที่หยุดแต่พอสมควร ร่วมมือกันเล่นงานขอบเขตเดินทางไกลคนหนึ่งกลับไม่เป็นปัญหามากนัก”

เรียนวรยุทธเดินขึ้นสู่ที่สูง จะรีบร้อนไม่ได้

สายของผู้ฝึกยุทธคฤหาสน์หลบหนาว หากคิดจะแบ่งเบาภาระให้กับนครบินทะยานอย่างแท้จริงก็ยังจำเป็นต้องขัดเกลาตัวเองอีกยี่สิบสามสิบปีจริงๆ

ถึงเวลานั้นมีผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกลอยู่สักคนสองคน การออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกก็จะมั่นคงอย่างมากแล้ว ไม่ต้องให้ผู้ฝึกกระบี่คอยปกป้องมรรคาด้วยซ้ำ

แต่หากว่าเป็นการลอบโจมตีที่มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน ไม่พูดถึงเจิ้งต้าเฟิงและการป้อนหมัดของอาจารย์สองคน ถ้าอย่างนั้นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตโอสถทองคนหนึ่งของนครบินทะยานที่เคยไปเยือนสนามรบ หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ก็สามารถสังหารคฤหาสน์หลบหนาวได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว

เฉินผิงอันขยับเท้าจากใกล้ห่างไปไกล ดึงตัวผู้ฝึกยุทธรุ่นเยาว์พวกนั้นขึ้นมาทีละคน แน่นอนว่าสตรีคือข้อยกเว้น อิ่นกวานแค่ใช้เท้าเตะเบาๆ พวกนางก็สามารถพลิ้วกายลุกขึ้นยืนได้เอง

ซุนฉวีแห่งถนนอวี้ฮู่ นางมีน้องสาวชื่อซุนจ่าว ในอดีตได้ติดตามเซียนกระบี่หญิงแห่งธวัลทวีปนามว่าซ่งพิ่นออกไปจากบ้านเกิด

หลังจากนางลุกขึ้นมาแล้วก็ถามว่า “ใต้เท้าอิ่นกวาน ตอนนี้ซุนจ่าวเป็นอย่างไรบ้างแล้ว? ได้ทำตัวขายหน้าบ้างหรือไม่?”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “นางเป็นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตชมมหาสมุทรแล้ว”

ซุนฉวีพยักหน้า “ถือว่าพอใช้ได้”

คฤหาสน์หลบหนาว คนที่สอนหมัดในประวัติศาสตร์ อันดับแรกก็มีป๋ายเลี่ยนซวงหมัวมัวเฒ่าของจวนหนิง เฉินผิงอันอิ่นกวานหนุ่ม และยังมีเจิ้งต้าเฟิงที่มาจากต่างถิ่น

อันที่จริงเฉินผิงอันแค่เคยชี้แนะให้บ้างเป็นบางครั้ง ไม่ถือเป็นอาจารย์ตามความหมายที่เข้มงวด แต่เด็กๆ ของคฤหาสน์หลบหนาวไหนเลยจะสนใจเรื่องนี้ เวลาอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็มักจะเอาอาจารย์เจิ้งมาเปรียบเทียบกับใต้เท้าอิ่นกวานเป็นประจำ

เฉินผิงอันเดินไปหยุดอยู่ข้างกายผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทองสองคนนั้น ยิ้มเอ่ยว่า “อาจารย์หม่า อาจารย์หลิว หากเป็นไปได้ล่ะก็ วันหน้าสามารถป้อนหมัดพวกเขาหนักๆ หน่อย ส่วนเรื่องยาที่ใช้ในการขัดเกลาเส้นเอ็นและกระดูก บวกกับยากินที่หนึ่งวันต้องกินสามมื้อ ก็สามารถเพิ่มให้มากอีกสักหน่อยตามความเหมาะสม ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งรายงานบัญชีไม่ผ่านที่สายเฉวียนฝู่”

มองสีหน้าอบอุ่นเป็นมิตรของอิ่นกวานหนุ่ม ฟังน้ำเสียงปรึกษาหารือของอีกฝ่าย คนทั้งสองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่หลายส่วน ขณะเดียวกันก็ผ่อนคลายอย่างมากด้วย

วันนี้ใต้เท้าอิ่นกวานพูดเอง คิดว่าวันหน้าก็น่าจะพูดคุยกับจวนเฉวียนฝู่ได้ดีกว่านี้

ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าพวกนักบัญชีของสายเฉวียนฝู่ หากว่ากันในเรื่องของการหาเงินก็ขาดแค่ไม่ได้บูชาอิ่นกวานหนุ่มเป็นบรรพบุรุษรุ่นแรกเท่านั้น

อันที่จริงสภาพการณ์ของพวกผู้ฝึกยุทธเต็มตัวสายของคฤหาสน์หลบหนาวตลอดหลายปีมานี้กระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง หนึ่งเพราะเหมือน ‘บุตรอนุภรรยา’ ที่เป็นภูเขาลูกหนึ่งของสายสิงกวาน ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น นอกจากนี้เรื่องของเงินทองก็มีแต่เข้าไม่มีออก แม้จะไม่ถึงขั้นทำให้คนรังเกียจ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรค่าให้โอ้อวด ทางฝั่งของเฉวียนฝู่ไม่ถึงขั้นอมเงินพวกเขา พูดถึงแค่พวกเขาสองคนกับอาจารย์ใหญ่เจิ้งต้าเฟิง คนทั้งสามที่สอนหมัด ทางเฉวียนฝู่ก็มักจะจ่ายเงินเดือนทุกเดือนตามกำหนดเสมอ ไม่ขาดไปแม้แต่อีแปะเดียว ทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการฝึกหมัดเรียนวรยุทธขัดเกลาเส้นเอ็นและกระดูกของพวกเด็กๆ ก็แจกจ่ายให้อย่างเพียงพอ คฤหาสน์หลบหนาวแจ้งไปว่าต้องการกี่มากน้อยก็ให้มาเท่านั้น ไม่เคยบ่นสักคำเดียว

เพียงแต่ว่าคำพูดยิบย่อยบางอย่าง รวมไปถึงสีหน้าและแววตาในบางครั้ง ไม่ว่าใครก็ไม่ใช่คนโง่ ล้วนได้ยิน ได้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง

นอกจากนี้ผู้ฝึกยุทธของคฤหาสน์หลบหนาว อยู่ในนครบินทะยานที่ผู้ฝึกกระบี่มากมายดุจก้อนเมฆแห่งนี้ ย่อมรู้สึกด้อยกว่าคนอื่นระดับหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะพูดจาหรือทำอะไรก็ล้วนเหมือนถูกมัดมือมัดเท้าตามไปด้วย

ก็เหมือนอย่างเจียงอวิ๋นที่คุณสมบัติในการฝึกวรยุทธดีที่สุดที่อีกเดี๋ยวก็จะเลื่อนเป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทองแล้ว ถือเป็นเสาคานกลางกระแสน้ำของคฤหาสน์หลบหนาวในอนาคตอย่างแน่นอนแล้ว แต่หากเขาออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอก เจอกับผู้ฝึกกระบี่วัยเดียวกันกลางทาง ในใจจะไม่มีความรู้สึกเสียดายบ้างเลยหรือ?

แม้ว่าเจียงอวิ๋นที่อยู่ข้างนอกยังคงฮึกเหิมคึกคักได้ตลอดทั้งปี แต่อันที่จริงคนคนหนึ่งยิ่งพูดจาเสียงดังเท่าไร ลึกๆ ในใจก็ยิ่งใจฝ่อมากเท่านั้น

เฉินผิงอันกุมหมัดเอ่ยลา “คงไม่ถ่วงเวลาการฝึกหมัดของพวกเจ้าแล้ว”

ผู้ฝึกยุทธหญิงคนนั้นถามว่า “ปรมาจารย์เฉินไม่ป้อนหมัดให้พวกเด็กๆ หน่อยหรือ?”

หากเรียกอีกฝ่ายว่าอิ่นกวานดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไร เพราะถึงอย่างไรทุกวันนี้อิ่นกวานก็คือหนิงเหยา

ในเมื่ออีกฝ่ายคือผู้ฝึกยุทธขอบเขตยอดเขาคนหนึ่ง เรียกอีกฝ่ายว่าปรมาจารย์หรือแม้กระทั่งผู้อาวุโสก็ไม่เกินกว่าเหตุ

ผู้ที่ก่อสำนักตั้งพรรคคือบรรพบุรุษ ผู้ที่หมัดสูงกว่าก็ยิ่งต้องเรียกขานว่าอาจารย์

ผู้ฝึกยุทธต่างถิ่นอย่างพวกเขาสองคน ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ในท้องถิ่นของกำแพงเมืองปราณกระบี่ แม้จะบอกว่าสอนหมัดอยู่ที่นี่มานานหลายปี แต่เนื่องจากคนทั้งสองไปไหนมาไหนน้อยครั้ง สำหรับขนบธรรมเนียมเฉพาะอย่างของกำแพงเมืองปราณกระบี่ พวกเขาจึงรู้อย่างครึ่งๆ กลางๆ เกี่ยวกับเรื่องเล่าข่าวลือมากมายของอิ่นกวานคนสุดท้ายท่านนี้ อันที่จริงพวกเขาไม่ค่อยเข้าใจนัก ก็เหมือนอย่างผู้ฝึกยุทธหญิงแซ่หลิวที่คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดทุกครั้งที่พวกเจียงอวิ๋นพูดถึงอิ่นกวานมักจะหนีไม่พ้นเรื่องที่เขาถามหมัดสามครั้งกับเฉาสือเสมอ ทั้งๆ ที่แพ้ติดกันถึงสามครั้ง แต่กลับยังเล่าหน้าตาเบิกบานได้ถึงเพียงนั้น ต่อให้พูดถึงการถามหมัดกับอวี้เจวี้ยนฟูก็แทบจะไม่เคยพูดถึงว่าปรมาจารย์หนุ่มออกหมัดเฉียบคมอย่างไร กลับพูดแค่ว่าถูกอวี้เจวี้ยนฟูต่อยหมัดเดียวล้มคว่ำ ไม่ใช่แค่เจียงอวิ๋นเท่านั้น ทุกคนล้วนเริงร่าเบิกบานเหมือนกันหมด

เฉินผิงอันส่ายหน้ายิ้มกล่าว “ไม่ล่ะ”

บุรุษร่างกำยำแซ่หม่าถามอย่างระมัดระวังว่า “หลังจากปรมาจารย์เฉินกลับบ้านเกิด เคยได้ถามหมัดกับเฉาสืออีกครั้งหรือไม่?”

เฉินผิงอันพยักหน้า “เคยถามครั้งหนึ่ง ยังคงแพ้อยู่เหมือนเดิม”

บุรุษไม่รู้สึกประหลาดใจ ชนะเฉาสือสิถึงจะแปลก

สตรีอดไม่ไหวถามว่า “ขอถามปรมาจารย์เฉิน ทุกวันนี้เฉาสือเป็นขอบเขตอะไรแล้ว?”

เห็นได้ชัดว่านางคือคนหนึ่งที่เลื่อมใสเฉาสือ

เฉินผิงอันกล่าว “ตอนที่ถามหมัดกับสือ เขาคือชั้นคืนความจริงของขอบเขตปลายทาง”

สีหน้าของสตรีเปลี่ยนมาเป็นซับซ้อน แต่ไม่นานก็ถูกอำพรางเอาไว้ได้อย่างพอเหมาะพอดี

เฉินผิงอันรู้ความคิดของนาง คงจะรู้สึกว่าผู้ฝึกยุทธขอบเขตยอดเขาคนหนึ่งไปถามหมัดกับเฉาสือที่เป็นขอบเขตปลายทางขั้นคืนความจริงค่อนข้างจะไม่รู้จักประมาณตน

เพียงแต่เฉินผิงอันก็ไม่ได้อธิบายอะไร

รอกระทั่งผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทองสองคนเริ่มสอนหมัดอีกครั้ง เฉินผิงอันก็แค่ไปหยุดยืนดูอยู่ริมขอบของลานประลองยุทธครู่หนึ่งแล้วจากไปอย่างเงียบเชียบ

สำหรับอาจารย์ถามหมัดทั้งสองคนนั้น รอกระทั่งบุรุษชุดเขียวจากไปแล้ว อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาในเวลานี้น่าจะเรียกได้ว่าโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก

คนสิบคนแรกสุดของคฤหาสน์หลบหนาวมองเห็นว่าก่อนอิ่นกวานหนุ่มจะจากไปได้ยกนิ้วโป้งให้กับพวกเขา

เดินออกจากประตูใหญ่ เฉินผิงอันหันกลับไปมองกรอบป้ายแวบหนึ่ง คฤหาสน์หลบหนาวที่เคยเป็นสายของจี้กวานแห่งนี้แปลกประหลาดมากจริงๆ

หลบหนาว? หลบ? (คำว่าหลบหนาวของคฤหาสน์หลบหนาว ภาษาจีนใช้คำว่า 躲 ที่แปลว่าหลบซ่อน ส่วนหลบของคฤหาสน์หลบร้อนใช้คำว่า 避 ที่แปลว่าหลบเลี่ยง หลบหลีก)

น่าเสียดายที่ต่อให้เป็นคฤหาสน์หลบร้อน ก็ยังไม่เคยมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆ เกี่ยวกับสายจี้กวาน ราวกับว่าถูกคนจงใจทำลายบันทึกทั้งหมดทิ้ง

เฉินผิงอันแค่เคยเห็นถ้อยคำที่คล้ายคลึงกับการให้เชิงอรรถบนพื้นที่ว่างเปล่าในหน้าหนังสือซึ่งเป็นเอกสารลับฉบับหนึ่งของสายอิ่นกวาน เป็นลายมือของเซียวสวิ้นอิ่นกวานคนก่อน ตัวอักษรบิดๆ เบี้ยวๆ ยากจะแยกแยะ บอกไว้ว่า

‘กายเนื้อของผู้ฝึกยุทธเต็มตัวทุกคนก็คือตำหนักหมื่นเทพที่ควันธูปโชติช่วงแห่งหนึ่ง’

ตอนก่อน
หน้านิยาย

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 914.6 กลอนคู่ประตูมังกร"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์