กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ - ตอนที่ 80 หนึ่งกระบี่มังกรพิโรธ !
กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ ตอนที่ 80 หนึ่งกระบี่มังกรพิโรธ !
ตอนที่ 80 หนึ่งกระบี่มังกรพิโรธ !
จี้เทียนชิงและจี้หลิงต่างก็เปิดฉากการต่อสู้อันดุเดือดบนเวที่ ตาข่ายรังสีกระบี่แผ่ระยะออกไป 3 เมตรพัวพันร่างกายของจี้หลิงเอาไว้และทําให้เขาไม่สามารถทะลวงฝ่าออกมาได้
เหล่าฝูงชนรอบๆเวทีต่างก็หัวใจหนักอึ้งและเป็นกังวลแทนจี้หลิงอย่างลับๆ
ทุกคนต่างก็ได้เห็นพลังทําลายและความมหัศจรรย์ของข่ายกระบี่ พวกเขาเพิ่งได้เห็นกับตาว่าเจียงไปอวถูกรัดพันจนพ่ายแพ้อย่างไร
ทุกคนเป็นกังวลว่าองค์ชายจี้หลิงจะสามารถต้านรับการปิดรัดของข่ายกระบีได้หรือไม่ หรือเขาจะต้องตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถแบบเดียวกับเจียงไปอ ?
“เคร้ง !”
ทันใดนั้นเองบนเวทีก็เกิดเสียงกระทบของกระบี่อันแหลมแสบแก้วหูดังขึ้น
ด้วยพลังความแข็งแกร่งของจี้หลิงนั้น มากพอที่จะทําให้กระบี่เพลิงทรราชย์สําแดงฤทธิ์เดชได้อย่างยอดเยี่ยม, ลําแสงกระบี่แยกท้องฟ้าออกเป็นทางและปิดกั้นปราณกระบี่ ส่วนใหญ่ของจี้เทียนซิงเอาไว้ได้
มีบางครั้งที่ปราณกระบี่และรังสีข่ายกระบี่กระทบร่างของเขาจนเกิดเสียง “ฉวะ” ขึ้น แต่เป็นที่น่าแปลกใจ จี้หลิงกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
จากนั้นไม่นานจี้เทียนซิงก็พบเบาะแสและเข้าใจเหตุผลได้ในที่สุด
จี้หลิงถูกปราณกระบี่ฟาดฟันถึง 6 ครั้งจนอาภรณ์ฉีกขาดที่ด้านหลังและหน้าอก แต่เมื่อมองผ่านรอยขาดนั้นก็ได้เห็นเกราะอ่อนสีทองเข้มซ่อนอยู่ภายใน
ที่แท้จี้หลิงก็ใส่เกราะอ่อนที่ทนทานต่อกระบี่ได้นั่นเอง !
จี้หลิงสะบัดกระบี่ออกไปเพื่อปกป้องส่วนหัวและจุดอื่นๆที่ไม่ได้สวมเกราะอ่อนเท่านั้นจึงทําให้เขาสามารถต้านรับข่ายกระบี่ของจี้เทียนซิงได้อย่างไม่ยากเย็น
“บัดซบ ! จี้หลิงผู้นี้เจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก มันสวมเกราะอ่อนจนปราณกระบีของข้าไม่สามารถทําร้ายมันได้ !”
ในใจของจี้เทียนซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังดวงตาพุ่งพล่านด้วยความเยือกเย็น
ในขณะที่จี้หลิงกําลังกวัดแกว่งกระบี่ต่อต้านการบีบรัดของข่ายกระบี่อยู่นั้น เขากล่าวอย่างเยาะเย้ยขึ้นมาว่า “เหอๆจี้เทียนซิงถึงแม้เจ้าจะบรรลุศาสตร์กระบี่อันน่าทึ่ง แต่เจ้าก็ไม่อาจสร้างบาดแผลให้ราชาผู้นี้ที่สวมเกราะไหมทองได้หรอกเจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้ !”
จี้เทียนซิงเงียบลงและไม่กล่าวตอบโต้ มีเพียงใบหน้าที่ดูมืดมน
จี้หลิงพูดถูก มันมีเกราะไหมทองที่สามารถต้านรับการโจมตีจากกระบี่ได้ ดังนั้นข่ายกระบี่ที่รายล้อมอยู่นั้นแทบจะไร้ประโยชน์
ท้ายที่สุดแล้วพลังยุทธ์ของจี้เทียนซิงก็อยู่เพียงเขตแดนต้นกําเนิดแท้จริงเท่านั้น และปราณกระบี่ที่ควบแน่นออกมาก็มิได้แข็งแกร่งพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของเกราะไหมทอง
หากความพลังของเขาตัดผ่านไปถึงเขตแดนเชื่อมลมปราณได้เมื่อไหร่ ปราณกระบี่จะถูกแปลงเป็นคลื่นกระบี่ที่มีพลังทําลายสูงขึ้นนับสิบเท่า แน่นอนว่ามันจะสามารถทะลุทะลวงการป้องกันของเกราะไหมทองได้!
ในไม่ช้าเวลาก็ผ่านไปถึงครึ่งชั่วโมง
จี้เทียนซิงควบคุมข่ายกระบี่เพื่อใช้โจมตี ซึ่งวิชาประเภทนี้สูบกลืนพลังลมปราณมหาศาลและทําให้เหนื่อยล้าอย่างมาก
เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าทั้งจิตวิญญาณและพลังถดถอยลงอย่าง รวดเร็ว เขาทําได้เพียงถ่วงเวลา สุดท้ายย่อมต้องพ่ายแพ้ด้วยกระบี่ของจี้หลิงในอีกไม่ช้า อีกทั้งจี้หลิงยังดูสมบูรณ์พร้อมและใช้เพลงกระบี่ต่อต้านการโจมตีของขายกระบี่ที่บีบรัดอย่างได้ต่อเนื่อง มีเพียงบาดแผลสองรอยที่ดูไม่หนักหนามากนัก
ถึงแม้ว่าเสื้อคลุมที่จี้หลิงสวมใส่จะแปรสภาพเป็นเหมือนกองผ้าขี้ริ้วด้วยข่ายกระบี่ แต่เขาก็ยังมีเกราะไหมทองที่รับการโจมตีส่วนใหญ่ไว้ได้แทบทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น พลังลมปราณและพลังกายก็สมบูรณ์พร้อมไม่มีแม้แต่เหงื่อสักหยาดหยดแม้จะต้านรับข่ายกระบี่ของเทียนซิงมาถึงครึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากซื้อต่อไปจี้เทียนซิงย่อมสูญเสียพลังทั้งหมดจนพ่ายแพ้ ดังนั้นชายหนุ่มทําได้เพียงรั้งปราณกระบี่ทั้งหมดกลับคืน
“ฟุบ ฟุบ ฟุบ !”
ภายใต้การควบคุมของเขา ข่ายกระบี่หดหายและแปรสภาพกลับมาเป็นปราณกระบีหกสายและโบยบินกลับมาหาเจ้าของ
จี้หลิงก็หยุดการโจมตีชั่วคราวและจ้องมองจี้เทียนซิงพลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“เหอะ ! หยุดทําไม ไม่ร่ายขายกระบี่ต่อไปเล่า ?”
“ หรือเจ้าสํานึกตนว่าอ่อนแอเกินกว่าจะทําลายการป้องกันของราชาผู้นี้ ? หรือเจ้าคิดจะยอมแพ้กันแน่ ?”
น้ําเสียงของจี้หลิงเต็มไปด้วยการเสียดสีและดูถูก
จี้เทียนซิงจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชาและกล่าวว่า“คิดจะว่าข้าจะยอมแพ้ ? เจ้ายังไม่มีค่าพอจี้หลิง !”
สีหน้าของจี้หลิงดูโหดเหี้ยมเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาแผ่จิตสังหารออกมา
“เหอะๆ ก็ดี หากเจ้ายอมแพ้ ราชาผู้นี้คงผิดหวังยิ่งแล้วเอย่างที่ข้าเคยกล่าวไว้ เมื่อเจ้าขึ้นมาท้าทายข้า เจ้าก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน !”
“ราชาผู้นี้จะทําให้เจ้าพิการอีกครั้งและกลายเป็นขยะไปตลอดกาล !”
วูบ !
หลังจากกล่าวจบจี้หลิงก็กระชับกระบี่มั่นและเป็นฝ่ายบุกเข้าหาจี้เทียนซิง วาดลําแสงกระบี่ 9 สายซึ่งเป็นไพ่ตายออกไป
“ฟาดฟันเก้าคลื่นเพลิง !”
ลําแสงเพลิงกระบี่ 9 สายเปี่ยมไปด้วยอานุภาพอันเหนือชั้นราวกับคลื่นเพลิงขุมใหญ่ โอบล้อมจี้เทียนซิงในทันที
จี้หลิงถูกบีบรัดด้วยข่ายกระบี่ของจี้เทียนซิงร่วมครึ่งชั่วโมงถึงแม้จะไม่ได้หนักหนามากนักแต่เขาก็หงุดหงิดอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงลอกเลียนเรียนเคล็ดวิชากระบี่ที่คล้ายคลึงกับจี้เทียนซิงและใช้วิธีการเดียวกันโจมตีใส่อีกฝ่าย
ในขณะนี้ลานประลองขนาดใหญ่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยลําแสงกระบี่สีแดงเพลิงอย่างแน่นหนา
ร่างของเทียนซิงจมอยู่ใต้แสงเปลวไฟโดยสมบูรณ์จนผู้คนที่อยู่ใต้เวที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
เขาเป็นเหมือนเรือน้อยกลางทะเลพายุและจะถูกกลืนไปในคลื่นอันบ้าคลั่งในไม่ช้า !
ในช่วงเวลาวิกฤต สีหน้าของงี้เทียนชิงก็ยังคงสงบและเยือกเย็น ดวงตาสาดประกายเย็นเยือกอย่างมุ่งมั่นมือขวากระชับแน่นที่ด้ามกระบี่มังกรดําทันที “ต้องพึ่งเจ้าแล้วนะ”
เช้ง !!
นับตั้งแต่เริ่มมา จี้เทียนซิงผู้ไม่เคยชักกระบี่ ก็ได้ชักกระบี่เป็นครั้งแรก !
ราวกับว่ากระบี่สีดําของจี้เทียนซิงส่งเสียงคํารามของมังกรออกมา มันแพร่กระจายไปทั่วทั้งจัตุรัส
ลําแสงกระบี่วูบวาบและเย็นเสียดกระดูกระเบิดออกดั่งสายฟ้าที่คํารามกลางนภา
ในขณะนี้จี้เทียนซิงเข้าสู่สํานึกต่อสู้และแผ่พุ่งจิตสังหารอันเย็นเยือกออกมา ร่างกายของเขาดูราวกับสูงส่งขึ้นจนทุกคนต้องแหงนหน้ามองด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มไม่สนใจลําแสงกระบี่เพลิงทั้ง 9 ที่โอบล้อมร่างกายอยู่แม้แต่น้อย ดวงตาของเขาเพียงจับจ้องไปที่จี้หลิงเบื้องหน้าในขณะที่กระชับกระบี่มังกรดําไว้มั่น !
“เคร้ง !!”
เสียงระเบิดดังทั่วปฐพีและพื้นดินสั่นสะเทือน
ลําแสงกระบี่ที่เย็นยะเยือกอย่างไร้คู่เทียบเทียม สาดซัดกระบีเพลิง 9 สายจนดับมอดหมดสิ้นและทุบกระแทกใส่หน้าอกของจี้หลิง
“ฉัวะ !”
เกราะไหมทองที่จี้หลิงสวมใส่ถูกกวาดผ่านด้วยลําแสงกระบี่เย็นจนแยกออกเป็นสองซีกทันที
ผลกระทบที่รุนแรงจากลําแสงกระบี่ซัดพาร่างของจี้หลิงกระเด็นออกไปจนล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดัง “โครม”
จี้หลิงพยายามผุดลุกขึ้นจากพื้นและจ้องมองไปที่ขี้เทียนซิงที่ถือกระบี่มังกรดําเอาไว้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความที่นตระหนกและสยองผองเกล้า
“เป็นไปได้อย่างไร ? เจ้าอก !”
หลังจากตกใจและโกรธกริ้ว คําพูดของจี้หลิงเพียงผ่านไปได้ครึ่งทางก็ชะงักงันด้วยโลหิตที่กระจุกตรงลําคอฉีดพุ่งขึ้นฟ้าออกมาเป็นศรโลหิตเขาล้มลงไปอีกครั้งทันที
ถึงแม้ว่าชุดเกราะไหมทองจะเป็นสมบัติป้องกันล้ําค่าและช่วยปกป้องจุดสําคัญเอาไว้ได้ แต่เขาก็ยังคงถูกพลังตกค้างกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงจนเลือดลมตีกลับ
จี้เทียนซิงก้าวยาวๆไปข้างหน้าและถือกระบี่มังกรดําชี้ไปที่อีกฝ่ายพลางกล่าวว่า “หยุด ! อย่าเพิ่งพูดว่ายอมแพ้ ไม่งั้นข้าจะผิดหวังมาก !”
เมื่อครู่ที่ผ่านมาจี้หลิงใช้คําพูดนี้กับเขาอย่างเย่อหยิ่ง แต่ตอนนี้เขาใช้ประโยคนี้ตอกกลับจี้หลิง !
จี้หลิงตัวสั่นเทาด้วยโทสะและคํารามว่า “เจ้าคิดว่าราชาจะยอมแพ้ ? ฝันไปเถอะ !”
ด้วยเสียงคํารามกึกก้อง ร่างของจี้หลิงดีดปราดขึ้นจากพื้นดินสูงสองจิ้งและกุมกระบี่ด้วยมือสองข้างฟาดซัดเข้าหาจี้เทียนซิงด้วยพลังทั้งมวล
จี้หลิงรีดเค้นพลังทั่วร่างและใช้กระบวนท่าที่เรียบง่ายออกมาแต่ทว่ากระบี่นี้ประจุไว้ด้วยพลังระดับเขตแดนต้นกําเนิดแท้จริงขั้นที่ 7 มันรุนแรงพอจะผ่าร่างช้างนาดใหญ่เป็นสองส่วนได้!