กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 1074 ตอนจบ
จงเหยียนซีกับกู้เสียนลงจากรถแล้ว กวนจิ้งยังคงนั่งอยู่ในรถ รู้สึกเหมือนกับลืมสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว และก็เหมือนกับกำลังคิดถึงคำพูดของกู้เสียน
“คุณอากวน”จงเหยียนซีเตืนสติเขาหนึ่งคำ เขาถึงได้สติคืนมา
หลังจากลงรถแล้ว พากันมาถึงห้องผู้ป่วยโดยการนำพาของกู้เสียน
“แม่ของผมอยู่ข้างใน”เขาไม่ได้จะเข้าไปด้วย
กวนจิ้งมองดูเขาแวบหนึ่ง เวลานี้ในใจพอจะคาดเดาได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่อยากเชื่อ
แม้จะผ่านไปหลายปีแล้ว แค่แวบเดียวกวนจิ้งก็จำกู้หุ้ยหยวนได้แล้ว แม้จะมีอายุแล้ว แต่ลักษณะของเธอ เขาจำได้ตลอด
เวลานี้คนที่นอนอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมา เห็นคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเตียงโดยไม่ตั้งใจ นัยน์ตาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และก็หัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา
เธอคิดว่าตัวเองตาลายไป”ใกล้ถึงเวลาแล้ว ฉันยังคิดอยากจะเห็นหน้าคุณอีกครั้ง”
เธอถอนหายใจยาวๆ”เพ้อเจ้อจริงๆ ตอนมีชีวิตยังไม่เจอ ก่อนตายยังจะเจออีก มีความหมายอะไร”
“ไม่เอาไหน”เธอเกลียดตัวเองที่คิดถึงเขาขึ้นมา คิดจนเกิดภาพลวงตา
ขาทั้งสองข้างของกวนจิ้งหนักราวกับถูกเทด้วยตะกั่ว
ใจของเขาเต้นแรงมาก ผ่านไปเนิ่นนานถึงเปล่งเสียงออกมา”กู้หุ้ยหยวน? “
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง เห็นได้ชัดว่าท่าทางตกตะลึงครู่หนึ่ง ค่อยๆเบิกตากว้าง จ้องมองกวนจิ้งอย่างไม่น่าเชื่อ”คุณ…….”
หรือว่าตรงหน้านี้ไม่ใช่ภาพลวงตา?
ถ้าเป็นภาพลวงตาทำไมถึงพูดได้?
“คุณ คุณ.
เธอรู้สึกตื่นเต้น หวาดกลัว ความรู้สึกร้อยพันปนเปไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
กวนจิ้งเดินเข้ามา สอบถามว่า”คุณหลบไปอยู่ไหน? หืม? ไม่ว่าจะทำอย่างไรผมก็หาคุณไม่เจอ ที่แท้คุณหลบอยู่ที่นี่เองหรือ? “
กู้หุ้ยหยวนใช้เวลาซึมชับอยู่นานมาก นานมากจนน้ำตารื้นขอบตา
น้ำเสียงของเธอแหบแห้งผิดปรกติ”คุณเคยหาฉัน”
ดวงตากวนจิ้งแดงเล็กน้อย “แน่นอน ผมไม่ได้ใจดำเหมือนคุณ หลังจากเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแล้ว ก็จากไปโดยไม่ลา แม้คำพูดเดียวก็ไม่ฝากไว้”
กู้หุ้ยหยวนสำลัก ริมฝีปากของเธอสั่นระริก น้ำตาไหลลงมาเป็นทาง
ไหลลงบนผมของเธอ
และไหลเข้าไปในหมอนสีขาวสะอาด
นอกห้องผู้ป่วย
จงเหยียนซีกับกู้เสียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว มองตากันโดยไม่พูดไม่จา เพียงแค่ได้ยินเสียงพูดจาและเสียงร้องไห้จากในห้องเป็นบางครั้ง
ขาดๆหายๆ
ตั้งแต่ฟ้าสว่างจนถึงฟ้ามืด
สำหรับคนที่รออยู่ข้างนอกแล้ว เวลานานมาก
แต่สำหรับกู้หัยหยวนกับกวนจิ้งแล้ว เวลาสั้นมากเกินไป
พวกเขาพลัดพรากในชาตินี้
ทั้งๆที่ต่างคนมีใจให้กัน แต่ก็ไม่มีโอกาสพูดออกมา
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว กวนจิ้งได้ถามหมออาการของกู้ห้ยหยวน ได้ถึงเวลาสุดท้ายแล้ว แม้ว่าเทพเจ้าทาโร่จะอยู่ ก็ไม่อาจจะต่อชีวิตของเธอได้
กวนจิ้งอยู่ต่อเป็นเพื่อนของเธอในเวลาสุดท้าย
พวกเขาไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล แต่กวนจิ้งพาเธอไปที่ต่างๆมากมาย
พวกเขาคุยเรื่องชีวิตของแต่ละคนในหลายปีมานี้
หลังจากที่กู้หุ้ยหยวนรู้ว่ากวนจิ้งแต่งงาน มีลูกสาวแล้ว หัวใจของเธอก็เจ็บอย่างกับถูกสว่านไฟฟ้าเจาะเช่นนั้น
เธอรู้ และก็เตรียมใจไว้แล้ว กวนจิ้งไม่อาจจะเป็นโสดตัวคนเดียวตลอดชีวิต
แต่ว่าไม่ว่าจะเตรียมตัวดีอย่างไร ได้ยินเขาพูดกับหูตัวเอง ก็ยังควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่
เป็นลมไปทันทีในตอนนั้น
กวนจิ้งส่งเธอเข้าโรงพยาบาล จากนั้นเธอถามเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองอีกครั้ง เขาก็จะหลบหลีก
วันนั้นกู้หุ้ยหยวนบอกว่าอยากจะไปดูทะเล กวนจิ้งจึงพาเธอไป
ท้องฟ้าเป็นสีคราม คลื่นทะเลถูกส่งไปที่ชายหาดทีละชั้น ในอากาศเต็มไปด้วยความคาวเค็มจางๆ
มันเป็นกลิ่นที่มาจากน้ำทะเล
“หลังจากที่ฉันจากไปแล้ว ก็เอาอัฐิของฉันลอยในทะเลเถอะ”เธอเอื้อมมือจับมือกวนจิ้งไว้” ..ไม่คิดว่า สุดท้ายแล้วยังเป็นคุณที่มาส่งฉัน”
กวนจิ้งกัดริมฝีปากไม่พูดไม่จา ลำคอแห้งมาก
“กู้เสียน… ..เขา เป็นลูกของผมใช่หรือไม่? “นี่เป็นสิ่งที่เธออยากถามมาตลอด แต่เขาก็ไม่กล้าถามมาตลอด
เธอสังเกตเห็นว่ากู้ห้ยหยวนน่าจะไม่ไหวแล้ว อยากจะได้ยินจากปากของเธอ
“เขาโตแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้ “พูดพลางน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอไม่ได้อยากร้องไห้ แต่ก็อดไม่ได้ “ฉันติดค้างเขามากเกินไป ในฐานะแม่คนหนึ่ง ฉันไม่ผ่าน
เกณฑ์.
จนถึงตอนนี้ เธอก็ไม่เคยคิดจะบอกกู้เสียนเกี่ยวกับตัวตนของเขา
เธอกีดกันสิทธิ์ที่จะได้รับความรักของพ่อของกู้เสียน
เธอนั้นเห็นแก่ตัว
ชาตินี้เธอทำผิดมากมาย
เธอเสียใจมาก เสียใจกับเรื่องมากมาย
หากเธอไม่จากไปในตอนแรก หลังจากห้องแล้วก็เป็นคนไปหากวนจิ้ง ก็จะไม่เป็นเช่นตอนนี้
ทั้งหมดในตอนนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เธอก่อขึ้นเอง
ขณะที่กำลังจะตาย เธอมองดูทะเลแล้วพูดว่า”เปลี่ยนชื่อให้เขาเถอะ”
พูดพลางเธองยหน้าขึ้น เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของกนจิ้ง รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน มีริ้วรอยที่หางตาแล้ว ในดวงตามีร่องรอยที่กาลเวลาทิ้งไว้
“เขาเป็น….ลูก…..ชายของคุณ
ทันทีที่สิ้นเสียง มือของเธอก็ปล่อยลงไป.
เธอจากไปแล้ว จากไปในอ้อมกอดของกวนจิ้ง
จากไปอย่างสงบ พลัดพรากมาทั้งชีวิต สุดท้ายสามารถจากไปในอ้อมกอดของเขา ก็เป็นจุดจบที่ดีที่สุดของเธอแล้ว
กวนจิ้งกอดเธอไว้เนิ่นนาน รับรู้ความเย็นของร่างกายเธอ
หยาดน้ำตาหยดลงบนใบหน้าของเธออย่างช้าๆ.
ในงานฌาปนกิจ จงเหยียนซีจ้องมองดูท่าทางของกวนจิ้ง เหมือนกับเรื่องราวมากมาย เข้าใจทันทีในพริบตาเช่นนั้น
ตู๊ด……
ซงเก้นโทรมา
เธอเดินไปตรงที่สงบเงียบ รับโทรศัพท์ขึ้นมา
ไม่รอซงเก้นพูด เธอก็พูดขึ้นก่อนว่า”ซงเก้น เราแต่งงานกันเถอะ”
ทางซงเก้นรู้สึกว่าตัวเองหูฝาดไป
ไม่กล้าเชื่อ”คุณว่าอะไร? “
“ฉันว่า เราแต่งงนกันเถอะ”จงเหยียนซีไม่ใช่วู่วามชั่วคราว เธอรู้สึกดีกับซงเก้น ที่สำคัญก็คือ เขาชอบตัวเอง
“โอเค”
หลังจากสามเดือน จงเหยียนซีกับซงเก้นจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทย ธรรมเนียนประเพณีทุกอย่างล้วนจัดตามขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย
เพราะฐานะของซงเก้น พิธีแต่งงานอย่างใหญ่โตและหรูหรา
การผ่าตัดของเจียงม่หานประสบความสำเร็จอย่างมาก ความทรงจำคืนกลับมา ตอนที่ไปหาจงเหยียนซี เป็นงานแต่งงานของเธอพอดี
เธอใส่ชุดกระโปรงปาดไหล่ที่ตกแต่งด้วยลูกไม้และผ้าไหมสีทอง สวยสง่งาม เธอแต่งหน้าวิจิตรงดงาม และยืนเคียงข้างอยู่กับซงเก้น เพื่อรับคำอวยพร
เจียงโม่หานคิดถึงตอนที่เธอกับตัวเองแต่งงาน เธอใส่ชุดแต่งงานสีขาว ตอนที่เผชิญหน้ากับเขา รอยยิ้มราวดอกไม้ ช่างไร้เดียงสา และใสซื่อ
แต่ เขาเป็นคนทำลายความสวยงามนั้น
เขาสูญเสียดาวที่สุกสว่างที่สุดในชีวิตของเขาไปแล้ว
ชีวิตต่อไปของเขา คงจะไม่มีความสว่างอีกแล้ว?
“คุณชอบเขาไหม? “เขากระซิบกระซาบ”น่าจะชอบใช่ไหม”
เพราะว่าเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจงเหยียนซีที่เคยยิ้มกับตัวเองเมื่อก่อน
หากคุณมีความสุข ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะอวยพรให้มีความสุข
ชีวิตที่เหลือผมจะใช้ทั้งหมดที่มี อธิษฐานเพื่อคุณ ให้ชีวิตครึ่งหลังของคุณปลอดภัยราบรื่น
“เสี่ยวลุ่ย ผมรักคุณ”
แม้ว่าผมจะไม่ทันได้พูดกับคุณ
แม้ว่าผมรู้ช้าเกินไป
แต่ว่า รักนั้น ผมจะเก็บซ่อนไว้ในใจตลอดไป
พิธีแต่งงานจบลงภายใต้การอวยพรของทุกคน
กลางคืน
จงเหยียนซีตื่นจากหลับนอนอย่างสะลึมสะลือ ข้างกายว่างเปล่า ซงเก้นไม่อยู่
เธอลุกขึ้นลงจากเตียง ใส่ชุดนอนลูกไม้สีขาว ผมดำเงาของเธอประบ่า เธอเหยียบบนพื้นห้องด้วยเท้าเปล่า แล้วเดินไปทางห้องหนังสือที่ไฟสว่างอยู่
ประตูห้องแง้มไว้อยู่ เผยให้เห็นช่องว่างหนึ่ง เธอเห็นซงเก้นนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ เหมือนกับกำลังเขียนอะไรอยู่
เธอผลักประตู”ดึกขนาดนี้แล้ว คุณไม่นอนทำอะไรอยู่ที่นี่? “
ซงเก้นเงยหน้า เห็นว่าเป็นเธอ เก็บสิ่งที่เขียนเสร็จแล้วลงในลิ้นชัก เขาเดินเข้ามา รั้งเอวอุ้มเธอขึ้นมา กัมหน้าจูบไปที่หน้าผากของเธอ “ทำไมไม่ใส่รองเท้า พื้นเย็น “
จงเหยียนซีกอดคอเขาไว้ แล้วยิ้ม “ฉันใส่รองเท้าแล้ว คุณยังจะกอดฉันไหม? “
ซงเก้นยิ้ม”จอมซน”
เขาอุ้มเธอกลับห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง โน้มตัวจูบริมฝีปากของเธอ
จงเหยียนชีสะดุ้ง กะพริบตาโตอย่างไร้เดียงสา “ฉันง่วงแล้ว”
ซงเก้นเอื้อมมือเกลี่ยเศษผมข้างหูของเธอ ปลายนิ้วลูบไล้ผ่านแก้มของเธอ ต้นคอ ไหปลาร้า…….
ทุกตารางนิ้วของผิวเธอล้วนมีร่องรอยของเขา
ก่อนที่เขาจะเข้าห้องหนังสือ พวกเขาได้กลายเป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว
“เมื่อกี้คุณเขียนอะไรอยู่? “เธอถาม
ซงเก้นขึ้นมากอดเธอนอนลง แล้วพูดว่า”คุณเดาซิ”
“เดาไม่ถูก”
จู่ๆซงเก้นก็มองดูเธอแล้วพูดอย่างจริงจังว่า”เหยียนซี”
ในใจของเขา ตอนที่เธอกลายเป็นผู้หญิงของตัวเอง ตกหลุมอย่างลึกซึ้ง เขารักเธอ รักมาก
เขาอยากจะเอาทุกอย่างของตัวเองให้เธอ
รวมทั้งตัวเขาเองด้วย
“ผมอยู่ในสถานการณ์การเมือง เรื่องมากมาย ยังไม่อาจจะรู้…….”เขาเอียงข้างกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด กอดไว้แน่นๆ”หากว่าวันหนึ่ง ผมมีความเป็นไป…….
“พูดเหลวไหลอะไร? “จงเหยียนซีปิดปากเขาไว้”*วันนี้เป็นวันดีของเรา ห้ามพูดอัปมงคล”
สายตาอ่อนโยนของซงเก้นกวาดมองไปที่ใบหน้าของจงเหยียนซี เธอกัมหน้าอย่างเนอาย อยากจะดึงมือกลับ แต่ถูกเขาจับไว้ ฝังไว้ในฝ่ามือ
ใต้แสงไฟสลัว เธอมีเสน่ห์ดึงดูดคน ซงเก้นขยับเข้าชิดหูของเธอ ดวงตาของเขาสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน”ผมคิดถึงคุณ”
ทันใดนั้นใบหน้าจงเหยียนซีร้อนผ่าว
ค่ำคืนยาวนาน.
รื่นรมย์ยาวนาน
สิ้นสุดงานแต่งของน้องสาวแล้ว จวงเจียเหวิน บอกว่าจะไปท่องรอบโลกกับเสิ่นซินเหยา จะส่งมอบทุกอย่างในบ้านให้จงเหยียนเฉิน
จงเหยียนเฉินรับปาก แต่เขาบอกว่ามีบางเรื่องต้องจัดการให้เสร็จ รอเขาก่อน
หลังหนึ่งเดือน
เขาพามู่เยวียนเอ๋อร์กลับมา
มู่เยวียนเอ๋อร์ท้องแล้ว ท้องลูกแฝด
“ตอนแรกพูดกันแล้ว ใครมีลูกก่อน คนนั้นเสพสุข เจียเหวิน แกตั้งใจหาเงินอย่างว่าง่าย เรื่องท่องโลก ฉันจะไปแทนแกเอง”
จากนั้นจงเหยียนเฉินถือโอกาสตอนที่วันหยุดยังไม่สิ้นสุด พามู่เยวียนเอ๋อร์ไปท่องรอบโลก ส่วนจวงเจียเหวินทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินให้พวกเขาเสพสุข
หลังจากสามเดือน
จงเหยียนซีก็ท้องแล้ว
รู้ว่าเธอท้อง ซงเก้นวางมืองานทุกอย่างในมือลง แล้วกลับมาอยู่ข้างกายเธอ
“ตอนนี้ห้องอ่อนๆ คุณไม่จำเป็นจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้”จงเหยียนซีมองดูซงเก้นที่เปิดหนังสือต่างๆเกี่ยวกับคนท้องดูอยู่
ซงเก้นวางหนังสือในมือลง เข้ามากอดเธอไว้แน่นๆ
เขาจะเป็นพ่อแล้ว ยากจะปิดบังความตื่นเต้นได้ คิ้วและหางตาล้วนเป็นประกาย
เขาพอใจกับชีวิตตอนนี้มาก ภรรยาที่รัก ตอนนี้มีลูกแล้ว นี่เป็นครอบครัวที่เขาต้องการ
“ผมมีความสุขมาก”นี่เป็นความในใจของเขา
จงเหยียนซีเองก็พอใจกับชีวิตในตอนนี้เหมือนกัน เรียบง่าย ซงเก้นเป็นผู้ชายที่ดีมาก
เขาอ่อนโยน ดูแลครอบครัว โดยเฉพาะกับเธอ ดูแลมากเป็นพิเศษ
ทำให้เธอรู้สึกว่า ที่แท้การถูกคนคนหนึ่งรัก สามารถมีความสุขได้ขนาดนั้น
ใช่ เธอรู้สึกมีความสุข
เธออยากจะเป็นแบบนี้กับเขาตลอดทั้งภพทั้งชาติ
“ฉันอยากจะมีลูกให้คุณมากมายหลายคน”เธอโอบเอวซงเก้นไว้ พิงอยู่ที่หน้าอกของเขา ฟังเสียงหัวใจเขาเต้น
ความสวยงามมักอยู่ได้ไม่นาน
กำหนดคลอดของจงเหยี่ยนซีใกล้จะถึงแล้ว แต่ซงเก้นได้รับงานอีก เขาไม่ไปไม่ได้
“ไม่เป็นไร ฉันรอคุณ ฉันกับลูกจะรอคุณ”เธอพูดกับเขา
สิบวันผ่านไป ซงเก้นไม่กลับมาสักที
จงเหยียนซีอยู่บ้าน ได้รับข่าวร้าย
ตอนที่ซงเก้นออกปฏิบัติหน้าที่ ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
“เขาเพื่อจะช่วยคน ไม่สามารถออกมาก่อนระเบิดได้.
อีกฝ่ายยังไม่ทันพูดจบ จงเหยียนซีก็เป็นลมไปแล้ว
“คุณนายมาร์ควิส มูติชา! “
เธอถูกส่งไปโรงพยาบาล
ผ่านการคลอดหกชั่วโมง เธอได้คลอดเด็กผู้ชายออกมา
ขณะเดียวกันก็ได้รับข้อมูลยืนยันว่า ซงเก้นตายแล้ว
ได้ยินข่าวนี้แล้ว หลังคลอดเลือดเธอออกมาก เกือบจะตายไปแล้ว
หลินซินเหยียนดูแลเธออยู่ตลอดเวลา
กลัวว่าเธอจะคิดมาก
ในพิธีฌาปนกิจของซงเก้น เธอร้องไห้เป็นลมไปหลายรอบ
เวลานสั้นนี้ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดหลังจากที่เธอเติบโตแล้ว
สิ้นสุดพิธีฌาปนกิจ
มีทนายคนหนึ่งมาในบ้าน
ให้เอกสารหนึ่งชุดกับจงเหยียนซี
ซงเก้นทิ้งไว้ให้
เป็นพินัยกรรมฉบับหนึ่ง
เขาไม่อิจฉาซงเก้น
เพราะว่า ซงเก้นรักเธอจริงๆ ด้วยทั้งหมดหัวใจ
ขาใช้ความรักของตัวเอง ไปให้ความอบอุ่นกับจงเหยียนซี จนทำให้เธอเชื่อมั่นในความรักอีกครั้ง
ความรักบนโลกใบนี้ ไม่แบ่งมาก่อนมาหลัง
ปีนั้นดอกไม้เบ่งบานพระจันทร์เต็มดวง จงจิ่งห้าวกอดที่หล่ของหลินซินเหยียน มองดูลูกๆวิ่งเล่นกันอยู่ในสวน
ความสุขที่ลูกหลานเต็มบ้าน ก็คงจะเป็นเช่นนี้
บนใบหน้าของหลินซินเหยียนเก็บซ่อนไปด้วยความเศร้าสร้อยเล็กน้อย
จงจิ่งห้าวรู้ว่า ที่เธอวางใจไม่ลงที่สุด กังวลที่สุดก็คือจงเหยียนซี
ลูกสาวคนเดียวของพวกเขา เรื่องความรักนั้นไม่ค่อยราบรื่น
พบกับเจียงโม่หานในช่วงครึ่งแรกของชีวิต
เสียลูกและประสบพบเจอกับความเป็นความตายมา
ชีวิตครึ่งหลังพบกับซงเก้น
ตอนแรกคิดว่าจะมีความสุขไปตลอดชีวิต แต่
เขายื่นแขนออกมา คล้องไหล่ของหลินซินเหยียน แล้วพูดว่า”ความรักที่จริงใจ ครั้งเดียวก็พอแล้ว”
มันจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต เติมเต็มหัวใจของคุณ ทำให้คุณไม่อาจจะรับคนอื่นได้อีก
(จบบริบูรณ์)