กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 11
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 11
หลังจากการก้มหัวคำนับสามครั้ง น้ำตาก็ไหลลงบนใบหน้าของแฮโรลด์ แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
เขารู้ว่าตอนนี้คุณยายของเขาผิดหวังและโกรธมากดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่ควรบุ่มบ่ามใส่เธออีก
คุณท่านวิลสันถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากเห็นแฮโรลด์คุกเข่าและยอมรับความพ่ายแพ้ของเขา
เธอไม่ได้ต้องการที่จะให้หลานชายคนโปรดของเธอต้องมาก้มหัวให้ชาร์ลีผู้ไร้ค่าคนนี้แต่อย่างใด แต่พวกเขาได้เดิมพันที่เกี่ยวข้องกับเธอ
ด้วยความที่เธอเป็นชาวพุทธอย่างเต็มตัว ถ้าแฮโรลด์ไม่รักษาสัญญา เธอก็คงกลัวเวรกรรมที่จะมาเยือนเธอมาก และมันจะทำให้เธอมีปัญหาในการกินการนอนอย่างเป็นแน่
ดังนั้นเธอจึงมองไปที่แฮโรลด์และพูดอย่างเรียบเฉยว่า “แฮโรลด์ถือว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำหรับเธอนะ ครั้งต่อไปอย่าเดิมพันกับสิ่งที่เธอไม่มีความแน่นอน แม้ว่าเธอต้องการที่จะเดิมพัน แต่อย่าให้ครอบครัวเรามาพังเพราะเรื่องแบบนี้!”
แฮโรลด์พึมพัมด้วยใบหน้าเศร้า “โอเคครับคุณยาย ผมทราบดีแล้วครั้งนี้ ผมจะไม่ทำอีก…”
ขณะที่เขาพูดดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ชาร์ลีอย่างร้ายกาจพลางคิดว่า ‘ไอสารเลว! นายกล้าบังคับให้คนอย่างฉันคุกเข่าต่อหน้าคนอย่างนายได้อย่างไร วันนี้นายทำให้ฉันเสียหน้ามาก ฉันสาบานว่าฉันจะมาล้างแค้นกลับไม่ช้าก็เร็ว!‘
จากนั้นคุณท่านวิลสันกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีของบ้านเรา เพราะแคลร์ได้รับข้อสัญญา ทุกคนเราต้องรีบเตรียมการตอนนี้ เราต้องใช้โอกาสครั้งนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป!”
ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “คุณยายครับ เนื่องจากแคลร์ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงครั้งนี้ คุณยายไม่คิดว่าจะประกาศแต่งตั้งแคลร์เป็นผู้อำนวยของบริษัท ตามที่คุณยายเคยได้สัญญาไว้สักหน่อยหรือครับ”
คุณท่านวิลสันขมวดคิ้วพร้อมความคิดที่แล่นอยู่ภายในใจ
เธอบอกว่าใครก็ตามที่ชนะสัญญาครั้งนี้จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของบริษัท
อย่างไรก็ตามแคลร์ไม่ใช่หลานคนโปรดของเธอมาตลอด สามีขี้แพ้ของเธอทำให้เธอหงุดหงิดอยู่เสมอและความคิดบางอย่างก็ค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจเธออีกครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแคลร์อยู่เหนื่อการควบคุมของเธอหลังจากที่เธอได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในบริษัท? แล้วหากเป็นเช่นนั้นเธอจะทำอย่างไร?
ในทันใดนั้นเธอต้องการถอนคำสัญญา เพราะว่าเธอไม่ได้ให้คำสาบานเมื่อเธอทำสัญญาเช่นนั้น ดังนั้นเธอจะไม่รู้สึกแย่เลยถ้าเธอเอาคืนคำพูดของเธอ
อย่างไรก็ตาม หากจะประกาศในทันทีหลังจากที่แคลร์ทำข้อตกลงนั้นคงดูไม่ฉลาดเท่าไรนัก เธอจึงพูดว่า “เอาแบบนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลทั้งหมดในโอลรัส ฮิลล์ มาร่วมงานเลี้ยง และในงานเลี้ยงฉันจะประกาศอย่างเป็นทางการว่าเราได้ร่วมมือกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป และการแต่งตั้งผู้อำนวยการคนใหม่”
ชาร์ลีโล่งใจด้วยความพึงพอใจหลังจากได้ยินคำกล่าวของคุณท่านวิลสัน
แคลร์ยังยิ้มอย่างดีใจ ในที่สุดตำแหน่งผู้อำนวยการก็ตกเป็นของเธอ เธอไม่ต้องมารู้สึกนอกคอกและโดดเดี่ยวอีกต่อไป และในที่สุดพ่อแม่ของเธอก็สามารถยืดอกและภาคภูมิใจในตัวเธอได้!
คุณท่านวิลสันหันไปมองที่แคลร์และพูดว่า “แคลร์ ฉันต้องการให้หลานทำอะไรให้ฉันหน่อย”
“ได้ค่ะคุณยาย อะไรหรือคะ?”
“ฉันอยากให้เธอติดต่อท่านประธานของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป และเชิญเขามาร่วมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้”
หลังจากหยุดคิดครู่หนึ่ง เธอพูดต่อว่า “ถ้าเขาสามารถมางานเลี้ยงของเราได้ มันจะเป็นการยกระดับ หน้าตาในสังคมให้กับครอบครัวของเราเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังจะผลักดันชื่อของเราสู่สาธารณะทำให้ครอบครัวของเรามีชื่อเสียงมากขึ้น!”
แคลร์ครุ่นคิดอยู่อีกพักหนึ่งและพูดอย่างลังเลว่า “แต่…ฉันพบกับคุณดอริส ยัง รองประธานเท่านั้นฉันไม่พบท่านประธานโดยตรง… คุณยายไม่คิดว่าจะจัดงานเลี้ยงตอนนี้มันดูเกินไปหน่อยไหมคะ เพราะเราเพิ่งจะได้เซ็นสัญญา…”
“แล้วทำไม? ฉันอยากจะบอกกับทุกคนในโอสรัส ฮิลล์ว่าตอนนี้เราเป็นพันธมิตรกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป แล้วและตระกูลเราจะประสบความสำเร็จและร่ำรวยมากขึ้น!”
คุณท่านวิลสันกล่าวต่อว่า “ถึงแม้ว่าท่านประธานของพวกเขาจะไม่ต้องการมา แต่เธอสามารถเชิญคุณดอริส ยัง ได้เช่นเดียวกัน เพราะเธอเป็นอันดับสองของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ดังนั้นเธอก็จะเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงของเราด้วย”
เธอยิ้มด้วยความตื่นเต้นเมื่อคิดถึงคืนวันพรุ่งนี้ เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอสูบฉีดด้วยเลือดที่ร้อนแรงเมื่อเธอจินตนาการถึงความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น และตระกูลต่าง ๆ ที่เคยเลือกปฏิบัติกับตระกูลวิลสันจะต้องถ่อมตัวและอยู่ภายใต้ตระกูลวิลสัน
ตระกูลวิลสันจะกลายเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลและมีหน้ามีตาในแวดวงสังคม!
แคลร์ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะตอบอย่างจริงจังว่า “โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว หนูจะลองดูนะคะ…”
“อย่าแค่ลอง! เธอต้องทำ!”
แคลร์พยักหน้าอย่างอึกอักจากนั้นหันไปหาชาร์ลีแล้วกระซิบว่า “ฉันจะทำยังไงดี? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านประธานไม่เข้าร่วม และจะเป็นอย่างไรถ้าคุณดอริส ยังไม่อยากมาด้วย”
ชาร์ลีหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ลองดูก่อนสิครับ คุณมีเบอร์ของคุณดอริส ยัง ใช่ไหม? บางทีเธออาจจะตกลงทันทีที่คุณโทรหาเธอก็ได้ใครจะไปรู้?”
จุดประสงค์ของงานเลี้ยงไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของตระกูลวิลสันเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศการเลื่อนตำแหน่งของแคลร์ให้กับทุกคนอีกด้วย
ในฐานะสามีของเธอคงเป็นงานที่น่ายินดีที่ได้สนับสนุนภรรยาของเขา เพื่อเฉลิมฉลองการเลื่อนตำแหน่งที่สำคัญของเธอ
ตอนนี้แคลร์ยังไม่รู้ว่าสามีของเธอเป็นท่านประธานของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป เธอขยับนิ้วอย่างกระวนกระวายและถอนหายใจก่อนพูดว่า “เขาเป็นถึงท่านประธานบริษัทเอ็มแกรนด์ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นท่านชายจากตระกูลที่ร่ำรวยมากในอีสต์คลิฟฟ์ คนแบบเขาจะต้องยุ่งกับธุระประจำวันของเขา แล้วเขาจะมีเวลาว่างเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงเล็ก ๆ ได้อย่างไร…”
ชาร์ลีหัวเราะและพูดว่า “ผมไม่คิดอย่างนั้น บางทีเขาอาจเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่กับภรรยาที่บ้านทุกวัน ทำอาหาร และซักผ้าตลอดทั้งวันก็ได้ ใครจะไปรู้?”
แคลร์กลอกตามาที่เขาและล้อว่า “นี่คุณคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนคุณเหรอคะ?”
ชาร์ลีพยักหน้า “ใช่ครับ บางทีท่านประธานของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป อาจจะเหมือนกับผมก็ได้…”
แคลร์เม้มริมฝีปากแล้วตะโกนใส่ “คุณน่ะเพ้อเจอ! มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ!”