กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 1183
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1183
ในระหว่างที่เดินทางกลับนั้น ชาร์ลีได้ถามพอลว่า “ว่าแต่ช่วงนี้ป้าฮอลล์ทำอะไรอยู่เหรอ?”
พอลตอบว่า “ช่วงนี้คุณแม่ของผมชอบไปที่มหาวิทยาลัยการศึกษาผู้ใหญ่น่ะครับ มีเพื่อนเก่าของท่านชวนไปเป็นอาจารย์พิเศษที่นั่น คุณแม่มีความเชี่ยวชาญในการสอนผู้สูงอายุในวิชาระบบกฎหมายน่ะครับ”
“โอ้?” ชาร์ลีรู้สึกแปลกใจ แล้วถามขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ป้าฮอลล์ก็เป็นศาสตราจารย์ฮอลล์ไปแล้วสินะ?”
พอลหัวเราะในขณะที่พูดว่า “ท่านไม่ได้ศาสตราจารย์จริง ๆ หรอกครับ อันที่จริงมหาวิทยาลัยการศึกษาผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยในความหมายที่แท้จริงเช่นกัน เป็นเพียงวิทยาลัยฝึกอบรมสำหรับผู้สูงอายุ ถึงแม้ว่าคุณแม่ของผมจะเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่นั่น แต่ท่านก็เข้าร่วมชั้นเรียนในวิชาศิลปะการคัดลายมือ และวิชาวาดภาพแบบดั้งเดิมด้วย ตอนนี้ท่านมีงานยุ่งทุกวันเลยครับ”
หลังจากนั้นพอลก็ถามด้วยความสงสัยว่า “แล้วตอนนี้คุณลุงวิลสันเป็นยังไงบ้างเหรอครับ? คุณแม่ชอบเอ่ยถึงคุ๊ลุงบ่อย ๆ แต่ดูเหมือนท่านจะมีท่าทีลังเลแล้วนิ่งเงียบทุกครั้งที่อยากจะพูด”
ชาร์ลีรู้สึกว่าพอลไม่ใช่คนนอก ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจยาว แล้วพูดว่า “ตอนที่ป้าฮอลล์และคุณกลับเข้ามาในประเทศ แม่ยายของผมก็หายตัวไปไหนไม่รู้ในตอนนั้น แต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว”
ชาร์ลีอธิบายให้พอลฟังต่อว่า “แม่ยายของผมก้าวร้าวมาก นั่นคือเหตุผลที่พ่อตาของผมรู้สึกกลัวเล็กน้อย ท่านกลัวว่าแม่ยายของผมจะเที่ยวตามหาป้าฮอลล์ แล้วสร้างปัญหาขึ้นมาถ้ารู้ว่าป้าฮอลล์กลับมาแล้ว ท่านเลยไม่กล้าชวนป้าฮอลล์ออกไปข้างนอก”
พอลพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผมว่ามันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องราวของรุ่นพ่อรุ่นแม่”
ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของชาร์ลีก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นสายของจัสมินที่เขาไม่ได้เจอมาหลายวันแล้ว
เขารับโทรศัพท์ก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดว่า “คุณมัวร์ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”
จัสมินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “ฉันยุ่งนิดหน่อยน่ะค่ะ แต่คงยุ่งไม่เท่าคุณหรอก ปรมาจารย์เวด”
แล้วจัสมินก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ปรมาจารย์เวดคะ คืนมะรืนนี้ว่างไหมคะ?”
ชาร์ลีคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ดูเหมือนว่าผมจะไม่มีธุระอะไรนะครับ คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
จัสมินยิ้มก่อนจะพูดว่า “ไม่มีอะไรมากค่ะ ฉันแค่อยากเชิญคุณมาทานอาหารที่บ้านของเรา คุณปู่พูดถึงคุณตลอดเลยค่ะ”
ชาร์ลียิ้มก่อนจะตอบว่า “ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปที่บ้านของคุณ เพื่อทานอาหารค่ำด้วยกันในวันมะรืนนี้”
จัสมินตอบอย่างร่าเริง “เยี่ยมเลยค่ะปรมาจารย์เวด! วันมะรืนนี้สักทุ่มนึงดีไหมคะ?
“ได้สิครับ”
“แล้วเจอกันนะคะ!”
”โอเค แล้วเจอกันครับ!”
หลังจากวางสายแล้ว พอลก็ยิ้มแล้วถามขึ้นว่า “ปรมาจารย์เวด คุณมัวร์โทรหาคุณเหรอครับ?”
ชาร์ลีรู้ว่าพอลก็รู้จักจัสมินด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ปิดบังความจริงอะไร เขาพยักหน้าแล้วตอบว่า “ใช่ครับ”
พอลยิ้มอีกครั้งแล้วถามขึ้นว่า “คุณมัวร์โทรมาบอกคุณเรื่องงานปาร์ตี้วันเกิดของเธอใช่ไหมครับ?”
“งานปาร์ตี้วันเกิดเหรอ?” ชาร์ลีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณมัวร์ไม่ได้โทรบอกผมเกี่ยวกับงานวันเกิดของเธอ เธอแค่ชวนผมไปทานอาหารค่ำที่บ้านของเธอวันมะรืนนี้”
พอลยิ้มกว้างก่อนจะพูดว่า “ผมเดาว่าคุณมัวร์คงไม่อยากให้คุณต้องเสียเงินซื้อของขวัญให้แน่นอน เธอถึงไม่ยอมบอกคุณเรื่องงานวันเกิด ตอนที่เธอโทรหาผม เธอบอกผมตรง ๆ เลยล่ะครับว่าเป็นงานวันเกิดของเธอ”
ชาร์ลีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอน่าจะบอกเขาสักหน่อยว่าเป็นงานวันเกิดของเธอ ทำไมเธอถึงปิดบังเอาไว้นะ? แต่คงไม่ดีแน่ถ้าเขาไม่มีของขวัญติดไม้ติดมือไปให้เธอด้วย
หรือจะเป็นอย่างที่พอลเพิ่งพูดถึงไป? คือเธอไม่อยากให้เขาเสียเงินซื้อของขวัญ
ชาร์ลีคิดในใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก
จัสมินมักจะรู้สึกเสมอว่าเธอติดค้างเขาอย่างมาก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเขาเป็นคนช่วยเธอทำลายฮวงจุ้ยอัปยศโดยไม่ได้คิดเงินจากเธอเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขาปรุงโอสถวิเศษให้กับคุณปู่ของเธอและแอนโธนี่ เขาก็แอบเอามาให้เธอเม็ดหนึ่งด้วย
หลังจากปรุงยาอายุวัฒนะแล้ว เขายังแบ่งให้คุณปู่ของเธอหนึ่งเม็ดด้วย แล้วยานั่นก็ทำให้คุณปู่ดูเด็กลงหลายสิบปีเลย เหตุผลเดียวที่เขามอบให้กับคุณปู่ของเธอ ก็เป็นเพราะเขาอยากให้จัสมินได้หน้าได้ตา
นอกจากนี้ยังเป็นเพราะเขามอบยาอายุวัฒนะให้กับคุณท่านมัวร์ แล้วคุณท่านมัวร์ก็เริ่มจริงจังกับจัสมินมากขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมสถานะของจัสมินในตระกูลมัวร์จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ