กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 1233
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1233
ดีแลนรู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขา และรีบพยักหน้าเมื่อแม่บอกให้ไปดูอาการของคุณย่า
ซิลเวียหันกลับมาแล้วพูดว่า “รีบแต่งตัวเร็วเข้า!”
ดีแลนรีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่
ซิลเวียถามว่า “ว่าแต่… ธุรกิจของแกที่โอลรัส ฮิลล์เป็นอย่างไรบ้าง? ทำไมถึงกลับมาเร็วนัก แล้วแม่ได้ยินว่าแกกลืนสร้อยทับทิมเข้าไปด้วย จริงหรือ? ใช่สร้อยเส้นเดียวกับที่ให้แม่เลือกเป็นของขวัญให้คุณมัวร์หรือเปล่า? แล้วเกิดอะไรขึ้น?”
ดีแลนถอนหายใจอย่างหดหู่เมื่อโดนแม่ตั้งคำถามกับเขาชุดใหญ่ แล้วพูดว่า “หยุดถามผมเถอะครับแม่! ผมจะเล่าให้ฟังสั้น ๆ ก็แล้วกัน ตอนที่ผมไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของจัสมินในโอลรัส ฮิลล์นั้น มีผู้ชายนามสกุลเวดมาจากไหนไม่รู้ แล้วผมได้วางเดิมพันกับเขา จากนั้นก็โดนบังคับให้กลืนสร้อยทับทิมเข้าไป เมื่อผมแพ้พนัน”
ซิลเวียขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเขา แล้วพูดว่า “แกไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนของตระกูลเวดได้อย่างไร? ผู้ชายคนนั้นมาจากตระกูลเวดในอีสต์คลิฟฟ์ใช่ไหม? เราไปมีเรื่องขัดแย้งกับพวกเขาไม่ได้หรอกนะ!”
ดีแลนรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ครับแม่ มันไม่ได้มาจากอีสต์คลิฟฟ์ มันเป็นแค่ลูกเขยที่น่ารังเกียจของตระกูลชั้นสามในโอลรัส ฮิลล์ แค่ไอ้หมอนั่นรู้วิธีปรุงยาอายุวัฒนะห่วยแตกนั่นเข้าหน่อย ตระกูลมัวร์ก็หลงมันเข้าให้แล้ว”
ซิลเวียถามขึ้นอีกว่า “แล้วแกได้คุยกับหัวหน้าครอบครัวของตระกูลมัวร์เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและความร่วมมือกันหรือเปล่า? พ่อแกหวังจะใช้เรื่องนี้ทำให้คุณปู่รู้สึกประทับใจในตัวแกนะ”
ดีแลนกระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโห “ลืมเรื่องนี้ไปได้เลยครับแม่! ตระกูลมัวร์เป็นกลุ่มคนที่โง่เขลาเบาปัญญาที่แยกอะไรดีหรือไม่ดีไม่ได้ นอกจากนี้จัสมินยังชอบไอ้คนนามสกุลเวดคนนั้นด้วย ผมสงสัยเหลือเกินว่าสองคนนั้นจะปิ๊งกัน!”
“เป็นไปไม่ได้หรอก!” ซิลเวียส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “แม่จ้างนักสืบเอกชนให้ตรวจสอบดูหน่อยแล้วว่าเด็กสาวของตระกูลมัวร์คนนั้นเป็นอย่างไร เธอเป็นผู้หญิงน่ารักมาก และแม่บอกได้เลยว่า ไม่มีหญิงสาวคนไหนในอีสต์คลิฟฟ์ที่สามารถก้าวขึ้นมาให้ดูทัดเทียมกับเธอได้! แถมนักสืบยังบอกอีกว่าเธอไม่เคยคบกับใครมาตั้งแต่เด็ก ๆ”
จากนั้นเธอก็จงใจส่งเสียงกระซิบบอกว่า “จะบอกอะไรให้ แม่บอกให้นักสืบช่วยดูรายงานสุขภาพของโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี้ และรายงานนั้นระบุว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ด้วย!”
“อะไรนะครับ?!” ทันทีที่ดีแลนได้ยินดังนี้ ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุร้ายดุจดวงตาของหมาป่าออกมาอีกครั้ง!
เขาโพล่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก “นี่จัสมิน มัวร์ ยังไม่เคยเอาอีกเหรอ?!”
ซิลเวียส่งเสียงดุเบา ๆ “แม่บอกแกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูดอะไรหยาบคายแบบนั้น! ถ้าคุณย่าแกได้ยินเข้า ก็จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในตัวแกขึ้นมาอีก!”
ดีแลนตื่นตระหนกแล้วอธิบายว่า “ขอโทษครับแม่ มันฟังดูเหลือเชื่อจนผมอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้!”
ซิลเวียพูดว่า “จากการสืบดูนะ จัสมินถือเป็นผู้หญิงหนึ่งในล้านจริง ๆ คุณปู่ของแกให้ความสำคัญกับสายเลือดที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสถานะของผู้หญิงรวมถึงนิสัยใจคอเป็นอย่างมาก แม่เชื่อเหลือเกินว่าท่านจะต้องมีความยินดีมาก ถ้าแกได้แต่งงานกับจัสมิน ไม่อย่างนั้นแม่จะส่งแกบินไปไกลถึงโอลรัส ฮิลล์เพื่ออะไรกัน?”
จากนั้นเธอลดเสียงลงอีกครั้งแล้วสอนสั่งว่า “จะบอกให้นะว่าจัสมินคือคนที่จะทำให้แกเฉิดฉายขึ้นมาได้”
“คุณปู่ของแกอยากให้ลูกชายคนโตของลุงแกไปไล่จีบคุณหนูคนที่สี่ของตระกูลเวดมาโดยตลอด แต่หล่อนไม่สนใจเขาเลย แล้วจบลงด้วยการถูกด่าว่าเป็นคนไร้ความสามารถ”
“จากนั้นลูกชายคนที่สองของลุงแกก็ได้ครองคู่กับคุณหนูของตระกูลฟิชเชอร์ในอีสต์คลิฟฟ์ แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะอยู่ในสังคมชั้นสูง แต่หญิงสาวคนนั้นก็ดูธรรมดาเกินไป จนแม้แต่การทำศัลยกรรมก็ไม่สามารถกู้หน้าพัง ๆ ของหล่อนขึ้นมาได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น เด็กสาวคนนี้ก็ดูไม่เหมือนสาวน้อยที่มาจากตระกูลร่ำรวยเลยแม้แต่น้อย เธอปล่อยตัวตามสบาย แถมอารมณ์ยังดุร้าย คุณปู่ของแกเลยไม่ปลื้มน่ะ ฉะนั้นถ้าแกหาผู้หญิงน่ารัก ๆ อย่างจัสมิน มัวร์ได้ คุณปู่ของแกจะต้องยินดีปรีดาเป็นอย่างมาก! เมื่อถึงเวลานั้น แกก็คงได้เป็นหลานรักหมายเลขหนึ่งของคุณปู่แกอย่างแน่นอน!”
ตอนนั้นเองที่ดีแลนตระหนักว่าจัสมินมีความสำคัญต่อเขามากเพียงใด