กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 982
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 982
เดิมทีเขาวางแผนที่จะทำเงินหนึ่งแสนดอลลาร์ แต่คืนนี้เขากลับเสียเงินไปหนึ่งแสนดอลลาร์โดยไม่คาดคิดแทน เขาขาดทุนหนักมากเพราะอาหารมื้อนี้!
แม็กซ์รู้สึกอยากตายสุด ๆ ตอนแรกเขาถือว่าทำได้ดีทีเดียว เขาซื้อรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์คันใหม่ และเขาก็ได้แสร้งทำตัวเป็นคนที่เจ๋ง แต่เขาไม่คิดว่าจะเสียเงินมากมายขนาดนี้หลังจากพบกับชาร์ลีในวันนี้
เขาจึงแทบรอไม่ไหวที่จะแทงชาร์ลีให้ตายเพื่อที่เขาจะได้บรรเทาความเกลียดชัง
ชาร์ลีตั้งใจจะยั่วยวนเขาให้มากขึ้นในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเทแชมเปญให้เขาหนึ่งแก้วขณะที่ยื่นให้แม็กซ์ก่อนจะยิ้มและพูดว่า “มาเถอะพี่แม็กซ์ ให้ฉันดื่มให้นายหน่อยนะ!”
แม็กซ์ตอบอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะดื่มกับแก!”
ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “อย่าโกรธเลย เพราะนายก็จ่ายเงินสำหรับแชมเปญนี้ด้วยเงินของนายเองด้วย นายไม่คิดว่ามันจะเสียเปล่าเหรอถ้านายไม่ดื่มมัน?”
แม็กซ์ตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อได้ยิน
ชาร์ลีพูดถูก แชมเปญนี้ได้ถูกซื้อและจ่ายเงินด้วยเงินของเขาเองจริง ๆ เขาเพิ่งใช้เงินไปหนึ่งแสนเหรียญในมื้อนี้!
เขาก็มีชีวิตอยู่มาตั้งนานพอสมควรแล้ว แต่เขาเคยใช้เงินมากมายกับอาหารมื้อนึงได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
นี่เป็นเพียงเหมือนสัญญานของการล้มละลาย!
ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม็กซ์กลั้นน้ำตาไว้ขณะที่เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะดื่มแชมเปญจนหมดแก้วด้วยความโกรธและสิ้นหวัง!
เขาควรดื่มไวน์และแชมเปญให้มากขึ้นเพราะเขาได้จ่ายด้วยเงินของเขาเอง ไม่อย่างงั้นเขาก็จะปล่อยให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์จากเขาเท่านั้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขากลับมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น แล้วเขาจะทำเงินได้อย่างไร?
ถ้าโจอี้ฟังคำแนะนำของเขาและกลับบ้านไปกู้เงินกับแพลตฟอร์มสินเชื่อออนไลน์ทั้งหมด เขาจะสามารถกู้เงินได้อย่างน้อยสี่ถึงห้าแสนดอลลาร์ ถ้าเขาเพิ่มเงินออมของตัวเองเข้าไปในเงินที่ยืมมา มันจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะหาเงินได้ถึงหกแสนดอลลาร์
แต่เขาจะสามารถหลอกแม่ยายในอนาคตของโจอี้ได้หรือไม่นั้น แม็กซ์ก็ไม่สามารถรู้ได้เลย
เขาทำได้เพียงหวังและสวดอ้อนวอนให้โจอี้เชื่อที่เขาหลอกให้ได้!
หลังจากให้แม็กซ์จ่ายค่าอาหารแล้ว ชาร์ลีก็ไม่ต้องสนใจเขาอีกต่อไป เพราะท้ายที่สุดแล้วมื้อนี้ทำให้เขาต้องเสียเงินถึงหนึ่งแสนเหรียญ เขาควรจะรู้สึกเจ็บปวดเป็นเวลานานพอสมควร และเขาคงไม่กล้าที่จะอวดดีต่อหน้าใครได้อีกในตอนนี้
ขณะที่เขานึกถึงเหตุการณ์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนหน้านี้ ชาร์ลีอดไม่ได้ที่จะถามคุณนายลูอิสว่า “คุณนายลูอิสครับ สถานการณ์ปัจจุบันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?”
เมื่อเขากล่าวถึงหัวข้อนี้ คุณนายลูอิสดูเศร้าขึ้นเล็กน้อย เธอถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก สาเหตุหลักมาจากเด็กกำพร้าของเรามีมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเราจึงเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในด้านการเงินของเรา”
หลังจากนั้น นางลูอิสก็ถอนหายใจขณะที่เธอพูดต่อว่า “เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในโอลรัส ฮิลล์ ประสบความสำเร็จในการเปิดโปงคดีค้าเด็กหลายคดี และได้ช่วยเหลือเด็กหลายคนที่ถูกลักพาตัวไป หลายคนถูกทิ้งให้อยู่ภายใต้การดูแลของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะตำรวจไม่สามารถหาพ่อแม่ที่แท้จริงได้
เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลอุปถัมภ์ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สิ่งนี้จึงเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นอย่างมาก และไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของเราในการช่วยเหลือและดูแลเด็กที่ถูกลักพาตัวเหล่านี้
ปัญหาเดียวคือค่าเลี้ยงดูสำหรับเด็กพวกนี้แพงจริง ๆ พนักงานที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้รวบรวมเงินสองสามพันเหรียญเพื่อมาช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในขณะเดียวกันเราก็กำลังยื่นขอรับบริจาค…”
ชาร์ลีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเด็ก ๆ ที่เขาเคยเห็นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อตอนบ่าย
เด็กเหล่านั้นอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสงสารมากกว่าเด็กกำพร้าทั่วไป เพราะพวกเขาถูกลักพาตัวและถูกขายโดยผู้ค้ามนุษย์ ดังนั้นชาร์ลีจึงวางแผนที่จะบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถจัดการกับเด็กเหล่านี้ได้
ในเวลาเดียวกันนี้ ชาร์ลีได้พูดขึ้นว่า “คุณนายลูอิส เราควรคิดเกี่ยวกับเด็ก ๆ ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าให้มากกว่านี้ ผมอยากจะบริจาคเงินหนึ่งล้านเหรียญให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าครับ!”
ทุกคนตะลึงทันทีที่ชาร์ลีพูดแบบนี้!
หนึ่งล้านเหรียญ? นี่เป็นตัวเลขที่ใหญ่มากสำหรับผู้คนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า!
หลังจากนั้นชาร์ลีก็มองมาที่แม็กซ์ที่ตกตะลึงในเวลานี้ก่อนจะพูดว่า “แม็กซ์ ตอนนี้ชีวิตนายก็มั่นคงแล้ว จากที่เห็นว่านายสามารถขับเมอร์เซเดสเบนซ์ได้ นายจึงไม่ควรลืมว่านายถูกเลี้ยงดูและโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า งั้นนายก็ควรบริจาคเงินให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนนี้บ้างดีไหม?”