กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 26
USB:บทที่ 26 บังเอิญ
“โอ้…รู้สึกสบายดีจริงๆ” ในตอนเช้า ท้องฟ้าด้านนอก เพิ่งเริ่มสว่าง ฮวงเฟิงก็ตื่นขึ้นมา จากสภาพที่เข้าสมาธิ แม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน แต่เขาก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย แต่อย่างใด
ฮวงเฟิงมองไปที่บอลแสงหลากสี ในจุดตันเถียนของเขา เป็นครั้งแรก และตระหนักว่า ขนาดของมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันสว่างขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนว่า มันอาจเป็นเพราะ จิตใจของฮวงเฟิง ในขณะที่เขาฝึกฝน เพียงแค่คืนเดียว มันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฮวงเฟิงไม่รู้ก็คือ ความเร็วที่เขาฝึกฝน เพื่อเพิ่มพลังในร่างกายของเขานั้น เร็วกว่าอัจฉริยะใน ดินแดนสรวงสวรรค์อันล้ำลึก อย่างเทียบไม่ติด
ท้ายที่สุดแล้ว ยังมีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ และผู้วิเศษจำนวนมากอยู่ที่นั่น และพวกเขาทั้งหมดได้รับการฝึกฝน โดยการดูดซับพลังงานจากอากาศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกัน แม้ว่าพลังงาน ในอากาศจะฟื้นคืนมาได้ แต่ก็มีเวลาจำกัด ดังนั้นพลังงานในอากาศนั้น จะน้อยลงเรื่อย ๆ และความเร็วที่ผู้คนฝึกฝน
ก็จะช้าลงไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับโลกนั้น แตกต่างกัน แม้ว่าอากาศที่นี่ จะไม่ดีเท่ากับ ดินแดนนั้น แต่โลกใบนี้ มีคนไม่มากนักที่ฝึกฝนการบำเพ็ญเพียร และผู้วิเศษ
ตอนนี้มีเพียง แค่ฮวงเฟิงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเพียร ดังนั้นเขาจะไม่มีคู่แข่งในการฝึกตน และแย่งชิงพลังงานไปจากเขาได้
ดังนั้นความเร็วในการบำเพ็ญเพียร จึงก้าวหน้าได้เร็วมาก
ฮวงเฟิงมองไปที่นาฬิกา และเตรียมตัวที่จะลุกขึ้น แม้ว่าครั้งนี้ จะเช้ากว่าปกติ แต่ร่างกายเขา ก็ไม่มีความอ่อนเพลียเลย ในตอนนี้
ในเวลานี้เขาตระหนักว่า หลังจากที่เขา กินยาเสริมความหลักแหลม เมื่อคืนที่ผ่านมา สิ่งต่างๆในกล่องจักรวาล ถูกฮวงเฟิงรื้ออกมา วางทิ้งไว้อย่างระเกะระกะ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา กล่องจักรวาลนั้น ว่างเปล่าเนื่องจากไม่มีสิ่งของใดๆ จึงไม่มีอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกลับมา
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่า น่าเสียดายในใจของเขา แต่ฮวงเฟิงก็ยังคงพอใจ กับสิ่งของทั้งสองอย่าง ที่เขาได้รับเมื่อวานนี้ แม้ว่าเขาจะเสียเวลาไปทั้งคืน แต่เขาก็ยังรับอะไรดีๆ มา
หลังจาก เก็บทุกอย่างที่อยู่บนพื้น เข้าไปในกล่องจักรวาล ฮวงเฟิงก็ไปอาบน้ำ และเตรียมตัวไปทำงาน หลังจากถึงที่ทำงาน เขาสังเกตุเห็นว่า พี่หวังนั้น จ้องมองเขาตลอดเวลา หลังจากนั้น เขาจึงเอ่ยถามว่า
“พี่หวัง ทำไมถึงจ้องผมตลอดเวลา?” ภายในสำนักงานรักษาความปลอดภัย ไม่นานหลังจากที่ฮวงเฟิงเดินเข้ามาในที่ทำงาน พี่หวังก็จ้องมองฮวงเฟิง ไม่วางตา
“นายไปทำอะไรมารึเปล่า? ทำไมฉันรู้สึกว่านายไม่เหมือนเดิมเลยล่ะ?” พี่หวังไม่ได้ปิดบังความคิดของตนเอง และจ้องมองไปที่ฮวงเฟิง
ในขณะที่เขากำลังพูด ฮวงเฟิงก็ถามขึ้นว่า
“มันไม่เหมือนกัน แล้วมันต่างกันตรงไหน?” หัวใจของฮวงเฟิงเต้นผิดจังหวะ เขาผ่านการทำสมาธิ ตลอดทั้งคืน หรือว่ายาเสริมความหลักแหลม จะทำให้รูปร่างหน้าตาของเขาจะเปลี่ยนแปลงไป? เขาควรทำอย่างไร? แล้ว พ่อแม่จะจำเขาได้ไหมนะ?
“ไม่ใช่ว่า มันแตกต่างกัน ลักษณะภายนอกยังคงเหมือนเดิม แต่มันให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น อารมณ์ของนายดีอย่างแน่นอน!” พี่หวัง จ้องไปที่ฮวงเฟิง และตอบคำถามฮวงเฟิงเมื่อได้ยินว่าหน้าตาของเขาไม่เปลี่ยนไป ฮวงเฟิงก็ถอนหายใจ ด้วยความโล่งอกในใจ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อเหลามาก แต่หน้าตานั้น ได้รับการสืบทอดมาจากพ่อกับแม่ของเขา ดังนั้นเขา จึงไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง รูปร่างหน้าตาของเขา
เมื่อเขาได้ยินดังนั้น อารมณ์ของฮวงเฟิงนั้นเปลี่ยนไป ฮวงเฟิงก็เดาได้ว่า มันเกิดจาก ยาเสริมความหลักแหลม และการทำสมาธิ
มันยากที่จะบอกว่า ความรู้สึกของเขาเป็นอย่างไร หลังจากได้ยินแบบนี้? บางคนเกิดมาได้รับการเลี้ยงดู แต่แล้วไม่ว่ายังไง ก็ตาม คนที่มีความชีวิตชีวา มักจะน่าดึงดูดใจกว่า คนไร้อารมณ์ อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงรู้ว่า เขาเป็นเพียงคนธรรมดา ก่อนหน้านี้ที่ไร้ชีวิตชีวา
“ เด็กน้อย อย่าบอกนะว่า นายมีความสุข เมื่อตอนที่ออกไปข้างนอกกับผอ. ซูคนสวย เมื่อวานนี้น่ะ! และรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา และทำให้มีความสุข?” พี่หวังแอบเดา
“ เป็นไปได้……..มันต้องสนุกแน่ ๆ ที่ได้ออกไปกับหัวหน้าคนสวย สองต่อสอง” ฮวงเฟิงได้ยินดังนั้น เขารู้สึกน้ำท่วมปาก เนื่องจากซูหยูโม่ ได้สั่งให้เขาไว้ว่า ไม่ให้บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น นอกโรงงาน เมื่อวานนี้ จึงเป็นเรื่องยาก สำหรับเขาที่จะเอ่ยปากพูดกับพี่หวัง
“ถูกต้องแล้ว ผอ. ซูเป็นยังไงบ้าง? พวกเราไม่มีใคร ออกไปกับเธอเลยสักคน? เจ้าเปี๊ยก นายเจอของดีๆแบบนี้ ทันทีที่นายเข้ามาทำงาน ฉันได้ยินมาว่า ไม่ใช่แค่ผอ. ซูนั้นสวย แต่ยังมีบุคลิกดี เธอนั้นแตกต่างจากผู้อำนวยการเซี่ย อย่างสิ้นเชิง” พี่หวังกล่าวด้วย สีหน้าซุบซิบ
ผู้ชายมักชอบนินทา เมื่อเอ่ยถึงเรื่องผู้หญิง เมื่อได้ยินคำพูดของพี่หวัง ฮวงเฟิงนึกถึงหน้าตาที่สะสวย ของผู้อำนวยการซู รูปร่างที่สมส่วนและน่ารัก
เมื่อยามที่เธอเพิ่งตื่นนอน
“ ผู้อำนวยการซู เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบและน่ารักอย่างแท้จริง ใครก็ตามที่สามารถแต่งงานกับเธอได้ จะต้องทำบุญมาเจ็ดชั่วอายุคน” ฮวงเฟิงรู้สึกเสียใจ ซูหยูโม่
ไม่เพียง แต่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด เท่าที่เขาเคยเห็นมา แต่บุคลิกของเธอยังดีมากอีกด้วย เธอไม่ได้ดูถูกเขา เพราะความแตกต่าง ในสถานะระหว่างพวกเขาทั้งสองคน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฮวงเฟิงพูดประโยคนี้จบ เขาก็เห็นว่าการแสดงออกของ พี่หวังนั้นแปลกไปเล็กน้อย และดวงตาของเขา ดูเหมือนจะมองไปข้างหลังเขา ฮวงเฟิงหันไปรอบ ๆ ค่อนข้างงงงวย แล้วจ้องมองอย่างว่างเปล่า ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าตอนไหนที่ ซูหยูโม่และ จางหยุนมาถึงสำนักงานของพวกเขา
ในขณะนี้ทั้งสองยืนอยู่ข้างหลัง ใบหน้าของซูหยูโม่นั้น ขึ้นสีแดงอย่างผิดธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าเธอได้ยินคำพูดของ ฮวงเฟิงในตอนนี้
“แค่กๆ ” ฮวงเฟิงไอทันที สองครั้ง และยืนขึ้นเพื่อพูดว่า: “ผู้อำนวยการซู ผู้จัดการจาง ทำไมพวกคุณมาที่นี่?” ในเวลานี้พี่หวังและคนอื่น ๆ ก็ทำเป็นมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
“ เป็นอะไรไป….เรามาที่นี่ไม่ได้เหรอ?” ซูหยูโม่ ขัดจังหวะ ฮวงเฟิง และจ้องเขาอย่างดุร้าย
“ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ประจบ
ซูหยูโม่มองไปที่เขาอีกครั้ง จากนั้นก็หันไปทางซ้าย ขณะที่ จางหยุนก็มองไปที่ ฮวงเฟิง แต่ในสายตาของเธอ มีความหมายลึกซึ้งอย่างชัดเจน ฮวงเฟิงไม่สามารถเข้าใจมันได้
จากนั้นก็หันไป และเดินตามซูหยูโม่ออกไป
ซูหยูโม่และ จางหยุนกำลังเดินผ่านสำนักงานแห่งนี้ และเพราะเธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซูหยูโม่จึงกังวลเล็กน้อย ว่าฮวงเฟิงนั้น จะไม่บาดเจ็บจริงๆ ใช่มั้ย?
ดังนั้นเธอจึงเดินตามเข้ามาดูด้วยเช่นกัน เธอไม่ได้คาดคิดว่า ฮวงเฟิงกำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเธอและพุดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆของเขา
และเมื่อเธอคิดว่า ตนเองเผลอหลับไปในรถ ทั้งๆ ที่เขาขับรถอยู่ และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็โมโหที่ถูกปลุก จากนั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่า เธอถูกฮวงเฟิงมองเห็นด้าน ความเป็นส่วนตัวของเธอ
หลังจากที่ ซูหยูโม่ และ จางหยุนจากไป พี่หวังก็ยกนิ้วโป้งให้ ฮวงเฟิงว่า “นายนี่มันกล้าจริง ๆ ที่พูดกับพวกเขา หลังจากแอบพูดถึงผู้อำนวยการซูน่ะ”
คนอื่น ๆ ก็มองไปที่ ฮวงเฟิงด้วย การแสดงความเลื่อมใส เนื่องจากคนก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออก เพียงเพราะเขามองไปที่เซี่ยเมิ่งเจียวอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยสายตาเจ้าชู้ แต่ฮวงเฟิงนั้นกลับพูดถึงซูหยูโม่ ในแง่มุมส่วนตัว ที่ไม่มีใครรู้