กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 31
USB:บทที่ 31 รนหาที่
ความจริงแล้วโจวหรูหรานนั้น ไม่อยากจะมีปัญหา แต่มีบางคนที่ไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ หลังจากนั้น ได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้นมาใกล้ๆกับเธอ
“สาวสวยทั้งสองคนอยู่ที่นี่เอง คิดไว้แล้วว่าคนสวยๆน่ะ หาง่ายจะตาย” เมื่อได้ยินเสียงนี้ ฮวงเฟิงและกัวเหลียงหันหน้าไป มองยังทิศทางของเสียงนี้ พวกเขาพบว่า มีวัยรุ่นสองสามคน ที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเขา และสายตาของคนพวกนั้น ก็จ้องมองไปทางโจวหรูหราน และ กัวเมิ่งหาน อย่างไร้ยางอาย สำหรับฮวงเฟิงและกัวเหลียงนั้น พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปไปซะสนิทเลย
“คนพวกนี้แหละ!” โจวหรูหรานพูดเบา ๆ กับ กัวเหลียง
“คนสวยมาดื่มด้วยกันสักแก้วนึงสิ พอดื่มเสร็จแล้ว เราค่อยไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า ฮ่าๆๆ” หัวโจกกลุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“ ที่สนุกกับผีน่ะสิ!” กัวเหลียงตบโต๊ะ และลุกขึ้นยืน แม้ว่าพวกเขาจะมีคนน้อยกว่าอีกฝ่าย แต่คนพวกนั้นรังแกผู้หญิงของเขา ต่อหน้าต่อตา ถ้ากัวเหลียงไม่พูดอะไรสักคำ ก็ออกจะไร้ศีลธรรมเกินไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คน ที่ได้ยินคำพูดของกัวเหลียง ท่าทีของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมดนั้นมืดมน และบนใบหน้า ไร้รอยยิ้มแบบขี้เล่นอีกต่อไป
“เด็กน้อย แกวอนหาเรื่องซะแล้ว!”
“พูดกับลูกพี่ต้าจีของเราได้ยังไง…ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะแก!”
“แฟนของแกน่ะได้รับเกียรติ จากลูกพี่ต้าจีของเรา ที่จะชวนไปหาอะไรทำที่สนุกๆด้วยกัน พวกงี่เง่า”
พวกวัยรุ่นทั้งหมดล้อมรอบตัวของกัวเหลียง และใช้กำลังคนที่มากกว่าข่มขู่อย่างกลายๆ
ในที่สุด หัวโจกกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่อว่า ต้าจี เขามองไปที่กัวเหลียง และพูดว่า: “เธอเป็นแฟนของแกเหรอ?” แฟนของแกชนฉันเมื่อกี้ และตอนนี้ฉันจะพาเธอไป ดื่มขอโทษฉัน! แกมีอะไรขัดข้องไหม?”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ยังคงจับจ้องไปที่กัวเหลียง ร่องรอยของความเป็นอริ กระพริบผ่านดวงตาของเขา
“ เห็นได้ชัดว่า พวกแกจะเอาเปรียบเรา” ในเวลานี้กัวเมิ่งหานชี้ไปที่วัยรุ่นสองสามคน และพูดเสียงดัง ใบหน้าของเธอยังคงแดงเล็กน้อย ด้วยความโมโห แต่เธอก็ยังยืนหยัดอย่างกล้าหาญ
เมื่อต้าจี มองเห็นกัวเมิ่งหาน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น ก่อนหน้านี้เนื่องจากเขารีบมาก และแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ เขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับการปรากฏตัวของผู้หญิงทั้งสองคนอย่างละเอียด
แต่เขาจำหน้าตาของสาวสวยได้คร่าวๆ และตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อพวกวัยรุ่นเริ่มกลั่นแกล้งหญิงสาวทั้งสองคน เนื่องจากเธอทั้งสองคนมีรูปร่างที่ดีมาก ตอนนี้เขารู้แล้วว่า นอกจากรูปร่างดีแล้วยังมีหน้าตาสะสวยอีกด้วย
“ คนสวยอย่าใจร้ายนักสิ เห็นได้ชัดว่าเธอทั้งสองคนเหยียบเท้าฉัน และก็จากไป โดยไม่แม้แต่จะพูดขอโทษฉัน ฉันแค่อยากให้พวกเธอดื่มขอโทษ ก็แค่นั้น ” ต้าจีกล่าว
หลังจากพูดอย่างนั้น ต้าจีก็ก้าวไปอีกสองก้าว ไปทางด้านหน้าของกัวเมิ่งหาน ทำให้กัวเมิ่งหานตกใจกลัว ขณะที่เธอก้าวถอยออกไปสองก้าว การกระทำของเธอ ทำให้กลุ่มของต้าจี หัวเราะออกมาดัง ๆ รู้สึกว่ามันน่าสนใจมากๆ
ในเวลานี้ มีใครบางคนภายในบาร์นั้น สังเกตเห็นสถานการณ์แล้ว แต่ไม่มีใครหยุดพวกเขาเลยสักคน คนเหล่านั้นไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่น และยิ่งไปกว่านั้น เรื่องแบบนี้ก็พบได้บ่อยในบาร์ต่าง ๆ สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ตราบใดที่ ฮวงเฟิงและคนอื่น ๆ นั้นไม่ได้ต่อสู้กัน พวกเขาก็ขี้เกียจเกินไปที่จะเข้าไปขัดจังหวะ
ในทางกลับกัน ฮวงเฟิงก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็น ขวางหน้ากัวเมิ่งหาน และเผชิญหน้ากับ ต้าจี
” บ้าเอ๊ย ! แกเป็นใคร” ออกไปเดี๋ยวนี้! “ขณะที่ต้าจีกำลังจะสัมผัสร่างของกัวเมิ่งหาน จู่ ๆก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขัดขวางเขา ทันที ทำให้ต้าจีรู้สึกโมโห
“ แกเป็นคนที่คิดจะเอาเปรียบเพื่อนของฉัน ลองดูสิ ฉันจะตัดข้อมือแกทิ้งซะ!” ฮวงเฟิงมองไปที่ต้าจี ที่อยู่ตรงหน้าของเขา ซึ่งใบหน้านั้น เต็มไปด้วยความโกรธ และพูดอย่างเรียบ ๆ กับต้าจี ใบหน้าของต้าจีนั้นโมโหจนแทบทำให้คนหัวใจวายตายได้
แต่ฮวงเฟิง ในปัจจุบัน ไม่รู้สึกกลัวเขาเลย และก่อนที่เขาจะได้รับกล่องจักรวาลมา ฮวงเฟิงนั้น เป็นคนอ่อนแอ และไร้ท่าทีขัดขืน แต่เมื่อได้รับกล่องจักรวาลมาแล้ว ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปมาก
และความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเห็นเพื่อนของเขาถูกรังแก
“ หักมือฉันทิ้งเหรอ?” ต้าจีจ้องมองไปที่ฮวงเฟิง ด้วยความรังเกียจ ในขณะที่เขาพูดว่า: “เฮ้ ! ฉันอยากจะรู้ว่า แกจะทำอะไรฉันได้ เป็นแกที่จะถูกหักมือ หรือฉันที่จะเป็นคนหักมือของแกทิ้ง”
“ลุย! จัดการคนไร้ยางอายทั้งสองคน หักมือพวกมันทิ้งซะ!” ต้าจีพูดกับลูกน้องของตัวเอง
เมื่อได้ยินดังนั้น มีวัยรุ่นสองสามคน ที่วิ่งเข้ามา ดังนั้นฮวงเฟิง จึงดันกัวเมิ่งหานไปข้างหลัง ฮวงเฟิงเกรงว่า กัวเมิ่งหานจะได้รับอันตรายจากลูกหลงจึงดันเธอออกไป และกัวเหลียงซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ก็ดันโจวหรูหรานไปข้างหลัง
เห็นได้ชัดว่า กัวเหลียงคิดเหมือนกับฮวงเฟิง
“ไอ้สารเลว แกหาเรื่องตายซะแล้ว!”
” แกจะต้องกลายเป็นคนพิการไปซะ!”
ผู้คนภายในบาร์ เมื่อเห็นว่าสภานการณ์เริ่มไม่ดี ผู้คนเริ่มแตกฮือ วิ่งหนีออกไป และสถานที่นี้ ตกอยู่ในความโกลาหล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บาร์ ได้รีบเข้ามาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ แต่ผู้คนทุกคนรู้สึกว่า
ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะเข้ามาถึงตัว ฮวงเฟิงและ กัวเหลียงนั้น อาจจะมีสภาพสะบักสะบอมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงนั้น มันแตกต่างจากที่พวกเขาจินตนาการไว้ ท่าทางของกัวเหลียงนั้น ดูประหม่าเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่กลัว แต่เผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย เขาก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ในขณะที่ ท่าทีของ ฮวงเฟิงนั้นดีมาก เขามีสีหน้าสงบมาก และถ้ามีใครอยู่ใกล้เขาอีกนิด ก็จะสามารถได้ยินคำพูดพึมพำจากปากของเขา
ฮวงเฟิงเตรียมพร้อมที่จะใช้คาถาเพื่อต่อสู้ ในความเป็นจริง เมื่อเขาเห็นว่าต้าจีกำลังวางแผนที่จะโจมตีพวกเขา ฮวงเฟิงก็เริ่มท่องคาถาแล้ว มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เนื่องจากเขายังเป็นมือใหม่ เลยต้องใช้เวลาท่องค่อนข้างนาน
ขณะที่วัยรุ่นสองสามคน กำลังพุ่งไปที่ด้านข้างของ ฮวงเฟิง ก็เกิดเถาวัลย์สีเขียวก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของพวกเขา และพันรอบขาของพวกเขาทันที พวกเขาสองสามคน เสียการทรงตัว และทันทีล้มลงไปข้างหน้า และเมื่อพวกเขาล้มลง มันก็เหมือนโดมิโน่ พากันล้มเป็นทอดๆ หลังจากเถาวัลย์สีเขียวเหล่านั้น ทำให้พวกวัยรุ่นเสียการทรงตัว จากนั้นพวกมันก็หายไปทันที
สิ่งที่ ฮวงเฟิงใช้คือ คาถาขั้นพื้นฐานของธาตุไม้: เถาวัลย์พันเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ทุกธาตุโดยทั่วไป มันจะมีความสามารถพื้นฐานของมัน นี่เป็นเพียงการใช้คาถาอย่างง่ายๆ หลังจากการปลุกพรสวรรค์ขึ้นมา
เพื่อที่จะตัดสินว่า ใครมีธาตุอะไรภายในร่างกาย ตอนนี้ดูเหมือนว่าฮวงเฟิง จะสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้
“อ้า!” “อ๊าก!” “อา!” เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชใจ ดังขึ้นทีละคน ความเร็วในการวิ่งของพวกเขานั้น ไม่ได้ลดลงเลย ดังนั้นพวกจึงเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอย่างกะทันหัน พวกเขาทั้งหมดล้มลงอย่างอเน็จอนาจ หลายๆคน ถึงกับปากแตก มีเลือดไหลซิบที่มุมปาก