กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 47
USB:บทที่ 47 มันหายไป!
“มันจะหายไปได้อย่างไร ข้าวางมันไว้ที่นี่จริง ๆ ?” ฝางจื้อห่าวกล่าวอย่างไม่พอใจ
“ ถ้าเจ้าเป็นคนที่เอามันไปจริง ก็รีบนำมาคืนเสียตั้งแต่ตอนนี้ มันสำคัญสำหรับจื้อห่าว ตอนนี้พวกเจ้าต้องหมั่นฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกาย คัมภีร์ฝึกกำลังภายในไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเจ้า” ศิษย์พี่อาวุโสมู่กล่าวออกมา ในขณะที่สายตาของเขา เพ่งมองไปที่ หลิวหมิงเจี๋ย
“ ศิษย์พี่มู่ ข้าไม่ได้เป็นคนเอาไปจริง ๆ ตอนนั้นข้าก็ไม่ได้กลับมาที่นี่ แต่ไปเดินเล่นกับหลี่เต๋อหยู่ที่ด้านหลังของภูเขา” หลิวหมิงเจี๋ย กล่าวอธิบาย
“ ใช่แล้วศิษย์พี่มู่ เราสองคนอยู่ข้างนอก แล้วพึ่งกลับมาถึงเมื่อครู่” หลี่เต๋อหยูกล่าว
“เจ้าไม่มีค่าพอที่จะทำให้พวกเราเชื่อ เนื่องจากเจ้าเองก็เป็นผู้ต้องสงสัยเช่นเดียวกัน” ฝางจื้อห่าวพูดเสียงดัง ขณะชี้ไปที่ หลี่เต๋อหยู เพราะจริงๆ แล้วหลี่เต๋อหยูนั้น คือเป้าหมายของเขา เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้ทุกคนหมดความสงสัยในตัวหลี่เต๋อหยูไม่ได้
ศิษย์พี่อาวุโสมู่ พลางขมวดคิ้ว เดิมทีเขาต้องการให้หลิวหมิงเจี๋ย นำเอาศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในออกมาคืนให้กับฝางจื้อห่าว เพราะในเวลานั้น เขาเห็นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นศิษย์ใหม่และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก่อเรื่อง
ภายในใจของศิษย์พี่อาวุโสมู่ เขายังคงปักใจเชื่อว่า หลิวหมิงเจี๋ยเป็นคนขโมยศิลปะกำลังภายในจากฝางจื้อห่าวไป ท้ายที่สุด เขานั้นมีแรงจูงใจให้ทำแบบนั้น และพยานคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ นั่นคือเพื่อนของเขา
“ศิษย์พี่อาวุโสมู่ โปรดเชื่อข้า…ข้าไม่ได้เอาศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าวไปจริง ๆ แม้ว่าข้าจะมีความรู้สึกไม่พอใจกับเขา แต่นั่นคือเรื่องในอดีต ข้าไม่คิดจะสร้างปัญหาที่นี่ ข้าแค่ต้องการฝึกฝน ทำไมข้าถึงต้องทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นด้วยล่ะ ”
เมื่อเห็นว่าศิษย์พี่อาวุโสมู่ ดูเหมือนจะไม่เชื่อเขา หลิวหมิงเจี๋ยก็อธิบายด้วยความจริงใจทันที
ศิษย์พี่อาวุโสมู่เองก็หวั่นไหวกับคำพูดของหลิวหมิงเจี๋ย เขารู้ว่าหลิวหมิงเจี๋ยใช้ความพยายามอย่างมาก ในสอบคัดเลือก บางทีเขาอาจจะไม่ได้ขโมยคัมภีร์ลับของฝางจื้อห่าวไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้คัมภีร์ไป แต่ว่าหลังจากนี้ไม่นาน เขาเองก็จะได้รับมอบคัมภีร์นี้ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องขโมยมันเลย
ศิษย์พี่มู่ ข้าคิดว่า หัวขโมยจะบอกว่าตนเองเป็นขโมยอย่างนั้นหรือ? “ งั้นให้ข้าลองค้นดูด้วยตนเอง ถ้าหาไม่เจอ ข้าจะเชื่อว่า เขาไม่ได้เอาไป” ฝางจื้อห่าวกล่าว
“ดี…. แต่ถ้าหาไม่เจอ ท่านต้องขอโทษข้า ต่อหน้าทุกคน!” หลิวหมิงเจี๋ย ไม่กลัวที่จะให้ฝางจื้อห่าวรื้อค้นหาคัมภีร์ของเขา เนื่องจาก หลิวหมิงเจี๋ยไม่ได้เป็นคนเอาไป
“เอาล่ะ ตกลงตามนั้น!” ท้ายที่สุด เขาเป็นคนที่ซ่อนมันเอาไว้ด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ที่ หลี่เต๋อหยู่ทำท่าทางปกติ อาจจะเป็นเพราะเขาอาจจะแสร้งทำ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ตอนที่เขากำลังค้นหาบางอย่าง เขาอาจไม่ได้สังเกตเห็นมันจริง เพราะ เอาถูกซ่อนอยู่ในผ้าห่ม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันต้องอยู่บนเตียงของเขาแน่นอน
“เอาล่ะ…ถ้าอย่างนั้น จื้อห่าว เจ้าก็ไปค้นดูด้วยตนเองเถอะ” เมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ศิษย์พี่อาวุโสมู่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร และปล่อยให้ฝางจื้อห่าวค้นหาคัมภีร์ด้วยตัวของเขาเอง
ฝางจื้อห่าวนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ ในขณะที่เขาออกค้นห้องไปทั่ว ๆ ห้อง อย่างไรก็ตาม เขานั้นพุ่งความสนใจของตนเองไปที่เตียงของหลิวหมิงเจี๋ย เพียงไม่กี่ครั้ง และไม่ได้หาแบบจริงจัง เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า มันไม่ได้อยู่ในที่เตียงของหลิวหมิงเจี๋ย
“ตกลงแล้ว…หาเจอหรือไม่? ข้าบอกไปแล้วว่า..ไม่ได้ขโมยศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในของเจ้าไป ตอนนี้ต้องขออภัยข้าต่อหน้าทุกคน!” หลิวหมิงเจี๋ย เอ่ยทักท้วง หลังจากที่เห็นว่า ฝางจื้อห่าวล้มเลิกที่จะค้นหาของอีกต่อไป อาจกล่าวได้ว่า ฝางจื้อห่าวนั้นปรักปรำใส่ร้ายหลิวหมิงเจี๋ย ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก
ใบหน้าของศิษย์พี่อาวุโสมู่ ก็ดูน่าเกลียดเช่นกัน ในตอนแรก ฝางจื้อห่าวกล่าวอย่างมั่นใจว่า หลิวหมิงเจี๋ยเป็นคนขโมยวิชาศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในของเขาไป และทำให้ตนเองนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่า หลิวหมิงเจี๋ยคือคนร้าย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นความคิดของฝางจื้อห่าวที่ใส่ร้ายหลิวหมิงเจี๋ย ว่าเป็นขโมย
“อย่าพึ่งรีบร้อน…อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้ากับหลี่เต๋อหยู่คนนี้ นั้นสริทสนมกัน เจ้าต้องซ่อนคัมภีร์ไว้ที่เขาแน่นอน ถ้ามันไม่ได้อยู่กับเจ้าก็ต้องอยู่กับหลี่เต๋อหยู” ฝางจื้อห่าวกล่าวโดยไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
“ฝางจื้อห่าว…เจ้าทำเกินไปแล้ว ทำไมเจ้าต้องลากคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมในความบาดหมางของเรา ตัวข้าและพี่หลี่นั้นรู้จักกันก็จริง แต่เขาไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ กับเจ้า แล้วทำไมเขาจะต้องขโมยของของเจ้าไป?” หลิวหมิงเจี๋ย กล่าว
“ถ้าอย่างนั้น…มันเป็นไปได้ที่ พวกเจ้าทั้งสองคนจะรวมหัวกัน?” “ไม่กล้าให้ข้าค้นหาอย่างนั้นหรือ?” ฝางจื้อห่าวเอ่ยถามอย่างท้าทาย
หลิวหมิงเจี๋ยพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองไปที่ หลี่เต๋อหยู ท้ายที่สุด ในเวลานี้ฝางจื้อห่าวต้องการค้นเตียงของหลี่เต๋อหยู ไม่ใช่ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถตัดสินใจได้
“ถ้าต้องการค้นก็ค้นได้เลย ข้าไม่มีอะไรปิดบัง แต่ถ้าหาไม่พบ ก็ต้องขออภัยข้าเช่นเดียวกัน” หลี่เต๋อหยูกล่าว
“ อย่าพูดถึงขออภัยเลย ถ้าไม่พบ…ข้าจะคุกเข่าให้เจ้า!” ยิ่งไปกว่านั้น ฝางจื้อห่าวรู้สึกมั่นใจ เนื่องจากเขาเฝ้าดูสถานที่นี้แทบจะตลอดเวลา และเป็นความจริงก็เป็นอย่างที่หลิวหมิงเจี๋ยพูด เนื่องจากทั้งสองคนออกจากสถานที่แห่งนี้แล้ว
พวกเขาก็ไม่ได้กลับเข้ามาอีก จนกระทั่งหลังจากอาหารเย็นเท่านั้น พวกเขาก็กลับมาพร้อมกับคนอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งนี้จะต้องอยู่บนเตียงของหลี่เต๋อหยูในตอนนี้
หลี่เต๋อหยูแสดงท่าทางเชิญชวนอย่างใจเย็น ไปที่ฝางจื้อห่าวให้มาค้นเตียงของตนเอง
ฝางจื้อห่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ เขามองไปที่เตียงของอีกฝ่ายก่อน จากนั้นตรงไปที่เตียงของอีกฝ่าย และยกผ้าห่มขึ้น แต่ด้วยความผิดหวัง ไม่มีอะไรอยู่ใต้ผ้าห่ม มันว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม ฝางจื้อห่าวไม่ยอมแพ้ คัมภีร์นั้นไม่มีปีก และไม่สามารถบินไปได้ มันจะต้องอยู่บนเตียง…..บนเตียงของหลี่เต๋อหยู ยังคงมีเสื้อผ้าของเขาอยู่เหมือนเดิม
ฝางจื้อห่าวหยิบเสื้อผ้าขึ้น และสะบัดๆ อย่างแรงเพื่อดูว่ามีอะไรแอบซ่อนอยู่ในนี้หรือไม่ และมีหนังสือเล่มหนึ่งหลุดออกมา
“มีอยู่จริง ๆ” เกิดเสียงซุบซิบขึ้นในหมู่ศิษย์ใหม่
“ ถูกต้อง! ใครจะไปคิดล่ะ ว่าเขาจะขโมยมันไปจริง ๆ เขาดูเป็นคนจริงใจ แต่ข้าไม่คาดคิดว่า เขาจะเป็นขโมย ต้องเป็นคนแบบใดที่จะขโมยของที่ตนเองจะต้องได้รับในอนาคตด้วยล่ะ”
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมด จะไม่เห็นอย่างชัดเจนว่า หนังสือเล่มนี้มีลักษณะอย่างไร แต่พวกเขาที่รู้สึกทันทีว่า ต้องเป็นศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าวไม่ผิดแน่ เนื่องจากศิษย์ใหม่อย่างพวกเขา ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พกหนังสือขึ้นมาด้วย
หลี่เต๋อหยูและ หลิวหมิงเจี๋ย มองหน้ากันไปมา ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด พวกเขาสองคนไม่เคยเห็นว่าศิลปะกำลังภายในนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร และเมื่อย้อนกลับไปตอนที่หลี่เต๋อหยู เดินขึ้นไปบนภูเขา เขานั้นไม่ได้นำหนังสือใด ๆ ติดตัวมาด้วย ตอนนี้มีหนังสือเล่มหนึ่งลหุดออกมาจากกองเสื้อผ้าของหลี่เต๋อหยู พวกเขาคิดว่าเป็น ศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าว