กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 78
บทที่ 78 การเผชิญหน้า
เนื่องจากลักษณะพิเศษของแหวนมิติทำให้ของที่อยู่ข้างในปลอดภัยมาก ยิ่งกว่าสิ่งของที่อยู่ในตู้เซฟในธนาคาร อย่างไม่ต้องสงสัย ตราบใดที่เขาไม่ทำแหวนมิตืหาย สิ่งของจะอยู่ติดตัวเขา ถึงแม้ว่าเขาจะทำแหวนหายไป คนอื่น ๆ ก็จะไม่สามารถเอาสิ่งของที่อยู่ภายในแวหนมิติไปได้ เพราะพวกเขาไม่มีความสามารถในการเปิดใช้งาน
หลังจากนั้นฮวงเฟิงได้ใส่ ชุดเกราะอ่อนไหมทองคำ “ตำราฝึกสมาธิเบื้องต้น “, คัมภีร์ฝึกฝนกำลังภายในของสำนักเจ็ดนพเคราะห์และ คัมภีร์อมฤต ทั้งหมดลงในแหวนมิติของเขา มันจะปลอดภัย ถ้าเขาเก็บพวกมันไว้ภายในแหวนมิติ แต่สำหรับของอื่น ๆ เขาไม่ได้ย้ายมันไปเก็บไว้ในแหวนมิติ เนื่องจากมันไม่มีค่าอะไร แม้ว่ามันจะเป็นเงินเก็บของเขาก็ตาม
เมื่อเขาสวมแหวนสีดำที่นิ้วของเขาแม้ว่ามันจะดูไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าน่าเกลียดเช่นกัน มันดูธรรมดามาก ผู้ที่ไม่รู้ คงจะคิดว่า เขาซื้อมาจากร้านค้าธรรมดา ๆ
หลังจากเก็บของแล้วฮวงเฟิงก็ไปเตรียมอาหาร และบังเอิญว่า เขาสามารถค้นพบว่า หากว่าสวมแหวนมิตืเอาไว้ และเขาสามารถใช้งาน คัมภีร์อมฤตที่อยู่ภายในแหวนมิติได้เหมือนเดิม
ข้าวผัดที่ฮวงเฟิงปรุงยังคงสดและอร่อย เนื่องจากวัตุดิบที่เหลืออยู่ของเขาในตู้เย็นกลาง สามารถทำได้แค่เมนูนี้ ทั้งถูกคุ้มค่าและอร่อย
หลังจากรู้ว่าคัมภีร์อมฤตยังคงใช้งานได้ตามปกติ ฮวงเฟิงก็มีความสุขมาก เขาไม่จำเป็นต้องเก็บหนังสือไว้กับตัวอีกต่อไป เพราะถ้าทำแบบนั้น แล้วคนอื่นมาเห็นเข้า พวกเขาอาจจะสงสัยได้
”การมีแหวนมิตินี้สะดวกมากไม่น่าแปลกใจเลย ที่ในนิยาย ทุกคนต่างก็ต้องการแหวนวงนี้” ฮวงเฟิงคิดในใจ เขาคิดว่าด้วยแหวนวงนี้ แม้ว่าเขาจะตายไป คนอื่นก็คงไม่สามารถพบความพิเศษของมันได้ แน่นอนว่า ฮวงเฟิงในปัจจุบัน ไม่ได้คิดไปถึงขึ้นนั้น
”แต่ว่าเราจะหาเงินเพิ่มได้เมื่อไหร่?”ขณะที่ฮวงเฟิงนั่งอยู่บนรถบัส ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เขาอดคิดอย่างช่วยไม่ได้อีกครั้งว่า สิ่งที่กล่องจักรวาลแลกมานั้นไม่เลวเลย อย่างไรก็ตาม สิ่งของพวกนั้น ไม่สามารถเอามาเปลี่ยนเป็นเงินได้
ฮวงเฟิงจึงต้องมาเบียดเสียดบนรถบัสทุกวัน
ในขณะที่ฮวงเฟิงทำงานเขายังคงเลือกที่จะฝึกฝนกำลังภายในของเขา เวลาว่างๆ เขามักจะนั่งสมาธิในตอนกลางคืน และฝึกฝนกำลังภายใน หลังจากนั่งสมาธิ เขาต้องหลับตาและตั้งสมาธิ แม้ว่าในระหว่างวัน จะไม่มีอะไรสำคัญ แต่ก็ไม่เหมาะที่เขาจะหลับตา
ตราบเท่าที่เขาควบคุมกำลังภายในได้และฝึกฝนไปตามที่ฮวงเฟิงต้องการ เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหลับตา
”ปิ๊บปิ๊บ ปิ๊บ!” เมื่อฮวงเฟิงยืนอยู่ใต้ร่มขนาดใหญ่ และกำลังฝึกฝนพลังปราณของเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแตรรถ ที่บีบรัวๆ สองสามครั้ง ทำให้เขาตกใจ ทันใดนั้นพลังปราณในร่างกายของเขา เกือบจะโคจรไปผิดทาง
ฮวงเฟิงเกือบจะธาตุไฟเข้าแทรกอย่างที่เขาเคยเห็นในนิยาย
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องฝึกฝนกำลังภายในห้องทำงาน หรือห้องปฏิบัติการเท่านั้น มิฉะนั้นถ้าได้ยินเสียงแตร อย่างกะทันหันมันคงน่ากลัวมาก” ขณะที่ฮวงเฟิงเดินไป เขาก็ขบคิดในใจ
ฮวงเฟิงอยู่ที่นั่นโดยปกติเพื่อเรียกให้คนลงทะเบียนเข้าในบริษัท แต่ครั้งนี้ คนที่มานั้นค่อนข้างมีเหตุผล และก่อนที่ฮวงเฟิงจะเดินไปที่ด้านข้างของรถ มีคน ๆ หนึ่งลงจากรถม้า และเดินไปหา ฮวงเฟิง
”รถทะเบียนนอกบริษัทจะต้องกรอกข้อมูลก่อนนะครับ”ฮวงเฟิงกล่าว เขามองไปที่รถที่อยู่ ประมาณสามคัน
”เอาล่ะไม่มีปัญหา ฉันจะไปลงกรอกข้อมูล” ชายคนนั้นกล่าว
“กลุ่มออคิดบีนกรุ๊ป?” ฮวงเฟิงมองไปที่ชื่อที่เขียนบนกระดาษ ฮวงเฟิงเคยได้ยินเกี่ยวกับ ออคิดบีนกรุ๊ปนี้ มาก่อนเป็น บริษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เครื่องสำอาง
แค่นั้นคนพวกนี้มาทำอะไรที่นี่?เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปนั้นเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอาง เช่นกัน เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อขอความร่วมมือ? ฮวงเฟิงก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถจัดการได้ หลังจากที่อีกฝ่ายลงทะเบียนทุกอย่างแล้ว ฮวงเฟิงก็อนุญาตให้เขาไป
หลังจากนั้นฮวงเฟิงก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป แม้ว่าในแต่ละวันจะมียานพาหนะไม่มากนัก แต่ก็มีบางคันที่เล็ดลอดสายตาไป และฮวงเฟิงไม่สามารถให้ความสนใจกับยานพาหนะทุกคันได้ หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการหลิว
บอกให้เขาไปที่ห้องประชุมที่ชั้นห้าภายใต้คำสั่งของรองผู้จัดการทั่วไป
”รองผู้จัดการทั่วไปเธอต้องการให้ฉันไปทำอะไรที่นั่น” ขณะที่ฮวงเฟิงเดินไป เขาก็คิดกับตัวเองด้วยความสงสัย
เมื่อฮวงเฟิงมาถึงนอกห้องประชุมขนาดใหญ่ เขาก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่มาที่นี่ ในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ และพี่หวังนั้นไปยืนเฝ้าประตูแทนเขา
”ผู้จัดการหลิวเกิดอะไรขึ้น” ฮวงเฟิงถามผู้จัดการหลิวอย่างเงียบ ๆ
”คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นคุณต้องสนใจเหตุการณ์ตรงหน้า” ผู้จัดการหลิวกล่าว
หลังจากนั้นผู้จัดการหลิวเป็นคนแรกที่ผลักเปิดประตู และเดินเข้าไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่รวมทั้ง ฮวงเฟิง ตามมาข้างหลังเขาอย่างกระชั้นชิด
”ผู้อำนวยการหยวน….ฉันพูดทุกอย่างชัดเจนแล้ว โปรดออกไป” ขณะที่ ฮวงเฟิงเดินเข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนและเย็นชาของ ซูหยูโม่ น้ำเสียงแบบนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับตอนที่เขาอยู่ด้วยกัน
เขาเห็นเพียงว่าซูหยูโม่แต่งตัวในชุดสูทและนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะประชุม และมองไปที่คนสองสามคนตรงหน้าอย่างเย็นชา ในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนที่เคยลงทะเบียนกับ ฮวงเฟิงก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขายืนอยู่ และเห็นได้ชัดว่า ตำแหน่งของเขา ต่ำกว่าซูหยูโม่ ที่อยู่ตรงหน้า
ซูหยูโม่ในปัจจุบันมีกลิ่นอายของผู้บริหารระดับสูง ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ และการแสดงออกก็จริงจังมาก ไม่เหมือนกับเมื่อวาน ตอนที่ทั้งสองคนไปซื้อของด้วยกัน ซูหยูโม่ในเวลานั้น เป็นเหมือนเพื่อนธรรมดา เขาไม่มีความรู้สึกถึงระยะห่างระหว่างพวกเขาในปัจจุบัน
ตอนนี้ฮวงเฟิงรู้แล้วว่า ซูหยูโม่ในตอนนี้ คือตัวตนที่แท้จริงของเธอ เธอเป็นซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่ เธอจะไม่มีกลิ่นอายของผู้บริหารได้อย่างไร? ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน แม้ว่าพวกเขาจะไฟกระตุ้นในการทำธุรกิจมาก เหมือนกับช่วงแรกๆ แต่พวกเขาก็ยังคงมีออร่าที่สะสมมาจากการทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน
ในเวลาเดียวกันซูหยูโม่ยัง มองเห็นว่าฮวงเฟิงอยู่ที่นี่ด้วย เธอตกตะลึงเล็กน้อย เดิมทีเธอเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาสองสามคน และไม่ได้เรียกฮวงเฟิงมา แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่า ฮวงเฟิงจะอยู่ท่ามกลางพวกเขา
อย่างไรก็ตามซูหยูโม่ตกตะลึงเพียงชั่วครู่ เธอรู้ว่าเวลานั้นเป็นอย่างไร และเธอทำตัวปกติและไม่ได้หันไปมอง
“ผอ. ซู คุณจะไม่พิจารณาอีกแล้วเหรอ?” แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ฮวงเฟิงไม่สามารถสัมผัสถึงความจริงใจ จากรอยยิ้มของชายคนนั้นได้เลย รู้สึกราวกับว่า ชายคนนั้นคืออสรพิษร้ายที่อยู่เบื้องหน้า