กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 105 ไข่มุกราตรี
บทที่ 105 ไข่มุกราตรี
หลังจากค้นหาครั้งแล้วครั้งเล่าผู้คุ้มกันชิวก็ยอมรับความจริงที่ว่าพระหยกได้หายไปจริงๆ อย่างช่วยไม่ได้
ก่อนที่เขาจะทันได้เปลี่ยนตำแหน่งมันก็ได้หายสาบสูญไปแล้ว
และเห็นได้ชัดว่าของนั้นจะไมได้หายไปอย่างไม่มีเหตุผลมันจะต้องถูกคนขโมยไป
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ขโมยแค่พระหยกเท่านั้น
ในขณะที่มุกราตรีที่อยู่ข้างๆ กลับไม่ได้เอาไป แต่ความจริงก็คือพระหยกของเขาได้ถูกขโมยไปจริงๆ
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าใครขโมยพระหยกของฉันไปไม่งั้นฉันจะฆ่ามันทิ้งซะ!” ผู้คุ้มกันชิวกล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
”โชคดีนะที่ยังมีไข่มุกราตรีสองเม็ดนี้โชคดีที่ยังเหลือไว้ให้ ไม่งั้นครั้งนี้คงจะเสียเวลาเปล่า”
ผู้คุ้มกันชิวมองไปที่ไข่มุกราตรีสองเม็ดในมือของเขาและทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง
อย่างไรก็ตามไข่มุกราตรีทั้งสองเม็ดนี้ก็ไม่เลวเช่นกันและด้วยการจัดการที่เหมาะสมเขาจะสามารถทำกำไรได้มหาศาล แต่อย่างไรก็ตามมันไม่มากเท่าพระหยก
เขาไม่กล้าที่จะเก็บไข่มุกราตรีไว้ข้างในอีกต่อไป
เขากลัวว่าโจรจะกลับมาและหากเป็นเช่นนั้นความหวังสุดท้ายของเขาจะพังทลายไป
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปข้างนอกพรุ่งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะคิดหาวิธีที่จะใช้ไข่มุกราตรีในมือของเขา
ถึงแม้ว่ามันจะได้ราคาที่ถูกกว่าแต่เขาก็ต้องยอมรับมัน ซึ่งถ้าเขาเก็บมันไว้มันจะใช้เวลานานเกินไป เขากลัวว่าหากมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเขาก็จะทำสำเร็จไปแล้ว
ไม่นานหลังจากนั้นก็สามารถได้ยินเสียงกรนของผู้คุ้มกันชิวจากในห้อง และนอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีเสียงอื่นใดให้ได้ยินอีก
มีเพียงผู้คุ้มกันชิวที่หลับสนิทเท่านั้นที่ไม่ได้สังเกตเห็นและมีแสงส่องผ่านหน้าอกเสื้อของเขา
หลังจากนั้นไข่มุกส่องสว่างสองเม็ดที่วางอยู่ใกล้กับตัวของเขาก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยลูกบอลพลาสติกสีขาวขนาดเล็กสองลูก
เช้าวันรุ่งขึ้นฮวงเฟิงตื่นขึ้นจากการทำสมาธิ เขารู้สึกถึงพลังงานในร่างกายของเขาจากลูกบอลแสงหลากสีและพบว่าพระหยกได้ผลจริงๆ ทำให้พลังงานในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
ที่จริงแล้วเมื่อคืนขณะที่เขานั่งสมาธิ เขาได้ค้นพบแล้วว่ามันง่ายกว่ามากที่เขาจะเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน
“พระหยกองค์นั้นเป็นของดีจริงๆ”ฮวงเฟิงเสียใจที่มันสามารถช่วยเขาฝึกตนได้ดี แต่หากมีสิ่งใดที่เขาไม่ต้องการเขาก็จะสามารถนำไปขายเป็นเงินได้
ท้ายที่สุดตราบใดที่เขาไม่ต้องการเงินอย่างเร่งด่วน
ฮวงเฟิงก็จะไม่ขายมันเพราะเขาจะได้รับบางสิ่งที่สามารถขายได้ในอนาคต
แต่สิ่งที่สามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกตนของเขานั้นไม่ธรรมดาแล้วเขาจะขายมันอย่างง่ายๆ ได้อย่างไร?
หลังจากลงจากเตียงฮวงเฟิงยังคงไปดูกล่องจักรวาลเป็นสิ่งแรกที่เขาทำ
ตอนนี้เขายังคงสนใจการเดินทางในห้วงเวลาและอวกาศอื่นอยู่มากดังนั้นเขาจึงหวังว่าจะได้รับบางสิ่งจากห้วงเวลาและอวกาศเดียวกัน
แต่วันนี้โชคของฮวงเฟิงไม่ได้เลวร้ายอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่เขาหยิบสิ่งของทั้งหมดออกจากกล่องจักรวาลเขาก็พบลูกปัดกลมสองเม็ด
“อาจจะเป็นไข่มุกราตรี?”เมื่อเห็นลูกปัดนี้ความคิดก็แวบเข้ามาในจิตใจของฮวงเฟิง
ตามที่คาดไว้คำที่ปรากฏบนมุกนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเดาได้ถูกต้องและมันคือไข่มุกเรืองแสง
อย่างไรก็ตามบทแนะนำในครั้งนี้ง่ายกว่ามากมีเพียงคำอธิบายว่าไข่มุกทั้งสองเป็นไข่มุกเรืองแสงแล้วส่วนที่เหลือก็หายไป
ท้ายที่สุดแล้วพวกมันเป็นวัตถุจากธรรมชาติและไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเป็นพิเศษดังนั้นจึงไม่มีการแนะนำมากจนเกินไป
”นี่ฉันคิดอะไรอยู่?เร็วเข้า!” ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเมื่อไหร่จะได้สิ่งของที่สามารถทำเงินได้
แม้ว่าเขาจะสามารถสร้างรายได้จากการขายพระหยกแต่ก็เห็นได้ชัดว่า ฮวงเฟิงไม่เต็มใจที่ขายพระหยก
และไข่มุดราตรีนี่ปรากฏขึ้นมาในตอนนี้ก็เหมาะสมกับเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าไข่มุกทั้งสองเม็ดนี้จะขายได้เท่าไร
แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะย้ายออกจากไปที่นี่
สำหรับสิ่งอื่นๆเขาไม่ได้เร่งรีบ เพราะสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยของเขา สถานที่ที่ค่อนข้างปลอดภัยเนื่องจากกล่องจักรวาลของเขามีค่ามากเกินไปและเขาไม่สามารถที่จะเก็บสิ่งของไว้ในแหวนมิติได้
ดังนั้นฮวงเฟิงได้พิจารณาถึงความปลอดภัยของกล่องจักรวาลนี้
หลังจากเก็บไข่มุกราตรีทั้งสองเม็ดไปแล้วฮวงเฟิงก็ได้ขอลางานกับหัวหน้าลาครึ่งวัน
จากนั้นเขาก็เตรียมตัวไปที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อขายไข่มุกราตรีทั้งสองเม็ด
เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไปดังนั้นเขาจึงต้องการขายมันเพื่อเอาเงินในตอนนี้อย่างเร่งด่วน
ฮวงเฟิงหยิบไข่มุกราตรีทั้งสองเม็ดขึ้นมาถือไว้อย่างมีความสุขและออกไป
อย่างไรก็ตามผู้คุ้มกันชิวในช่วงเวลาและอวกาศอื่นไม่ได้มีอารมณ์ดีเช่นนี้
”มันเป็นใคร!?มันคือใครกันแน่?!”
ภายในห้องเขาได้ยินเสียงคำรามโกรธของผู้คุ้มกันชิวเขาลืมแม้กระทั่งที่จะควบคุมเสียงของตัวเองมากจนดึงดูดความสนใจของทหารยามโดยรอบ
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าคือการตรวจดูไข่มุกราตรีในอกเสื้อของเขา
เนื่องจากพระหยกได้ถูกขโมยไปแล้วเมื่อวานนี้และเพราะเขาคิดที่จะขายไข่มุกราตรีทั้งสองมาโดยตลอด
ในวันนี้เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาจึงไปตรวจดูไข่มุกราตรีของตัวเองอย่างไรก็ตามเขากังวลเกี่ยวกับไข่มุกราตรีทั้งสองและความจริงก็พบว่าพวกมันได้หายไปแล้วเช่นกัน
ผู้คุ้มกันชิวกระโดดลงจากเตียงโยนลูกปัดปลอมทั้งสองเม็ดลงบนพื้นและกระทืบมันอย่างดุเดือดอยู่สองสามครั้ง
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโอหังขนาดนี้เมื่อวานมันจงใจที่จะไม่ขโมย ไข่มุกราตรี
แต่เมื่อตกกลางคืนมันก็แอบเข้าไปอีกครั้งไข่มุกราตรีนั้นได้ถูกวางไว้ใกล้กับเขาแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังขโมยมันไปได้
ราวกับว่าอีกฝ่ายสามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเขาไม่ว่าเขาจะขโมยอะไรมา ไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหนก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาไปได้
และถ้าอีกฝ่ายต้องการมันก็สามารถขโมยไปได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดฝีมือแต่เขาก็ยังมีทักษะบางอย่างและอีกฝ่ายก็ยังสามารถขโมยไข่มุกราตรีไปได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว ซึ่งก็เป็นที่แน่ชัดว่าเขาเป็นสุดยอดในหมู่ของสุดยอดฝีมือ
และในเขตนี้ไม่มีใครเคยได้ยินว่ามีใครที่มีทักษะเช่นนี้
เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาไม่ได้มาจากนอกเมือง?
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นอย่างไรผู้คุ้มกันชิวไม่สามารถคิดเพียงเป้าหมายเดียวได้
ในขณะเดียวกันผู้คุ้มกันชิวยังคงคิดว่าใครกันที่มาขโมยของของเขาและอีกฝ่ายทำได้อย่างไร
คนรับใช้ได้เข้ามาแจ้งพวกเขาแล้วดังนั้นที่ปรึกษากระทรวงจางจึงส่งทุกคนไปรวมตัวกันที่ลานด้านหน้าเพื่อสอบถาม