กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 117 -118
บทที่ 117 เดินตรวจ
ตราบใดที่เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างเทียนจุ้นและฮวงเฟิงชายหนุ่มคนนี้ก็จะไม่กลัว
อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นว่าลูกกระจ๊อกของเขากำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่แย่ลง
คนพวกนี้ไม่ชอบวิธีที่เขารังแกคนอ่อนแอกว่าและกลัวคนเข้มแข็ง
หลังจากความขัดแย้งนั้นความประทับใจของพวกเขาที่มีต่อเขาก็ยิ่งแย่ลงและดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความดูถูก
ในอีกด้านหนึ่งขณะที่ฮวงเฟิงรีบไปที่บริษัทก็ถึงเวลาที่ รปภ. รับประทานอาหารแล้ว
“ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องรีบนายค่อยกลับมาตอนช่วงเวลาอาหารเย็นก็ได้” พี่หวังกล่าวกับฮวงเฟิงด้วยรอยยิ้ม
”พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอกพวกเรายากจน ดังนั้นเราควรจะประหยัดได้สักหน่อย” ฮวงเฟิงหัวเราะถึงแม้ว่าเขาจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งเมื่อตอนเช้า
แต่ทัศนคติของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปง่ายๆและเขาจะไม่กลายเป็นคนรวยในทันใด ความจริงเงินจำนวนนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนรวยเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงบ่ายฮวงเฟิงใช้เวลาว่างในการฝึกฝนกำลังภายในของเขา หลังจากความขัดแย้งในห้องส่วนตัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ฮวงเฟิงมีความเข้าใจศิลปะการต่อสู้ของตัวเองมากขึ้นเล็กน้อย
ด้วยเวทมนต์และกำลังภายในเขาสามารถจัดการกับคนธรรมดาได้
แต่ถ้ามีศัตรูมากเกินไปเขาก็ยังคงได้รับบาดเจ็บเหมือนเช่นในวันนี้แต่เป็นเพียงเพราะกำลังภายในของเขาจึงทำให้การบาดเจ็บไม่ร้ายแรงเกินไป
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นคนอย่างเทียนจุ้นหรืออาจจะแข็งแกร่งกว่าเขาด้วยซ้ำ
กำลังภายในของฮวงเฟิงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาหายใจไม่ออกท้ายที่สุดเขารู้เพียงพลังภายในและไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นๆ
สำหรับเวทมนต์นั้นเนื่องจากเป็นเวทมนต์พื้นฐานทั้งหมด พลังของมันจึงไม่มากนัก
และเนื่องจากไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างง่ายดายเป็นเวลานานจึงสามารถใช้เป็น”อาวุธลับ” ได้เพียงลับๆ เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้มันจึงมีผลอย่างน่าอัศจรรย์แต่เมื่อเตรียมอีกด้านหนึ่งแล้วผลกระทบที่ตามมาก็ยากที่จะคาดเดาได้
ด้วยเหตุนี้นอกเหนือจากการฝึกฝนกำลังภายในของเขาอย่างต่อเนื่องแล้ว ฮวงเฟิงยังคงหวังว่าจะได้รับเทคนิคที่ลึกซึ้งบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้เร่งรีบเช่นกัน
“ถูกต้องแล้วน้องฮวง คืนนี้เราเข้ากะกลางคืนกัน” ในช่วงบ่าย อยู่ๆ พี่หวังก็พูดกับเขา
สถานที่แห่งนี้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานกะกลางคืนทุกวัน
เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่ได้รอฮวงเฟิงจนกระทั่งก่อนหน้านี้เพราะพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบฮวงเฟิงในวันนี้
“ได้สิครับไม่มีปัญหา” ฮวงเฟิงตอบ ในอดีตตอนที่เขาทำงานที่บริษัทอื่นเขาก็เคยเข้ากะกลางคืนมาก่อน
ความจริงแล้วการเข้ากะกลางคืนนั้นค่อนข้างง่ายตราบใดที่มีการตรวจสอบเป็นครั้งคราวก็จะเป็นการดี
ในบางครั้งพวกเขาก็สามารถจัดการตัวเองและพักผ่อนในวันถัดไปในขณะเดียวกัน เจ้านายก็มักจะไม่มาอยู่ใกล้ๆ
หลังจากที่ลงเวรบ่ายแล้วฮวงเฟิงก็ยังไม่ได้กลับบ้าน
จริงๆแล้วเป็นเพราะเขาไม่มีอะไรจะทำ
เพราะการฝึกตนอะไรทำนองนี้เขาสามารถทำที่ทำงานได้
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงและพนักงานทั้งหมดของบริษัทพากันทะยอยกลับทีละคน
และแม้แต่พวกที่อยู่ทำงานล่วงเวลาก็พากันกลับไปหมดแล้วในตอนนี้
นอกจากเขาและพี่หวังที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกะกลางคืนก็ไม่มีใครอีกแล้วในบริษัท
ถ้าเขาเป็นคนขี้กลัวเขาก็คงไม่กล้าที่จะทำงานกะกลางคืน เพราะว่าบริษัทค่อนข้างที่จะกว้างขวาง และแม้แต่เสียงฝีเท้าเล็กๆ ก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
เมื่อเวลาประมาณ22.00 น. ฮวงเฟิงและพี่หวังก็เริ่มการลาดตระเวนรอบแรก
ทั้งตึกนั้นว่างเปล่าไม่มีใครอยู่รอบๆ หลังจากที่สำรวจสถานที่แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาไม่พบอะไร ดังนั้นฮวงเฟิงและพี่หวังจึงไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าพวกเขาพบอะไรนี่สิถึงจะเรียกว่าผิดปกติ
“พอแล้วล่ะรอบหน้า ฉันจะเดินสำรวจหลังเที่ยงคืนนะ ฉันจะไปนอนก่อน ถ้านายต้องการอะไร ก็เรียกฉันได้นะ นายเองก็ไปนอนเถอะ” เมื่อกลับเข้าไปที่สำนักงาน พี่หวังก็พูดกลับฮวงเฟิง
“ฉันยังไม่เหนื่อยเลยพี่ไปนอนก่อนเถอะ” ฮวงเฟิงส่ายศรีษะและกล่าว
“ตกลงงั้นฉันไปนอนก่อนนะ” พี่หวังไม่ไดทำตัวเก๊ก เพราะว่าระหว่างกะกลางคืน พวกเขาก็ทำในสิ่งเดียวกัน พวกเขาจะไม่นั่งประจำที่เก้าอี้เหมือนที่ทำในตอนกลางวัน มันค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นเมื่อพวกเขาไม่มีอะไรทำในตอนกลางคืน พวกเขาก็จะเข้าไปงีบเป็นประจำ
พี่หวังหลับไปแล้วแต่ฮวงเฟิงก็ยังไม่พักผ่อน แต่เขาก็ไม่รู้สึกเกียจคร้าน ดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกพลังลมปราณ
ขณะที่ฮวงเฟิงและพี่หวังกำลังยุ่งกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในำสำนักงาน
ที่ประตูด้านหลังของบริษัทได้ถูกเปิดออกอย่างเงียบๆ
ร่างๆหนึ่งปรากฎขึ้นภายในแสงสลัวในเวลากลางคืนและค่อยๆ เดินตรงเข้ามาในอาคารสำนักงานตรงหน้าของพวกเขา
ร่างนั้นที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นก็คือผู้จัดการหลิวนั่นเอง
เขาเคยสัญญากับผู้จัดการหยวนว่าเขาจะขโมยเอกสารที่เกี่ยวกับยาลดน้ำหนักและเขาก็กำลังทำตามที่พูด
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะมาในเวลากลางคืน
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลากลางคืน ในฐานะที่เขาเป็นผู้จัดการแผนกรักษาความปลอดภัย เขาจึงรู้เวลาที่แน่ชัดและเส้นทางการตรวจตราของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ดังนั้นถ้าเขาต้องการที่จะเข้ามาภายในอาคารและสำนักงานมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
ผู้จัดการหลิวยึดถือตามนาฬิกาเขารู้ว่าการลาดตระเวนในรอบแรกนั้นเสร็จสิ้นไปแล้ว และยังคงมีเวลาอีกนานก่อนที่จะเริ่มรอบที่สอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงเข้ามาภายในอาคารบริษัทในเวลานี้
หลังจากที่เข้ามาภายในอาคารแล้วแสงไฟในอาคารก็ได้ถูกปิดไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขากำลังลาดตระเวนพวกเขาอาศัยเพียงแค่ไฟฉายเท่านั้น ดังนั้นแน่นอนว่าผู้จัดการหลิวจะไม่กล้าใช้พวกมัน เขาทำได้เพียงอาศัยแสงอ่อนๆ จากโทรศัพท์ของเขาเพื่อก้าวไปข้างหน้าซึ่งเป็นห้องทำงานของซูหยูโม่
ตอนนี้เซี่ยเมิ่งเจียวไม่ได้อยู่ในบริษัทแล้วจึงมั่นใจได้ว่าเขาเป็นผู้รับผิดชอบในการนำเสนอยาลดความอ้วนและสูตรอาหารนี้และเอกสารการวิจัยที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญมาก
ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ซูหยูโม่จะเก็บไว้กับตัวเองจึงมีสูงมาก
นั่นคือเหตุผลที่ผู้จัดการหลิวเล็งไปที่สำนักงานของซูหยูโม่เป็นเป้าหมายแรกของเขา
เนื่องจากว่าเขามีกุญแจสำหรับสำนักงานทั้งหมดที่นี่
ผู้จัดการหลิวจึงเข้าไปในสำนักงานของซูหยูโม่ได้โดยไม่มีปัญหาแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยิบเอกสารได้ง่ายๆ
ซูหยูโม่จะไม่วางเอกสารไว้บนโต๊ะอย่างโง่เขลา
พวกมันต้องอยู่ในตู้เซฟในห้องทำงานของเธออย่างแน่นอน
ดังนั้นหลังจากที่ผู้จัดการหลิวเข้ามาในห้องทำงานของซูหยูโม่แล้ว เขาก็เริ่มค้นหา
ฮวงเฟิงซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งที่เดิมทีกำลังฝึกลมปราณอยู่
แต่จู่ๆเขาก็รู้สึกเร่งรีบและต้องการเข้าห้องน้ำ เขาจึงหยุดการฝึกและเตรียมไปเข้าห้องน้ำ
หลังจากที่ฮวงเฟิงไปห้องน้ำเขาก็ไม่ได้กลับไปในทันที
แต่เขาเตรียมที่จะขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
บทที่ 118 เจอแล้ว
เนื่องจากเขาได้รับการฝึกฝนลมปราณของเขาความสามารถในการได้ยินและการมองเห็นของฮวงเฟิงนั้นจึงดีกว่าคนทั่วไปมาก
ดังนั้นเมื่อเขาขึ้นไปที่ชั้นบนเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนอยู่บนนั้นและกำลังพลิกบางสิ่งบางอย่าง
ฮวงเฟิงดับไฟฉายของเขาทันทีด้วยสายตาที่ดีของเขาเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ฝีเท้าของเขาเบาเขาควบคุมการหายใจและเข้าใกล้เสียงนั้นอย่างช้าๆ
เขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ตัวก่อนที่เขาจะใกล้
ฮวงเฟิงพบที่มาของเสียงนั้นอย่างรวดเร็วเสียงนั้นดังมาจากห้องทำงานของซูหยูโม่
”เป็นไปได้ไหมที่ซูหยูโม่กลับมาเพื่อดึงข้อมูลบางอย่าง?”ฮวงเฟิงสงสัยอยู่ในใจของเขา
แต่เมื่อเห็นว่าห้องทำงานของซูหยูโม่มีเพียงแสงไฟริบหรี่
ซึ่งดูเหมือนจะเป็นแสงไปจากโทรศัพท์
และไฟก็ไม่ได้เปิดจึงเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ซูหยูโม่อย่างแน่นอนและคนที่เข้ามากำลังมองหาบางอย่างโดยไม่เปิดไฟ
ขโมย!
ทันใดนั้นความคิดนี้ก็แวบเข้ามาในใจของฮวงเฟิงมันน่าจะเป็นขโมย เพราะทั้งบริษัทมีเพียงเขาและพี่หวังที่ปฏิบัติหน้าที่
ส่วนที่เหลือไม่ควรอยู่ที่นี่ในเวลานี้ดังนั้นหากพวกเขาพบสิ่งผิดปกติ มันก็คงจะเป็นขโมย
ฮวงเฟิงไม่เคยคิดว่าเขาจะเจออะไรแบบนี้ในกะกลางคืนครั้งแรก
เขาไม่ได้ลงไปชั้นล่างเพื่อเรียกพี่หวังเพราะเขามั่นใจในความสามารถของเขา
เมื่อตระหนักว่าเจ้าขโมยแอบเข้ามาในสำนักงานเสียงฝีเท้าของ ฮวงเฟิงก็เบาลง
เมื่อใกล้ถึงประตูห้องทำงานของซูหยูโม่เขาก็ไม่ได้รีบเข้าไป
แต่รออยู่ข้างนอกประตูก่อนอื่นเขาเข้าใจสถานการณ์ภายในผ่านหน้าต่างโปร่งใส จากนั้นเขาก็ขยับตัว เขามีความมั่นใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อฮวงเฟิงมองเข้าไปข้างในเขาก็ตระหนักว่าเขาจำร่างที่เขาไม่คาดคิดได้
คนที่อยู่ข้างในนั้นเป็นหัวหน้าของเขาจริงๆผู้จัดการหลิว
”เป็นเขาไปได้ยังไง?ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่และยิ่งไปกว่านั้นอยู่ในห้องทำงานของซูหยูโม่” ฮวงเฟิงมองไปที่ผู้จัดการหลิวที่กำลังค้นหากล่องที่อยู่ข้างใน
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่แปลกที่ผู้จัดการหลิวจะอยู่ในบริษัทในเวลานี้
อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้จัดการแผนกรักษาความปลอดภัย
แม้ว่าเขาจะมาที่บริษัทเขาก็ควรจะอยู่ในสำนักงานของตัวเองหรือสำนักงานรักษาความปลอดภัยใหญ่
เขาไม่ควรมาอยู่ในห้องทำงานของซูหยูโม่
นอกจากนี้ดูจากท่าทางของผู้จัดการหลิวแล้วดูเหมือนว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ฮวงเฟิงไม่สามารถตัดสินใจได้ในตอนนี้
แม้ว่าพฤติกรรมของผู้จัดการหลิวจะไม่ต่างจากขโมย
แต่ถ้ามันเป็นงานที่เขาต้องเข้ามามันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลืมเปิดไฟในตอนนี้ มันมีความเป็นไปได้ที่น้อยมาก
”ในที่สุดฉันก็เจอแล้ว!”
เช่นเดียวกันกับที่ฮวงเฟิงกำลังสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในที่สุดผู้จัดการหลิวก็พบสิ่งที่เขากำลังมองหาในตู้
ด้วยเอกสารเหล่านี้ชะตากรรมของเขาจะเปลี่ยนไปและในที่สุดเขาก็จะสามารถออกจากสถานที่นี้ได้โดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความโกรธเกรี้ยวของผู้หญิงทั้งสองคนนั้น
หลังจากที่หาของเสร็จผู้จัดการหลิวก็รู้เพียงคร่าวๆว่าต้องทำอะไรและก็เตรียมออกเดินทาง
สำหรับข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ในห้องทำงานของซูหยูโม่
เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะจัดให้เป็นระเบียบ
เพราะว่ายังไงเสียเขาก็ต้องสูญเสียทุกอย่างในวันพรุ่งนี้อยู่ดี
แม้ว่าเขาจะจัดของทั้งหมดให้อยู่ในสภาพเดิมแต่ก็ไม่มีประโยชน์
“น่าเสียดายที่รปภ. สองคนที่เข้าเวรคืนนี้จะต้องได้รับโทษแทนฉัน ในเมื่อต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญเช่นนี้ นังตัวดีซูหยูโม่จะต้องโกรธเป็นอย่างมาก และรปภ. สองคนที่เข้าเวรคืนนี้ก็คงต้องโดนไล่ออก” ผู้จัดการหลิวคิดกับตัวเอง
เขารู้ว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนเข้าเวรทุกคืนแต่เขาไม่รู้ว่าคืนนี้ใครอยู่เวร
เมื่อผู้จัดการหลิวเปิดประตูไปที่ห้องทำงานของซูหยูโม่ด้วยอารมณ์ที่มีความสุขมากเขาก็รู้ว่ามีเงาสีดำอยู่ที่ประตูซึ่งเขาไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนและตกใจมาก
ตอนนั้นเขาก็รู้ว่าจริงๆแล้วว่าเงาดำนั้นเป็นคนที่เขาจำได้ และคน ๆ นี้ก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา
“ผู้จัดการหลิวนี่มันก็ดึกมากแล้ว ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” ฮวงเฟิงไม่ได้เคลื่อนไหวในทันที เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อขโมยอะไรหรือไม่
อีกฝ่ายเป็นหัวหน้าของเขาเองดังนั้นมันคงไม่ดีสำหรับเขาที่จะเคลื่อนไหวโดยไม่แน่ใจ
”เป็นคุณนั่นเอง?”ในเวลานี้ผู้จัดการหลิวจำบุคคลนี้ได้แล้ว
เป็นฮวงเฟิงที่เพิ่งเข้ามาทำงานเขาไม่คาดคิดว่าคืนนี้เขาจะเข้าเวร
ฮวงเฟิงน่าจะเห็นสิ่งที่เขากำลังค้นหาในห้องทำงานของซูหยูโม่เพียงแค่นั้นเขาก็ไม่แน่ใจในตัวตนของเขาดังนั้นเขาจึงสามารถบิดเบือนได้
ถึงแม้ว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยในวันพรุ่งนี้แต่มันก็แตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้
แต่การได้มาซึ่งเอกสารเหล่านี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีแม้ว่าเขาจะสูญเสียงานนี้ แต่เขาก็ยังมีงานที่ดีกว่ารอเขาอยู่
“คุณนั่นเองฮวงเฟิง! ผู้อำนวยการซูบอกให้ฉันมาที่นี่เพื่อเอาของบางอย่าง ตอนนี้ฉันได้มาแล้ว และฉันจะออกไปก่อนนะ” ผู้จัดการหลิวกล่าว ขณะที่เขาดูเอกสารในมือ
เมื่อฮวงเฟิงถามคำถามเสร็จเขาก็ให้ความสนใจกับท่าทางของผู้จัดการหลิว
ความตื่นตระหนกเล็กน้อยนั้นไม่รอดพ้นสายตาของฮวงเฟิงและฮวงเฟิงก็ยิ่งแน่ใจในความคิดบางอย่างในใจของเขา
ฮวงเฟิงไม่เข้าใจผู้จัดการหลิวเขาเป็นผู้จัดการของบริษัท เขาทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
”ผู้จัดการหลิวเดี๋ยวก่อน” ฮวงเฟิงหยุดผู้จัดการหลิวที่กำลังจะจากไปไว้และพูดว่า: “ผมจะโทรหาผู้อำนวยกาซูเพื่อยืนยันก่อน”
”ฮวงเฟิงคุณหมายความว่ายังไง? คุณสงสัยว่าฉันโกหก ฉันมาที่นี่เพื่อขโมยอะไรงั้นหรือ?” สีหน้าของผู้จัดการหลิวเปลี่ยนไปทันที ความอ่อนโยนก่อนหน้านี้หายไปอย่างสิ้นเชิงและถูกแทนที่ด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงไม่ได้โกรธ แต่เขากลับมีท่าทีสงบและพูดว่า: “ผู้จัดการหลิว ผมมีหน้าที่รับผิดชอบเช่นกัน คุณมาที่นี่ตอนดึกโดยไม่ได้เปิดไฟ แน่นอนว่ามันน่าสงสัย ผมจะโทรศัพท์เพื่อยืนยัน หากผมเข้าใจผิดผมจะขอโทษผู้จัดการหลิว ”
”ฉันลืมเปิดไฟเพราะฉันรีบ”ผู้จัดการหลิวอธิบาย: “นอกจากนี้คุณมีเบอร์ผู้อำนวยการซูด้วยหรือ?”
คำถามสุดท้ายของผู้จัดการหลิวมีน้ำเสียงดูถูกเขารู้สึกว่าฮวงเฟิงแค่ล้อเล่น เขาเพิ่งจะมาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงไม่กี่วัน เขาจะมีเบอร์โทรของซูหยูโม่ได้อย่างไร?
ผู้จัดการหลิวไม่รู้ว่าถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะมาที่นี่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขาก็มีปฏิสัมพันธ์กับซูหยูโม่ไม่น้อย ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในแบบส่วนตัว