กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 177-178
บทที่ 177 ชนะ
เพราะว่าพวกเขาได้ป้องกันอยู่ตลอดเวลาและกำลังเสียเปรียบอยู่
ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของคนที่บาดเจ็บล้มตายจากการสู้รบก็ไม่ใช่น้อยเลย และพวกเขาก็มีเครื่องกระสุนเหลืออยู่ไม่มากอีกด้วย
อย่างไรก็ตามทุกคนก็รู้ดีว่าอย่างมากพวกเขาคงจะไม่สามารถปกป้องสถานที่แห่งนี้ได้จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขารอให้ความตายมาถึงพวกเขาก็อาจจะต้องใช้ประโยชน์จากความมืดเพื่อเปิดการโจมตีก่อนซึ่งพอจะมีความหวังอยู่บ้าง
ดังนั้นทุกคนจึงนำกระสุนทั้งหมดที่เตรียมมาได้และทุกคนที่เคลื่อนไหวได้ก็ลุกขึ้นยืนและตรวจสอบอาวุธปืนของตน
พวกเขาทั้งหมดต้องการมีส่วนร่วมในกองทัพและในเวลานี้มีอีกหนึ่งคนที่มาเป็นกำลังเสริม
เมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้วลู่ต้าเปียวก็ยังไม่เป่าแตร แต่เขากลับโบกมือและก้าวออกไปจากคูลึกแห่งนั้น
ค่ายที่อยู่ตรงข้ามพวกเขากำลังอยู่ในความสับสนวุ่นวายขาดการบังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ผู้บัญชาการจำนวนมากได้ถูกศัตรูสังหารจนพวกเขาตื่นตระหนกอยู่ภายในค่าย
เป็นผลให้ค่ายทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหลและแม้แต่จำนวนคนที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ลดลงไม่ใช่น้อย
ดังนั้นลู่ต้าเปียวจึงนำคนของเขาเข้าไปใกล้ค่ายของศัตรูในเวลาเดียวกันลู่ต้าเปียวก็มั่นใจมากขึ้นว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในค่ายศัตรู
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยการฝึกทางทหารของศัตรูมันก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูแต่ด้วยการฝึกทางทหารแล้ว ลู่ต้าเปียวก็ยังคงมั่นใจเป็นอย่างมาก
“เป่าแตร!ทุกคน บุก!”
ลู่ต้าเปียวฆ่าหน่วยลาดตระเวนของพวกชาวหวอด้วยหอกของเขาในเวลานี้ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไปแล้วเขาจึงสามารถบุกทะลวงเข้าไปได้
”ฆ่ามัน!”ลู่ต้าเปียวเป็นผู้นำและวิ่งเข้าไปตามด้วยนักรบหลายคนที่อยู่เบื้องหลังเขา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีผู้บัญชาการแต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นระเบียบ
พวกเขาไม่สามารถจัดตั้งองค์กรที่มีประสิทธิภาพและสามารถต่อสู้ได้เพียงลำพังซึ่งหมายความว่าไม่สามารถรับประกันความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกเขาได้
ฮวงเฟิงยังเห็นคนของตัวเองวิ่งเข้ามาเขาใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลับไปเป็นชุดทหารสีเทาอมเทาแบบเดิมเขาไม่ต้องการให้คนของเขาได้รับบาดเจ็บอีก
การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันแม้ว่าพวกชาวหวอจะได้เปรียบในด้านจำนวนคนและอาวุธ แต่ก็ถูกโจมตีจากด้านเดียวและไม่มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหลังจากที่การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นพวกเขาจึงเสียเปรียบ
บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้
แต่เจ้าหน้าที่บางคนในระดับล่างสุดได้นำคนของพวกเขาออกจากสนามรบหลังจากที่การอยู่ที่นี้มีแต่ผลเสียและสิ่งนี้ก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นกัน
อีกฝ่ายพยายามถอยห่างจากการสู้รบอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการล่าถอยหรือหนีไปเลย
เดิมที่ฝ่ายประเทศหวอเป้นคนเปิดหารลอบโจมตีก่อนอย่างไรก็ตามการโจมตีนั้นล้มเหลวและมีนักรบยอดฝีมือเสียชีวิตจำนวนมาก หลังจากนั้นแม่ทัพข้างกายก็เสียชีวิตอย่างไม่มีสาเหตุ
และไม่นานหลังจากนั้นทหารของประเทศจีนฝ่ายตรงข้ามก็เข้าจู่โจมพวกเขาอย่างกะทันหัน
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาไม่มีเวลาพักผ่อนและไม่มีเวลาที่จะจัดการทุกอย่างได้
“พี่ฮวงคุณอยู่ที่นี่?!” ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังจะติดตามทหารของ ประเทศจีนออกไปเพื่อยิงและสังหารศัตรู
เสียงที่ประหลาดใจก็ดังมาจากไหนก็ไม่รู้ฮวงเฟิงมองดู และจะเป็นใครได้นอกจากเจิ้งหมิง
”ใช่แล้วนายอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” ฮวงเฟิงกล่าว
“พี่ฮวงพี่สบายดีไหมฉันกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่?” เจิ้งหมิงกล่าว
”ฉันสบายดีก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันไปจุดไฟ ฉันถูกจับได้โดยพวกเขา พวกเขาจับฉันและพาฉันมาที่นี่ ทันทีที่พวกนายวิ่งเข้ามาฉันก็ถือโอกาสจากความวุ่นวายและหนี” ฮวงเฟิงโกหกเขาไม่ต้องการดึงดูดความสนใจมากเกินไป
ท้ายที่สุดตัวตนของเขาจะเป็นปัญหาและเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเป็นทหารนิรนาม
“พี่ฮวงดีแล้วที่พี่สบายดี”เจิ้งหมิงไม่สงสัยในคำพูดของฮวงเฟิง ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ฮวงเฟิงพูดยังคงสมเหตุสมผลและจากก้นบึ้งของหัวใจเขาเชื่อในตัวของฮวงเฟิงจริงๆ
คราวนี้การโจมตีกินเวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนที่มันจะสิ้นสุดลง
ในเวลานี้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นร่างของศัตรูได้อีกต่อไปและนอกเหนือจากคนที่ถูกสังหารส่วนที่เหลือก็ได้แตกกระเจิงไปและหายไปในความมืด ดังนั้น ลู่ต้าเปียวจึงนำคนของเขาไปที่ค่ายเพื่อเก็บข้าวของที่จำเป็นต้องใช้
ภายในเวลาสองชั่วโมงพวกเขาได้สังหารศัตรูไปเป็นจำนวนมากผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ยอดเยี่ยมมากแม้ว่าตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่มาก
ลู่ต้าเปียวเองก็ไม่ได้คาดหวังเช่นนั้นมาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อว่าการต่อสู้จะเป็นเช่นนี้ไปได้
เดิมทีภารกิจของพวกเขาคือการซุ่มยิงศัตรูและถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้
แม้ว่าจะเป็นภารกิจนี้แต่สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นเรื่องยากมากและพวกเขาไม่ต้องการฆ่าคนจำนวนมาก ตราบใดที่พวกเขาสามารถขัดขวางศัตรูได้ก็จะเป็นการดี
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เพียงแต่ปกป้องสถานที่แห่งนี้เอาไว้เท่านั้นแต่พวกเขายังสามารถเอาชนะศัตรูและรวบรวมอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก ศัตรูได้หนีไปแล้วและทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถนำไปได้เอาไว้
ลู่ต้าเปียวสัมผัสเคราของเขาและอดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นรอยยิ้มที่โง่เขลาเขาได้เก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งใหญ่ในครั้งนี้
กองทหารของศัตรูเดิมทีมุ่งจะไปสนับสนุนมณฑลหลิวดังนั้นพวกเขาจึงนำอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนมากมาด้วยซึ่งตอนนี้ได้อยู่ในมือของเขาแล้ว
“ฉันรวยรวยแล้ว!” ลู่ต้าเปียวกล่าวอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาเฝ้าดูทหารช่วยกันถือกล่องอาวุธและกระสุน
แม้ว่าเขาจะยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในค่ายศัตรู
แต่ตอนนี้มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วสิ่งที่สำคัญก็คือพวกเขาชนะและทำทุกสิ่งที่มอบให้กับพวกเขาสำเร็จแล้ว ซึ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
ในตอนนี้ฮวงเฟิงไม่ได้ขึ้นไปร่วมฝูงชนอันที่จริงเขาได้ยึดของบางอย่างใส่ไว้ในแหวนมิติ
อย่างไรก็ตามเขาหยิบแค่ชิ้นเดียวและการนำไปหลายชิ้นก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใด
ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียงพอสำหรับช่วงเวลานี้เขาสามารถหาเพิ่มได้อย่างไม่มีจำกัด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่สิ่งของที่เหลือลงในแหวนมิติ
บทที่ 178 เก็บเกี่ยว
หลังจากที่เก็บข้าวของของเขาแล้วลู่ต้าเปียวก็ได้จัดให้คนบางคนยืนเฝ้ายามและลาดตระเวน ในขณะที่คนอื่นๆ ไปพักผ่อน ซึ่งนั่นก็ดึกมากแล้วและคืนนี้ก็มีหลายสิ่งเกิดขึ้นด้วย
ฮวงเฟิงไปหายามเพื่อรักษาบาดแผลของตัวเองก่อนที่จะไปพักผ่อน
เจิ้งหมิงที่อยู่เคียงข้างเขาคิดว่าฮวงเฟิงได้รับบาดเจ็บจากพวกชาวหวอเขาไม่คาดคิดว่าฮวงเฟิงจะพุ่งเข้าไปในค่ายของศัตรู
แต่ความจริงเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจากฝ่ายศัตรูเลยแต่เขากลับได้รับบาดเจ็บจากคนของเขาเอง
เช้าวันรุ่งขึ้นลู่ต้าเปียวนำคนของเขาออกจากพื่นที่ ภารกิจของพวกเขาเสร็จสิ้นแล้วและไม่เพียงแต่พวกเขาขัดขวางศัตรูได้สำเร็จ
แต่พวกเขายังเอาชนะได้อีกด้วยพวกเขาสามารถออกไปได้แล้วและปลายทางของพวกเขาก็คือมณฑลหลิว
”เยี่ยมลู่ต้าเปียว คุณนี่มันจริงๆ เลย กัปตันของคุณได้รับบาดเจ็บ แต่คุณได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ?”
ที่ด้านนอกของมณฑลหลิวมีใครบางคนที่กำลังรอคอยอยู่เป็นเวลานานแล้ว
“สวัสดีหัวหน้า!” ลู่ต้าเปียวทักทายเขาก่อน จากนั้นก็กล่าวว่า “ฉันว่าฉันโชคดีนะ แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกสับสนอยู่และไม่รู้ว่าอยู่ๆ ไอ้พวกขี้โกงพวกนั้นอยู่ๆ ก็มีท่าทางแบบนั้นไปได้”
“แต่ว่าจะยังไงก็ช่างเถอะตราบใดที่ภารกิจสำเร็จแถมพวกนายก็ยังได้เครื่องกระสุนมากตั้งมากมาย ถือว่าทีมของเรานั้นโชคดีมาก แล้วยังไงล่ะ?” “แบ่งให้พวกพี่น้องของเราสักหน่อยดีไหม?” หัวหน้าหัวเราะและกล่าว
“หัวหน้าอย่าทำอย่างนั้นเลย!” ลู่ต้าเปียวกล่าวขึ้นมาทันที “อาวุธยุทโธปรกรณ์ของทีมพวกเรานั้นกำลังขาดแคลนและในเวลานี้พวกเราก็เพิ่งจะได้รับมาบางส่วน ดังนั้นพวกเราต้องเก็บไว้ใช้เองเสียก่อน”
ลู่ต้าเปียวและกัปตันคนก่อนหน้าเขานั้นมักจะมีปัญหากันอยู่เสมอด้วยประเด็นของอาวุธพวกเขาเองยังเคยขอผู้บังคับบัญชาของพวกเขามาก่อนหน้านี้อีกด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะสามารถทำได้
ดังนั้นพวกเขาทำได้แค่คิดถึงแต่ตัวเองและในเวลานี้พวกเขาก็ได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์มาเป็นจำนวนมากดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยเต็มใจที่จะส่งมอบให้คนอื่น
“ฉันรู้ว่ากองทัพของคุณกำลังขาดแคลนอาวุธและเครื่องกระสุนและฉันก็ไม่มีใครขอให้คุณส่งมอบอาวุธพวกนั้นให้อยู่แล้ว พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน ดังนั้นคุณจะต้องเข้าใจและเข้าใจพี่น้องของคุณด้วย” ทุกคนต่างก็มีอาวุธและเครื่องกระสุนน้อยอยู่แล้ว
ในตอนนี้นั้นทีมของลู่ต้าเปียวเพิ่งจะได้มาเป็นจำนวนมากเขาจึงได้หาวิธีที่จะนำบางส่วนไปให้กองพลอื่นด้วย
จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ว่าลู่ต้าเปียวและกัปตันจะไม่ยินดีที่จะส่งมอบอาวุธและเครื่องกระสุนของพวกเขา
แต่เป็นเพราะว่าพวกเรารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของพี่น้องคนอื่นๆดี
เหตุผลที่ว่าทำไมลู่ต้าเปียวกล่าวก่อนหน้านี้ก็เพราะเขาหวังว่าพวกเขาจะสนันสนุนเขา
“หัวหน้าถ้าคุณพูดเช่นนั้น งั้นฉันก็จะไม่ปฏิเสธอีกต่อไป” ลู่ต้าเปียวกล่าว “ก่อนที่กัปตันจะจากไป เขาได้บอกกับฉันว่าพวกเราสามารถเอาให้พี่น้องคนอื่นได้บางส่วน แต่อย่างไรก็ตามถ้าพวกเราขาดแคลนในอนาคต หัวหน้าก็จะต้องคิดถึงเรา”
“ไม่มีปัญหา!”ด้วยความเสียสละของลู่ต้าเปียวและคนอื่นๆ เขาจะสามารถที่จะเจือจุนกองพลอื่นๆ ได้บ้าง
นอกจากนี้คำขอของลู่ต้าเปียวก็ไม่ใช่คำขอที่ยากมันเป็นเพียงแค่การบริจาคซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำในวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก
เนื่องจากพวกเขาได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธและเครื่องกระสุนของทีมของลู่ต้าเปียวพี่น้องจากหน่วยอื่นๆ ต่างก็พากันยินดีเป็นอย่างมาก
ส่วนลู่ต้าเปียวเองนั้นดูเหมือนจะไม่มีการแสดงออกใดๆบนใบหน้าของเขาเลย แต่จริงๆ แล้วในใจของเขาก็มีความสุขมาก
”ไปเถอะกัปตันของคุณไปรับการรักษาที่ด้านหลังโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้คุณจะต้องรับผิดชอบทีมนี้ ก่อนอื่นให้คุณเข้าร่วมการประชุมและปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่อไป” หัวหน้าพูดกับลู่ต้าเปียว
”ครับท่าน!” ลู่ต้าเปียวกล่าว
เมื่อลู่ต้าเปียวไปเข้าร่วมการประชุมในที่สุดฮวงเฟิงและคนอื่นๆ ก็สามารถเดินไปรอบๆ และพักผ่อนชั่วคราวได้
พวกเขาเพิ่งจะผ่านการต่อสู้มาเป็นเวลานานดังนั้นพวกเขาจึงต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่นานจนเกินไป
ภารกิจของพวกเขาคือการโจมตีศัตรูเพื่อเป็นกำลังเสริมให้มณฑลหลิวและเป้าหมายของพวกเขาคือการยึดครองมณฑลหลิวภายในช่วงเวลานี้
เท่าที่เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนักที่ด้านข้างของพวกเขามีกองทหารของศัตรูเพียงหนึ่งกองเท่านั้นจากทั้งหมดที่มีที่เข้ามาสนับสนุนมณฑลหลิว
และในทิศทางอื่นๆก็มีกองทหารอื่นๆ ของศัตรูเข้ามาสนับสนุนพวกเขา ศัตรูได้ผ่านเส้นทางอื่นไปแล้วและเข้าไปสู่มณฑลหลิว
เป็นผลให้การต่อสู้ที่ด้านนี้ยากลำบากมากแม้ว่าฮวงเฟิงและคนอื่นๆ จะเพิ่งต่อสู้ แต่ดูจากรูปการแล้วพวกเขาก็น่าจะเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้งในไม่ช้า
ฮวงเฟิงไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้เลยเขาแค่คิดว่าเมื่อเขาออกไปจากพื้นที่นี้แล้วมันจะดีกว่าถ้าเขานำอะไรไปด้วย
ในห้วงเวลาและอวกาศนี้ช่วงเวลาที่เขากำลังก้าวผ่านไปนั้นกำลังอยู่ในช่วงสงครามและเขาจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสิ่งอื่นใดอีกเลย
เป็นไปได้มากว่าเขาจะต้องอยู่กับการต่อสู้ตลอดเวลาและสิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็มีเพียงสิ่งที่เขาเห็นในสนามรบเท่านั้น
สำหรับสิ่งต่างๆในสนามรบดูเหมือนจะไม่มีค่าอะไรเลย
เขามีปืนอยู่แล้วและมันก็เป็นแค่เพียงกระสุน
เห็นได้ชัดว่ามันไม่เหมาะสมเพราะสามารถนำออกมาได้เพียงสิ่งเดียวและไม่มีเหตุที่จะนำกระสุนติดตัวไปด้วย
”น่ารำคาญอะไรอย่างนี้นะ”ฮวงเฟิงพึมพำ เขาได้ประเมินไว้คร่าวๆแล้วว่าเวลาและการเดินทางในอวกาศของเขาจะไม่ทำให้เขาไดรับประโยชน์อะไรเลย
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ไม่ได้ผิดหวังมากนัก
เพราะว่านี่เป็นการเทเลพอร์ตครั้งแรกของเขาดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้
เมื่อเขาสามารถเคลื่อนย้ายไปยังโลกของศิลปะการต่อสู้โลกแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และแม้แต่โลกแห่งเวทมนตร์ในอนาคตได้ เขาก็จะสามารถได้รับสิ่งดีๆ อย่างแน่นอน
ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่จะถึงเวลานั้นเขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองเสียก่อน
ถ้าไม่มีความแข็งแกร่งแล้วเขาก็จะไม่มีทางได้มาซึ่งของดีๆ อีกมากมาย
เป็นไปดังคาดการคาดเดาของฮวงเฟิงนั้นไม่ผิดเลย พวกเขาไม่ได้มีเวลาพักผ่อนมากนัก และได้ถูกเรียกตัวในตอนบ่าย และหลังจากที่ได้ยินคำสั่งของลู่ต้าเปียว เขาก็ได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นี่ไม่มากก็น้อย
ในเวลานี้พวกเขากำลังลำบากจริงๆ กองทัพของข้าศึกนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มีกำลังเสริมเพียงพอดังนั้นความคิดของพวกเขาจึงไร้ประโยชน์
อาวุธและเครื่องกระสุนที่ลู่ต้าเปียวและคนอื่นๆได้นำมาช่วยได้มาก แต่พวกเขาก็หวั่นไหวแล้วคิดจะถอยทัพก่อนที่จะวางแผนใดๆ
ถ้าพวกเขารู้สึกว่าควรจะสู้อีกครั้ง พวกเขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากต้องถอยเพราะฝ่ายศัตรูยังคงรุกเข้ามา และเมื่อจำนวนศัตรูมากพอพวกเขาก็จำเป็นต้องถอย