กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 339 กลับไปที่โรงงาน
บทที่ 339 กลับไปที่โรงงาน
กัวเหลียงเองก็พยักหน้าเห็นด้วยโรงงานขนาดใหญ่เหล่านั้นมีหุ้นส่วนที่ตายตัวอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนอื่นจะมาฉกเอาออเดอร์ไปจากพวกเขาได้
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้มันขึ้นอยู่กับว่าคนพวกนั้นจะรู้จักสินค้าดีหรือไม่ เพราะว่าคุณภาพของสินค้าของพวกเขานั้นสูงกว่าของยี่ห้ออื่น
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้นั้นยังไม่ต้องรีบร้อนเพราะว่าพวกขายังไม่ได้รื้อโรงงานขนาดเล็กเหล่านั้น ถ้าทำได้ก็จะเพียงพอสำหรับที่พวกเขาจะหากินไปได้อีกนาน
หลังจากนั้นฮวงเฟิงและกัวเหลียงก็ไปที่โรงงานและเป็นไปตามคาดพวกเขาพบว่ามีคนงานอยู่ในนั้นมากขึ้นและคนเหล่านี้ก็เป็นคนที่ฮวงเฟิงไม่รู้จักเลย แต่เดิมในโรงงานนี้มีคนงานเพียงแค่ 20 คน แต่เขาก็ยังจำพวกคนงานทั้งหมดได้ และนี่ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วัน ก็มีคนงานหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าโรงงานของเขานั้นกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ภายในโรงอาหารของโรงงานฮวงเฟิงและกัวเหลียงกำลังรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่ที่นั่น โรงอาหารนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นักเพราะว่าในโรงงานนี้มีพนักงานไม่มากนัก และก็มีพ่อครัวเพียงคนเดียวที่เป็นทั้งเชฟและผู้ช่วยในครัวแต่เขาก็สามารถที่จะจัดการงานในครัวได้ แต่สองสามวันมานี้เขายุ่งมากตั้งแต่มีคนมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พ่อครัวคนนี้เป็นคนข้างนอกซึ่งฮวงเฟิงไม่ได้เปลี่ยนพ่อครัวหลังจากที่ซื้อต่อโรงงานมาฝีมือของพ่อครัวคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียวและฮวงเฟิงก็เคยได้ชิมอาหารฝีมือของพ่อครัวคนนี้มาก่อนดังนั้นเขาจึงค่อนข้างพอใจ
“พี่ชายคุณน่าจะต้องหาคนมาเพิ่มแล้วล่ะ” ฮวงเฟิงกล่าวกับพ่อครัวพร้อมกับอมยิ้ม
เป็นเพราะว่าโรงครัวทั้งหมดก็ทำสัญญากับเขาด้วยและถ้าเขาต้องการที่จะทำเงินที่นี่ต่อไปเขาก็จะต้องสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของ
หลังจากวางเนื้อทอดลงในจานพ่อครัวตัวอวบก็หัวเราะและพูดว่า: “ถึงเวลาที่ต้องจ้างคนมาช่วยแล้วล่ะ บอสฮวงและบอสกัวช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เพียงแค่ไม่นานโรงงานนี้ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก”Aileen-novel
พ่อครัวคนนี้ทำงานที่นี่มาระยะหนึ่งแล้วและเขาก็คุ้นชินกับเจ้านายดังนั้นเขาจึงรู้ว่าโรงงานเป็นอย่างไรมาก่อน ในตอนนั้นพนักงานที่มาทานอาหารที่นี่ไม่มีรอยยิ้มเลย เพราะว่าผลกำไรของโรงงานไม่ดี และพวกเขาอาจตกงานได้ตลอดเวลา แล้วพวกเขาจะมีความสุขได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในฐานะพ่อครัวและบอสพวกเขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างชัดเจนรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีพนักงานหน้าใหม่ปรากฏขึ้นในโรงงาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผลกำไรของโรงงานกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ
และยิ่งเขามีพนักงานมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้นซึ่งทำให้เขามีความสุขอยู่แล้ว
ฮวงเฟิงและกัวเหลียงถือได้ว่ามีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้บอสได้ปรุงอาหารให้พวกเขาเป็นพิเศษซึ่งทำให้กัวเหลียงรู้สึกอิจฉานิดหน่อย เขาบอกว่าปกติแล้วเขาจะไม่ได้รับการดูแลที่ดีเช่นนี้และฮวงเฟิงก็กินอาหารได้มากทีเดียวในวันนี้
ฮวงเฟิงอารมณ์ดีแต่หลังจากกินเสร็จเขาก็ต้องออกจากโรงงานแม้ว่าโรงงานกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นระเบียบดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงงานก็ได้
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เขาออกจากโรงงานเขาก็ได้ห่างหายจากการเป็นเจ้านายของโรงงานเล็กๆ ที่มีพนักงานเพียงไม่กี่สิบคน แม้กระทั่งพนักงานรักษาความปลอดภัย และคนขับรถ
ฮวงเฟิงไปรับหลี่ปิงหยุนที่โรงแรมและมุ่งหน้ากลับไปที่บริษัท
เมื่อเปรียบเทียบหลี่ปิงหยุนในเช้าวันนี้เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่นยิ่งทำให้เธอดูสวยกว่าเดิม ความอ่อนล้าที่อยู่บนใบหน้าได้หายไปจนสิ้น และเธอก็ดูมีพลังมากขึ้น
แต่คราวนี้โดยที่ไม่รีรอให้ฮวงเฟิงต้องพูด เธอก็ขึ้นรถของฮวงเฟิงและยังนำผู้ช่วยขึ้นรถไปด้วย แต่เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดทั้งหลายไม่ได้ตามไปที่เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปด้วย
เมื่อฮวงเฟิงขับรถไปที่เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวกำลังรออยู่แล้ว เจ้านายทั้งสองคนมารอต้อนรับด้วยตัวเอง นั่นเห็นได้ชัดว่าพวกเธอให้เกียรติกับการมาถึงของหลี่ปิงหยุน
หลี่ปิงหยุนเองก็รู้สึกได้แต่ไม่ได้แสดงท่าทางใดๆสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มและต่อหน้าของซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวเธอดูสุภาพเรียบร้อยมาก มันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีเย็นชาที่เธอมีต่อฮวงเฟิง
“เล่นละครเก่ง”ฮวงเฟิงพึมพำกับตัวเองขณะที่มองดูหลี่ปิงหยุนที่กำลังยิ้มกว้างและเดินตรงไปข้างหน้า
“นี่คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”ซูหยูโม่ชะลอฝีเท้า ปล่อยให้เซี่ยเมิ่งเจียวนำหลี่ปิงหยุนเดินไปข้างหน้าและแนะนำบริษัท ขณะที่ซูหยูโม่เดินมาข้างๆ ฮวงเฟิง “อ้อ ใช่ ฉันมีเรื่องจะบอก ถงเฉียนจุ้นถูกจับแล้วนะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของซูหยูโม่ก็ผ่อนคลาย ไม่ใช่เพียงแค่ถงเฉียนจุ้นคนนี้จะโจมตีบริษัทของเธอแต่ลูกชายของเขาก็ยังคอยตามรังควานเธอทำให้เธอไม่สบายใจอีกด้วย ตอนนี้ถงเฉียนจุ้นถูกจับแล้ว ความกดดันในร่างกายของเธอจึงลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงความกดดันที่มีต่อบริษัทก็เช่นกัน
มีแม้กระทั่งผู้ขายที่มีชื่อเสียงหลายรายที่ติดต่อพวกเธอมาแล้วและต้องการที่จะร่วมมือกับพวกเธอต่อไปอย่างไรก็ตามซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวก็ยังไม่ได้แสดงจุดยืนของพวกเขาเช่นกัน
“เยี่ยมมากทีนี้ บริษัทก็จะได้สบายใจได้ซะที” ฮวงเฟิงแสร้งทำราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับถงเฉียนจุ้นเลย
“ใช่แล้ว”เมื่อมองดูหลี่ปิงหยุนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา เขาก็กล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นโอกาสของพวกเราแล้ว”
นั่นก็จริงอย่างที่ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ แม้ว่าพวกเขาจะสูญเงินไปและซื้อวัตถุดิบบางอย่างจากรัฐบาลในจังหวัด แต่นี่ก็เป็นการเตือนซัพพลายเออร์ของพวกเขา เมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันอีกครั้งอีกฝ่ายจะต้องยอมประนีประนอมอย่างแน่นอน
และเซี่ยเมิ่งเจียวก็ไม่ได้คิดที่จะหยุดเช่นกันนี่เป็นกลยุทธ์การพัฒนาที่ดีสำหรับบริษัท แม้ว่าจะไม่มีแรงกดดันของถงเฉียนจุ้น แต่พวกเขาก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป
การมาถึงของหลี่ปิงหยุนได้รับความสนใจเป็นอย่างมากภายในบริษัท เป็นเพราะว่าภายในเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปนั้นพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและในบรรดาพนักงานหญิงนั้นเป็นคนหนุ่มสาว พวกเขาชอบหลี่ปิงหยุนเป็นอย่างมากและบางคนก็มาขอลายเซ็นของเธอด้วย
เซี่ยเมิ่งเจียวและซูหยูโม่ก็ไม่ได้ห้ามพวกเขาแต่พวกพนักงานก็ยังรู้จักหน้าที่ของตัวเองแม้ว่าพวกเขาจะอยากได้ลายเซ็น แต่พวกเขาก็ยังทะยอยกันมาทีละคน ไม่ได้มาพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
ฮวงเฟิงและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆเดินตามหลังฝูงชนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น อย่างไรก็ตามโชคดีที่ไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น หลังจากที่หลี่ปิงหยุนและคนอื่นๆ เยี่ยมชมสถานที่นั้นเสร็จ
อย่างไรก็ตามพนักงานส่วนใหญ่ที่นี่เป็นผู้หญิงและบรรยากาศในบริษัทก็ดีมากเช่นกันหลังจากทำความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์ของ เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปแล้ว เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว