กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 343 ภารกิจด่วน
บทที่ 343 ภารกิจด่วน
”สารเลว?”ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับชะงัก จากนั้นเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา “ถูกต้อง! พวกเราเป็นไอ้สารเลวที่โคตรเลวเลยหล่ะ! ฮ่าฮ่า! ”
หัวใจของหลี่ปิงอวิ๋นตื่นถี่รัวจู่ๆเธอก็รู้สึกสิ้นหวัง “นี่พวกนายกำลังจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่?”
”อยู่เฉยๆเดี๋ยวคุณก็รู้แล้ว”หลังจากที่พูดจบ ชายคนนั้นก็ไม่สนใจหลี่ปิงอวิ๋นอีก
แต่ถึงอย่างนั้นหลี่ปิงอวิ๋นในตอนนี้กลับยิ่งรู้สึกกลัว เธออยากขอความช่วยเหลือจากใครสักคน แต่ตอนนี้เธออยู่ในรถแถมโทรศัพท์ก็ไม่มี แล้วอย่างนี้เธอจะขอความช่วยเหลือได้ยังไงกัน?
หลี่ปิงอวิ๋นได้แต่หวังว่าผู้ช่วยของเธอจะโทรแจ้งตำรวจหลังจากรู้ว่าเธอหายตัวไป
แต่ถึงหลี่ปิงอวิ๋นจะคิดแบบนั้นเธอก็ไม่กล้าคาดหวังอะไรมาก เพราะถึงตำรวจตามหาเธอพบ แต่คนพวกนั้นอาจจะลงมือฆ่าเธอไปแล้วก็ได้
ในขณะนี้มีผู้คนและรถยนต์บนท้องถนนเป็นจำนวนมากทำให้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
ด้วยเหตุนี้ฮวงเฟิงจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการขับรถตามรถคันข้างหน้าไป เพราะเขาอาจคลาดกับอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ
แม้ว่าฮวงเฟิงไม่ใช่แฟนของหลี่ปิงอวิ๋น แต่เขาก็ไม่สามารถทนเห็นผู้หญิงตกอยู่ในอันตรายได้เช่นกัน
บางครั้งการที่คนเรามีหน้าตาที่สวยเกินไปก็เป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อยและอีกอย่างคือ สำหรับพวกเขาแล้ว ความตายก็ไม่ใช่เรื่องที่โหดร้ายที่สุด
ดังนั้นฮวงเฟิงจึงกลัวว่าเขาจะมาไม่ทันเวลา แม้ว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือและแก้แค้นศัตรูที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่อาจลบล้างบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของเธอได้
ยังดีที่ฮวงเฟิงเป็นคนโชคดีแม้ว่าระยะทางระหว่างทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้ใกล้ขึ้น แต่อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้คลาดกับอีกฝ่าย
ฮวงเฟิงขับรถตามพวกเขาไปและสังเกตเส้นทางที่รถคันนั้นกำลังขับหน้าไปตลอดถนนเส้นนี้คือทางออกจากเมือง
ในตอนที่ฮวงเฟิงกำลังขับรถออกจากเมืองอยู่นั้นจู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ส่งเสียงดังขึ้น ปลายสายที่โทรมาหาเขาคือหัวหน้าทีมของเขา ไป๋เสี่ยวโหลว
”สวัสดีฮวงเฟิง คุณมีภารกิจด่วนที่ต้องทำเดี๋ยวนี้!” ในขณะที่สายเชื่อมต่อเสียงของ ไป๋เสี่ยวโหลวก็ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ซึ่งฟังดูเร่งด่วนเล็กน้อย
”หัวหน้าครับผมยังไม่ได้ใส่รหัสประจำตัว ผมไม่ได้เป็นสมาชิกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ คุณรอให้ผมได้รหัสก่อนรับภารกิจได้ไหมครับ ส่วนภารกิจนี้ ผมว่าคุณให้คนอื่นจัดการไปก่อนดีกว่าครับ” ฮวงเฟิงตอบ
ตอนนี้ฮวงเฟิงกำลังขับรถตามรถที่ลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นไป เห็นๆอยู่ว่าอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอันตราย เวลาน่าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เขาไม่ว่างไปทำภารกิจให้สำเร็จหรอกนะ
นอกจากนี้ความหมายแฝงในประโยคของไป๋เสี่ยวโหลวนั้นน อีกฝ่ายต้องการตัวเขาเดี๋ยวนี้ แสดงว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจเร่งด่วน หากเขาตอบรับภารกิจ เขาก็ไม่วันตามรถที่ลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นทันสิ
หัวหน้าได้อนุมัติใบสมัครของคุณในการเข้าร่วมสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้วคุณสามารถใช้รหัสประจำตัวได้ตลอดเวลา ตอนนี้คุณเป็นสมาชิกของสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าไป๋เสี่ยวโหลวไม่ยินดีปล่อยฮวงเฟิงให้หลุดมือไป”ตำแหน่งของภารกิจนี้อยู่ที่เมืองชิง เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นภารกิจที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด!”
ฮวงเฟิงคิดไม่ถึงว่าไป๋เสี่ยวโหลวจะลงมือเร็วขนาดนี้เพราะพวกเขาเพิ่งวางสายจากกันไม่นาน แม้ว่าเมืองเจียงจะไม่ไกลจากเมืองหลวงเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องใช้เวลามากถึงครึ่งวัน ดูเหมือนว่ามันจะเกินความสามารถของอีกฝ่าย
เรื่องนี้ทำให้ฮวงเฟิงตกที่นั่งลำบากใจหนึ่ง เขาก็อยากช่วยหลี่ปิงอวิ๋น แต่อีกใจเขาก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อให้บรรลุภารกิจที่ไป๋เสี่ยวโหลวมอบให้
”หัวหน้าคือว่าตอนนี้ผมกำลังยุ่ง ผมยอมรับภารกิจนี้ก็ได้แต่ผมคงทำมันตอนนี้ไม่ได้ เขาขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ?” ฮวงเฟิงถามกลับ อย่างน้อยถ้าอีกฝ่ายยินยอม เขาก็จะได้จบเรื่องนี้สักที
”ไม่ได้ไม่ว่านายจะทำอะไรอยู่ก็ให้หยุดการกระทำนั้นซะ ภารกิจของนายคือการช่วยเหลือคน ถ้านายไปสายแม้แต่เสี้ยววิ เธอก็จะตกอยู่ในอันตราย เพราะฉะนั้นนายต้องทำภารกิจเดี๋ยวนี้! ” ไป๋เสี่ยวโหลวดับความหวังของฮวงเฟิงอย่างไร้เยื่อไย
”ช่วยเหลือคนเหรอครับ?ตอนนี้ ผมก็กำลังช่วยเหลือคนอยู่เหมือนกัน นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ทำไมคืนนี้ถึงได้มีคนต้องความช่วยเหลือเยอะขนาดนี้เนี่ย?” หลังจากที่ฮวงเฟิงได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มบ่นพึมพำ
อย่างไรก็ตามไป๋เสี่ยวโหลวไม่ได้เถียงกับฮวงเฟิงแถมยังไม่สนใจในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไปด้วย
ตอนนี้ไป๋เสี่ยวโหลวกำลังคิดว่า หากวันนี้เธอไม่ได้กลับไปที่เมืองหลวงและยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองเจียง เธอก็คงไม่ขอให้ฮวงเฟิงช่วยทำภารกิจนี้หรอก
”คนที่นายต้องช่วยชีวิตในครั้งนี้ชื่อหลี่ปิงอวิ๋นเธอเป็นดาราดัง แถมยังเป็นคนสำคัญอีกด้วย ตอนนี้เธอถูกลักพาตัวไป แต่โทรศัพท์ของเธอติดระบบจีพีเอส ในนั้นแจ้งว่าเธอกำลังออกจากเมือง เพราะฉะนั้นนายจะต้องรีบช่วยเธอ ห้ามให้พวกอาชญากรลักพาตัวเธอไปเด็ดขาด” ไป๋เสี่ยวโหลวไม่ได้โต้เถียงกับฮวงเฟิงต่อและรีบบอกลายละเอียดของภารกิจให้อีกฝ่ายรู้…..Aileen-novel
อย่างไรก็ตามคำพูดของไป๋เสี่ยวโหลวทำให้ฮวงเฟิงตกใจ ทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่ารถคันข้างหน้าได้เลี้ยวเข้ามุมไปแล้ว จากนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาและตอบกลับไป
”คุณมั่นใจใช่ไหมครับว่าคนที่ผมต้องช่วยชีวิตคือหลี่ปิงอวิ๋นดาราสาวสวยที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสองสามปีที่ผ่านมา หลี่ปิงอวิ๋นคนนั้นอ่ะนะ?”
“ใช่แล้ว!”ไป๋เสี่ยวโหลวตอบด้วยความมั่นใจ “นายถือสายไว้ ฉันจะบอกตำแหน่งและข้อมูลของเธอให้นายรู้เอง”
”ถ้าคนๆนั้นเป็นเธอจริงๆล่ะก็คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกครับ” ฮวงเฟิงว่า “ตอนนี้ผมขับรถตามหลังรถเธออยู่ ส่วนโทรศัพท์ของเธอ ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับเธอแต่อยู่ในรถผมครับ”
”หืมนายบอกว่านายกำลังจับรถตามเธออยู่เหรอ?” ครั้งนี้เป็นไป๋เสี่ยวโหลวที่ตกใจ เธอไม่คิดฮวงเฟิงกำลังติดตามอีกฝ่ายอยู่ แต่แล้วเธอก็นึกถึงเรื่องที่ฮวงเฟิงบอกไว้ก่อนหน้านี้
”นายเพิ่งบอกฉันว่านายมีเรื่องต้องทำเรื่องนั้นคือการช่วยเหลือคน หรือว่านายกำลังจะสื่อว่านายกำลังช่วยเธอ?”
”ใช่แล้วครับ!”ฮวงเฟิงตอบ จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้ไป๋เสี่ยวโหลวฟัง
”ตอนนี้ผมกำลังตามเธอไป ตอนนี้ผมออกมานอกเมืองแล้วครับ ตอนอยู่ในเมือง พวกเขาไม่ทันได้สังเกต แต่เกรงว่าตอนอยู่นอกเมือง ผมคงซ่อนตัวไม่ได้แล้ว อีกฝ่ายต้องจับได้แน่” ฮวงเฟิงว่า
”นายตามพวกมันไปก่อนแล้วกันถ้าพวกมันเผลอเมื่อไหร่ นายก็หาจังหวะช่วยเธอออกมา แต่นายต้องระวังตัวให้ดี พวกมันไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นทหารรับจ้างต่างชาติที่ผ่านการรบมานักต่อนัก ความสามารถของพวกมันแต่ละคนเรียกได้ว่าเก่งกาจมาก ถ้านายยังหาจังหวะเข้าไปไม่ได้ ก็ติดตามพวกมันไปก่อน ตอนนี้ หน่วยพิเศษกำลังเดินทางไปที่นั่นแล้ว” ไป๋เสี่ยวโหลวล่าว
”รับทราบครับ”ฮวงเฟิงตอบ เขาไม่คิดเลยว่าภารกิจทั้งสองที่เขาต้องทำจะเป็นภารกิจเดียวกัน ทว่าเขากลับสงสัยว่าหลี่ปิงอวิ๋นเป็นดาราดัง แต่มีชื่อเสียงในหมู่คนทั่วไปเท่านั้นนี่นา? ช่างเป็นเรื่องไร้เหตุผลสิ้นดี!
*รอดปากเหยี่ยวเป็นสำนวนแปลว่า สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงการผ่านสถานการณ์อันตราย สามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุด หวิด รอดปากเหยี่ยว ปากกา ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความโชคดีหรือความเฉลียวฉลาดรู้จักเอาตัวรอดใน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น