กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 347 นายมาที่นี้ได้อย่างไร
บทที่ 347 นายมาที่นี้ได้อย่างไร
ฮวงเฟิงมองดูทหารที่อยู่ไม่ไกลจากเขาทหารคนนั้นหันหลังให้เขาและเดินจากไปอย่างเงียบๆ ในตอนนั้นเอง ฮวงเฟิงก็เริ่มร่างคาถาและใช้พลังเวทย์เรียกดาบวายุออกมา
โดยปกติแล้วฮวงเฟิงใช้วิชานี้อยู่บ่อยครั้ง แต่มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือตอนดาบวายุปาดคอของศัตรู ผลที่ตามมาจะไม่ต่างกับการใช้ใบมีดอันแหลมคมเชือดคอของคนๆนั้น แน่นอนว่าวิชานี้มีประสิทธิภาพในการสังหารมาก
แต่ข้อเสียก็คือการควบคุมทิศทางหากฝ่ายตรงข้ามยืนอยู่เฉยๆหรือไร้เคลื่อนไหว วิชานี้ก็จะใช้ได้ผลดี แต่หากอยู่ระหว่างการต่อสู้ โดยที่ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอด โอกาสที่จะเล็งดาบเข้าเป้านั้นขึ้นอยู่กับดวงเท่านั้น และฮวงเฟิงเองก็ไม่สามารถควบคุมมันได้
และในตอนนี้การใช้ใบดาบวายุเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเนื่องจากศัตรูกำลังยืนหันหลังยิงกระต่ายอยู่ อีกฝ่ายยืนอยู่นิ่งๆโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างและไม่ทันสังเกตว่าฮวงเฟิงได้มาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้ว
ในตอนที่ฮวงเฟิงร่ายคาถาจบเขาก็ได้ปลิดชีพอีกฝ่ายไปเสียแล้ว ฮวงเฟิงอดไม่ได้ที่จะตำหนิอีกฝ่ายว่าเขาใช้ชีวิตแบบประมาทเกินไป
เนื่องจากตอนที่ฮวงเฟิงเดินมาหาเขาอีกฝ่ายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮวงเฟิงมีกำลังภายในทำให้ใช้มีฝีเท้าที่เบามาก หากเขาไม่ตั้งใจฟังดีๆก็ยากที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าของฮวงเฟิง
ฮวงเฟิงใช้มือขวาแกว่งดาบวายุด้วยรวดเร็วจากนั้นเขาก็เห็นว่าทหารที่เพิ่งผิวปากพลางยิงกระต่ายหยุดการกระทำทุกอย่างในทันที
ทหารที่ถูกทำร้ายโดยไม่ทันได้ตั้งตัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดบริเวณลำคอเขาอยากจะร้องตะโกนออกมาดังๆแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเลือดสีแดงสดเริ่มไหลออกมาพร้อมกับลมหายใจผิดปกติ หากฟังจากเสียงก็รู้ว่าลมหายใจของเขาเริ่มขาดห้วง
อีกฝ่ายกำลังดิ้นรนก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นฮวงเฟิงรีบเดินไปข้างหน้าและใช้มือปิดปากเขาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียงจนทำให้ทหารที่อยู่ด้านในได้ยิน เพราะถ้าทหารคนนั้นใช้หลี่ปิงอวิ๋นเป็นตัวประกัน มันจะยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่
”แม่งเอ้ย!ไปยิงกระต่ายถึงไหนวะ ทำไมถึงได้ไปนานขนาดนี้ ให้ตายสิ วุ่นวายจริงๆ!” ทหารที่อยู่ข้างในไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย หลังจากสบถออกมา เขาก็กลับไปทำงานของตัวเองและไม่มีความคิดที่จะออกมาดูทหารอีกคน
ส่วนทหารที่อยู่ด้านนอกที่ต้องการให้ทหารอีกคนมาช่วยชีวิตใช้กำลังทั้งหมดที่มีหันกลับไปเห็นร่างของฮวงเฟิง จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างราวกับว่ามันจะหลุดออกมาจากเบ้ายังไงอย่างนั้น….Aileen-novel
เขาไม่รู้จักฮวงเฟิงและไม่รู้ว่าฮวงเฟิงเป็นใครรวมถึงฮวงเฟิงตามเขามาถึงที่นี่ได้อย่างไร แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังลอบทำร้ายเขา ตอนนี้ ในสมองของเขาผุดคำถามขึ้นมามากมายและอกไม่ได้ที่จะถามออกไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้ทหารทั้งสองเคยได้พบกับฮวงเฟิงที่โรงแรมมาแล้ว แต่เพราะตอนนั้นทั้งสองคนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่น พวกเขาไม่ทันได้สังเกตฮวงเฟิง และหากไม่ใช่เพราะฮวงเฟิงจำได้ว่าหลี่ปิงอวิ๋นถูกอีกฝ่ายจับตัวไป เขาก็คงลืมเรื่องการปรากฏตัวของอีกฝ่ายไปแล้วเช่นกัน
แต่สำหรับทหารคนนี้ฮวงเฟิงเป็นเพียงแค่เขาเดินสวนกันเท่านั้น แล้วเขาจะจำเรื่องนั้นได้อย่างไร? นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าเขาไปมีเรื่องผิดใจกับฮวงเฟิงตอนไหน
แต่ฮวงเฟิงก็ได้ไขข้อสงสัยให้เขาแล้วว่าแต่ เขาถูกโจมตีได้ยังไงกันนะ?
ฮวงเฟิงไม่มีเวลามาเสียกับอีกฝ่ายมากนักดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตาย เขาจึงร่ายคาถาอีกครั้งและใช้ดาบวายุปาดคอของอีกฝ่าย
ด้วยวิชาของฮวงเฟิงในครั้งนี้และภายใต้การเฝ้าดูของอีกฝ่ายในที่สุดทหารคนนี้ได้รู้แล้วว่าเขาถูกลอบทำร้ายได้อย่างไร
ในสายงานของเขาเขาต้องตกอยู่ในสถานการที่อันตรายทุกวันและอาจถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเมื่อความตายมาเยือน พวกเขาก็จะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ
แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่กลัวตายแต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับความตายได้ดีกว่าคนทั่วไป
ด้วยเหตุนี้สิ่งหนึ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจของเขา คือความสงสัยและความอยากรู้เกี่ยวกับวิธีที่ฮวงเฟิงใช้ในการสังหารเขา อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ ฮวงเฟิงไม่ได้อธิบายให้เขาฟัง ทำให้เขาต้องเก็บความสงสัยและความอยากรู้นี้เอาไว้และตายไปทั้งๆอย่างนั้น
นอกจากนี้เขายังได้ตายไปพร้อมกับความเคียดแค้น แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว ใบหน้าของเขาก็ยังคงความสับสนอยู่ เขาไม่เข้าใจเลยว่าฮวงเฟิงสังหารเขาได้อย่างไร
ฮวงเฟิงไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไรหลังจากเห็นว่าอีกฝ่ายตายสนิท เขาก็วางร่างของเขาลงบนพื้นด้วยความระมัดระวัง แล้วเดินเข้าไปในบ้านไม้
ก่อนหน้านี้ที่ทหารคนนี้ออกมาทำธุระเขาไม่ได้ปิดประตู ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่ฮวงเฟิงที่เดินไปถึงประตู เขาก็มองเห็นคนด้านในผ่านประตูที่เปิดแง้มครึ่งหนึ่ง แน่นอนว่าคนที่อยู่ข้างในก็มองเห็นเขาเช่นกัน
ฮวงเฟิงที่มองผ่านประตูที่เปิดแง้มครึ่งหนึ่งกลับพบว่าทหารที่อยู่ข้างในกำลังยืนหันหลังให้ประตู ขณะที่หลี่ปิงอวิ๋นที่อยู่ตรงมุมกำลังก้มหน้าให้ประตู ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง
แม้จะเห็นสภาพที่ไม่สู้ดีของหลี่ปิงอวิ๋นแต่ฮวงเฟิงก็ยังรู้สึกโล่งใจเพราะเสื้อผ้าของเธอที่ยังคงเรียบร้อยบ่งบอกให้เขารู้ว่าเธอยังคงปลอดภัย
แต่ขณะที่ฮวงเฟิงพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกคนที่อยู่ด้านในอย่างหลี่ปิงอวิ๋นดูเหมือนจะสัมผัสได้ เธอเลยเงยหน้าขึ้นไปมองที่ประตู และได้สบตากับฮวงเฟิง
ฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ๋นต่างตกใจโดยเฉพาะหลี่ปิงอวิ๋น เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะได้พบฮวงเฟิงในที่แบบนี้ หลี่ปิงอวิ๋นยังไม่ทันได้ไตร่ตรอง เมื่อเธอเห็นฮวงเฟิงปรากฏตัวที่นี่ ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ ฮวงเฟิงเป็นพวกเดียวกับทหารพวกนี้จริงๆด้วย!
มิฉะนั้นทำไมฮวงเฟิงถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่ล่ะ?แต่เขาก็เพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังอยู่ไกลจากที่นี่
ฮวงเฟิงกำลังจะส่งสัญญาณให้หลี่ปิงอวิ๋นเงียบเสียงแต่มันก็สายเกินไปเพราะหลี่ปิงอวิ๋นดันพูดออกมาก่อนแล้ว “ฮวงเฟิง นายมาที่นี่ได้ยังไง?!”
ในตอนที่หลี่ปิงอวิ๋นพูดออกมาฮวงเฟิงก็รู้แล้วว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตอนที่หลี่ปิงอวิ๋นพูด เขาเห็นทหารคนนั้นนั่งนิ่งเหมือนคนกำลังหลับ แต่จู่ๆก็สะดุ้งโหยงยกเก้าอี้ที่อยู่ใต้ก้นขึ้นมาขว้างใส่ฮวงเฟิงทันที!
ฮวงเฟิงรีบหลบไปด้านข้างและวิ่งออกจากประตูทำให้ร่างของเขาปรากฎสู่สายตาโดยสมบูรณ์ ทหารคนนั้นรีบตามเขาไปทันที
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนตามฉันมาจริงๆ!”ทหารมองไปที่ฮวงเฟิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
เขารู้ว่ามีคนขับรถขับตามมาแต่รถคันนั้นพลิกคว่ำไปแล้ว โดยทั่วไป ในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้ จะต้องไม่มีคนตามเขาทันสิ แล้วไอ้หนุ่มคนนี้ตามเขามาได้ยังไงกัน?
อย่างไรก็ตามพวกเขามาถึงที่นี่ได้ไม่กี่นาทีก็ดันมีคนแปลกหน้าโผล่มาอีกคน นอกจากนี้ มองจากท่าทางของหลี่ปิงอวิ๋นแล้ว
ทหารคนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่คนหลงทางอยู่กลางป่ากลางเขาแต่เป็นคนที่หลี่ปิงอวิ๋นรู้จักแน่นอน!