กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 350 ยังไม่ตาย
บทที่ 350 ยังไม่ตาย
”ปล่อยฉันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” แน่นอนว่าสิ่งนี้คือการแสดง แต่ในทางกลับกัน มันก็เป็นเพราะความกลัวที่ก่อขึ้นในจิตใจ หากไม่มีฮวงเฟิงอยู่ข้างกาย เธอเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน
นับตั้งแต่ที่ฮวงเฟิงปรากฏตัวหลี่ปิงอวิ๋นก็มองฮวงเฟิงเป็นคนที่พึ่งพาได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะตอนที่เธอรู้ว่าฮวงเฟิงยังไม่ตาย
ทว่าหลี่ปิงอวิ๋นก็แอบสงสัยขึ้นมาก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงขอให้เธอเล่นละครตบตาทหารคนนั้น แต่ตอนนี้ทหารคนนั้นก็กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้วเขาจะทำยังไงต่อล่ะ?
ยังดีที่ฮวงเฟิงไม่ปล่อยให้เธอสงสัยในขณะที่เธอกำลังดิ้นรนอยู่นั้น จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงดัง ‘ปัง’
การกระทำของชายวัยกลางคนที่จับมือของเธออยู่ก็ได้หยุดลงจากนั้นหลี่ปิงอวิ๋นก็เห็นอีกฝ่ายค่อยๆหันศีรษะไปทางด้านหลังด้วยความยากลำบาก
ในตอนนี้หลี่ปิงอวิ๋นก็หันไปมองเช่นกัน จากนั้นเธอก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคย อีกฝ่ายถือหอกที่ไปนำมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ขอบอกเลยว่าหอกที่ฮวงเฟิงกำลังถืออยู่นั้นได้ฟาดศีรษะของชายคนนั้นเข้าอย่างจัง!
“เห้ย!ทำไมแกยังไม่ตายอีก!?” ทหารเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจปนสงสัย แต่ก่อนที่ฮวงเฟิงจะตอบกลับไปนั้น ดวงตาของอีกฝ่ายก็กลอกไปมาจากนั้นก็เป็นลมล้มตึงไปในที่สุด
“เฮ้อ!”
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าฮวงเฟิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก การโจมตีเมื่อกี้เขาไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย แรงที่เขาใส่ไปนับว่าไม่ใช่น้อยๆ ถึงอีกฝ่ายจะไม่ถึงตาย แต่ต้องสลบแน่นอน!
”นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”ในเวลาเดียวกัน หลี่ปิงอวิ๋นก็เดินไปหาฮวงเฟิงและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
แม้ว่าฮวงเฟิงจะบอกว่าเขายังไม่ตาย
แต่เธอก็ได้เห็นกับตาว่าฮวงเฟิงถูกยิงที่หน้าอกสองนัดแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ตาย แต่หลี่ปิงอวิ๋นก็เชื่อว่าฮวงเฟิงจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
ความจริงแล้วแม้ว่ากระสุนทั้งสองนัดจะยิงโดนหัวใจของฮวงเฟิง แต่มันก็ไม่ทำให้เขาถึงตาย
เนื่องจากพลังป้องกันของชุดเกราะไหมทองคำนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากในตอนนั้น ฮวงเฟิงสามารถรู้สึกถึงลูกกระสุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกเจ็บหรือบาดแผลใด ๆ
แต่เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นทำให้ฮวงเฟิงเลือกที่จะแสร้งทำเป็นถูกทำยิงจนตาย ถ้าไม่อย่างนั้น ศัตรูก็คงจะยิงที่ตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่หน้าอกแต่เป็นหัวของเขาไปแล้ว
แน่นอนว่าฮวงเฟิงทั้งดีใจทั้งกลัวในเวลาเดียวกันถ้านัดแรกหรือนัดที่สองที่อีกฝ่ายยิงไม่ใช่หน้าอกแต่เป็นหัวของเขาล่ะก็ เขาก็คงจบเห่ไปแล้ว
”ขาดประสบการณ์การด้านการต่อสู้จริงๆ”ฮวงเฟิงลอบถอนหายใจ
ฮวงเฟิงแอบคิดว่าอีกฝ่ายจะสู้กับเขาต่อสักพักแต่จู่ๆอีกฝ่ายก็ดันหยิบปืนออกมายิงใส่เขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทำเอาฮวงเฟิงที่กำลังตั้งใจสู้อยู่ถึงกับตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว
”ฉันไม่เป็นไร”ฮวงเฟิงตอบพลางส่ายหัว จากนั้นเขาก็หันไปมองทหารที่ถูกเขาจัดการไป
“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงกันต่อล่ะ?”หลี่ปิงอวิ๋นในตอนนี้ไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ขณะที่มองฮวงเฟิงด้วยท่าทางประหม่า แต่ภายในใจกลับคิดว่าฮวงเฟิงคือคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดในตอนนี้
”ออกไปจากที่นี่ก่อนก็แล้วกัน”ฮวงเฟิงตอบ ส่วนทหารที่นอนอยู่บนพื้น เขาได้ไตร่ตรองและตัดสินใจแล้วว่าจะพาอีกฝ่ายไปด้วย
”อื้อ!”ส่วนเรื่องการตัดสินใจของฮวงเฟิง หลี่ปิงอวิ๋นก็ไม่ได้คัดค้านใดๆ
แต่ในตอนที่ฮวงเฟิงกำลังพาทหารไปยังรถคันที่ลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นไปนั้นเขาก็ได้เห็นรถคันหนึ่งจากระยะไกล แน่นอนว่ามีเพียงถนนเส้นเดียวเท่านั้นที่สามารถมายังกระท่อมแห่งนี้ได้
หากฮวงเฟิงต้องการพาคนที่เหลืออยู่ขับรถออกไปอีกฝ่ายจะต้องสังเกตเห็นไฟหน้ารถแน่นอน อีกอย่างก็คือฮวงเฟิงเองก็ไม่กล้ารับประกันเช่นกันว่าเขาจะสามารถขึ้นรถได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะสังเกตเห็น และทักษะการขับรถของเขายังไม่ดีพอ
หากโชคร้ายคนที่มาใหม่เป็นพวกของศัตรูจับได้ขึ้นมา แม้ว่าเขาจะขึ้นรถไปแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายจับได้ เขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะหลบหนีจากอีกฝ่ายได้
”เราจะทำยังไงกันดีคนพวกนั้นจะต้องเป็นคนของพวกเขาแน่ๆ เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้บอกว่ามีคนที่ต้องการมาพบเขาที่กระท่อมด้วยนะ” หลี่ปิงอวิ๋นที่เห็นรถขับเข้ามาใกล้เรื่อยๆหันไปพูดกับฮวงเฟิงด้วยท่าทางลนลาน
ฮวงเฟิงที่คิดว่าอีกฝ่ายจะต้องมีพวกพ้องอีกเป็นขโยงได้ปากคำจากหลี่ปิงอวิ๋นเป็นเครื่องยืนยัน
”เร็วเข้าหนีเข้าไปในป่าก่อน!” ฮวงเฟิงใช้ความคิดครูหนึ่งแล้วพูดขึ้น ป่าที่นี่ค่อนข้างทึบประกอบกับแสงสลัวๆจะทำให้ซ่อนตัวได้ง่ายขึ้น
”อ..อืม”หลี่ปิงอวิ๋นตอบจากนั้นก็เดินตามฮวงเฟิงเข้าไปในป่า…..Aileen-novel
เมื่อทั้งสองตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าฮวงเฟิงก็หันไปบอกกับหลี่ปิงอวิ๋นว่า “คุณเดินไปก่อนเลยนะ”
”ไม่!ไม่เอานะ! ฉ..ฉันอยากไปกับนาย…นายอย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิ” หลี่ปิงอวิ๋นถึงกับอึ้งในตอนแรก แต่แล้วก็รู้สึกตระหนกที่พูดแบบนั้นกับฮวงเฟิง
เนื่องจากว่าหลี่ปิงอวิ๋นกลัวว่าฮวงเฟิงก็จะคิดว่าเธอเป็นภาระและทิ้งเธอไปในที่สุด เธอเลยไม่อยากอยู่ห่างจากอีกฝ่ายแม้แต่นาทีเดียว
เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสารของลูกแมวตัวน้อยที่ถูกเจ้านายทอดทิ้งจากหลี่ปิงอวิ๋นฮวงเฟิงกลับรู้สึกตลกขึ้นมาซะอย่างนั้น
หลี่ปิงอวิ๋นในตอนนี้แทบไม่อยากจะมองตัวเองเลยสักนิดเนื่องจากเธอเป็นคนที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามของดาราสาวที่ยิ่งใหญ่ ในตอนนี้กลับไม่ต่างจากเด็กสาวธรรมดา นั่นเป็นเพราะสถานที่ที่เธออยู่ในตอนนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
ฮวงเฟิงไม่ได้จะทอดทิ้งหลี่ปิงอวิ๋นไม่ต้องพูดถึงที่เขายังมีภารกิจที่จะต้องปกป้องอีกฝ่าย แม้ว่าเขาไม่ได้รับภารกิจ เขาก็ไม่มีทางทอดทิ้งผู้หญิงคนนี้หรอก
”วางใจเถอะผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทอดทิ้งคุณสักหน่อย ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณแล้วผมจะทิ้งคุณได้ยังไงล่ะครับ?” ฮวงเฟิงพูดกับหลี่ปิงอวิ๋น
”ผมแค่จะจัดการกับผู้ชายคนนี้ก่อนมันอาจจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณอยากอยู่ดู ผมก็จะไม่ขัด”
เมื่อเห็นฮวงเฟิงชี้ไปที่ชายวัยกลางคนในอ้อมแขนแล้วหลี่ปิงอวิ๋นก็รู้ว่า ฮวงเฟิงหมายถึงอะไร ใบหน้าของเธอซีดขึ้นในทันที จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตราบใดที่ฮวงเฟิงยังไม่ทิ้งเธอกลางป่า อีกฝ่ายจะทำอะไรก็ช่าง
ในสภาพแวดล้อมแบบหากฮวงเฟิงทิ้งเธอล่ะก็ เธอจะมีกะจิตกะใจเดินป่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มได้อย่างไรกัน?
“เอ่อ…ฉันขอไม่ดูดีกว่า งั้นฉันขอตัวไปรอนายข้างหน้านะ” หลี่ปิงอวิ๋นว่า เนื่องจากเธอเป็นคนสมองไว เธอจึงตระหนักได้ว่า ฮวงเฟิงกำลังจะทำอะไรต่อจากนี้
แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการฆ่าเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำแต่ในเวลาแบบนี้ รวมถึงสถานการณ์ในตอนนี้ หากไม่ทำเช่นนั้น เธอและฮวงเฟิงจะกลายเป็นฝ่ายที่ตกอยู่ในอันตรายซะเอง
หลังจากที่หลี่ปิงอวิ๋นพูดจบเธอก็เดินไปข้างหน้า แต่ไม่นานเธอก็หยุดฝีเท้า ที่นี่ทั้งมืดและเต็มไปด้วยวัชพืชหนาแน่น แถมยังมีแมลงตัวเล็กๆเต็มไปหมด ไม่กล้าเดินไปไหนไกลๆคนเดียวเลยอ่า…
คราวนี้ฮวงเฟิงต้องการสังหารทหารในอ้อมแขนจริงๆทั้งๆตอนแรกเขาแค่ต้องการพาอีกฝ่ายไปส่งตัวให้ตำรวจไม่ก็ไป๋เสี่ยวโหรวเพื่อนำไปสอบปากคำ เผื่อว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรบ้าง
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเพิ่มภาระให้ตัวเองได้