กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 358 ม้วนคัมภีร์
“อ๊า!”แม้เขาจะไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ใด ๆ แต่เพราะเดิมทีตัวเขาเป็นคนจิตใจดีและไม่สามารถทนเห็นคนมากมายมาตายต่อหน้าได้ ดังนั้นเขาจึงเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย ปกติแล้วเขาเองก็ไม่ได้ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้อยู่แล้วและถึงแม้ว่าเขาจะเกิดในตระกูลต้วนแต่เขากลับไม่รู้ทักษะของศิลปะการต่อสู้เลย
”นี่เจ้ากำลังเดิมพันด้วยความตายเลยนะ!”เมื่อชายทั้งสองเห็นว่าต้วนอวี้ไม่ได้มีท่าทางจะขัดขืนแต่กลับล้มลงไปกับพื้นด้วยความหวาดกลัวแทน พวกเขาย่อมไม่ถอยอยู่แล้วเมื่ออยู่ในระหว่างต่อสู้ หากอยู่มีคนโง่ผู้หนึ่งเข้ามาขวางมันจะเป็นเรื่องแปลกมากที่อยู่ๆ พวกเขาเกิดเป็นคนสุภาพขึ้นมาและยุติสงครามครั้งนี้เพียงเพาะคนโง่ผู้นั้น
อย่างไรก็ตามในขณะที่ใบหน้าของต้วนอวี้กำลังซีดลงไปเรื่อยๆ บวกกับคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกชายสองคนที่กำลังพุ่งมาหาเขาฆ่าตาย พวกเขาทั้งสองถูกคนหินขวางใส่อย่างไม่ได้ตั้งใจจนทำให้ทั้งสองในตอนนี้ถูกก้อนหินทุ่มลงกับพื้นในไปในทันที
คนจากสำนักดาบอมตะและสำนักเฉินหนงต่างพากันหันมามองที่แหล่งที่มาของก้อนหินในช่วงเวลานั้นอยู่ๆ ก็มีเด็กสาวปรากฏขึ้นบนหลังคา
ต้วนอวี้ที่รู้สึกได้ว่าตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจึงลืมตาและค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมมองไปที่หญิงสาวเช่นกัน
”สาวน้อยเจ้าเป็นใครกัน?” ท่ามกลางความสงสัยในเวลาเดียวกันเขาเองก็คิดเช่นกัน
”จริงๆ ข้ากำลังสู้อยู่กับพวกสำนักดาบอมตะ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มีคนมากมายเข้ามาจุ้นไม่เข้าเรื่องได้ขนาดนี้กัน?”
”ข้าแค่เดินผ่านมาแล้วข้าก็เห็นคนดี ๆ อย่างเจ้ากำลังจะถูกรังแกซึ่งข้าทนดูตต่อไม่ได้” หลังจากที่นางพูดจบ นางก็กระโดดลงมาจากหลังคาอย่างแผ่วเบาจนมาถึงตรงหน้าต้วนอวี้“ เจ้าชื่อต้วนอวี้ใช่ไหม?” ถึงเจ้าจะไม่รู้ทักษะศิลปะการต่อสู้ แต่เจ้าก็มีความกล้าพอสมควรเลยนะ”
”ใครก็ตามไม่ว่าจะรู้ทักษะการต่อสู้หรือไม่ก็ตามหากต้องเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมก็คงต้องเข้ามายุ่งอยู่แล้ว”ต้วนอวี้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาในขณะที่หญิงสาวคนนั้นมองไปที่ต้วนอวี้ด้วยแววตาที่เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าหน้าตาที่หล่อเหลาของต้วนอวี้นั้นได้ทำคะแนนให้กับเขาไปด้วย
แต่อย่างไรเสียเรื่องดีๆก็เกิดขึ้นได้เพียงไม่นานเพราะการกระทำของหญิงสาวคนนั้นทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นโกรธเป็นอย่างมาก ดังนั้นในเวลาเดียวกันทั้งคนจากสำนักดาบอมตะและสำนักเฉินหนงจึงกลับมาโจมตีใส่กันอีกครั้ง
ทางด้านหญิงสาวนางเป็นที่รู้จักในนามของจงหลิง แม้ว่านางมีมาร์เทินสายฟ้าที่ทรงพลังมากในมือแต่นางไม่ได้มีทักษะพื้นฐานที่แน่นพอ มาร์เทินสายฟ้าของนางนั้นไวมาก หลังจากที่มันกัดจั่วจื่อมู่ จงหลิงและต้วนอวี้ก็ถูกจับจนได้
“มอบยาถอนพิษให้ข้าแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแก!” จั่วจื่อมู่พูดกับทั้งพวกเขาสองคน
”แล้วคิดว่าพวกเราจะมีสำรองไว้อย่างนั้นหรือ?พวกเรามีกันสองคนจะแบ่งกันได้ยังไง” จงหลิงกล่าวช้าๆ
“ดี ดี ดี” จั่วจื่อมู่จั่วจื่อมู่พูดอย่างเหลืออด “ฉันจะไว้ชีวิตพวกแกสองคน ส่งยาถอนพิษให้ข้าซะ”
“ฉันไม่มียาถอนพิษอะไรทั้งนั้นมีแต่พ่อของข้าเท่านั้นที่ถอนพิษนี้ได้
“พ่อของเจ้าอยู่ที่ไหน”
”แน่นอนว่าพ่อก็ต้องอยู่ที่บ้านกับแม่ยังไงล่ะ”
ต้วนอวี้เกือบจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินบทสนทนาของนางและจั่วจื่อมู่ก็รู้ว่าตนนั้นกำลังถูกจงหลิงหลอก
“ข้าจะเผาผมเจ้าให้หมด!” จั่วจื่อมั่วกล่าวขณะที่เขาเดินเข้ามาหาจงหลิงพร้อมกับคบเพลิงในมือ
”ไม่ข้ากลัวเจ็บ” จงหลิงตะโกน..ไอลีนโนเวล
”งั้นก็เอายาถอนพิษออกมาสิถ้าแกกลัวความเจ็บปวด!” จั่วจือมั่วกล่าว
”นี่แกโง่หรือเปล่า?ตัวมาร์เทินสายฟ้าของแกไม่ได้เหมือนสัตว์ทั่ว ๆ ไปนะ มันจะไปรักษาง่ายขนาดนั้นได้ยังไง” จั่วจือมั่วระบาย
เพราะเขารู้ว่าหลังจากที่โดนพิษของตัวมาร์เทินสายฟ้าเขาจะมีชีวิตได้เพียงแค่ยี่สิบวันนับจากนี้ จากนั้นก็เหลือบมองไปทางด้านต้วนอวี้
คนจากทางฝั่งดาบอมตะเดินเข้าไปที่ต้วนอวี้ทันทีและได้บังคับให้เขาดมยาพิษเข้าไป“หลังจากนี้เจ็ดวัน พิษจะเริ่มออกฤทธิ์และแกก็จะตายในที่สุด ถ้าแกเอายาแก้พิษตัวมาร์เทินสายฟ้ามาให้ข้าได้ภายในเจ็ดวัน แล้วเรื่องในวันนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไปและจะให้ยาถอนพิษด้วย”
จงหลิงทำอะไรไม่ถูกในท้ายที่สุดเธอก็ทำได้เพียงบอกเส้นทางให้กับต้วนอวี้ และในขณะเดียวกันนั้นเธอก็ได้มอบหนึ่งในรองเท้าของเธอให้กับเขาเป็นของต่างหน้าเพื่อที่จะนำไปให้แม่ของเธอและนำยาถอนพิษตัวมาร์เทินสายฟ้ากลับมา
หลังจากที่ต้วนอวี้รู้เรื่องเส้นทางแล้วเขาก็ลงจากเขาแต่เนื่องจากเขาไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้จึงทำได้เพียงวิ่งลงมาโดยหวังว่าจะสามารถประหยัดเวลาได้อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาตื่นตระหนกเกินไปขณะที่เขาวิ่งลงมาตามทางของภูเขา เท้าของเขากลับสะดุดลื่นล้มจนตกหน้าผาแต่โชคดีที่เบื้องล่างนั้นมีลำธารรองรับร่างเขาไว้อยู่ ดังนั้นต้วนอวี้จึงยังไม่ตายและโชคดีอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย
ภายในถ้ำเขาพบรูปปั้นที่งดงามราวกับเทพได้มาจุติยังโลกมนุษย์ตั้งอยู่โดยรูปปั้นนั้นงดงามจนเขาถึงขั้นตกหลุมรักในครั้งแรกที่เห็น เมื่อสังเกตดี ๆ เขาก็พบเหมือรายเส้นสลักอยู่บนรูปปั้นนั้น
”ให้คุกเข่าคำนับพันครั้ง!”เมื่ออ่านจบเขาก็ไม่ลังเลที่จะทำตามเลยแม้แต่น้อย ต้วนอวี้คุกเข้าลงบนเสื่อที่ปูไว้ตรงหน้ารูปปั้น จากนั้นก็คุกเข่าคำนับให้ครบหนึ่งพันครั้ง
และหลังจากที่ต้วนอวี้คุกเข่าคำนับจนครบหนึ่งพันครั้งเขาก็เริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับม้วนหนังสือใต้เสื่อที่เขาเพิ่งคุกเขาคำนับไปโดยในม้วนหนังสือมีวิชาเซียนอยู่สองทักษะ นั่นก็คือ วิชาลมปราณภูติอุดรและวิชาท่าเท้าท่องคลื่น!
แรกเริ่มเขาไม่ค่อยชอบความคิดของครอบครัวที่ได้มอบหมายให้เขาฝึกฝนกำลังภายในและนั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาแอบหนีออกจากบ้านมาแต่ตอนนี้เขากลับได้รับคัมภีร์ของทั้งสองวิชามาอยู่ในมืออย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เดิมเขาไม่ได้ต้องการที่จะฝึกกำลังภายในอยู่แล้วแต่เมื่อรู้ว่าจะได้เรียนรู้กับพี่นางฟ้าที่เขาชอบ ต้วนอวี้จึงตัดสินใจที่จะฝึกวิชาท่าเท้าท่องซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่ต้องใช้กำลังภายใน
ในความเห็นของต้วนอวี้วิชาท่าเท้าท่องคลื่นมีไว้เพื่อการหลบหนี ส่วนวิชาลมปราณภูติอุดรมีไว้เพื่อสำหรับการต่อสู้ เขาผู้ซึ่งไม่ชอบการต่อสู้ ดังนั้น วิชาเซียนที่เขาจะเลือกฝึกจึงเป็นวิชาท่าเท้าท่องคลื่นที่ใช้เพื่อหลบหนีและวิชานี้ก็เป็นสิ่งที่เขาดูจะสนใจและชอบเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าต้วนอวี้เป็นคนที่มีความจำที่ดีเป็นอย่างมาเนื่องจากเขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการจดจำเนื้อหาทั้งหมดของวิชาท่าเท้าท้องคลื่นในขณะที่วิชาลมปราณภูติอุดรมีภาพทั้งหมดสามสิบหกภาพซึ่งเป็นภาพที่บันทึกไว้เพื่อแนะแนวการฝึกแต่เขาจำได้เพียงแค่สองภาพแรกเท่านั้นและไม่ได้สนใจที่จะจำที่เหลืออีกด้วย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่มองไปที่มันอีก
ตอนนี้เขาก็ยังจำได้ว่าเป้าหมายของการมาในครั้งนี้คือการนำยาถอนพิษกลับไปช่วยจงหลิง นอกจากนี้เขาเองก็โดนวางยาพิษไปด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานไปมากกว่านี้แล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อต้วนอวี้มาถึงบ้านของจงหลิงนั่นก็คือหุบเขาหมื่นเคราะห์ แต่เมื่อได้มาถึงกลับพบว่าม้วนคัมภีร์ในมือกลับหายไปแล้ว
”มันหายไปไหน”ต้วนอวี้ยังคงหาม้วนคัมภีร์ตามตัวของเขาแต่ก็ยังไม่พบ ในขณะที่เขากำลังหาเขากลับพบบางสิ่งที่คลายกับมีบางคนกำลังวาดยันต์ขึ้นมาอยู่ เขาเหลือบหันไปมองแต่ไม่ได้เดินเข้าไปดูและละความสนใจจากมัน จากนั้นเขาก็กลับมาหาม้วนคัมภีร์ที่หายไปต่อ
ม้วนคัมภีร์นั้นสำคัญมากสำหรับเขาถึงแม้ว่าเขาจะสามารถจดจำทุกสิ่งในนั้นได้แล้วแต่เขาต้องส่งมันมอบคืนให้กับพี่นางฟ้าแล้วในนั้นก็มีภาพรูปปั้นของพี่นางฟ้าด้วย การที่มันหายไปแบบนี้มันจึงทำให้หัวใจของต้วนอวี้เศร้าเป็นอย่างมาก
อย่างไรเสียแม้หลังจากที่หามาเป็นเวลานานแล้วเขาก็ยังหาม้วนคัมภีร์ไม่พบจนสุดท้ายต้วนอวี้ก็ทำได้เพียงยอมรับความจริงว่าม้วนคัมภีร์ได้หายไปแล้ว