กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 359 ตัดใจฝึกฝน
เช้าวันต่อมาเมื่อฮวงเฟิงตื่นขึ้นจากการสลบไปเพราะการฝึกเขาได้ยินเสียงคนกำลังทำความสะอาดในห้องของเขา จากนั้นเมื่อฮวงเฟิงอาบน้ำเสร็จเขาก็ไปนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น
”นั่งลงสิแล้วกินอะไรด้วยนะฉันเพิ่งสั่งอาหารมาให้” หลี่ปิงอวิ้นบอกให้ฮวงเฟิงนั่งลงแล้วซี้ไปที่อาหารเช้าบนโต๊ะขณะพูด
เขาหยิบขนมปังนึ่งขึ้นมาและพูดกับหลี่ปิงอวิ้นขณะกินขนมปังว่า:”เครื่องออกตอนเช้ากี่โมง”
”เก้าโมงเราควรจะออกไปได้แล้วหลังกินมื้อนี้เสร็จ” หลี่ปิงอวิ้นกล่าว
”เรา?”ใบหน้าของฮวงเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัยในขณะที่ปากของเขาก็หยุดขยับไปด้วย
”ใช่นายกับฉัน ก็เราไม่ใช่หรอ” หลี่ปิงอวิ้นกล่าวตอบ
”ฉันลืมบอกไปว่าฉันจะขอยมตัวนายไปเช้านี้แล้วฉันก็บอกหัวหน้าของนายไว้แล้วด้วยว่านายจะเป็นคนขับรถไปส่งฉันที่สนามบิน ”
”นี่เขาตัดสินใจไปโดยที่ไม่ถามความสมัครใจของผมเลยเหรอ”ฮวงเฟิงบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่อย่างไรเขาก็รู้มาว่ายังไงหลี่ปิงอวิ้นก็เป็นถึงตัวแทนของบริษัทและความร่วมมือกับบริษัทก็เพิ่งจะเริ่มขึ้นด้วย ดังนั้นคำขอของเธอทั้งซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
“อะไรกัน นายไม่เต็มใจเหรอ?” หลี่ปิงอวิ้นกล่าวขณะที่มองไปที่ฮวงเฟิง
”จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันผมแฮปปี้มากเลยนะที่จะได้พักและไม่ต้องไปทำงาน” ฮวงเฟิงกล่าว แต่ความจริงแล้วแม้ว่าเขาจะไปที่บริษัท เขาก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามหลี่ปิงอวิ้นก็ยังคงพอใจกับท่าทีของฮวงเฟิงที่แสดงออกมาในความเป็นจริงหลี่ปิงอวิ้นได้ตกลงกับทั้งซูหยูโม่และเสี่ยวเมิ่งเจียวมาก่อนหน้านั้นแล้วและพวกเขาก็ไม่ได้ติดอะไร โดยเฉพาะกับเซี่ยเมิ่งเจียวที่เธอเห็นว่าฮวงเฟิงดูไม่ค่อยได้ทำอะไรตอนอยู่ที่บริษัท
ในตอนที่เธอคุยโทรศัพท์เธอได้บอกขอบคุณทั้งซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวที่มารับเธอเธอจึงบอกไปว่าจะรีบถ่ายโฆษณาให้เร็วที่สุดและจะกลับไปยังเมืองเจียงในอีกไม่ช้า
คำพูดของหลี่ปิงอวิ้นทำให้ทั้งซูหยูโม่กับเซี่ยเมิ่งเจียวมีความสุขมากเพราะในฐานะของดาราที่มีชื่อเสียงตารางงานของเธอจึงแน่นมากจนพวกเขาคิดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการรอให้เธอมาถ่ายโฆษณาให้แต่เมื่อหลี่ปิงอวิ้นได้ให้สัญญากับพวกเขาไว้แล้วว่าหลังจากที่กลับสะสางเรื่องบางอย่างเรียบร้อยแล้วเธอจะรีบกลับมาทำงานต่อและถ่ายโฆษณาให้ที่เมืองเจียง เช่นนั้นพวกเขาทั้งสองจึงมีความสุขเป็นอย่างมาก
ในระหว่างที่ทานมื้อเช้าฮวงเฟิงก็เหลือบไปเห็นข้อความในมือถือของเขา อันที่จริงเป็นข้อความของซูหยูโม่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องมาที่บริษัทในช่วงเช้าแต่ให้ขับไปรับหลี่ปิงอวิ้นที่โรงแรมและส่งเธอที่สนามบิน สิ่งที่ซูหยูโม่ไม่รู้ก็คือ ตอนนี้ฮวงเฟิงอาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกันกับหรือแม้กระทั่งห้องเดียวกันกับหลี่ปิงอวิ้นด้วยซ้ำ..Aileen-novel
หลังจากที่เขาทานอาหารเสร็จเรียบร้อยฮวงเฟิงก็ได้ขับรถไปส่งหลี่ปิงอวิ้นภายใต้สายตาที่คอยจับตาดูของผู้จัดการของหลี่ปิงอวิ้นเนื่องจากเธอก็ได้นั่งอยู่ในรถของเขาเช่นกัน
ในขณะที่เขากำลังขับรถฮวงเฟิงก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องอุบัติเหตุของเมื่อคืนว่าคนที่เขามาช่วยจัดการเรื่องเขานั่นก็คือ ไป๋เสี่ยวโหรว
ไม่นานหลังจากฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ้นออกจากโรงแรมฮวงเฟิงก็พบว่าเป็นไป๋เสี่ยวโหรวที่เข้ามาช่วยเขาสะสางเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หลังจากที่เรื่องเกิดขึ้น ตำรวจท้องถื่นก็ได้มายังที่เกิดเหตุเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตมากในคราวเดียวกันจึงกลายเป็นคดีใหญ่ไปโดยปริยาย แต่ไป๋เสี่ยวโหรวได้ติดต่อกับตำรวจโดยบอกไปว่าคดีนี้ถูกโอนไปให้หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติแล้ว ดังนั้นตำรวจท้องถิ่นจึงไม่จำเป็นต้องเข้ามจัดการ ส่วนเรื่องรายละเอียดของคดี ไป๋เสี่ยวโหรวก็ไม่ได้บอกกับตำรวจพวกนั้นไปเช่นกัน
จึงเป็นผลทำให้ทั้งฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ้นหลับสนิทตลอดคืนโดยที่ไม่มีตำรวจมารบกวนพวกเขาเพื่อมาสอบสวนคดีพวกนี้และพวกเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องไปให้การณ์หรือรับสารภาพที่สถานีตำรวจอีกด้วยเพราะคดีทั้งหมดได้ถูกโอนไปยังหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติแล้ว
“เรื่องนี้ยังไม่จบ คนจากตระกูลหลี่ยังไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ พวกกองทหารรับจ้างปีศาจก็เหมือนกัน ฝ่ายนั่นก็สูญเสียคนไปจำนวนมากกับการมาที่เมืองจีนครั้งนี้ด้วย อีกอย่างรองกัปตันของพวกเขาก็ตายด้วย ดังนั้นฝ่ายนั้นต้องกลับมาแก้แค้นแน่” ไป๋เสี่ยวโหรวพูดกับฮวงเฟิงทางโทรศัพท์
“จะมาหาผมไหมครับ” ฮวงเฟิงถาม
”ฉันคิดว่าไปอย่างน้อยก็ในตอนนี้ตัวตนของนายก็ยังไม่ถูกเปิดเผย ยังไงเรื่องนี้ก็ยังปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด” ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋เสี่ยวโหรวฮวงเฟิงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เขาไม่เหมือนกับไป๋เสี่ยวโหรวและคนอื่น ๆ ที่เมื่อไม่มีภารกิจก็จะกลับไปยังฐานของตน ฮวงเฟิงยังคงทำงานปกติเหมือนคนทั่วไปและหากอีกฝ่ายต้องการลอบโจมตีเขา เขาเองไม่สามารถป้องกันตัวเองได้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ไปแล้วจึงไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำไม่ได้เขาได้ แต่ก็ยังหวังว่าเมื่ออีกฝ่ายมาที่ประเทศจีน ไป๋เสี่ยวโหรวหรือพวกพ้องของเขาจะหาพบได้ทันเวลา หากใช้วิธีนี้บวกกับถ้าเขาพร้อมเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา
เมื่อฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ้นมาถึงสนามบินก็เหลือเวลาอีกไม่มากนักที่พวกเขาจะต้องขึ้นเครื่องบินแล้ว
”ผมไม่ลงครับผมแค่มาส่งพวกคุณที่นี่” ฮวงเฟิงกล่าวกับหลี่ปิงอวิ้น
หลี่ปิงอวิ้นเป็นถึงดาราดังจึงมักมีปาปารัสซี่คอยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่น สนามบิน เป็นต้น ดังนั้น หากเขามาส่งหลี่ปิงอวิ้นที่สนามบินจึงมีโอกาสมากที่ปาปารัสซี่พวกนั้นจะพบพวกเขาได้และอาจสร้างปัญหาให้กับหลี่ปิงอวิ้นในอนาคตได้
หลี่ปิงอวิ้นเข้าใจชัดเจนว่าฮวงเฟิงหมายถึงอะไรเธอลังเลที่จะแยกทางจากฮวงเฟิง แต่สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงเฝ้ามองรถของเขาที่ขับออกไป
”ปิงอวิ้นเธอเดินมาไกลมากแล้วนะ เราเข้าไปข้างในกันเถอะ” ผู้จัดการของหลี่ปิงอวิ้นกล่าว
”ใช่”หลี่ปิงอวิ้นพยักหน้า
”ปิงอวิ้นคุณไม่ได้..?” ผู้จัดการของเธอลังเลเล็กน้อยที่ตะถามแต่สุดท้ายก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี
”นี่เธอกำลังจะพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”ใบหน้าของหลี่ปิงอวิ้นแดงขึ้นและหลังจากที่เธอพูดจบเธอก็หันกลับเดินเข้าไปในสนามบินทิ้งผู้จัดการที่ยืนมองด้วยความสับสนขณะมองไปทางที่ฮวงเฟิงเพิ่งจากไปและสงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เนื่องจากเขาไม่จำเป็นต้องไปที่บริษัท ในตอนเช้าฮวงเฟิงจึงเตรียมตัวกลับบ้าน หนึ่งในนั้นคือการดูว่ามีของดีอยู่ในกล่องเก็บของหรือไม่และอีกอันก็ให้อาหารเสี่ยวไป๋
แน่นอนว่าหลังจากฮวงเฟิงเข้ามาในบ้านได้มีหมาป่าตัวเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาเขาแล้วเอาตัวถูไปมาที่ขาของเขาอย่างออดอ้อนจนทำให้ในตอนนี้ฮวงเฟิงมีสีหน้าเศร้าและเสียใจด้วยความรู้สึกขณะมองไปที่หมาน้อยนั้น
”เอาล่ะมันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรทิ้งนายไว้ตัวเดียวในบ้านของฉัน เดี๋ยวฉันจะหาอะไรให้แกกินนะ ” ฮวงเฟิงพูดในขณะที่ลูบหัว ส่วนเสี่ยวไป๋ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
เจ้าตัวเล็กคงจะหิวจริงๆคราวนี้มันคงจะกินอาหารเยอะมาก แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นฮวงเฟิงยังเตรียมเนื้อไว้ให้ด้วยเพราะเจ้าหนูตัวเล็กคนนี้เป็นหมาป่าและแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์สวรรค์ แต่ก็ยังชอบกินเนื้ออยู่
หลังจากปลอบเด็กน้อยไปแล้วฮวงเฟิงก็ไปที่ห้องนอนเพื่อดูว่ามีอะไรใหม่ในกล่องจักรวาลที่เขาพูดถึงหรือไม่ ครั้งนี้กล่องจักรวาลก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง จนใบหน้าของฮวงเฟิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจปนสุข