กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 375 ย้อนไปอีกครั้ง
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทั้งสองคนเดินไปตามถนนด้วยกันสักครู่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากนัก แต่ฮวงเฟิงก็มีความสุขมากที่เขาตอบตกลงที่จะไปร่วมงานเลี้ยงในคืนพรุ่งนี้
หลังจากที่แยกจากชิวหนิงซวงแล้วฮวงเฟิงไม่ได้ตรงกลับบ้านในทันที แต่เขากลับนั่งแท๊กซี่ไปยังวิลล่าของถงเฉียนจุ้น
ภายในรถแท๊กซี่ฮวงเฟิงก็รู้สึกเสียใจอีกครั้งจากความไม่สะดวกสบายของการไม่มีรถ แต่ถึงแม้ว่าโรงงานจะเริ่มมีเงินคืนทุนบ้างแล้ว แต่เงินทั้งหมดนั้นก็มีประโยชน์สำหรับเขา มันสามารถใช้เพื่อการขยายการผลิตของโรงงาน หรือใช้ในการเตรียมโรงกลั่นเหล้าก็ได้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะมีเงินในบัญชีอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถ
เมื่อฮวงเฟิงมาถึงบริเวณ์ด้านนอกของวิลล่าที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้เขาก็ถอนหายใจออกมาครั้งที่แล้วเขามาที่นี่พร้อมกับไป่เสี่ยวโหรว ที่นี่มีผู้คนมากมายคอยเฝ้าระวังรวมไปถึงบอดี้การ์ดลาดตระเวน
อย่างไรก็ตามตอนที่เขามาถึงในเวลานี้บอดี้การ์ดทั้งหลายก็ได้หายไปหมดแล้ว และมีเพียงกล้องวงจรปิดเพียงไม่กี่ตัว วิลล่าของถงเฉียนจุ้นในตอนนี้มืดสนิทไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตเลย
เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางประการดังนั้นหลังจากหยุดอยู่ชั่วครู่ เขาก็ปีนขึ้นไปที่ระเบียงด้านบนชั้นสองอย่างง่ายดาย ตรงนี้เป็นจุดอับที่กล้องวงจรปิดส่องไม่ถึงดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับภาพได้
เขาเดินจากระเบียงบนชั้นสองไปยังห้องนอนและจากนั้นก็ไปยังโถงทางเดินแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกเลยว่ามีคนอยู่ ไม่มีแม้แต่แสงไฟและมีเพียงซากปรักหังพักจากการต่อสู้ที่เกิดก่อนหน้านี้ มีคนมากมายตายอยู่ที่นี่และในเมื่อเกิดคดีใหญ่ที่นี่ดังนั้นสถานที่นี้จึงถูกปิดโดยสถานีตำรวจ
ฮวงเฟิงพยายามอย่างมากที่จะไม่สัมผัสอะไรที่นี่เพื่อไม่ให้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสงสัยเขาเพราะเขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะหาหลักฐาน
เป้าหมายหนึ่งของไป่เสี่ยวโหรวในการมาที่จังหวัดชิงก็เพื่อสืบสวนหาคนที่อยู่เบื้องหลังถงเฉียนจุ้น
เดิมทีการสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองและการค้าแบบนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรความมั่นคงแห่งชาติแต่ท้ายที่สุดแล้วถงเฉียนจุ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ามนุษย์ดังนั้นนี่จึงเป็นปัญหาขององค์กรความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่องค์กรความมั่นคงแห่งชาติจะเข้ามายุ่งในเรื่องนี้
แน่นอนว่าหากองค์กรความมั่นคงแห่งชาติต้องการตรวจสอบก็จะดำเนินการเป็นความลับเช่นกันในขณะที่สมาชิกของคณะกรรมการทางวินัยจะดำเนินการแบบโจ่งแจ้งโดยไม่มีการแทรกแซงกันนอกจากนี้คนจากคณะกรรมการทางวินัยยังไม่ทราบว่าคนจากองค์กรความมั่นคงแห่งชาติยังคงพยายามสืบสวนเรื่องนี้อย่างลับๆ ดังนั้นหลังจากที่ฮวงเฟิงเข้ารับภารกิจแม้ว่าฮวงเฟิงจะต้องการสืบสวน แต่ก็ทำได้เพียงอย่างลับๆ…ไอลีนโนเวล
อย่างไรก็ตามการสืบสวนของฮวงเฟิงในสองสามวันนี้ไม่ได้ผลคืบหน้ามากนักเขาไม่รู้จักถงเฉียนจุนและไม่รู้ว่าปกติแล้วอีกฝ่ายสนิทกับใคร แต่เพียงเพราะพวกเขาสนิทสนมกันแบบผิวเผินนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทำความผิด หากพวกเขามีธุรกรรมลับๆ บางอย่างที่พวกเขาไม่ต้องการให้เห็น พวกเขาก็จะไม่บอกให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
ฮวงเฟิงที่บ้านพักของถงเฉียนจุ้นในวันนี้ก็เพื่อมาดูว่าเขาจะพบอะไรที่เป็นประโยชน์ที่นี่หรือไม่แน่นอนว่าฮวงเฟิงไม่กล้าที่จะหวังสูงเกินไปเพราะหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ก็มีกลุ่มคนจำนวนมากที่เข้ามาตรวจสอบ มีทั้งตำรวจ คณะกรรมการทางวินัยและหุ้นส่วนห้างสรรพสินค้าของถงเฉียนจุ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าโอกาสจะไม่สูงนักแต่ฮวงเฟิงก็ยังคงเข้ามาดู
วิลล่าของถงเฉียนจุ้นนั้นใหญ่มากแม้ว่าบางส่วนจะถูกทำลายไปแล้วจากการต่อสู้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงอยู่ในสภาพดี จากสถานที่เหล่านี้เราสามารถบอกได้ว่าถ้าต้องทำการปรับปรุงวิลล่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากเลยทีเดียว
”คนรวยพวกนี้รู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขจริงๆ”ฮวงเฟิงพึมพำในขณะที่เขาใช้ไฟฉายขนาดเล็กกวาดมองไปรอบๆ เขายังจำได้ว่าเขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ได้มีเงินขาดมือในตอนที่มีเงินเพียงไม่กี่แสน แต่ตอนนี้ที่เขาคิดเรื่องนี้มันช่างตลกจริงๆ เงินเล็กน้อยของเขาในสายตาของคนรวยพวกนี้คงมีค่าเพียงอาหารไม่กี่มื้อ
เช่นเดียวกับที่ฮวงเฟิงกำลังสังเกตบริเวณโดยรอบด้วยความรู้สึกอิจฉาหูของเขาก็ได้ยินอะไรบางอย่างและเขาก็รีบปิดไฟฉายทันทีเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ กำลังใกล้เข้ามาจากทางระเบียงที่เขาเข้ามา เห็นได้ชัดว่ามีบางคนมาและพวกเขาก็บังเอิญเข้ามาในสถานที่เดียวกัน
ฮวงเฟิงไม่ได้ทำอะไรผลีผลามและซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามอีกฝ่ายก็แอบเข้ามาเช่นกันและเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีเจตนาแอบแฝงและไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพวกเดียวกับเขา
ฮวงเฟิงขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วแม้ว่าอีกฝ่ายจะระมัดระวังมาก แต่ความสามารถในการได้ยินของฮวงเฟิงนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเทียบได้ แม้ว่าเขาจะยังมองไม่เห็น แต่จากเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบา เขาก็เดาได้คร่าวๆ ว่าอาจจะมีประมาณสามหรือสี่คน
“มันน่าจะอยู่ในห้องนี้”จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้น
”เบาเสียงลงหน่อย!”อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าแม้ว่าเสียงของเขาจะเบาพอ แต่ฮวงเฟิงก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน
“จะไปกลัวอะไรล่ะมองดูความมืดตรงนี้สิ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีมนุษย์หน้าไหนอยู่ที่นี่หรอก แม้แต่ยุงก็ยังไม่มี แล้วจะกลัวอะไรล่ะ?” เจ้าคนนั้นกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
“เอาล่ะระวังตัวไว้ดีกว่านะ” มีคนแนะนำ
แสงนั้นไม่ได้สว่างมากจนเกินไปและใครก็ตามที่อยู่ด้านนอกวิลล่าก็ไม่สามารถมองทะลุมาได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามในที่มืดเช่นนี้มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยฮวงเฟิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีคนสี่คนอยู่อีกด้านหนึ่งและเขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างคร่าวๆ ว่าอีกด้านหนึ่งนั้นเป็นอย่างไร
ทั้งสี่คนเดินไปยังห้องที่คนก่อนหน้านี้พูดถึงอย่างระมัดระวังฮวงเฟิงตระหนักว่าห้องนั้นอยู่ไม่ไกลจากห้องของเขาที่เขาเพิ่งจะค้นไป แต่เขากลับไม่พบอะไรในห้องนั้น เป็นไปได้ไหมว่าคนพวกนี้รู้อะไรบางอย่าง?
หลังจากรอให้ทั้งสี่คนเข้าไปในห้องแล้วฮวงเฟิงก็เดินตามหลังพวกเขาเข้าไป ไม่รู้ว่าพวกเขารู้สึกปลอดภัยหรือว่าพวกเขาประมาทกันแน่ แต่คนสุดท้ายที่เข้าไป ทำได้แค่เพียงล๊อคประตูที่อยู่ด้านหลังเขาเท่านั้น แต่ด้วยการหมุนตัวเพียงเล็กน้อยฮวงเฟิงก็เข้าในห้องนั้นได้ ขณะที่คนทั้งสี่คนที่อยู่ด้านหน้าไม่รู้เรื่องเลย