กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 379 เทียนจุน
“ใคร?”ใครโทรมา?” พี่เฟยวางแก้วเหล้าในมือ เพราะว่าเขานั้นกำลังลุกลี้ลุกลนจนเขาวางแก้วเหล้าในมืออย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“ไอ้คนที่นำทีมไปนั่นน่าจะเป็นเทียนจุนนะ”คนที่เข้ามารายงานกล่าวอย่างไม่มั่นใจนักเพราะว่าเขานั้นไม่สนิทกับเทียนจุนและเทียนจุนเองก็มาปรากฎตัวต่อสาธารณะเพียงแค่บางครั้งบางคราว
“เทียนจุนงั้นเหรอ?”พี่เฟยขมวดคิ้วและพูดทวน เขาคิดว่าเขาไม่รู้จักคนๆ นี้และมองหน้าชายคนนั้นด้วยสีหน้าที่งุนงง
“เทียนจุนคนนี้เพิ่มจะมีอำนาจมาเมื่อไม่นานนี้ผมได้ยินมาว่าเขาเคยทำงานกับพี่เปียวมาก่อน และหลังจากที่พี่เปียวตายลูกน้องที่เคยอยู่ข้างกายพี่เปียวก็หันมาติดตามเทียนจุนแทน ผมได้ยินมาว่าเขามีฝีมือพอสมควร” ชายคนนั้นอธิบายให้พี่เฟยฟัง
“เพี๊ยะ!”ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็โดนตบเข้าที่ใบหน้า เขามองดูพี่เฟยด้วยความเศร้าหมอง เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโดนตบหน้า
“ไอ้ขี้ผงนั่นมันทำให้แกกลัวได้ถึงขนาดนี้เลยเรอะ?นี่แกชิงหมาเกิดมาหรือยังไง? เฮ้อ!” จริงๆ แล้ว เขาต้องการที่จะกลบเกลื่อนความจริงที่เขาได้เผลอสูญเสียการควบคุมตัวเอง เขาคิดว่ามีคนที่เก่งกาจมาหยามเขาถึงหน้าประตูและทำให้เขาเสียหน้าแต่ตอนนี้เขากลับเพิ่งรู้ว่ามันเป็นแค่คนที่ไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
สำหรับพี่เฟยนั้นเทียนจุนนั้นก็เป็นเพียงคนที่ไม่มีตัวตน เขารู้จักพี่เปียวแต่พี่เปียวเองก็ไม่ได้มีอำนาจมากนักและเทียบกับเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้พี่เปียวได้ตายไปแล้วและลูกน้องของเขาที่เหลืออยู่ได้รวมตัวกันและคงไว้ซึ่งอำนาจนั้น
“ครับครับ” ชายคนนั้นรีบตกลงทันที แต่จากนั้นก็กระซิบว่า “แต่เทียนจุนคนนั้นเพิ่งจะล้มรุ่นพี่สองคนที่อยู่ด้านนอกไปนะครับ”
“เพี๊ยะ!”
ในเวลานี้พี่เฟยไม่ได้ตบหน้าเขาแต่เขาใช้มือทุบลงบนโต๊ะแทน เขาลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธและกล่าวว่า “แม่งเอ้ย ไอ้ขี้หมาเอ้ย กล้าดีนักนะที่มาหาเรื่องฉัน นี่มึงสะกดคำว่าตายไม่เป็นใช่ไหม!”
“ไอ้ลูกสมุนจอมยโสนั่นมันมาจากที่ไหนกัน?มันกล้ามากนะที่มาหาเรื่องถึงที่นี่”
“พี่เฟยรีบออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปสั่งสอนมัน!”
ลูกสมุนที่อยู่รายล้อมต่างก็พากันส่งเสียงเชียร์เมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้การนำของพี่เฟย พวกเขาจึงได้ขยายอิทธิพลได้อย่างรวดเร็วและในทางปฏิบัติก็ยังไม่เคยเจอการต่อต้านใดๆ ดังนั้นพวกเขาจึงค่อยๆ มีนิสัยที่ดูถูกคนอื่นอย่างช้าๆ
“ไปกันออกไปข้างนอก ไปดูสิว่าไอ้เจ้าเทียนจุนคนนี้มันกล้าหาญแค่ไหน” พี่เฟยกล่าวพร้อมกับเดินนำหน้าออกไป
ที่ด้านนอกประตูห้องมีเสียงเพลงอึกทึกดังมาจากห้องโถงชายและหญิงที่อยู่ข้างในกำลังเต้นอย่างเมามัน บรรยากาศดูอบอุ่นมาก และเห็นได้ชัดว่าบาร์แห่งนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดี
ที่มุมหนึ่งของบาร์เทียนจุนกำลังดื่มเหล้าอยู่กับลูกน้องอีกสองสามคน เมื่อมองไปที่ผู้คนที่เต้นอยู่ในห้องโถง สีหน้าของเขาไม่ได้เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนกแต่อย่างใด แต่กลับมีสีหน้าที่ผ่อนคลายราวกับว่าเขามาที่นี่เพื่อนั่งเล่นไม่ใช่มาเพื่อหาเรื่อง
“คุณพี่ช่วยเรียกพี่ๆที่เหลือมานี่หน่อยได้ไหม?” น้องเล็กที่อยู่ข้างๆ เทียนจุนไม่ได้สงบเสงี่ยมอย่างเช่นเทียนจุน เทียนจุนมาที่นี่แต่เขาไม่ได้พาลูกน้องทั้งหมดที่มีของเขามาด้วย และในช่วงเวลานี้เพราะลุงหลี่เพิ่งจะตายไป เส้นทางของพวกเขาจึงวุ่นวายมากและทุกคนต่างก็ต้องการแย่งชิงอาณาเขตของตนไป ซึ่งเทียนจุนเองก็มีชื่อเสียงอยู่แล้วและเขาไม่ต้องการให้อาณาเขตของเขาถูกคนอื่นยึดครองไป เขาจึงต้องออกมาเพื่อแย่งชิง….ไอลีนโนเวล
ในตอนนี้คนที่มากับเขาไม่ได้สงบเสงี่ยมเลยเดิมทีพี่เฟยคนนี้มีอิทธิพลมากกว่าพี่เปียวที่เคยเฟื่องฟู และในช่วงเวลานี้อีกฝ่ายได้ขยายอิทธิพลออกไป แต่เทียนจุนก็สามารถรวบรวมคนบางส่วนจากพี่เปียวมาได้ ด้วยการเปรียบเทียบดังกล่าวช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงยังคงมีค่อนข้างมาก
“ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องห่วง” เทียนจุนกล่าว ความจริงแล้วในใจเขาเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่เขาไม่อาจที่จะเผยความขลาดกลัวให้ลูกน้องเห็นได้
เหตุผลที่เขาเลือกพี่เฟยก็เพราะเขาเติบโตขึ้นเร็วมากและภายในของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก
“พวกแกคนไหนชื่อเทียนจุน!?”ในเวลานี้พี่เฟยได้นำคนของเขามาอยู่ตรงหน้าแล้วและเดินเข้ามาหาด้านของเทียนจุนและถามออกมา
“ฉันเอง”เทียนจุนลุกขึ้นยืนและกล่าว
“แกเองเหรอที่อยากจะมาลองดีกับฉัน?”พี่เฟยมองไปที่เทียนจุนและกล่าว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีคนมาด้วยเพียงไม่กี่คน ท่าทางดูถูกของพี่เฟยก็ยิ่งปรากฎอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
“ใช่แล้วบาร์นี้ก็ไม่เลวเลยนะ ในอนาคตฉันก็อยากจะเข้ามาดูแลที่นี่ พี่เฟยมีเส้นสายตั้งเยอะแยะ ฉันไม่คิดว่าพี่เฟยจะใส่ใจเรื่องแค่นี้หรอกนะ จริงไหม?” เทียนจุนกล่าวเสียงเรียบ
“นี่แกคิดว่าแกเป็นใคร?แกอยากจะให้ฉันยกให้แกอย่างนั้นเหรอ? งั้นถ้าฉันจะขอเอากับเมียแก แกจะยอมไหมล่ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า พี่เฟยเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าอกของเทียนจุนขณะที่พูด ในขณะที่ลูกน้องของเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“นี่หมายความว่าพี่เฟยจะไม่ยอมยกที่นี่ให้ฉันใช่ไหม?”เทียนจุนขมวดคิ้วและกล่าว
“ยกให้แม่มึงน่ะสิ!ไอ้ปัญญาอ่อนนี่มันมาจากไหนกันถึงได้กล้าพูดแบบนี้ นี่มึงรนหาที่ตายซะแล้วนะ!” พี่เฟยกล่าวขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยน
สีหน้าของเทียนจุนเองก็เปลี่ยนไปเช่นกันเขาคว้าเอานิ้วมือของพี่เฟยไว้ด้วยมือข้างเดียวและบิด ทำให้นิ้วของพี่เปียวถึงกับบิดในทันที
“อ๊ากเจ็บนะเว้ย แม่งเอ้ย! กูจะฆ่ามึง! พวกเราลุยมันเลย! ฆ่ามันซะ!” พี่เฟยร้องออกมาทันทีอย่างกับหมูที่กำลังจะถูกเชือดแต่มันก็ถูกเสียงเพลงในบาร์แห่งนั้นกลบจนมิด
ลูกน้องทั้งหมดของพี่เฟยเองก็เห็นว่าลูกพี่กำลังถูกทำร้ายและทันใดนั้นพวกเขาก็เริ่มตะโกนเสียงดังโหวกเหวกขณะที่พุ่งตัวเข้าไปหาพี่เฟย
จากนั้นเทียนจุนก็เตะเข้าไปที่เป้าของพี่เฟยเป็นเหตุให้เขาตัวงอราวกับกุ้งเลยทีเดียวและทรุดตัวลงบนพื้นในขณะที่เทียนจุนนั้นก็เร่งฝีเท้าเข้าไปหาบรรดาลูกกระจ๊อกของพี่เฟยและเสียงต่อสู้อันอึกทึกครึกโครมก็เริ่มขึ้น
ตอนที่พวกเขาอยู่ที่มุมหนึ่งภายในบาร์แห่งนั้นทั้งห้องโถงนั้นเสียงเพลงดังสนั่นหนุ่มสาวทั้งหลายไม่ได้สังเกตุว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนั้น อย่างไรก็ตามบางคนที่อยู่ใกล้เคียงก็เห็นเหตุการณ์แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะว่าภายในบาร์แห่งนี้การทะเลาะวิวาทนั้นเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนเหล่านี้ไม่รู้ก็คือคนเหล่านี้ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นคือคนที่ดูแลสถานที่แห่งนี้
“อ้าวทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?” เดิมทีแล้วฮวงเฟิงต้องการที่จะค้นหาตัวของพี่เฟยอย่างช้าๆ แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะเจอตัวพี่เฟยอยู่ที่มุมนี้ แล้วที่อยู่ข้างๆ พี่เฟยนั่นก็คือเทียนจุนนั่นเอง ซึ่งนั่นทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก