กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 394 บาดเจ็บ
ถงเฉียนตกใจแต่เขาก็ไม่คิดที่จะขัดขืนเขาไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านใดๆ แต่ในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะนำตัวถงเฉียนไปที่รถก็เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของเขา จู่ๆ ก็มีรถตู้วิ่งเข้ามาหาพวกเขาจากระยะที่ไม่ไกลนักและทุกคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกชน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นไหวตัวทันแต่พวกเขาบางคนก็ถูกชนจนสลบเหมือดในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่คิดที่จะชะลอความเร็วลงเลย ดังนั้นคนอื่นๆ ที่ถูกชนต่างมีอาการบาดเจ็บสาหัสและอีกส่วนหนึ่งก็ต้องการที่จะตอบโต้แต่ได้มีคนบางส่วนออกมาจากรถตู้และเริ่มการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นตัวตนของคนพวกนั้นแล้วไม่เพียงแต่พวกเขาไม่คิดที่จะหยุดการกระทำพวกเขายิ่งต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนใช้แม้กระทั่งมีดสั้น อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักของคนพวกนี้ก็คือถงเฉียน และพวกเขาก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากจะมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ หลังจากที่ทำร้ายเจ้าหน้าตำรวจเหล่านั้นแล้ว คนพวกนั้นก็นำตัวถงเฉียนขึ้นรถตู้และขับหนีไป
ตั้งแต่ต้นจนจบถงเฉียนนั้นอยู่ในความตกตะลึง เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้คนมากมายถึงต้องการที่จะจับตัวเขาและทำไมคนเหล่านี้ถึงได้ต่อสู้กัน แต่เมื่อเขาถูกลากตัวขึ้นรถตู้นั่นแหละเขาจึงได้รู้สึกตัวและพบว่ากำลังมีบางสิ่งผิดปกติ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนเหล่านั้นก็ทำได้อย่างมากที่สุดคือโทรแจ้งตำรวจแต่ไม่มีใครเลยที่จะกล้าหาญเข้าไปช่วยถงเฉียนจากฆาตกรกลุ่มใหญ่นั้น ดังนั้นถงเฉียนจึงถูกพาตัวไปโดยไม่เต็มใจ
หลังจากที่ฮวงเฟิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็แอบคิดว่าเขานั้นประมาทนัก แม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับคนเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะบ้าดีเดือดขนาดนี้ในการโจมตีตำรวจในเวลากลางวันแสกๆ เช่นนี้ ถ้าเขาเตือนตำรวจเหล่านั้นเสียก่อน เรื่องต่างๆ ก็อาจจะไม่เป็นเช่นนี้
ฮวงเฟิงเองก็อยากจะไล่ตามไปในตอนนั้นแต่ว่าเขาก็มาช้าพอสมควรและอีกฝ่ายก็คงไปไกลแล้วดังนั้นถึงแม้ว่าเขาอยากจะไล่ตามไปแต่เขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว
รถพยาบาลและรถตำรวจหลายคันได้มาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วในเวลานี้คนที่นำกลุ่มนั้นคือนายตำรวจคนที่ฮวงเฟิงรู้จัก เขาก็คือ “น้องหวัง” คนที่ผู้กำกับชิวเคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้.ไอรีนโนเวล.
“อ้าวคุณฮวง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” เมื่อเห็นว่าอยู่ฮวงเฟิงก็มาปรากฎตัว เจ้าหน้าที่หวังก็ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะถามขึ้นมาอย่างสุภาพ เขาเป็นคนที่มีความคิดรอบคอบ ตั้งแต่ที่เขาได้เห็นความสนิทสนมระหว่างฮวงเฟิงและผู้กำกับชิว เขาก็ไปสืบค้นข้อมูลของฮวงเฟิงอย่างลับๆและพบว่าเขาเป็นเพียง รปภ. ธรรมดาๆ นอกจากนั้นเขาก็ยังเป็นเจ้าของโรงงานขนาดเล็กอีกด้วยถึงแม้ว่าเขาจะอยากรู้เป็นอย่างมากว่าทำไมทั้งๆ ที่ฮวงเฟิงมีโรงงานขนาดเล็กเป็นของตัวเองแล้วยังต้องมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก
ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่หวังจึงเข้าใจว่าฮวงเฟิงจะต้องมีบางอย่างพิเศษเป็นแน่ดังนั้นเมื่อเขาเห็นฮวงเฟิงเขาจึงทำตัวสุภาพเป็นอย่างมาก
“ผมก็แค่บังเอิญผ่านมาน่ะและเห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตำรวจพวกนั้นเพราะงั้นผมก็เลยถอยมาอยู่ข้างหลัง” ฮวงเฟิงกล่าวเตือนเขาเพราะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากจะให้คนรู้มากนักเกี่ยวกับตัวตนของเขาในฐานะสมาชิกขององค์กรความมั่นคงแห่งชาติซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับเขานัก
ด้วยคำบอกเล่าของฮวงเฟิงเจ้าหน้าที่หวังไม่ได้เชื่อเลยสักนิดแต่เขาก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ในเมื่อฆาตกรพยายามที่จะฆ่าพวกเขาอย่างเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บพวกนั้นก็เห็นหน้าตาทั้งหมดของพวกคนร้าย ซึ่งก็ไม่ได้มีฮวงเฟิงรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สงสัยในตัวฮวงเฟิงเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่พูดคุยกับฮวงเฟิงอยู่สักครู่เจ้าหน้าที่หวังก็ไปสอบสวนพยายามหลายๆ ปากที่อยู่รอบๆ เขาและทิ้งไว้กับลูกน้องของเขา จากนั้นฮวงเฟิงก็จากไปพร้อมกับพวกเขา
ในตอนนี้ฮวงเฟิงยังไม่ได้ติดต่อไปยังผู้กำกับชิวในทันทีเพื่อที่จะส่งมอบสมุดบัญชีและปากกาบันทึกที่อยู่ในมือของเขาให้ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อใจผู้กำกับชิวแต่มันก็ยากที่จะพูดเผื่อว่ามันจะไม่ใช่อุบัติเหตุ ดังนั้นฮวงเฟิงจึงได้ตัดสินใจที่จะลองดูเนื้อหาในสมุดบัญชีเล่มสุดท้ายนี้
“ฉันคิดว่าคุณได้รับมอบหมายเรื่องการวางระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่ใช่เหรอ?แล้วนี่คุณออกไปเที่ยวที่ไหนมา” เมื่อฮวงเฟิงกลับมาที่ชอปเปิดตัวของเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป เขาก็เห็นว่าเซี่ยเมิ่งเจียวได้รอเขาอยู่แล้ว เมื่อมองจากสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเธอแล้วเห็นได้ชัดว่าเธอได้สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนโดดงานไปและตอนนี้เธอก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก
“ผมก็แค่ไปที่อีกชอปหนึ่งเพื่อจะดูอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของพวกเขา”ฮวงเฟิงกล่าวอย่างไม่ลังเล คำพูดของเขาเป็นเรื่องไร้สาระเขาจะเป็นสิ่งของภายในร้านได้อย่างไรกัน?
เซี่ยเมิ่งเจียวเข้าใจเช่นนี้ดังนั้นความโกรธบนใบหน้าของเธอจึงยิ่งทวีคูณ อย่างไรก็ในขณะที่เธอกำลังจะโกรธจนขาดสตินั้น พี่หวังก็เข้ามารายงานฮวงเฟิงว่าอุปกรณ์ได้ติดตั้งเรียบร้อยแล้วและแจ้งให้เขาไปดู
ฮวงเฟิงไม่ได้ใส่ใจกับสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเซี่ยเมิ่งเจียวและรีบเดินหนีไปในทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้อำนวยการเซี่ยงั้นเหรอ?”พี่หวังซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยเมิ่งเจียวจึงได้เอ่ยถามออกมาเบาๆ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันคงเป็นวันนั้นของเดือนมั้ง” ฮวงเฟิงส่ายศรีษะและกล่าวออกมา
“อ้อมิน่าล่ะสีหน้าของเธอถึงไม่ค่อยดีนัก ผู้อำนวยการเซี่ยนี่สู้งานจริงๆ เลยนะ ขนาดไม่ค่อยสบายก็ยังมาตรวจงานอีก” พี่หวังกล่าวด้วยความชื่นชม เขาเชื่อว่าในเมื่อนายใหญ่นั้นรู้สึกไม่สบายเธอก็น่าจะพักผ่อนแต่เซี่ยเมิ่งเจียวก็ยังคงยุ่งกับงาน
ฮวงเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง“ผู้อำนวยการเซี่ยนี่ไงเป็นแบบอย่างของพวกเรา”
เซี่ยเมิ่งเจียวที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างฮวงเฟิงและพี่หวังไม่เช่นนั้นแล้วเธอก็คงจะหัวเสียและเฉ่งฮวงเฟิงและพี่หวังไปแล้ว
พี่หวังและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆเห็นได้ชัดว่ามีประสบการณ์ในการดำเนินงานเรื่องเหล่านี้มาก่อน อย่างน้อยหลังจากที่ได้เห็นผลลัพธ์ฮวงเฟิงก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
เซี่ยเมิ่งเจียวนั้นเห็นได้ชัดว่ายังมีเรื่องให้ทำอีกมากมายเธอจึงไม่อยากเปลืองพลังงานไปกับฮวงเฟิงดังนั้นเมื่อฮวงเฟิงและคนอื่นๆ ออกมาเธอก็ได้จากไปแล้ว ฮวงเฟิงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งออกถึงแม้ว่าเขาจะสามารถหลอกเซี่ยเมิ่งเจียวได้แต่ถ้าถูกจับได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย
และในตอนนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่เซี่ยเมิ่งเจียวเท่านั้นที่กำลังโมโหคนที่อยู่ในรถตู้ก็กำลังโมโหอยู่เช่นกัน หลังจากที่พวกเขาได้พาตัวถงเฉียนขึ้นรถมา พวกเขาก็ค้นตัวถงเฉียนทุกซอกทุกมุมรวมถึงกระเป๋าใบโตที่เด่นสะดุดตาของเขาด้วย
“ไม่มี”
“มันไม่ได้อยู่ที่นี่”
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ค้นหาจนทั่วตัวของถงเฉียนและกระเป๋าใบใหญ่ของเขาแล้วพวกเขาก็ไม่พบสิ่งที่พวกเขากำลังตามหา นอกเหนือไปจากฟ่อนเงินสดแล้วถงเฉียนก็ไม่ได้เอาอะไรมาด้วย
“บอกมานะสมุดบัญชีเล่มนั้นอยู่ที่ไหน?” หนึ่งในพวกนั้นชี้มีดสั้นของเขาไปที่ถงเฉียนและถาม
“อย่าฆ่าฉันนะอย่าฆ่าฉันเลย!” ถงเฉียนหวาดกลัวคนเหล่านั้นเป็นอย่างมากในขณะที่เขาร้องขอชีวิตออกมาเสียงดัง “ฉันไม่มีสมุดบัญชีอะไรนั่น ฉันมีแต่เงิน อย่าฆ่าฉันเลย แล้วฉันจะยกเงินให้พวกแกนะ!”