กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 397 งานเลี้ยง
สถานที่ที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้นั้นเป็นอย่างที่ชิวหนิงซวงพูดมันคือวิลล่าส่วนตัวและวิลล่าหลังนั้นก็เป็นของคนที่จัดงานเลี้ยงขึ้นในวันนี้
“ว้าวนี่พวกคุณมาที่นี่เพื่อจัดงานโชว์รถสินะ” เมื่อรถที่ฮวงเฟิงนั่งมาถึงจุดหมายปลายทาง เขาก็ได้เห็นว่ามีรถหลายคันจอดอยู่ด้านหน้าของวิลล่าแห่งนั้น รถพวกนี้ล้วนแต่เป็นรถสปอร์ต ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่มีความรู้มากนักเกี่ยวกับเรื่องรถแต่เขาก็รู้ว่ารถแต่ละคันนั้นไม่ใช่ราคาถูกๆ เลย
“นี่ก็แค่บางส่วนเล็กๆนะ ยังมีอีกตั้งหลายคนที่ยังมาไม่ถึง” ชิวหนิงซวงกล่าวเรียบๆ ขณะที่เธอลงจากรถ ไม่ใช่เพราะว่าเธอตั้งใจที่จะโอ้อวดแต่เธอเคยมาร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้หลายครั้งแล้วดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุการณ์ปกติ
“ก็คงเป็นปกติของคนในแวดวงนี้ล่ะนะ”ฮวงเฟิงกล่าว กลุ่มของชิวหนิงซวงนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในสองตระกูลชั้นนำในมณฑลชิง ถ้าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับถงเฉียน เขาก็คงจะเป็นลูกค้าประจำของงานเลี้ยงรวมตัวเช่นนี้ และแน่นอนว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้อีกต่อไปแล้วเพราะถึงแม้ว่าเขาจะอยากมาแต่คนเหล่านี้ก็คงจะไม่ยอมรับเขาอย่างแน่นอน
“คุณก็มาด้วยงั้นเหรอ?ดูเหมือนว่าฉ่ายเทียนจะมีชื่อเสียงมากเลยนะเนี่ย” ขณะที่ชิวหนิงซวงกำลังจะพูดบางอย่างกับฮวงเฟิงก็มีเสียงหนึ่งทักมาด้วยความประหลาดใจ
ฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงหันไปดูและเห็นรถสปอร์ตสีแดงบนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งสวมแว่นตานั่งอยู่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นรูปลักษณ์ทั้งหมดของเธออย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนที่สวยมาก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับชิวหนิงซวงแล้วเธอก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นออร่าของความเริ่ดหรูที่อยู่บนตัวเธอนั้นทำให้ฮวงเฟิงถึงกับขมวดคิ้ว แต่หลังจากนั้นเขาก็คิดได้ว่าเขาไม่รู้จักเธอเสียหน่อย ทำไมเขาจะต้องสนใจด้วยล่ะว่าเธอเป็นคนแบบไหน?
“ฉันเพิ่งจะมีเวลาว่างวันนี้ก็เลยมาเล่นกับเพื่อนๆเสียหน่อย” ชิวหนิงซวงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่มีสีหน้าเรียบเฉย เธอมีความสุขมากและแม้แต่ฮวงเฟิงที่พอจะเข้าใจเธออยู่บ้างก็สามารถรู้สึกได้ถึงความรังเกียจและดูถูกจากสีหน้าของเธอ.Aileen-novel.
เธอได้ฝึกฝนตัวเองในการเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้และแน่นอนว่าเธอมีเพื่อนสนิทและเพื่อนทั่วไปหลายคน แต่เธอไม่ได้สนใจกับงานเลี้ยงชุมนุมที่หน้าซื่อใจคนเช่นนี้เท่าไรนัก
“นี่เพื่อนเธองั้นเหรอ?”หญิงสาวคนนั้นลงจากรถและมองไปที่ฮวงเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนถึงจุดที่มองเห็นหัวเขา “นี่เขาใส่เสื้อผ้าของช่างคนไหนเนี่ย ทำไมฉันไม่รู้จักเลย?”
ถึงแม้ว่าเธอจะบอกว่าเธอไม่รู้จักแต่สีหน้าของเธอเผยให้เห็นถึงความรังเกียจเห็นได้ชัดว่าเธอได้เห็นจนหมดแล้วแต่เพียงต้องการที่จะล้อเลียนฮวงเฟิงกับเพื่อนสาวของเธอ
“สวัสดีครับผมเป็นเพื่อนของหนิงซวง” สีหน้าของฮวงเฟิงไม่ได้เปลี่ยนไปเลยขณะที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน “สำหรับเสื้อผ้าของผมนั้น ไม่ได้ถูกตัดเย็บโดยช่างที่มีชื่อเสียงคนไหนหรอกครับ ดังนั้นมันก็เลยไม่แปลกที่คุณจะไม่รู้จัก”
เมื่อเป็นว่าชิวหนิงซวงไม่คิดที่จะแนะนำเขาให้หญิงสาวรู้จักฮวงเฟิงจึงรู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้นเป็นเพียงเพื่อนธรรมดาและอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้นก็ได้ ดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่ได้บอกชื่อของเขา
“งั้นก็คงเป็นเสื้อผ้าตามท้องตลาดงั้นสิฉันไม่แปลกใจเลย” หญิงสาวคนนั้นกล่าว หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองชิวหนิงซวงและพูดว่า “หนิงซวงทำไมเพื่อนของเธอถึงได้มีงานอดิเรกแบบนี้ล่ะ เขาชอบแม้กระทั่งใส่เสื้อผ้าแบบนี้ ฮ่าๆๆ”
“เพื่อนฉันจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ไม่ได้หนักส่วนไหนของเธอนะ”ชิวหนิงซวงตวัดตามองและกล่าวออกมา จากนั้นเธอก็มองไปที่ฮวงเฟิง สีหน้าของเธออ่อนโยนลงและกล่าวว่า “นี่ก็สายแล้ว พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
“ครับ”
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินมุ่งหน้าไปยังวิลล่าขณะที่หญิงสาวคนนั้นพวกเขาไม่ได้สนใจและปล่อยให้เธอหน้าแห้งอยู่อย่างนั้น
เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงไม่สนใจเธอใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสลับขาว ราวกับว่าสีหน้าของเธอได้เปลี่ยนไป เธอคิดในใจอย่างมุ่งร้ายว่า “ชิวหนิงซวง อีนังตัวเหม็น ปกติแล้วจะมีผู้ชายมากมายมาไล่ตามจีบเธอแต่เธอก็ไม่เคยจะสนใจ ไอ้ฉันก็คิดว่าเธอจะรสนิยมดีที่ไหนได้ไปคว้าผู้ชายจากถังขยะมาควงซะได้”
อย่างไรก็ตามเธอก็นึกถึงงานเลี้ยงในครั้งนี้ เพราะมีผู้ชายที่สนใจในตัวชิวหนิงซวงอยู่มากมาย ถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะทำให้เธอโมโหเพราะว่าเธอไม่เคยรู้สึกว่าเธอเหนือกว่าชิวหนิงซวงเลย แต่ในวันนี้เธออารมณ์ดี ผู้ชายพวกนั้นคนที่ชิวหนิงซวงให้คำจำกัดความแค่คำว่า “เพื่อน” แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องคิดอะไรบางอย่างและต้องมีชีวิตชีวามากแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็ตั้งใจรอดูโชว์ดังนั้นเธอจึงรีบสาวเท้าไปยังวิลล่าแห่งนั้น เธอไม่อยากพลาดโชว์ดีๆ
“ฉันขอโทษนะแต่ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนแบบนี้แหละอย่าลดตัวไปโกรธเธอเลยนะ” ชิวหนิงซวงกล่าวขอโทษขอโพยฮวงเฟิงขณะที่เดินไปด้วยกัน
“ไม่เป็นไรหรอกปากเธอก็เป็นของเธอ ผมไม่สนใจหรือว่าเธอจะพูดอะไรมันก็เป็นเรื่องของเธอ” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างใจเย็นเพราะสิ่งที่เขาพูดคือความจริง เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าหลังจากที่เขาได้กล่องจักรวาลมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เป็นคนขาดความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนในขณะที่เขาถูกกำหนดให้แตกต่าง
ดังนั้นตอนที่ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าเธอกำลังทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกอับอายแต่ฮวงเฟิงกลับคิดว่าคำพูดของเธอก็เป็นแค่ลมปากและเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ก็ดีแล้วที่คุณไม่โกรธผู้หญิงคนนั้นน่ารำคาญจริงๆ และฉันก็ไม่ชอบเธอด้วย” ชิวหนิงซวงกล่าว เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงไม่ได้โกรธจริงๆ เธอก็เบาใจและเข้าใจแล้วว่าที่ฮวงเฟิงไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่หรืออะไรทำนองนั้นก็เพราะเขาไม่ได้สนใจกับความคิดเห็นของคนอื่นจริงๆ
“ครับผมก็เห็นอยู่แล้ว” ฮวงเฟิงกล่าว “คุณไม่แม้แต่จะแนะนำผมให้เขารู้จัก มันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว”
“จะรู้จักกันไปทำไมล่ะคนแบบนั้น?”ชิวหนิงซวงกล่าวด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
“ยอดไปเลยคุณก็มาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ? ตอนที่คุณบอกว่าอยากจะมาฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยนะ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมางานนี้จริงๆ” หลังจากที่ฮวงเฟิงและนายหญิงแห่งเมืองเหล่าฮัวเดินเข้ามาในงาน หญิงสาวคนอื่นก็ส่งเสียงเซ็งแซ่แต่ในครั้งนี้เป็นเสียงที่มีแต่ความสนุกสนาน
จากนั้นเมื่อฮวงเฟิงจึงเห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยดูดีเขาจึงยิ้มกว้างต้อนรับเธอ หลังจากนั้นเขาก็จับมือของชิวหนิงซวงและกล่าวว่า “เอาล่ะ ถ้าคุณอยากจะเดินไปรอบๆ สังสรรค์กับทุกคนมันน่าจะไม่น่าเบื่อเหมือนกับการทำงานและการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวทุกวันหรอกนะ”
“เสี่ยวซวนเธอมาเร็วจัง” ชิวหนิงซวงกล่าวพร้อมกับยิ้มกว้าง เห็นได้ชัดว่าแตกต่าต่างจากผู้หญิงคนก่อนหน้านี้ “ก็ฉันบอกแล้วนี่นาว่าจะมา ทำไหมฉันจะต้องโกหกเธอด้วยล่ะ?”