กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 398 แฟน
หลังจากนั้นทั้งสองสาวก็จับมือและพูดคุยกันซึ่งทำให้บรรยากาศค่อนข้างดีเลยทีเดียว จนกระทั่งหญิงสาวคนที่ฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงเจอที่ด้านนอกได้เดินเยาะเย้ยผ่านพวกเธอไปขณะที่พวกเธอกำลังพูดคุยกันอย่างเฮฮา
“ฮึนังปิศาจจิ้งจอก” หญิงสาวที่กำลังพูดคุยกับชิวหนิงซวงอย่างมีความสุขมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังเดินผ่านไปและพึมพำบางอย่าง อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและเดินเข้าไปในงน
“เอาน่าอย่างกับเธอไม่รู้ว่าหล่อนน่ะเป็นคนแบบไหน” ชิวหนิงซวงกล่าว
“ฉันไม่ชอบขี้หน้ามันอย่างกับว่าถ้ามีคนอื่นมาชอบฉันอย่างผู้ชายเหี้ยๆ พวกนั้น ยังกับจะมีใครมาตกหลุมรักหล่อนจริงๆ อย่างนั้นล่ะ” หญิงสาวหน้ามุ่ย
อย่างไรก็ตามเธอก็พลันนึกได้ว่าครั้งนี้ชิวหนิงซวงไม่ได้มาคนเดียวแต่ยังมีชายหนุ่มอีกคนมาด้วยคำพูดของเธอในตอนนี้จึงดูเหมือนว่าจะโจมตีมากเกินไปแล้ว
“ขอโทษนะฉันไม่ได้กำลังพูดถึงคุณหรอกนะ”หญิงสาวคนนั้นรีบกล่าวกับฮวงเฟิง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ฮวงเฟิงหัวเราะและกล่าวออกมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายความเช่นนั้นดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ
แต่เพียงเพราะว่าก่อนหน้านี้ชิวหนิงซวงกำลังเพลิดเพลินกับการพูดคุยกับเสี่ยวซวนเธอจึงลืมที่จะแนะนำเขา
“ขอโทษนะฉันไม่ได้เจอกับเสี่ยวซวนมาสักพักนึงแล้วฉันเลยลืมไปเลย”ชิวหหนิงซวงกล่าวด้วยความละอายกับฮวงเฟิง “มานี่สิ ฉันจะแนะนำคุณ”.ไอรีนโนเวล.
ด้วยการแนะนำตัวของชิวหนิงซวงฮวงเฟิงจึงได้รู้ว่าหญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขานี้นอกจากจะดูดีแล้วยังน่ารักอีกด้วย เธอเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นเพื่อนสนิทของชิวหนิงซวง ทั้งสองคนรู้จักกันมานานหลายปีแล้วและความสัมพันธ์ของพวกเธอก็ดีมาโดยตลอด
“หนิงซวงเขาคงไม่ได้เป็นแฟนของเธอหรอกนะ จริงไหม? เธอนี่ปิดบังเก่งจริงๆ เลยนะ” ในทางกลับกันเสี่ยวซวนไม่ได้เริ่มล้อเลียนฮวงเฟิงเพราะเรื่องเสื้อผ้า
“นี่เธอพูดไร้สาระอะไรเนี่ยเขาเป็นเพื่อนของฉันนะ” ชิวหนิงซวงเหลือบตามองฮวงเฟิงและกระซิบ
ในด้านของฮวงเฟิงนั้นเขามีรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าขณะที่เขามองดูหญิงสาวทั้งสองคนในสถานการณ์เช่นนี้มันยากที่จะอธิบายถ้าหากเขาตอบปฏิเสธก็อาจจะทำให้ชิวหนิงซวงโกรธและทำให้เธอรู้สึกว่าเขารีบตัดสัมพันธ์กับเธอ
สิ่งที่ฮวงเฟิงไม่รู้ก็คือถ้าเขาพูดความจริงชิวหนิงซวงก็อาจจะต้องอับอายหรือไม่ก็โกรธเขา น่าเสียดายที่ฮวงเฟิงไม่อาจที่จะอ่านใจและเขาเองก็ไม่รู้ว่าชิวหนิงซวงกำลังคิดอะไรอยู่
ก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าต่อไปก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา ถึงแม้ว่าเขามีรอยยิ้มปรากฎอยู่บนใบหน้าแต่มันก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความปราถนาดีเลย ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาของเขา ฮวงเฟิงสามารถบอกได้เลยว่าชายหนุ่มคนที่ดูเหมือนจะสุขภาพดีนี้อ่อนแอมาก
“หานช่วงคุณก็มาด้วยงั้นเหรอ?” เยี่ยมไปเลย ก่อนหน้าที่คุณรับปากกับฉันฉันก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย ฉันไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าคุณจะมาจริงๆ” ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ชิวหนิงซวงราวกับว่าฮวงเฟิงและหญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวซวนไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย รูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลของเขาหากมีหญิงสาวที่ไร้เดียงสามาพบเข้าก็คงจะหลงใหลเขาน่าดู
แต่น่าเสียดายที่ชิวหนิงซวงไม่ใช่หญิงสาวที่ไร้เดียงสาและโง่งมงายเธอรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผู้ชายตรงหน้าเธอคิดอย่างไรกับเธอและเธอก็รู้ด้วยว่าเขาเป็นคนแบบไหน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกดีกับเขาเลยแม้แต่น้อย อาจกล่าวได้ว่าสาเหตุที่เธอเรียกให้ฮวงเฟิงมาด้วยในคืนนี้สาเหตุหลักก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้
แน่นอนว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังของการพาฮวงเฟิงมาด้วยและนั่นคือการหาโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับฮวงเฟิงให้มากขึ้นด้วย
“คืนนี้มีคนมาร่วมงานมากมายเลยนะนายน้อยฉ่ายไม่ไปเอนเตอร์เทนแขกหน่อยเหรอ?” ชิวหนิงซวงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยท่าทางเช่นนั้นของชิวหนิงซวงชายคนนั้นแกล้งทำเป็นไม่เห็นและไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย “หนิงซวงก็คุณไงเป็นแขกคนสำคัญที่สุดของผม”
ถ้อยคำที่ลึกซึ้งเช่นนั้นเกือบจะทำให้ฮวงเฟิงและคนอื่นๆอีกสองคนถึงกับอ้วก ฮวงเฟิงดีใจโชคดีที่ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้กินอะไรมาไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงจะต้องอ้วกออกมาจนหมดแน่ๆ
“กล่าวอีกนัยหนึ่งนายน้อยฉ่ายไม่ได้ต้อนรับใครแบบมั่วๆ นั่นเอง” ฮวงเฟิงไม่คาดคิดว่าเสี่ยวซวนดูจะนิสัยดีจะกล่าวคำสบประมาทเช่นนี้ออกมา
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน?”ผมยินดีต้อนรับพวกคุณทุกคนนั่นแหละน่า” ฉ่ายเทียนกล่าวอย่างเขินอาย
“นายน้อยฉ่ายคุณควรจะไปทักทายแขกคนอื่นๆบ้างนะ ฉันเกรงว่าคุณจะอยู่กับพวกเรานานเกินไปแล้วล่ะเดี๋ยวอีกหลายๆ คนจะไม่มีความสุขนะ” ชิวหนิงซวงกล่าว
และฮวงเฟิงก็สังเกตเห็นว่าตั้งแต่นายน้อยฉ่ายเดินเข้ามาหาพวกเขาก็มีหลายคนหันมามองพวกเขารวมถึงหญิงสาวที่เขาและชิวหนิงซวงพบที่ด้านนอกก่อนหน้านี้ด้วย และตอนนี้เธอก็กำลังมองดูพวกเขาอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่
นายน้อยฉ่ายยังต้องการที่จะอยู่กับชิวหนิงซวงแต่อย่างไรก็ตามในวันนี้เขาเป็นเจ้าภาพของงานดังนั้นเขาจึงต้องไปทักทายคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนนี้มีแขกมาร่วมงานค่อนข้างมาก
ดังนั้นเขาจึงมองดูชิวหนิงซวงด้วยความเสียใจ“งั้นพวกคุณก็สนุกกันต่อเถอะนะ ทำตัวตามสบายให้เหมือนบ้านของคุณเอง ผมขอตัวไปทักทายคนอื่นๆ ก่อน”
อันที่จริงตอนที่เขาเดินเข้ามาเขาก็ได้สังเกตุเห็นฮวงเฟิงแล้วเพราะว่าฮวงเฟิงนั้นยืนอยู่ด้วยกันกับชิวหนิงซวงและขณะที่เขากำลังคุยอยู่กับชิวหนิงซวงอยู่นั้น ชิวหนิงซวงเองก็ขยับเข้าใกล้ฮวงเฟิงจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โดยที่เธอไม่ได้รังเกียจที่จะเข้าใกล้ฮวงเฟิงเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ฮวงเฟิงนั้นก็ยืนอยู่ถัดจากเขาไป
และเหตุผลที่เขาไม่ถามว่าฮวงเฟิงเป็นใครและไม่ได้กล่าวอะไรกับฮวงเฟิงก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะปล่อยฮวงเฟิงเป็นคนเปิดประเด็นก่อนเพียงแต่เขาไม่คาดคิดว่าฮวงเฟิงจะสงบสติอารมณ์ได้โดยที่ไม่มีร่องรอยความไม่สบายใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุดก็เป็นฉ่ายเทียนเองที่ไม่สามารถที่จะอดทนได้อีกต่อไป เขาหยุดเดินและหลังจากที่เขามองดูฮวงเฟิง เขาก็ถามออกมาว่า “ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร?”
“เขาเป็นแฟนของหนิงซวงเขาชื่อว่าฮวงเฟิง ฉ่ายเทียนเลิกตามตื๊อหนิงซวงได้แล้วนะ เธอมีแฟนแล้ว” ฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงยังไม่ทันได้พูดอะไร แต่เสี่ยวซวนก็โพล่งออกมาอย่างหมดความอดทน ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดของเธอก็ไม่ได้สุภาพเลยแม้แต่น้อย ฐานะของเธอเมื่อเทียบกับฉ่ายเทียนเธอจึงไม่เกรงกลัวที่จะเป็นปรปักษ์กับเขาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็ไม่ชอบฉ่ายเทียนเป็นอย่างมากและไม่อยากที่จะให้เพื่อนสนิทของเธอต้องไปตกร่องปล่องชิ้นกับคนอย่างเขา
ในตอนนี้ฮวงเฟิงเข้าใจสถานการณ์ของชิวหนิงซวงอย่างคร่าวๆรวมถึงภารกิจของเขาเองที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเอามือถูจมูกของเขาและไม่ได้รีบร้อนที่จะคัดค้านการตัดสินใจนี้