กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 400 เจิ้งฉ่วย
“กัดผมสิถ้าคุณรับเรื่องนี้ไม่ได้”
คำพูดของฮวงเฟิงลอยเข้ามาในหูของฉินจื่อเฟิ่งทำให้เขาตกตะลึองอยู่ตรงนั้นในขณะที่เสี่ยวซวนและชิวหนิงซวงก็ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่เช่นกันจากนั้นทั้งสองสาวก็พากันหัวเราะเสียงดัง
“แกแก?” เมื่อมองไปที่ฮวงเฟิง เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร เจตนาของฉ่ายเทียนก็คือถึงแม้ว่าเขาจะต้องสร้างปัญหาให้กับฮวงเฟิงแต่เขาก็จะไม่พูดอะไรที่จะเป็นการไล่ฮวงเฟิงออกไปจากงานเลี้ยง ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีใครกล้าที่จะมาร่วมงานเลี้ยงที่บ้านเขาอีกในอนาคต? ใครล่ะจะไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกจากงานกลางคัน?
ดังนั้นฉินจื่อเฟิ่งจึงไม่กล้าที่จะกล่าวคำเหล่านั้นออกมาตรงๆยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ใช่เจ้าของสถานที่แห่งนี้ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะกล่าวคำเหล่านี้ออกมา
“ไปตรงนั้นกันเถอะตรงนี้มีแมลงเยอะเลย” ฮวงเฟิงกล่าวกับชิวหนิงซวง
“ค่ะ”ชิวหนิงซวงและเสี่ยวซวนต่างก็พากันพยักหน้าในขณะที่พูด
ฉินจื่อเฟิ่งต้องการที่จะกล่าวอะไรบางอย่างแต่ก็ปรากฎว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ฮวงเฟิงออกจากงานเลี้ยง
“ฉ่ายเทียนคนนี้เป็นใครกันเหรอ?”ฮวงเฟิงถามชิวหนิงซวงขณะที่เดินไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้เขารู้อยู่แล้วว่าตระกูลของฉ่ายเทียนนั้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด เขารู้เรื่องนี้อยู่แล้วเพียงแค่ดูที่วิลล่าหลังนี้ แต่ตอนนี้เขาเห็นว่าครอบครัวของฉินจื่อเฟิ่งนั้นก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยให้เขาได้เป็นผู้นำ เห็นได้ชัดว่าตระกูลของฉ่ายเทียนนั้นไม่ธรรมดาเลย
“พ่อกับแม่ของเขาทำธุรกิจทั้งคู่แต่เขามีลุงอยู่คนหนึ่งที่เป็นเจ้าเมือง” ชิวหนิงซวงกล่าว พ่อของเธอเองก็เป็นเจ้าเมืองและถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะไม่ได้อยู่ในอันดับหนึ่งในสิบ แต่เขาก็เทียบเท่าได้กับลุงของฉ่ายเทียน
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”ฮวงเฟิงพยักหน้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉ่ายเทียนถึงได้เขม่นเขา นอกเหนือไปจากความงามของชิวหนิงซวงแล้ว แต่ภูมิหลังของครอบครัวของชิวหนิงซวงนั้นก็คล้ายกันกับเขาฉ่ายเทียน และแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาก็จะต้องหาคนที่ดูดีและมีภูมิหลังครอบครัวที่คล้ายๆ กันซึ่งมันก็ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ อย่างชิวหนิงซวง
“ฮวงเฟิงนี่คุณเป็น รปภ. จริงๆ งั้นเหรอ?” เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ตอนที่ฮวงเฟิงยอมรับว่าเป็นแค่ รปภ. เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อเขาเลย ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าของฮวงเฟิงจะดูธรรมดา แต่ความมั่นใจในตัวเองและอาการไม่แยแสต่อสิ่งใดที่เขาแสดงออกมานั้นเหนือกว่าคนรอบข้างยิ่งนัก ดังนั้นเสี่ยวซวนจึงไม่คิดที่จะสบประมาทเขา เพียงแต่เธอคิดว่าเขาก็เพียงต้องการที่จะเป็นคนติดดิน
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่คาดคิดว่าฮวงเฟิงจะเป็นแค่รปภ. จริงๆ เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะว่าฮวงเฟิงนั้นมาด้วยกันกับชิวหนิงซวงและเขาก็เป็นเพื่อนของชิวหนิงซวง เพราะฉะนั้นสถานะของเขาก็ไม่น่าจะต่ำต้อยนักอย่างแน่นอน
“ใช่แล้วครับอยู่ในเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป คุณเคยได้ยินชื่อเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปมาก่อนไหมครับ?” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างหนักแน่น.ไอรีนโนเวล.
เธอรู้สึกพูดไม่ออกนิดหน่อยเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของฮวงเฟิงแน่นอนว่าเธอเคยได้ยินชื่อของเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นองค์กรขนาดใหญ่แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรที่ใหญ่และมีชื่อเสียงขนาดไหน แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณนี่นา ในเมื่อคุณก็เป็นเพียงแค่ รปภ. ในบริษัทนั้น จริงไหม?
ตัวชิวหนิงซวงเองรู้ดีว่าฮวงเฟิงนั้นมีโรงงานอยู่แห่งหนึ่งและยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังเป็นสมาชิกขององค์กรความมั่นคงแห่งชาติเธออยากจะอธิบายหลายๆ อย่างให้แก่ฮวงเฟิง แต่เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงไม่คิดที่จะอธิบายอะไรเธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่เช่นนั้นแล้วฮวงเฟิงอาจจะคิดว่าเธอนั้นมองเห็นว่าเขาเป็นเพียงแค่ รปภ. คนหนึ่งก็เป็นได้
“นี่ฮวงเฟิง? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” เมื่อฮวงเฟิงและทั้งสองสาวเดินมาถึงที่มุมๆ หนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงเรียกพวกเขา เพียงแต่ว่าในตอนนี้อีกฝ่ายนั้นกำลังเรียกชื่อเขาอยู่ไม่ใช่ชิวหนิงซวงหรือคนอื่นๆ ในกลุ่มนั้น
“ก็คืนนี้มันสนุกดีนี่นา”ฮวงเฟิงพึมพำอยู่ในใจและไม่นานนักหลังจากนั้นผู้คนมากมายก็พากันจ้องมองมาที่เขา อย่างไรก็ตามในเวลานี้ อีกฝ่ายนั้นเห็นได้ชัดว่าจำเขาได้และเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาหาชิวหนิงซวง และยิ่งไปกว่านั้นเสียงนี้ก็ช่างคุ้นหูฮวงเฟิงเหลือเกิน
“เจิ้งฉ่วย?”ฮวงเฟิงหันหน้าไปมองและเขาก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคย ร่างที่อวบอ้วนและชื่อที่เป็นเอกลักษณ์นั้นทำให้ฮวงเฟิงจำเขาได้อย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆๆนึกว่านายจะลืมฉันไปเสียแล้ว ทำไมนายถึงไม่ติดต่อฉันมาบ้างเลยล่ะตั้งนานแล้ว?” เจิ้งฉ่วยหัวเราะและกล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาดีใจมากที่ได้พบกับฮวงเฟิงที่นี่
“ไม่เห็นจะนานเลย”ฮวงเฟิงยังไม่ค่อยจะชินกับท่าทีที่สนิทสนมของเจิ้งฉ่วย “ยิ่งไปกว่านั้นนายก็ไม่ได้ตามหาฉันนี่นา จริงไหม?”
“นั่นก็เป็นเพราะว่านายไม่ได้ทิ้งที่อยู่ติดต่อเอาไว้ให้ไงล่ะ”เจิ้งฉ่วยกรอกตาและกล่าวออกมา
ฮวงเฟิงรู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นครั้งล่าสุดที่พวกเขาแยกจากกัน เจิ้งฉ่วยได้ให้นามบัตรกับเขาไว้แต่ฮวงเฟิงไม่ได้เก็บไว้
“วันนี้นายจะไม่ทิ้งรายละเอียดการติดต่อไว้ให้ฉันหน่อยเหรอ?”เจิ้งฉ่วยยังคงสังเกตเห็นว่าฮวงเฟิงนั้นดูอึดอัดนิดหน่อย ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะตอแยเขาต่อไปและคิดที่จะปลีกตัวออกไป
“ไม่มีทาง”ฮวงเฟิงกล่าว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้วางแผนที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่ายมากนัก แต่ในเมื่อพวกเขาได้พูดกันไว้แล้วไม่ว่ายังไงก็ตามเขาจึงต้องให้ข้อมูลติดต่อเอาไว้
“เฮ้เสี่ยวซวน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” ในเวลานี้เจ้าอ้วนสังเกตเห็นว่าเสี่ยวซวนก็ยืนอยู่ข้างๆ เขา หลังจากนั้นเขาก็เห็นชิวหนิงซวงซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น “แล้วทำไมพวกคุณถึงได้มาอยู่ด้วยกันล่ะเนี่ย?”
“ฉันคิดว่านายจะไม่รู้จักพวกเราซะอีก!”เสี่ยวซวนกล่าว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจที่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบกับเจ้าอ้วนคนนี้
แต่เธอก็รู้สึกตลกอยู่เช่นกันเพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องมองเห็นสาวสวยก่อนที่มองเห็นเพศเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มีสาวงามถึงสองคนยืนอยู่ด้วยตรงนี้ แต่ภายใตสถานการณ์เช่นพวกเขาจะต้องเห็นชิวหนิงซวงกับเสี่ยวซวนก่อนฮวงเฟิงสิ
แต่สำหร้บเจ้าอ้วนคนนี้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ไม่เพียงแต่เจ้าอ้วนคนนี้จะเห็นฮวงเฟิงและทักทายเขาก่อน ส่วนฮวงเฟิงนั้นก็ยังใจเย็นและค่อยๆ เบี่ยงตัวมาทางด้านข้างเล็กน้อย
“อ๋อเรื่องนี้น่ะ ก็แสงมันไม่ค่อยสว่างสักเท่าไร ผมก็เลยไม่ทันได้สังเกต” เจิ้งฉ่วยนั้นเห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชิวหนิงซวง ขณะที่เขากล่าวด้วยสีหน้าละอายใจ
“เอาน่าเสี่ยวซวน อย่าไปล้อเขาเล่นเลย” ชิวหนิงซวงกล่าวและจากนั้นก็มองไปที่เจิ้งฉ่วย “แล้วคุณไปรู้จักกับฮวงเฟิงได้ยังไงกันล่ะ?”
ฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงนั้นต่างก็รู้สึกว่าโลกนี้ช่างแคบนักที่ได้มาเจอคนรู้จักในสถานที่แบบนี้
“อ๋อผมไปเจอเขาที่งานการกุศลครั้งล่าสุด ผมกับเขาค่อนข้างจะเข้ากันได้ดีนะ” เจิ้งฉ่วยกล่าว “ดูเหมือนว่าเขาจะไปเข้าร่วมอะไรบางอย่างในวันนั้น”
ชิวหนิงซวงพยักหน้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฮวงเฟิงเธอเองก็ไม่ได้สนใจที่จะมาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะไม่เห็นเธอไปร่วมงานคืนก่อนนั้น
หลังจากนั้นพวกเขาสองสามคนก็เริ่มพูดคุยกันอยู่ที่มุมห้องและฮวงเฟิงก็พบว่าทั้งชิวหนิงซวงเสี่ยวซวนและเจิ้งฉ่วยนั้น ทั้งสามคนรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว พ่อของเสี่ยวซวนนั้นเป็นหนึ่งในบรรดาลุงของเจิ้งฉ่วยซึ่งทั้งหมดรับราชการ ดังนั้นทั้งสามคนจึงมีโอกาสที่จะปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น