กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 405 ฉันเลือกเธอ
ขณะที่ฮวงเฟิงและชายอ้วนกำลังพูดคุยกันจู่ๆประตูห้องก็เปิดออก ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสอง
ตอนนี้เจิ้งฉ่วยกำลังบอกความลับของเมืองชิงให้ฮวงเฟิงได้รู้เนื่องจากฮวงเฟิงมีฐานะธรรมดา เขาเลยไม่รู้เรื่องของพวกระดับสูงเท่าไหร่นัก
และด้วยประวัติตระกูลของเจิ้งฉ่วยฮวงเฟิงได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากอีกฝ่าย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้รู้ในเรื่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้นั่นเอง
”บริการคลายเหงาที่ฉันสั่งมาให้นายมาแล้ว!”เจิ้งฉ่วยที่สังเกตุเห็ตหวังเจียเจียที่เดินเข้ามา จึงหันไปพูดกับฮวงเฟิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้สึกประหลาดใจแต่เขาก็ไม่คิดว่ามันคือเรื่องแปลกสำหรับอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก
เพราะถึงแม้ว่าเจิ้งฉ่วยจะมีความสามารถมากกว่าทายาทเศรษฐีคนอื่นๆแต่เขาเองก็เป็นทายาทเศรษฐีคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้
เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่ชิวหนิงซวงเคยพูดกับเขาว่าอย่าสร้างปัญหาแสดงว่าเธอรู้นิสัยของเจิ้งฉ่วยดี
แต่ฮวงเฟิงเข้าใจเขาผิดไปแม้ว่า เขาจะชอบผู้หญิง และควงผู้หญิงข้างกายไม่ซ้ำหน้า แต่ผู้หญิงพวกนั้นกลับเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน และที่พวกเธอทำแบบนั้นก็เพราะเงินและฐานะของอีกฝ่าย
แต่เมื่อเขามาที่บาร์เขาแทบไม่ได้แตะต้องผู้หญิงเลย ส่วนใหญ่เขาขอให้พวกเธอมาดื่มและพูดคุยเป็นเพื่อนเท่านั้น
และในตอนที่อีกฝ่ายกำลังถูกหลอกล่อให้ติดกับเขาจะเลิกทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทันที เพราะอันที่จริง สหายของเขาคนนี้ค่อนข้างเป็นคนจริงจังไม่น้อย
”บอสเจิ้งทำไมคุณไม่บอกฉันก่อนละคะว่าจะเข้ามาที่บาร์ ฉันยังไม่ทันได้แต่งหน้าแต่งตัวให้สวยๆเลย” เมื่อหวังเจี่ยเจียเข้ามา เธอก็พูดกับเจิ้งฉ่วยด้วยรอยยิ้ม
“หวังเจี่ยเจียแค่นี้เธอก็สวยจนฉันอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าเธอยังสวยไปมากกว่านี้ ฉันจะทนไหวไหม?” เจิ้งฉ่วยตอบพลางหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็หันไปทางฮวงเฟิงแล้วพูดว่า “หมอนี้เป็นเพื่อนของฉัน วันนี้ ฉันพาเขามาเพื่อเล่นสนุกโดยเฉพาะเลยล่ะ”.ไอรีนโนเวล.
ด้วยสายตาที่เฉียบคมของเธอเธอสังเกตเห็นว่าการแต่งตัวของฮวงเฟิงนั้นธรรมดามาก และคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องมีฐานะปานกลาง
แต่เจิ้งฉ่วยกลับเรียกเขาว่า‘เพื่อน’ เห็นได้ชัดว่าฐานะของฮวงเฟิงนั้นต้องไม่ธรรมดาเหมือนกับที่หวังเจี่ยเจียคิดแม้แต่น้อย เธอจึงไม่กล้าดูถูกฮวงเฟิงอีก
”หนุ่มหล่อคนนี้คงจะมาที่นี่เป็นครั้งแรกสินะคะ?ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ? ฉันสัญญาว่าฉันจะเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณค่ะ” หวังเจี่ยเจียเดินมานั่งข้างกายฮวงเฟิงพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ทว่าฮวงเฟิงกลับขยับตัวไปด้านข้างเล็กน้อยกลิ่นฉุนของน้ำหอมจากหวังเจี่ยเจีย ทำให้จมูกของเขาหายใจไม่สะดวก เขาฝืนยิ้มแล้วตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณเอาไปให้หมอนี่เถอะครับ”
”ฮวงเฟิงนายไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้นะ” เจิ้งฉ่วยกล่าว จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มพิลึกว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปฟ้องหนิงซวงหรอก ฉันจะบอกเธอว่าเมื่อคืน พวกเราไปกินข้าวด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีเลย!”
…
ฮวงเฟิงไม่รู้ว่าตนควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“ฉันไม่ได้กลัวเธอจะเข้าใจผิดสักหน่อย…”
”หึหึหึนายไม่ต้องห่วง สาวสวยพวกนี้มีหน้าที่แค่ร้องเพลงให้พวกเราฟังและดื่มเป็นเพื่อนเราเท่านั้นแหละ แต่ถ้านายอยากให้พวกเธอทำอย่างอื่น นายจะต้องขออนุญาตจากพวกเธอก่อน” เจิ้งฉ่วยพูดด้วยท่าทางหยอกล้อ
เมื่อเห็นว่าเจิ้งฉ่วยยังคงยืนกรานแบบนั้นฮวงเฟิงจึงทำได้แค่หันหน้าไปมองสาวสวยเท่านั้น แค่ดื่มกับพูดคุยกัน ฮวงเฟิงคิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่นัก
ไม่ใช่ว่าฮวงเฟิงต้องการทำเป็นพ่อพระแต่อย่างใดการที่เจิ้งฉ่วยเรียกสาวๆพวกนี้เข้ามา เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าเจตนาของอีกฝ่ายคืออะไร
ฮวงเฟิงที่เป็นผู้ชายอกสามสอกและเป็นหนุ่มเวอร์จิ้นแต่ต่อให้เขามีอารมณ์ เขาก็ไม่อยากให้ครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในสถานที่แบบนี้เสียหน่อย
แต่ถ้าแค่ดื่มและพูดคุยกันฮวงเฟิงก็ไม่ถือสา
ฮวงเฟิงกวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวส่วนเจิ้งฉ่วยก็ทำเช่นเดียวกัน
ฝ่ายสาวสวยที่กำลังเผชิญหน้ากับฮวงเฟิงและเจิ้งฉ่วยกำลังคิดว่าพวกเขาคือใคร แต่พวกเธอก็ไม่ได้คิดมากเหมือนกันหวังเจี่ยเจียที่เห็นว่าเสื้อผ้าของฮวงเฟิงนั้นแสนจะธรรมดาเหมือนคนทั่วไปมาก ไม่เหมือนกับเจิ้งฉ่วย
เมื่อเห็นสาวสวยคนหนึ่งขยิบตาให้เจิ้งฉ่วยฮวงเฟิงก็แอบแค่นหัวเราะออกมา เหมือนกับที่ชิวหนิงซวงพูดไว้ไม่มีผิด
แค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ตัดสินกันได้แล้วหรือ?ไม่ใช่แค่ทายาทเศรษฐีที่ดูถูกเขา แม้แต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ทำแบบนั้น
แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไงฮวงเฟิงก็ไม่สน เขาไม่ได้อยากมาหาพวกผู้หญิงพวกนี้ตั้งแต่แรก เขาเลยไม่ได้รู้สึกอะไรกับพวกเธอเท่าไหร่นัก
แต่ในตอนที่ฮวงเฟิงเห็นหญิงสาวคนสุดท้ายเขาก็ใช้สายตาจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ หญิงสาวคนนั้นก้มหน้าก้มตายืนใกล้ประตู ทำให้ฮวงเฟิงที่อยู่ไกลจากประตูมองไม่เห็นใบหน้าของเธอได้ชัดเจน
ท่าทางของหญิงสาวคนนี้ช่างแตกต่างกับหญิงสาวคนอื่นๆ ที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นและกล้าแสดงออกอย่างสิ้นเชิง
เสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนี้สวมหนากว่าหญิงสาวคนอื่นนอกจากนี้ การแต่งกายของเธอก็ดูเรียบง่ายมาก หญิงสาวคนอื่นส่งสายตาที่มีเลศนัย ขณะที่เธอเอาแต่ก้มศีรษะราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกกลัวและเขินอาย
อันที่จริงตอนนี้ หวังเจี่ยเจียก็เป็นห่วงเธอเช่นกัน เสี่ยวฮั่นสัญญากับเธอว่าจะทำเต็มที่ แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงได้ยืนแข็งทื่ออยู่แบบนี้ล่ะ?
เธอมัวแต่ยืนก้มหน้าก้มตาขืนเธอทำให้เจิ้งฉ่วยไม่พอใจขึ้นมา จบงานนี้ หวังเจี่ยเจียต้องมีปัญหาแน่
”เธอคนนั้นน่ะมานี่สิ” ฮวงเฟิงชี้นิ้วไปที่หญิงสาวคนสุดท้าย
เจิ้งฉ่วยและหวังเจี่ยเจียต่างหันไปมองตามทางที่ฮวงเฟิงชี้
เนื่องจากเจิ้งฉ่วยมองไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายเขาเลยไม่รู้ว่าฮวงเฟิงเลือกผู้หญิงคนไหน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่สนใจ เขาได้เลือกผู้หญิงให้ตัวเองแล้ว และผู้หญิงคนนั้นก็สวยมากด้วย!
และในเวลาเดียวกันนั้นหวังเจี่ยเจียก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะเธอไม่คิดว่าฮวงเฟิงจะตกหลุมรักเสี่ยวฮั่นทั้งๆเธอไม่เงยหน้าขึ้นให้เห็นเลยสักนิด
“หรือว่าแขกของบอสเจิ้งจะชอบผู้หญิงธรรมดาและใสซื่อ?”หวังเจี่ยเจียคิดกับตัวเอง เธอเชื่อว่าทุกคนมีรสนิยมที่แตกต่างกันออกไป ถ้าจะให้ไปตัดสินความชอบของคนอื่นแบบสุ่มสี่สุ่มห้าคงจะไม่ดีนัก
หลังจากนั้นหวังเจี่ยเจียก็จากไปพร้อมกับหญิงสาวที่ไม่ถูกเลือกหญิงสาวที่เหลือต่างมีสีหน้าผิดหวัง เพราะการได้อยู่กับบอสอย่างเจิ้งฉ่วยนั้นย่อมดีกว่าพวกตาเฒ่าหัวงู
ในตอนที่เสี่ยวฮั่นที่มัวแต่ก้มหน้ารู้ว่าตนคือผู้ถูกเลือกมันทำให้เธอรู้สึกดีใจและประหม่าไปพร้อมกัน