กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 419 รักษา
“เอาสิ”เทียนหลินกล่าวโดยไม่ต้องคิด
เธอไม่คิดว่าแพทย์แผนจีนที่ฮวงเฟิงเรียนมาเล็กๆน้อยๆ จะสามารถรักษาเธอได้ เธอเคยไปรักษาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายๆ แห่งมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบแพทย์แผนโบราณ แผนตะวันตก ก็ไม่มีทางรักษาเธอได้ จึงไม่มีทางที่ฮวงเฟิงจะรักษาเธอได้
เธอตกลงให้ฮวงเฟิงตรวจชีพจรเธอคิดแต่ว่าฮวงเฟิงเพียงแค่อยากรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเธอแค่นั้น
ฮวงเฟิงไม่เบื่อเธออย่างที่เธอคิดและยังมาตรวจชีพจรให้เธออีก ฮวงเฟิงมองไปยังแขนเธอตรงหน้าและแตะนิ้วเขาวางลงไปจับชีพจร
ส่วนใหญ่เทียนหลินจะใช้เวลาอยู่แต่ในบ้านทำให้เธอมีผิวขาวกว่าคนทั่วไปแต่ความขาวของเธอนี้ไม่ได้บ่งว่าเป็นขาวแบบสุขภาพดี แต่เรียกได้ว่าเป็นขาวแบบซีด
ฮวงเฟิงไม่รู้วิธีการจับชีพจรอย่างแน่ชัดเขาวางนิ้วสองนิ้วลงบนแขนของเทียนหลิน แล้วกำหนดพลังชี่ในร่างกายเขาให้ส่งผ่านไปยังร่างกายของเทียนหลินอย่างช้าๆ
เทียนหลินรู้สึกว่าร่างกายของเธออบอุ่นและสบายมากอย่างทันใดรู้สึกสบายจนถึงจุดที่เธออยากจะครางออกไป แต่เพราะมีฮวงเฟิงอยู่ตรงหน้าเธอจึงรู้สึกอายที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้นเธอจึงอดทนอย่างสุดกำลังหน้าเธอเริ่มแดง
ในตอนนี้ฮวงเฟิงไม่มีพลังที่จะเห็นอาการของเทียนหลินฮวงเฟิงขมวดคิ้วเนื่องจากการไหลเวียนของกำลังภายในในร่างกายของเทียนหลินเป็นไปได้ไม่ดี.Aileen-novel.
ฮวงเฟิงไม่มีทางเลือกเขาจึงใช้พลังเวทย์ของเขาร่วมด้วย ทำให้ภายในร่างกายของเทียนหลินมีพลังที่มีลักษณะพิเศษคือ พลังที่เป็นส่วนผสมของกำลังภายในและพลังเวทย์มนตร์
และในตอนนี้เทียนหลินรู้สึกสบายตัวมากขึ้นสบายมากจนรู้สึกง่วง อยากจะนอนหลับ
ในขณะเดียวกันฮวงเฟิงก็ควบคุมพลังงานแบบใหม่นี้ถ่ายทอดไปยังร่างกายของเธอตอนนี้การไหลเวียนของเธอดีขึ้นกว่าเดิมหน่อย แต่เนื่องจากเทียนหลินไม่เคยฝึกฝนกำลังภายในมาก่อน เส้นลมปราณของเธอจึงมีขนาดเล็กมาก ฮวงเฟิงจึงทำได้แค่ควบคุมให้พลังงานไหลไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ฮวงเฟิงมัวแต่มุ่งความสนใจไปที่การควบคุมพลังงานจึงไม่รู้ว่าเทียนจุ้นเดินมาอยู่ข้างๆ เขาแล้ว ขณะเดียวกันเทียนหลินก็กำลังหลับตาลงอย่างสบายๆ อยู่ ทำให้ไม่เห็นว่าพี่ชายเธอเดินมาหาแล้ว
เทียนจุ้นขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขามองดูการกระทำของฮวงเฟิงต่อน้องสาวเขาเขารู้สึกกังวลใจอย่างมาก
แต่เขารู้ว่าฮวงเฟิงอาจจะไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเธอและสิ่งที่ฮวงเฟิงกำลังทำอยู่ดูราวกับกำลังทำอะไรบางอย่างที่สำคัญ เขาจึงขมวดคิ้วและเฝ้าดูอยู่ข้างๆ ถ้าฮวงเฟิงล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้ เขาก็จะไม่ไว้หน้า
โชคดีที่ฮวงเฟิงไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวอื่นใดเขาแค่แตะนิ้วของเขาไว้บนข้อมือของเทียนหลินเท่านั้น
ฮวงเฟิงที่คิ้วคลายออกก่อนหน้านี้ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะพบว่าเมื่อพลังงานเคลื่อนไปถึงขาของเทียนหลิน มันไม่สามารถเคลื่อนต่อไปต่อได้ เพราะเส้นลมปราณที่ขาของเธอตายแล้ว!
“เป็นไปได้ยังไง?”ฮวงเฟิงรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากอยู่ในใจ แต่เขายังไม่ยอมแพ้เขาใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมกำลังภายในให้มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และเนื่องจากเขาใช้พลังที่มีกำลังมากเกินไป หัวใจของเทียนหลินจึงถูกบีบคั้นจนเจ็บปวดเทียนหลินเจ็บจนทนไม่ไหวได้แต่ร้องออกมา
”นี่คุณกำลังทำอะไรเนี่ย?!”เทียนจุ้นถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้องสาวของตนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงของเเทียนจุ้นปลุกฮวงเฟิงและเทียนหลินออกจากโลกของพวกเขา
ฮวงเฟิงมองไปยังเทียนจุ้นที่ยืนอยู่ข้างๆที่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ
”พี่ชายฉันสบายดี พี่ใหญ่ฮวงแค่จับชีพจรฉัน”เทียนหลินพูดอย่างกังวล ก่อนที่ฮวงเฟิงจะมีโอกาสได้อธิบาย
“จับชีพจรงั้นเหรอ?”เทียนจุ้นรู้สึกสงสัยแม้ว่าจะดูเหมือนจับชีพจร แต่การจับชีพจรสามารถทำให้น้องสาวของเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดได้ด้วยหรือ?
”ใช่แล้วตอนนี้รู้สึกสบายมากแล้ว แค่ตอนท้ายๆ มันเจ็บนิดหน่อย จึงได้ร้องออกมา”เทียนหลินกล่าวอย่างเขินอาย
เมื่อเห็นว่าน้องสาวตัวน้อยของเขาไม่เป็นไรและฮวงเฟิงก็ทำเพื่อน้องสาวเขาเทียนจุ้นจึงรู้สึกอับอายเล็กน้อย เมื่อรู้ตัวว่าผิดที่ไปตำหนิฮวงเฟิง เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าขอโทษ: “ขอโทษที่ผมวู่วามไปหน่อย”
”ไม่เป็นไร”ฮวงเฟิงพูดพร้อมโบกมือ ฮวงเฟิงรู้ว่าเเทียนจุ้นรู้สึกกังวลเพราะนี่คือน้องสาวของเขา ตัวฮวงเฟิงเองก็มีน้องสาว ฮวงเฟิงจึงเข้าใจดี แต่คิ้วของเขายังคงขมวดแน่น ไม่ใช่เพราะท่าทีของเเทียนจุ้น แต่เป็นเพราะสภาพร่างกายของเทียนหลิน
”มีอะไรร่างกายของน้องสาวผมมีอะไรผิดปกติงั้นหรือ” เมื่อเห็นสีหน้าของฮวงเฟิงเทียนจุ้นก็ถามขึ้นทันทีเทียนจุ้นกังวลว่าอาการของน้องสาวเขาจะแย่ลง
”ผมเพิ่งตรวจชีพจรเธอและพบว่าเส้นลมปราณที่ขาของเธอตายไปแล้ว ส่วนจะมีปัญหาอะไรอีกนั้นผมยังไม่รู้” ฮวงเฟิงกล่าว
สีหน้าของเทียนหลินดำคล้ำขึ้นเมื่อได้ยินฮวงเฟิงพูดถึงขาของเธอแต่สีหน้าเธอก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเดินได้
”เมื่อพี่ใหญ่ฮวงจับชีพจรของฉันฉันรู้สึกอุ่นและสบาย”เทียนหลินกล่าว
ฮวงเฟิงรู้ว่าน่าจะเป็นเพราะพลังงานในร่างกายของเขาที่ถ่ายทอดให้กับเทียนหลินจึงทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้น ดูเหมือนว่าพลังงานของเขาจะยังคงมีผลอยู่บ้างแต่เขาไม่รู้ว่ามันจะมีผลมากแค่ไหน
“เธอรู้สึกถึงความอุ่นเหรอที่ตักเหรอ?” เทียนจวินถามอย่างกระตือรือร้น
”ใช่อุ่นอยู่ที่ขา”เทียนหลินกล่าว เธอรู้ว่านับตั้งแต่ที่เธอเดินไม่ได้ ขาของเธอก็ไร้ความรู้สึกทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกอุ่น แม้ขาถูกหั่น เธอก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ
เมื่อนึกขึ้นได้เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกันหรือว่าพี่ใหญ่ฮวงจะช่วยเธอได้จริงๆ?
เทียนจุ้นมองไปยังฮวงเฟิงและถามอย่างร้อนรน:”ฮวงเฟิง คุณทำได้ยังไง ลองอีกสักครั้งได้ไหม?”
ฮวงเฟิงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเเทียนจุ้นถึงรู้สึกเรียกร้องขนาดนี้ขาของเทียนหลินหมดความรู้สึกมานานแล้ว การที่สามารถรู้สึกได้ ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้สึกใดๆ ก็ตามล้วนเป็นสิ่งที่ดี แต่เขากลัวว่าความรู้สึกที่เทียนหลินเพิ่งได้สัมผัสนั้น เป็นเพียงความเชื่อผิดๆ เป็นความรู้สึกที่มาจากความต้องการที่จะมีความรู้สึกมากเกินไป
”โอเคผมจะลองอีกครั้ง” ฮวงเฟิงกล่าว การควบคุมพลังงานให้เดินในร่างกายของคนอื่นนั้นเหนื่อย ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจอาการทั้งหมด เขาอยากที่จะทำความเข้าใจเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง หากเขาสามารถช่วยเทียนหลินได้จริงๆ เหนื่อยมากขึ้นก็ไม่เป็นไร
ฮวงเฟิงวางมือลงบนแขนของเทียนหลินอีกครั้งแต่ครั้งนี้ ตอนเริ่มต้นเขาไม่ใช้พลังงานแบบใหม่ แต่ใช้แค่กำลังภายในของเขาอย่างเดียวเพื่อต้องการเปรียบเทียบดูความแตกต่าง