กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 426 มีคนติดตาม
”ไกด์นำเที่ยว?”แน่นอนว่าไม่มีปัญหา ” เขาตอบอบ่างตรงไปตรงมา เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของเซี่ยเมิ่งเจียว หน้าที่ของเขาในสองสามวันนี้ก็คือการไปกับหลี่ปิงอวิ้น การพาเธอออกไปเที่ยวถือว่าเป็นงานของเขาเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงไปตรงมาของฮวงเฟิงหลี่ปิงอวิ้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ดวงตาของเธอหรี่ลงจนเกือบคล้ายจะหลับตาลงแต่แล้วเธอก็ทอดสายตามออกไปนอกหน้าต่างพรางคิดว่าเธอไม่ได้มีโอกาสเที่ยวเล่นแบบนี้มานานเท่าใดแล้ว
อย่างไรก็ตามในขณะที่หลีปิงอวิ้นกำลังคิดว่าเธอและฮวงเฟิงจะไปเล่นที่ไหนท่าทีของฮวงเฟิงก็เปลี่ยนจากนิ่งสงบเป็นท่าทีที่จริงจัง เขาเหลือบมองกระจกมองหลังจากนั้นเหยียบคันเร่งอย่างเงียบ ๆ ซึ่งทำให้รถในตอนนี้วิ่งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
”หัวหน้าเด็กข้างหน้าดูเหมือนจะสังเกตเห็นพวกเราครับ” ไม่ไกลจากรถของฮวงเฟิงมีรถที่ดูทั่ว ๆ ไปอยู่ท่ามกลางการจราจร รถคันนี้รักษาระยะห่างระหว่างรถของฮวงเฟิงและของเขามาโดยตลอดและยังเว้นระยะออกจากกันโดยมีรถสองสามคันคั้นกลาง รถคันนี้ไม่ได้เข้าใกล้แต่ก็ไม่ได้ห่างมากเขามากเกินไป เป็นเพียงรถที่เพิ่งติดตามรถฮวงเฟิงจากระยะไกล
“ฉันไม่ได้คิดว่าเด็กนั่นจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้” ชายหนุ่มคนหนึ่งในที่นั่งผู้โดยสารฝั่งข้างคนขับกล่าวด้วยสีหน้าที่แสดงออกอย่างสนใจ
”ใช่ฉันเองก็ไม่คิดว่าว่าเด็กคนนี้จะมีทักษะอยู่บ้าง คุณก็รู้ว่าแม้แต่คนในกองทัพก็ไม่อาจตรวบจับเราได้” ชายหนุ่มที่กำลังขับรถกล่าวกับคนที่นั่งข้างๆด้วยท่าทางผ่อนคลายในขณะที่เขาก็เหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วตามโดยไม่ปล่อยให้ฮวงเฟิงสลัดเขาออกไปได้.ไอลีนโนเวล.
ฮวงเฟิงมีทักษะในการขับรถอยู่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการขับรถเช่นนี้สักเท่าใดมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะเร่งความเร็วเมื่อเจอคนนิรนามไล่ตามแต่มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะสลัดคนที่อยู่ข้างหลังเขาออกไป แม้ว่าเขาจะพบการมาของอีกฝ่ายแล้วและต้องการที่จะสลัดพวกเขาออกไป
โดยเร็วที่สุดแต่เขาก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นไร้ประโยชน์
ถ้าฮวงเฟิงรู้ว่าคนขับรถที่อยู่ข้างหลังเขาไม่เพียงขับรถได้แต่ยังขับรถถังเก่งอีกด้วยเขาก็คงไม่เลือกทำในสิ่งที่เปล่าประโยชน์เช่นนี้
“ฮวงเฟิงมีอะไรผิดปกติรึเปล่า?” หลี่ปิงอวิ้นซึ่งอยู่ในรถก็รู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของฮวงเฟิง
ในตอนแรกฮวงเฟิงยังคงขับรถและล้อเล่นกับเธอได้แต่ในตอนนี้เขากลับไม่ได้คุยอะไรมาก นอกจากนี้เขายังแสดงสีหน้าออกมาอย่างจริงจัง
”นั่งลงฉันจะเร่งความเร็ว” ฮวงเฟิงกล่าว หากเขาต้องการกำจัดอีกฝ่ายเขาทำได้เพียงแค่เพิ่มความเร็วต่อไป แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจเพราะสุดท้ายทักษะการขับรถของเขาก็ไม่ได้มีมากพอ
”เกิดอะไรขึ้น?”ใบหน้าของหลี่ปิงอวิ้นก็ตึงเครียดตามขณะที่เธอถาม เห็นได้ชัดว่าเธอสังเกตเห็นบางอย่างจากท่าทีที่เปลี่ยนไปของฮวงเฟิงและมันทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่กระท่อมเล็กนั่น เป็นไปได้ไหมว่าคนพวกนั้นจะกลับมาอีกครั้ง?
เมื่อคิดถึงจุดนี้หลี่ปิงอวิ้นก็รู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ในตอนนี้แต่เมื่อเห็นฮวงเฟิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ ท่าทีของเธอก็ดูสงบลง ในเมื่อฮวงเฟิงอยู่ที่นี่เธอก็สบายใจเพราะฮวงเฟิงจะสามารถปกป้องเธอได้อย่างแน่นอน
สุดท้ายตามที่ไป๋เสี่ยวโหรวพูดคนเหล่านี้จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างแน่นอนและจะต้องกลับมาแก้แค้นพวกเขาอย่างแน่นอนเช่นกัน แต่ตอนนี้หลี่ปิงอวิ้นที่นั่งอยู่ในรถของเธอและพบใครบางคนกำลังติดตามเธอ ดังนั้น ฮวงเฟิงก็อดคิดถึงคนพวกนั้นไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นฮวงเฟิงไม่มั่นใจว่าจะฆ่าคนพวกนั้นได้ทั้งหมดเหมือนคืนนั้นเนื่องจากสถานที่ณ ตอนนี้อยู่บนถนนที่มีรถพลุกพลานไปมา ยิ่งไปกว่านั้นในเวลากลางวันเขาก็ไม่สามารถใช้ใช้เสื้อคลุมเงาตามใจได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้น เขาคงไม่สามารถมานั่งอธิบายให้ผู้พบเห็นได้เข้าใจได้อย่างชัดเจนได้
ทางด้านอีกฝ่ายคนพวกนั้นคือพวกพวกทหารรับจ้างที่สังหารคนได้ในพริบตา พวกเขาย่อมไม่สนใจแวดล้อมรอบตัวอยู่แล้ว หากทหารรับจ้างพวกนี้ปล่อยพวกฮวงเฟิงไปได้ แม้แต่คนที่ไม่มีพิษไม่มีภัยหรือคนทั่ว ๆ ไปก็คงจะสังหารไม่ได้เช่นกันและมันก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้
”มีรถอยู่ข้างหลังเรา”ฮวงเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังกระจกมองหลัง เขาเหยียบคันเร่งลึกขึ้นอีกแต่ก็ยังไม่สามารถสลัดอีกฝ่ายได้ซึ่งอีกฝ่ายก็เหมือนวางกับเบ็ดติดไว้กับเขาแน่นเสียเหลือเกิน
”ห๊ามันจะเป็นไปได้ยังไง?” หลี่ปิงอวิ้นกล่าวอย่างเป็นกังวล แม้ว่าเธอจะคิดว่าฮวงเฟิงจะสามารถปกป้องเธอได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการเห็นฮวงเฟิงและตัวเธอเองต้องได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว
”เราจะทำยังไงเราจะทำยังไงกันดี?” เธอจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นแม้ว่าทั้งหลี่ปิงอวิ้นและพี่ชายของเธอจะไม่ได้อธิบายรายละเอียดของเหตุการณ์ให้ผู้จัดการฟังในภายหลังและด้วยเหตุนี้ผู้จัดการคนนี้จึงไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดของสถานการณ์ ทำได้เพียงแค่ดูและคอยเฝ้าระวัง ในวันนั้นเธอสามารถบอกได้ว่าสถานการณ์ณ ตอนนั้นคงอันตรายมากและอีกฝ่ายก็คงเป็นคนที่เลวร้ายอย่างยิ่งเช่นกัน
“อย่าตกใจ พวกมันไม่กล้าทำอะไรผลีผลามหรอก” ฮวงเฟิงกล่าวขณะที่เขาขับรถ ตอนนี้เขากำลังมองหาทางออกอย่างเช่น ที่ที่ปลอดผู้คน ด้วยวิธีนี้เขาก็จะสามารถใช้ความสามารถที่เขามีบางส่วนได้แต่เขาอาจต้องเปิดเผยบางสิ่งต่อหน้าหลี่ปิงอวิ้นและผู้จัดการของเธอซึ่งนั่นคือสิ่งที่ ฮวงเฟิงไม่ต้องการ ดังนั้นเขาจึงยังคงลังเล
”โอ้ใช่บอดี้การ์ดของคุณอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำไมวันนี้ผมไม่เห็นพวกเขาเลย” ฮวงเฟิงถามหลี่ปิงอวิ้น หากมีพวกบอดี้การ์ดไว้แม้ว่าพวกเขาจะดูแลเขาไม่ได้ มันก็ยังพอที่จะสามารถชะลอเวลาจนสลัดออกจากคนพวกนั้นได้ อย่างไรก็ตามบอดี้การ์ดที่ควรจะตามหลี่ปิงอวิ้นอยู่ด้านหลังกลับไร้วี่แวว
“ฉันเป็นคนบอกให้พวกเขาไปเอง” หลี่ปิงอิว้นกล่าว นับตั้งแต่เหตุการณ์ล่าสุดไม่ว่าจะเป็นตัวของหลี่ปิงอวิ้นหรือครอบครัวของเธอ พวกเขาก็ไม่ไว้วางใจบอดี้การ์ดของพวกเขาอีกต่อไปหลี่ปิงอวิ้นจึงตัดสินใจไล่พวกเขาออก
”ใช่แล้วพี่ชายฉันนัดเจอพวกเราไว้หนิ!” หลี่ปิงอวิ้นก็ตะโกนขึ้น
“มีอะไรเหรอ?” ฮวงเฟิงถาม
“พี่ชายของฉันบอกว่าเขาจะจัดคนเพื่อคุ้มกันฉันแต่คนพวกนั้นไม่ยอมให้ฉันรู้การมีอยู่ของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาพยายามจะไม่รบกวนชีวิตฉัน ดังนั้น คนที่อยู่ด้านหลังเราอาจจะเป็นคนของพี่ชายฉันแต่ถ้าไม่ใช่ ฉันคิดว่าคนของพี่ชายคงอยู่ไม่ไกลจากเราแน่” หลี่ปิงหยุนอธิบายขณะที่เขาหมุนหมายเลขของพี่ใหญ่
เนื่องจากหลี่ปิงอวิ้นไม่ต้องการให้คนเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอแม้ว่าหลี่เหวยหมินจะจัดให้คนติดตามให้กับเธอ แต่ หลี่ปิงอวิ้นก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครและเธอไม่มีช่องทางติดต่อกับพวกเขา ตอนนี้เธอทำได้เพียงติดต่อพี่ชายของเธอเองเพื่อให้จัดการกับเรื่องนี้