กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 32
ในขณะที่ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆคิดว่าโนอาห์กำลังสนุกกับการได้เห็นความทุกข์ทรมานของก็อบลิน แต่ในตอนนี้เขากำลังควบคุมตัวเองไม่ให้เริ่มหัวเราะออกมาดังๆ
[ผู้ใช้: โนอาห์ สเติร์น]
[เลเวล: 01]
[ประสบการณ์: 88/100]
[HP: 10/10]
[ความแข็งแรง: 10]
[ความคล่องตัว: 10]
[ความแข็งแกร่ง: 10]
[สกิว:
เปลวไฟจากนรก เลเวล: 02 : 15/500
คำอธิบายสกิว: เทคนิคที่ประกอบไปด้วยการอัญเชิญเปลวไฟแห่งนรกขึ้นมา เปลวไฟแห่งนรกไม่ต่างไปจากเปลวไฟธรรมดา แต่หลังจากชำระคนบาปและบาปมากมายมันก็กลายเป็นเปลวไฟที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถเผาได้กระทั้งเทพเจ้าแห่งเปลวเพลิง เพื่อเพิ่มพลังของความสามารถนี้คุณจะต้องเผาบาปหรือคนบาป]
[**หลังจากเปลวไฟจากนรกถึงเลเวล: 02 ร่างกายของผู้ใช้จะปรับตัวให้เข้ากับเปลวไฟได้ดีขึ้นและการควบคุมมันเป็นธรรมชาติมากขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถทำให้มนุษย์ได้รับการเผาไหม้บาปเพื่อให้บริสุทธิ์ได้ มนุษย์ที่มีบาปน้อยไม่สามารถชำระให้บริสุทธิ์ได้**]
เมื่อดูคำอธิบายภายใน [**] ที่ระบบให้เมื่อสกิลได้รับการวิวัฒนาการ โนอาห์ถูกล่อลวงอย่างมาก เขาต้องการที่จะเผามนุษย์บางคนเพื่อดูว่าเขาจะได้รับประสบการณ์หรือไม่หรือเขาจะได้รับอย่างอื่นแทน น่าเสียดายที่เขายังไม่มีเป้าหมายที่จะทดสอบสิ่งนี้ในตอนนี้ แต่ในอนาคตยังไม่แน่สำหรับเขา
ในขณะที่โนอาห์สงสัยว่าเขาจะได้รับอะไรเมื่อเขาขึ้นไปที่เลเวล 02 เมื่อร่างก็อบลินได้เผาไหม้เสร็จแล้ว เขาก็นึกได้ว่ายังมีค่าประสบการณ์อีกมากมายให้เขาได้ดูดซับจากก็อบลินที่อยู่ในดันเจี้ยนนี้ น่าเสียดายโนอาห์ก็รู้สึกท้อแท้เมื่อเขาเห็นจำนวนค่าประสบการณ์ที่เขาต้องใช้ในการพัฒนาสกิลไปถึงเลเวล 03 หากสกิลยังคงต้องการค่าประสบการณ์เพียง 100 แต้มมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่โนอาห์จะทำได้ แต่ตอนนี้สกิลของเขาต้องการมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า โนอาห์รู้ว่าถ้าเขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องบุกป้อมปราการอีกเป็นจำนวนมาก
‘บางทีฉันควรมุ่งเน้นไปที่การบุกป้อมปราการมากกว่านี้เพื่อให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่ฉันจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับการหาเงินเป็นจำนวนมาก เพราะมันจะไม่เป็นผลดีเลยถ้าฉันจะทำเงินได้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเอง เงินจำนวนนั้นอาจจะทำให้ชีวิตของฉันและครอบครัวของฉันตกอยู่ในความเสี่ยง’ โนอาห์คิด
ในขณะที่ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆพักผ่อนโนอาห์ก็ไม่สนใจต่อพวกเขาและไปหาก็อบลินที่ตายแล้วแต่ละตัวเพื่อเผามัน เมื่อเรียกเปลวไฟอีกครั้งโนอาห์รู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่จะควบคุมเปลวไฟเพื่อให้พวกมันทำตามที่เขาคิดไว้ แม้แต่ลูกไฟที่เขาเคยมีปัญหาในการควบคุมให้มันมั่นคงตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะมันไม่กระพริบเหมือนกับว่ามันจะแตกออกเมื่อไหร่ก็ได้ เขายังห่างไกลจากคำว่าเชี่ยวชาญอีกมากที่จะสร้างเป็นคำพูดเหมือนเปลวไฟของระบบ แต่นี่เป็นหนึ่งในการเริ่มต้นอย่างแน่นอน
โนอาห์รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิที่เปลวไฟสร้างขึ้นนั้นไม่ได้สูงขึ้นพร้อมกับสกิลที่สูงขึ้น แต่เขารู้ว่าต้องทำยังไงทักษะนี้ถึงจะแข็งแกร่งขึ้นได้ มันจะแข็งแกร่งขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมันได้ดูดซับจากบาปบริสุทธิ์เท่านั้น กล่าวคือถึงแม้ว่าทักษะนี้จะเพิ่มระดับขึ้น มันก็จะไม่ไดแข็งแกร่งขึ้นในทันที แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเพราะเขารู้ดีว่าอุณหภูมิในปัจจุบันที่เปลวไฟของเขาปล่อยออกมาในตอนนี้นั้นสูงเป็นสองเท่าเมื่อเขาได้ใช้พลังครั้งแรกในป้อมปราการระดับ F
เขาไม่มีทางทดสอบได้ แต่โนอาห์เชื่อว่าหากเขาต้องเผชิญหน้ากับบอสระดับพิเศษของป้อมปราการระดับ F อีกครั้งเปลวไฟในปัจจุบันของเขาจะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นเนื่องจากพวกเขาจะสามารถเจาะแนวป้องกันของมอนสเตอร์ตัวใหญ่ได้ดีขึ้นมาก ไม่ใช่ว่าเขาสามารถฆ่าสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดาย แต่แทนที่จะมีผู้เสียชีวิต 11 คนในกลุ่มอาจมีเพียง 7 หรือ 8 คนเท่านั้นที่จะตาย
กลุ่มที่เหนื่อยล้ารอบตัวโนอาห์มองเขาราวกับว่าเขาเป็นคนบ้า แต่โนอาห์มีข้อแก้ตัวที่เตรียมไว้สำหรับพวกเขาแล้ว เขาไม่สนใจว่าผู้คนจะคิดอย่างไรกับเขา แต่มันจะเป็นปัญหามากสำหรับกลุ่มที่คิดว่าพวกเขามีโรคจิตอยู่ในกลุ่มดังนั้นหลังจากจุดไฟเผาศพก็อบลินตัวสุดท้ายโนอาห์ก็หันไปหาคนอื่นๆที่รวมตัวกันและพูดออกมาดังๆว่า
“เมื่อพวกนายไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อสู้ สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำคือลบร่องรอยของการต่อสู้ครั้งนี้และออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เราไม่รู้ว่าพวกมันจะกลับมาพร้อมกับกำลังเสริมหรือเปล่า ฉันคิดว่าพวกเราควรจะตั้งค่ายและพักผ่อน ตอนที่ฉันออกล่าฉันพบว่ามีลำธารอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ถ้าเราเดินจากที่นี่ประมาณ 25 นาที”
แจสเปอร์ตระหนักดีถึงสถานการณ์ที่กลุ่มผู้ถูกเลือกอยู่ในตอนนี้ หากพวกเขาพยายามบุกค่ายก็อบลินมันก็ไม่ต่างอะไรกับการแสวงหาความตายของตัวเอง
“นายพูดถูกฉันคิดว่าทุกคนควรพักผ่อนให้เพียงพอ เราจะเดินทางอีก 25 นาทีในตอนนี้เพื่อที่เราจะไปตั้งแคมป์ใกล้ลำธารที่นายพูดถึงเพื่อพักผ่อนที่นั่น เราจะสร้างกลยุทธ์ที่ดีกว่าเพื่อเอาชนะป้อมปราการนี้ เราจะไว้วางใจให้นายนำทางโนอาห์”
ในบรรดากลุ่มผู้ถูกเลือกส่วนใหญ่ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นและลุกขึ้นเพื่อไปที่ลำธารเพื่อพักผ่อน ในขณะที่กลุ่มเล็กๆเห็นได้ชัดว่าเป็นกลุ่มคนที่ใกล้เคียงที่สุดกับผู้หญิงที่ตะโกนว่าต่อหน้าโนอาห์ แม้ว่าพวกเขาจะลุกขึ้นยืนแต่พวกเขาก็แสดงชัดเจนมากถึงความไม่พอใจที่พวกเขารู้สึกว่าต้องเชื่อฟังบุคคลที่มีพรที่พวกเขาคิดว่าอ่อนแอกว่าตัวเอง
“ถ้าฉันมีพลังเต็มที่ฉันก็สามารถเผาก็อบลินพวกนั้นให้ตายได้เหมือนกันฉันก็แค่เหนื่อยแล้วเท่านั้นแหละ ถ้าฉันไม่เหนื่อยฉันอาจจะเผาได้เร็วกว่าเขาด้วยซ้ำ…” ชายคนหนึ่งจากกลุ่มที่ไม่พอใจพึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา
โนอาห์ได้ยินชัดเจนว่าชายคนนั้นพูดอะไร แต่เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าชายคนนี้คิดจะทำหรือไม่ทำอะไร เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ถูกเลือกตายในป้อมปราการไม่ใช่ความผิดของมอนเตอร์ แต่เป็นความโง่เขลาของผู้ถูกเลือกเอง
ในขณะที่พวกเขากำลังเดิน ก็มีเสียงน่าสงสัยเข้ามาใกล้เขาจากด้านหลัง คนๆนั้นคือผู้ถูกเลือกคนหนึ่งที่เดินตามเขามา
“ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการช่วยพวกเรา ฉันขอโทษอีกครั้งสำหรับการกระทำที่เราทำกับนายก่อนที่การบุกรุกจะเริ่มขึ้น ฉันหวังว่าฉันจะสามารถชดเชยได้ในอนาคต” แจสเปอร์กล่าวเมื่อเขาเข้าใกล้โนอาห์มากพอ ขณะที่โนอาห์กำลังเดินนำกลุ่มคนเดียวอยู่ด้านหน้า
เมื่อโนอาห์ได้ยินแจสเปอร์พูดถึง “ค่าตอบแทน” เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น แต่ยังคงมีสีหน้าไม่สนใจ เขาหันไปหาแจสเปอร์และมองเขาขึ้นลง
เมื่อแจสเปอร์รู้สึกถึงการมองของโนอาห์เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปที่กระดูกสันหลังของเขาเล็กน้อย ในใจของเขาบอกว่าเขาไม่ควรจะพูดแบบนั้นกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา แต่มันสายไปแล้วเขาพูดไปแล้ว และเขาไม่สามารถถอนสิ่งที่เขาพูดได้
จากสิ่งที่โนอาห์มองเห็นแจสเปอร์มีอุปกรณ์คุณภาพสูงทั้งชุดเกราะและอาวุธ ที่กริชเล็กๆพวกมันมีแสงสีเหลืองอ่อนเปล่งออกมา โนอาห์รู้ว่านี่ไม่ใช่กริชธรรมดาแต่เป็นกริชที่ได้รับพรมาแล้ว
ป้อมปราการไม่ได้ห้ามมนุษย์ให้นำสิ่งที่พบภายในออกไป หากโนอาห์ต้องการเขาสามารถใช้ดาบสนิมของก็อบลินและนำมันออกไปได้ แต่วัสดุนั้นอ่อนแอมากและมีคุณภาพต่ำจนไม่คุ้มค่า เมื่อพูดถึงป้อมปราการระดับสูงอาวุธที่ถูกทิ้งโดยมอนสเตอร์ภายในนั้นมีคุณภาพสูงกว่ามาก
ช่างตีเหล็กของสหพันธ์มนุษย์บนโลกทุกคนเริ่มศึกษาโลหะที่จะนำมาทำเป็นอาวุธของมนุษย์ เพราะพวกเขาสามารถนำอาวุธที่แข็งแกร่งและทนทานนี้ออกจากป้อมปราการได้ และในเวลาไม่กี่ปีพวกเขาก็สามารถทำได้สำเร็จ พวกเขาหลอมแกนของออร์คหรือเขี้ยวของโทรลล์หิมะที่มนุษย์ค้นพบและสร้างอาวุธและชุดเกราะใหม่ๆเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ในการบุกป้อมปราการ
ยิ่งโลหะถูกนำมาจากป้อมปราการระดับสูงเท่าใดช่างตีเหล็กจะทำงานกับมันได้ยากขึ้น แต่คุณภาพของไอเทมก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
โนอาห์รู้ว่าเขากำลังมองไปที่วัตถุที่ทำจากโลหะเหล่านี้ แม้ว่าจะไม่มีคุณภาพมากนัก แต่กริชนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า “โลหะที่ได้รับพร” ทำให้มันเป็นอาวุธที่ได้รับพรมาแล้ว
เมื่อนึกถึง “ค่าตอบแทน” โนอาห์ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวทันที…