กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 35
โนอาห์รู้ดีว่าก็อบลินที่โจมตีด้วยปืนยิงลูกดอกจากระยะไกลนั้นฉลาดกว่าก็อบลินนักรบมาก น่าเสียดายที่เขาไม่พบว่าก๊อบลินตัวนั้นจะฉลาดเท่านักธนูตัวแรกที่เขาพบก่อนหน้านี้ แต่ในทุกๆกลุ่มที่โนอาห์เห็น ก็อบลินถือปืนยิงลูกดอกจะฉลาดกว่าก็อบลินนักรบและก็อบลินนักธนูจะฉลาดกว่าก็อบลินที่ถือปืนยิงลูกดอก
ด้วยเหตุนี้ลูกไฟเพลิงลูกที่สองที่โนอาห์ควบคุมอยู่จึงพุ่งตรงไปที่ก๊อบลินนักรบที่อยู่ตรงหน้าเขา เขารู้ดีว่าก็อบลินถือปืนลูกดอกที่เหลืออยู่นั้นฉลาดพอที่จะหลบหนีไปที่ค่ายหลังจากเห็นสหายทั้งสองของเขาต้องทนทุกข์อยู่ที่พื้นและนั่นคือสิ่งที่กลุ่มของเขาต้องการ
ตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้เมื่อก็อบลินนักรบคนที่สองล้มลงกับพื้นอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก็อบลินที่ถือปืนลูกดอกก็วิ่งกลับไปที่ค่ายเพื่อต้องการความปลอดภัยหรือหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนมันก็ต้องไปขอความช่วยเหลือ
และนั่นจะเป็นไปตามที่กลุ่มของโนอาห์ต้องการ พวกเขาต้องการให้ก็อบลินพวกนั้นไปแจ้งเตือนตัวที่อยู่ในค่ายเพื่อให้นำกำลังเสริมออกมา เพราะพวกเขาต้องการที่จะค่อยๆฆ่ากลุ่มของก็อบลินที่ออกมาเรื่อยๆเพื่อที่จะลดจำนวนของก็อบลินที่อยู่ในค่ายลง แต่น่าเสียดายที่โนอาห์ไม่สามารถเผาศพของก็อบลินพวกนั้นได้ทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องทิ้งร่องรอบไว้เพื่อให้กำลังเสริมของก็อบลินตามมาได้ถูกต้อง
ทันทีที่โนอาห์ดับเปลวไฟของเขาลง ชายร่างใหญ่ที่สวมเกาะก็เอาศพของก็อบลินตัวสุดท้ายที่โนอาห์ฆ่ามาผ่าท้องก่อนจะอุ้มมันและวิ่งออกไป
ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆออกจากมาจากที่ซ่อนและวิ่งตามคนที่อุ้มศพของก็อบลินไปด้วย รอยเลือดถูกทิ้งไว้ตลอดทางที่เขาผ่านไป
ก็อบลินกลุ่มแรกใช้เวลาไม่นานในการมาถึง เมื่อพวกมันตระหนักว่ามนุษย์กำลังแบกเพื่อนของพวกมันไปด้วย และยังผ่าท้องเพื่อนของพวกมัน ความโกรธที่พวกมันรู้สึกในขณะนั้นก็ท่วมท้น ก็อบลินที่ถือคันธนูดึงสายออกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะยิงธนูไปที่คอของชายที่ถือศพ
ชายคนนั้นหันหน้าออกจากก็อบลินเขาจึงมองไม่เห็นลูกธนูที่พุ่งมา นั่นทำให้เขาไม่ทันระวังตัว ก่อนที่ลูกธนูจะถึงคอของเขากระแสลมแรงพุ่งเข้าใส่ลูกธนูในทิศทางตามขวางทำให้ลูกธนูออกจากวิถีของมัน ลูกธนูห่างจากชายคนนั้นไปเพียงสี่เซนติเมตรเท่านั้น
ผู้ที่ใช้ลมหักเหลูกธนูคืออบิเกลผู้หญิงที่ต่อว่าโนอาห์ที่ทางเข้าป้อมปราการ แม้ว่าเธอจะต่อสู้กับเขาด้วยเหตุผลโง่ๆแต่เธอก็รู้ว่าการอยู่รอดภายในป้อมปราการของพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับผลงานที่ดีของทุกคนและถึงแม้เธอจะรู้สึกผิดหวัง แต่เธอก็จะไม่ยอมทิ้งชีวิตเพื่อนร่วมทีมที่จะทำแผนประสบความสำเร็จ เพราะเธอก็ต้องการที่จะบุกป้อมปราการนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
เมื่อลูกธนูที่ยิงไปไม่ถูกชายคนนั้น นักธนูก็อบลินก็ไม่ได้มีโอกาสได้ดึงลูกธนูลูกต่อไปอีก เพราะจู่ๆก็มีแสงบางอย่างพุ่งใส่หน้าของมันทันที
อีกครั้งที่โนอาห์ยิงลูกไฟอีกลูกใส่ก็อบลินตัวหนึ่งทำให้เสียงร้องของมอนเตอร์ตัวนั้นดังลั่น
ก็อบลินตัวนั้นรู้สึกราวกับว่าหนังบนใบหน้าของมันกำลังละลายก่อนที่ตัวของมันจะลุกไหม้ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
และเพราะเสียงร้องนี้ที่ทำให้คนในกลุ่มตัดสินใจให้โนอาห์ยิงลูกไฟอย่างน้อยหนึ่งลูกต่อก็อบลินที่บุกมาหาพวกเขาหนึ่งกลุ่ม เพราะนี่คือสิ่งที่สามารถดึงดูดก็อบลินกลุ่มอื่นๆให้ออกมาจากค่ายได้มากที่สุดและพวกเขาก็จะสามารถลดจำนวนของก็อบลินภายในค่ายได้มากขึ้น
เนื่องจากการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมของทุกคนในหนึ่งชั่วโมงกลุ่มของพวกเขาได้ดำเนินไปไกลแล้ว พวกเขาทิ้งร่องรอยเลือดที่พวกเขาพยายามทำให้สับสนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยวิธีนี้เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มก็อบลินออกจากค่ายของพวกมันมันต้องใช้เวลานานกว่าที่พวกมันจะเข้ามาถึงกลุ่มของพวกเขาได้
เมื่อเลือดของก็อบลินตัวแรกเริ่มแห้งกลุ่มนั้นก็เอาศพอีกศพจากกลุ่มที่มาถึงพวกเขาและผ่าท้องอีกหนึ่งครั้งจากนั้นชายร่างใหญ่จะอุ้มมอนเตอร์ตัวนั้นต่อไปในขณะที่เขาปล่อยให้เลือดไหลลงบนพื้น
ไม่เหมือนกับการต่อสู้ครั้งแรกที่พวกเขาเข้ามาในป้อมปราการ พวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมและพยายามจัดการกับก็อบลินทั้งหมดที่พวกเขาเห็นตรงหน้า ตอนนี้พวกเขากำลังใช้กลยุทธ์ที่รู้จักกันดีที่ถูกเรียกว่าการ “ไคร้” มันเป็นวิธีที่พวกเขาจะสังหารกลุ่มเล็กๆและล่าถอยเพื่อฆ่ากลุ่มเล็กๆอีกกลุ่มหนึ่งและล่าถอยอีกครั้ง ทำซ้ำขั้นตอนแบบนี้ไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้พวกเขาต้องเจอกับหลายๆกลุ่มพร้อมๆกัน
ตอนนี้ชายที่อุ้มศพนั้นตัวชุ่มไปด้วยเลือดแล้ว เป็นไปได้ว่าหากเขาหยุดผ่าศพของก็อบลินและเดินไปเฉยๆ ก็อบลินตัวอื่นๆก็ยังคงค้นหากลุ่มของผู้ถูกเลือกเจอจากกลิ่นเลือดที่ติดอยู่กับตัวของผู้ชายคนนี้อยู่ดี เพราะอย่างที่โนอาห์ได้บอกไว้ตั้งแต่แรกว่ากลิ่นเลือดของก็อบลินรุนแรงมาก มันสามารถรับรู้ถึงกลิ่นนี้ได้จากระยะไกลเลยทีเดียว
“เอาล่ะตอนนี้เป็นเวลาสำหรับแผนส่วนที่สองแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมเพราะเราใกล้จะถึงค่ายแล้ว” แจสเปอร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะที่เขามองไปยังทิศทางที่เอริคชี้ไปและนำทางกลุ่มไปที่นั่น เอริคเป็นผู้ถูกเลือกที่มีพรที่สามารถทำให้เขามีวิสัยทัศน์อันเฉียบคม เขาสามารถมองเห็นได้ในระยะไกลโดยที่ไม่หลงทางหรือไม่มีปัญหาใดๆ ท่ามกลางต้นไม้มากมายพวกเขาเดินวนไปรอบๆค่ายของก็อบลินและทำเส้นทางเลือดไว้ เอริคก็ไม่พลาดจากเส้นทางที่พวกเขาวางแผนไว้อยู่ดี
ถ้าก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ทางด้านตะวันตกของค่ายตอนนี้พวกเขาก็อ้อมไปด้านหลังค่ายไปทางด้านตะวันออก หากก็อบลินออกมาด้วยจำนวนเท่ากันและออกมาด้วยระยะเวลาที่เท่ากันในตอนที่พวกเขาเริ่มสังหารตั้งแต่กลุ่มแรก ก็หมายความว่าตอนนี้มีก็อบลินอย่างน้อย 30 กลุ่มที่ตามรอยเลือดนี้มาแล้ว และนั่นเป็นจำนวนก็อบลินกว่า 100 ตัว
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่พวกเขาได้รับบนอินเทอร์เน็ตโดยปกติก็อบลินจะแบ่งออกเป็นครึ่งหนึ่งซึ่งจะออกลาดตระเวนในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งปกป้องค่าย นั่นหมายความว่าตอนนี้อาจมีก็อบลินอีก 100 ตัวที่อยู่นอกค่ายจากแผนการของพวกเขาโดยปล่อยให้ป้อมปราการเล็กๆของพวกมันที่มีทางออกเพียงทางเดียวซึ่งตอนนี้ไม่มีการป้องกันใดๆอีก เพราะพวกมันถูกล่อออกมาหมดแล้ว
โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาอีก เมื่อกลุ่มของผู้ถูกเลือกมองเห็นทางเข้าของค่ายก็อบลินโดยที่มีก็อบลินตัวเล็กเพียงสองตัวยืนเฝ้าด้วยท่าทางเป็นห่วงเพราะจำนวนที่น้อยเกินไปของพวกมัน
และก่อนที่ก็อบลินทั้งสองจะรู้สึกถึงความผิดปกติ ลูกธนูของอบิเกลก็พุ่งเข้าไปที่หัวของก็อบลินอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากพรของเธอที่เพิ่มการควบคุมเล็กน้อย เธอทำให้มันเหมือนกับจรวดนำวิถี
ลูกธนูอีกลูกหนึ่งถูกยิงโดยชายวัยกลางคนซึ่งเป็นนักธนูเช่นเดียวกัน ลูกธนูได้พุ่งเข้าที่หน้าอกของมอนสเตอร์สีเขียวตัวน้อยนั้นทำให้มันตายทันที
ในขณะที่ยามสองตัวที่ประตูตายไปแล้วและแทบจะไม่มีก็อบลินอยู่ในป้อมปราการอีกต่อไป แจสเปอร์ก็วิ่งเข้าไปข้างในคนเดียวโดยใช้พรของเขาเองเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีก๊อบลินวิ่งมาที่ทางเข้าอีกและรอคอยเพื่อที่จะปิดกั้นประตูไม้ที่เอาไว้ป้องกันค่ายของก็อบลินลง
โนอาห์วิ่งไปพร้อมกับคนอื่นๆในกลุ่มโดยมีความระวังตัวเสมอเพื่อไม่ให้ศัตรูที่ไม่คาดคิดมาโจมตีนักเวทย์และนักธนูในกลุ่ม ตำแหน่งของเขาคือได้รับมอบหมายให้ดูแลผู้ถูกเลือกทั้งสองกลุ่มนี้
เมื่อผู้ถูกเลือกคนสุดท้ายเข้ามาในค่ายแจสเปอร์ก็ใช้กลไกของประตูเพื่อปิดประตูไม้อย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ก็อบลินที่ออกจากค่ายเข้ามาอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย
เมื่อประตูปิดโนอาห์ซึ่งตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวแปลกๆบางอย่างที่มาจากทางซ้าย ด้วยมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นทันทีเขาเสกลูกไฟในแต่ละลูกและเตรียมพร้อมที่จะยิงทุกอย่างที่อาจเข้าใกล้พวกเขา
เมื่อหันไปที่มุมหนึ่งภายในค่ายพวกเขาก็เห็นก็อบลินสีเขียวตัวเล็กๆสามตัวที่กำลังวิ่งหาทางออกค่าย เพราะพวกมันได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากก็อบลินตัวอื่นๆที่อยู่ด้านนอกในตอนที่พวกมันถูกทรมานด้วยเปลวไฟของโนอาห์
แต่ก่อนที่โนอาห์จะขว้างลูกไฟไปที่มอนเตอร์พวกนั้นเขาก็ยกเลิกความคิดนี้อย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกับที่เขาเรียกลูกไฟออกมาเข้าก็ทำมันให้หายไปอย่างรวดเร็วโดยการปิดมือลงและเอื้อมไปหยิบมีดในย่ามใบเล็กที่รัดไว้ทางขาขวาของเขา เขาตระหนักได้ว่าหากเขาเผาก็อบลินที่นี่เสียงกรีดร้องของพวกมันก็จะดึงดูดความสนใจของก็อบลินที่อยู่นอกค่ายให้กลับเข้ามา และนั่นจะทำให้ความพยายามทั้งหมดที่พวกเขาทำมาต้องศูนย์เปล่า
เมื่อมองไปอีกด้านหนึ่งโนอาห์ก็ไม่เห็นว่ามีใครสังเกตเห็นเขาที่ทำแบบนั้นเช่นกัน หมายความคือไม่มีใครพยายามที่จะหยุดเขาจากการปาลูกบอลไฟใส่มอนเตอร์พวกนั้นเลย หรือก็คือพวกเขาจะปล่อยให้อาห์จัดการพวกมันอย่างแน่นอน
‘ตอนนี้มันใกล้แล้วสินะ’ โนอาห์คิดในขณะที่เขาถอนหายใจพร้อมกับความยินดีของเขาที่ปรากฏอยู่ในใจ
เมื่อก็อบลินเงอะงะทั้งสามสังเกตเห็นมนุษย์สิบห้าคนที่ทางเข้าของค่ายของพวกมัน ทั้งสามก็เริ่มวิ่งเข้าหาพวกเขาอย่างดุเดือน แต่เนื่องจากนี่เป็นการต่อสู้สามต่อสิบห้า ดังนั้นผลลัพธ์จึงออกมาอย่างชัดเจน ก็อบลินน้อยทั้งสามตัวไม่มีโอกาสที่จะกรีดร้องก่อนที่พวกมันจะตายลงทันที
แต่ก่อนที่พวกมันจะตายโนอาห์มีความสุขที่สามารถแทงหนึ่งในพวกมันได้ เพราะเนื่องจากความตายของมอนเตอร์ตัวนั้น ทำให้มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นสองครั้ง และหน้าต่างสีดำก็ลอยขึ้นมาตรงหน้าของโนอาห์
[คุณได้รับ 1 ค่าประสบการณ์จากการฆ่าก็อบลิน ค่าประสบการณ์ 100/100 หน่วย]
[ยินดีด้วย! คุณได้เลื่อนขึ้นไปที่เลเวล 02 แล้ว]