กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 51
‘นี่คือร้านขายมอนเตอร์ใช่ไหม’ โนอาห์ถามตัวเองในใจขณะดูที่อยู่ในโทรศัพท์และตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เขาไม่เคยสังเกตเห็นร้านขนาดใหญ่และมีชื่อที่ฉูดฉาดขนาดนี้มาก่อน
[พ็อกเก็ตมอนเตอร์]
‘ชื่อนั้น…มันไม่ทำให้เกิดปัญหากับบริษัทดังบริษัทนั้นงั้นหรอ?’
เมื่อมองไปที่โทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง โนอาห์ก็ไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยอีกต่อไป เขาผ่านหน้าร้านที่ขายมอนเตอร์ให้กับมนุษย์มาเกือบปีแล้ว เขาเคยได้ยินข่าวว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีร้านค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางศูนย์การค้า แต่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมันเลย
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นโนอาห์เดินเข้าไปในร้าน เมื่อเขาเข้ามาในร้านเขารู้สึกราวกับว่าเขาได้เข้าไปในป้อมปราการอีกครั้ง โนอาห์รู้สึกว่ารอบตัวเขามีมอนเตอร์มากมาย ความรู้สึกแบบนี้ปกติเขาจะพบได้เมื่อเขาอยู่ในป้อมปราการที่รายล้อมไปด้วยมอนเตอร์ที่ปลดปล่อยออร่าออกมามากมาย
มันแปลกมากสำหรับเขาที่คิดว่ามีสถานที่เช่นนี้อยู่ในเมือง สถานที่ที่ควรจะเป็นที่หลบภัยที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์แท้จริงแล้วกลับเป็นที่อยู่อาศัยของมอนเตอร์มากมายและเขาก็ไม่เคยรู้มาก่อน
สิ่งที่ทำให้โนอาห์แปลกใจมากที่สุดก็คือเมื่อเขาเข้ามาในร้านแทนที่เขาจะรู้สึกขยะแขยงกับสิ่งที่เขาเห็นเขากลับรู้สึกสบายใจมากทีเดียว บรรยากาศเต็มไปความชื่นมื่นมีแสงสีในร้านทำให้รู้สึกตื่นเต้นแน่น่าสนใจ
‘ที่นี่คงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนไม่กลัวมอนเตอร์’
เมื่อมองไปรอบๆโนอาห์ก็รู้ว่าเขาได้ดึงความสนใจมาที่ตัวเองเป็นอย่างมาก ความสนใจนี้มาจากลูกค้าคนอื่นๆที่ประทับใจในรูปร่างหน้าตาของเขา ส่วนอีกความสนใจหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากพนักงานในร้านที่กำลังเถียงกันเองว่าใครจะได้ต้อนรับหนุ่มหล่อคนนั้น
พวกเขาต่างอยากเข้าไปหาโนอาห์เป็นคนแรก เพราะโนอาห์มีเสน่ห์มากและเสน่ห์นั้นได้กระตุ้นความสนใจของพนักงานหญิงได้อย่างมาก แน่นอนส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิธีการแสดงของเขาด้วย ความเงียบสงบที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวของเขา ร่องรอยความไม่สนใจบนใบหน้าของเขาราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สมควรให้เขาต้องสนใจ ทุกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของพวกนี้ถูกจับจ้องโดยเหล่าพนักงาน พวกเขารู้ดีว่าทัศนคติประเภทนี้ส่วนใหญ่มาจากคนรวยที่คุ้นเคยกับทุกสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว ในความคิดของพวกเขาใครก็ตามที่โชคดีพอที่จะรับใช้ชายหนุ่มคนนี้จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจำนวนมากในการขายมอนเตอร์ เพราะถ้าเขาร่ำรวยจริงๆเขาจะใช้เงินจำนวนมากในการซื้อของในวันนี้
ในขณะที่พนักงานกำลังคุยกันว่าใครจะมาต้อนรับเขา โนอาห์ซึ่งไม่รู้ถึงความสับสนที่เกิดขึ้นก็ยังคงมองดูมอนเตอร์ตัวน้อยที่ยังอยู่ในกรงต่อไป เมื่อเขาค้นหาข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของเขาเกี่ยวกับร้านค้าที่ขายมอนสเตอร์เขาพบว่ามอนสเตอร์เหล่านี้ถูกจับโดยทีมของผู้ถูกเลือกที่เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว พวกเขาเรียกตัวเองว่านักล่าเนื่องจากป้อมปราการเดียวที่พวกเขาบุกเข้าไปคือป้อมปราการที่มีมอนเตอร์ทื่ทำให้เชื่องได้
มอนเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นมอนเตอร์ขนาดเล็กบางครั้งก็ไม่เป็นอันตรายบางครั้งก็อันตรายเล็กน้อย แต่ความกังวลเกี่ยวกับความก้าวร้าวของมอนเตอร์นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากนักวิจัยได้ค้นพับวิธีการควบคุมมอนเตอร์แล้วและนี่เป็นเรื่องที่โนอาห์สนใจเป็นอย่างมาก
สิ่งที่พวกเขาพบในการทำให้มอนเตอร์เชื่องได้นั้นคือพวกเขาจะต้องทำสัญญาที่ดีกว่าให้กับมอนเตอร์ พวกเขาไม่รู้ว่าสถานที่ที่มอนเตอร์ทำสัญญามาจากที่ไหน แต่อาจเป็นไปได้ว่าสัญญานั้นอาจจะสูญเสียไปหลังจากที่ถูกย้ายจากที่หนึ่งมายังอีกที่หนึ่ง
สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้คือสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์เซ็นสัญญาด้วยเลือดและวางไว้บนหน้าของมอนเตอร์ และมอนเตอร์ตัวนั้นไม่มีความปรารถนาที่จะต่อต้านมนุษย์ที่จะทำสัญญาด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งสองจะสร้างพันธะทางสายเลือดซึ่งกันและกัน ทั้งสองสามารถแบ่งปันความคิดได้หากความผูกพันนั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ตามที่นักวิจัยรายงานทางอินเทอร์เน็ตต่อประชาชน แม้แต่มอนเตอร์ระดับสูงก็สามารถทำให้เชื่องได้โดยใช้สัญญานี้ แต่นั่นจะขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของมอนเตอร์เท่านั้น หากมันต้องการที่จะต่อต้านไม่ว่ามนุษย์จะบังคับมันมากแค่ไหนในท้ายที่สุดสัญญาก็จะไม่ได้ผล วิธีเดียวที่จะทำให้สัญญาทำงานได้อย่างถูกต้องคือถ้าทั้งสองสร้างขึ้นโดยทั้งคู่เต็มใจที่จะยอมรับสัญญานั้น
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมอนเตอร์ตัวน้อยที่อ่อนแอกว่าจึงถูกนำตัวมายังเมืองมนุษย์ เพราะพวกมันจะกลัวหรือรู้สึกขอบคุณกับการรักษาที่พวกมันจะได้รับ พวกมันจะสูญเสียความตั้งใจที่จะต่อต้านสัญญาจึงทำให้ขั้นตอนการฝึกฝนมอนเตอร์เหล่านี้ง่ายขึ้นมาก แม้แต่เด็กเล็กๆก็สามารถมีมอนเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงได้ นี่คงเป็นเช่นนั้นสำหรับเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นที่โนอาห์สังเกตเห็นเธอที่เดินไปตามถนนพร้อมกับหนูตัวเล็กๆ
เมื่อมองไปรอบๆโนอาห์สังเกตเห็นว่ามอนเตอร์เกือบทั้งหมดในร้านเป็นมอนเตอร์ตัวเล็กและไม่เป็นอันตรายเท่าหนูตัวนั้น
‘มอนเตอร์ตัวเล็กๆเหล่านี้จะมีประโยชน์มากสำหรับแม็กกี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทักษะที่สัญญาจะสร้างขึ้น’ โนอาห์คิดโดยที่เขาเอามือเท้าคางขณะที่เขามองดูหนู
ทักษะอย่างหนึ่งที่สัญญาได้ให้ไว้สำหรับมนุษย์คือพวกเขาสามารถส่งมอนเตอร์ไปยังมิติอื่นได้ นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ในสัญญา แต่เนื่องจากสัญญาได้รับการแปลจากภาษาโบราณนักวิจัยจึงไม่สามารถระบุได้ว่ามิติใดที่มอนเตอร์ถูกส่งไป สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือมนุษย์สามารถส่งมอนเตอร์ผ่านประตูและนำพวกมันกลับมาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
โนอาห์พบว่าเรื่องนี้มันแปลกประหลายเป็นอย่างยิ่ง แต่จากเว็ปไซต์ที่เขาอ่านนักวิจัยได้ทำการทดสอบหลายอย่างและการวิจัยของพวกเขาก็พิสูจน์แล้วว่าสัญญานี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ โนอาห์จึงตัดสินใจที่จะเชื่อบทความและซื้อมอนเตอร์ให้กับแม็กกี้
ด้วยความสามารถที่สัญญามีให้ โดยการที่สามารถส่งมอนเตอร์ไปยังมิติอื่นได้นั่นทำให้แม็กกี้สามารถเลี้ยงมอนเตอร์ได้แม้เธอจะอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากเมื่อเธอต้องการส่งมอนเตอร์ออกไปเธอก็สามารถส่งไปยังมิติที่ไม่รู้จักนั้นได้โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
มีบางอย่างในตัวโนอาห์บอกเขาว่าสัญญานี้มีบางอย่างที่แปลกประหลาด แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่เขาก็คิดไม่ออก น่าเสียดายที่สัญญานี้ไม่สามารถหาซื้อได้ในอินเตอร์เน็ตโนอาห์จึงต้องซื้อมอนเตอร์เพื่อรับสัญญาและนำมาทดลองว่ามันเป็นอย่างไร เขาจะศึกษาสัญญาก่อนและค้นหาว่ามันมาจากไหนก่อนที่จะให้แม็กกี้เซ็นเนื่องจากเขาไม่ต้องการให้เธอต้องประสบกับเรื่องเลวร้ายที่ไม่คาดคิด
เมื่อมองไปรอบๆโนอาห์คิดว่ามอนเตอร์พวกนี้จะแสดงปฏิกิริยาเช่นเดียวกับทุกคน นั่นคือทุกครั้งที่โนอาห์เข้าใกล้กรงของมอนเตอร์พวกมันที่สังเกตเห็นเขาก็จะสิ่งไปที่ปลายอีกด้านหนึ่งของกรงโดยอัตโนมัติ ไม่ว่ามันจะเป็นมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ หรือจะเป็นแบบไม่อันตรายหรือก้าวร้าวเล็กน้อยก็ไม่มีมอนเตอร์ตัวไหนเข้าใกล้เขาเลย แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าใกล้กรงมอนเตอร์ที่มีรูปร่างคล้ายลูกสุนัขมันก็ออกมาหาเธอทันที ทำให้โนอาห์รู้สึกแปลกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ปฏิกิริยาจากมอนเตอร์พวกนี้ทำให้โนอาห์ผิดหวัง
‘ฉันหล่อไม่พอสำหรับพวกแกหรอ? หรือบางทีพวกแกอาจจะไม่ชอบกลิ่นของฉัน?’ เขาถามตัวเองด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
ไม่ว่ามอนเตอร์ตัวใดที่เขาเข้าใกล้มอนเตอร์ตัวนั้นมักจะวิ่งออกไปให้ไกลจากเขามากที่สุดแม้ว่ามันจะหมายถึงการถูกบีบระหว่างแท่งเหล็กของกรงที่พวกมันอยู่ก็ตาม
เมื่อโนอาห์กำลังจะโกรธมากเขาก็เห็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป เขายังคงมีสีหน้าแปลกๆแต่เมื่อมองจากระยะไกลเขาเห็นตู้ปลาที่เป็นแก้วอยู่ตรงหน้าทางเดินของเขา เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการเห็นตู้ปลาตรงหน้า เขาจำได้ว่าป้อมปราการระดับต่ำมีปลาอยู่จริงๆ แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้เขาก็เข้าใจว่าตู้ปลานี้ไม่ได้เอาไว้ใส่ปลาจริงๆ
แทนที่ตู้ปลานี้จะใส่น้ำสำหรับเลี้ยงปลา แต่ตู้นี้กลับว่างเปล่ามันมีเพียงก้อนหินสองสามก้อนและกิ่งไม้แห้ง นอกจากพืชพันธุ์เทียมแล้วยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายในตู้ปลาตู้นี้ด้วย
งูสีดำนอนอยู่อย่างเงียบๆระหว่างก้อนหินและกิ่งไม้แห้งหนา ตัวของมันไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ในความเป็นจริงเมื่อมองมันดีๆแล้วจะรู้ได้ว่างูตัวนี้ตัวเล็กมาก หากมันพยายามพันรอบแขนของโนอาห์มันจะไม่สามารถพันรอบแขนของโนอาห์ได้มากกว่าสองรอบ
งูมีความหนาไม่เกินสองนิ้วมันดูบอบบางมาก โนอาห์ไม่เคยสนใจงู แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาก็หลงเสน่ห์มันในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แม้แต่งูก็ตื่นจากการหลับใหลมันกำลังมองเข้าไปในดวงตาของโนอาห์โดยตรงราวกับว่ามันสามารถมองทะลุวิญญาณของเขาได้
‘เกิดอะไรขึ้น?’ เขาคิดในใจ
แต่ก่อนที่เขาจะพยายามโต้ตอบกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยเสียงร่าเริงก็ดังขึ้นข้างหลังของเขาพร้อมกับพูดอย่างกระฉับกระเฉงว่า
“สวัสดีท่านชาย มีอะไรให้ทางเราช่วยไหม?“