กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 81
Chapter 81:81 เลเวลเปลวไฟแห่งนรก
“ตู้ม” “ตู้ม” “ตู้ม” “ตู้ม” “ตู้ม” “ตู้ม”
มาร์เซลไม่สามารถหุบปากของเขาได้เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเขา
เขาพยายามนับจํานวนครั้งที่โนอาห์เทเลพอร์ตในการต่อสู้เพื่อให้เข้าใจถึงความสามารถของเขา เพื่อที่กลุ่มของเขาจะได้ว่ากลยุทธ์ในป้อมปราการถัดไปที่พวกเขาบุกเข้ามาได้ แต่เมื่อเขานับเทเลพอร์ตได้ 15 ครั้ง เขาก็เห็นมอนสเตอร์ตัวหนึ่งถูกไฟลุกในจุดต่างๆและไฟที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นก็เกิดขึ้นจากเปลวไฟของโนอาห์
เมื่อมาร์เซลเห็นสิ่งนี้ เขาคิดว่าโนอาห์จะต้องชะลอความเร็วในการเทเลพอร์ตเพื่อรักษาความสามารถทั้งสองอย่างไว้ แต่น่าแปลกที่เปลวไฟยังคงเผาไหม้และปรากฏขึ้น บนตัวมอนสเตอร์มากขึ้น และโนอาห์ก็เทเลพอร์ตเร็วขึ้นเช่นกัน
เมื่อถึงจุดหนึ่งมาร์เซลต้องเลือกเพียงสิ่งเดียวว่าเขาต้องจดจ่อกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นรอบตัวของเขาหรือเขาจะมุ่งความสนใจไปที่การเคลื่อนย้ายของโนอาห์ เพราะเขาไม่สามารถทําทั้งสองอย่างพร้อมกันได้เนื่องจากความเร็วในการเคลื่อนย้ายของโนอาห์
จากจํานวนการระเบิดและแสงที่โนอาห์สร้างขึ้น มาร์เซลคิดว่าโนอาห์ทําการเคลื่อนย้ายอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆสองวินาที และนี่เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงและเขาคิดว่าทักษะของโนอาห์นั้นไม่สมดุลเป็นอย่างมาก
เขาถือว่าพรของแจสเปอร์นั้นทรงพลังและอยู่ในระดับสูงอยู่เสมอ ไม่ใช่ในแง่ของความหวือหวาของพร แต่เป็นในแง่ของความสามารถ
แม้จะนําพรของแจสเปอร์ไปเทียบกับผู้ถูกเลือกคนอื่นๆที่มีพรที่คล้ายคลึงกัน และถ้าพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน แจสเปอร์จะเหนือกว่าเสมอ แต่การเป รียบเทียบแจสเปอร์กับโนอาห์นั้นเป็นไปไม่ได้
ความว่องไวของแจสเปอร์นั้นเหนือกว่าโนอาห์จริงๆ บางทีอาจเร็วกว่าโนอาห์ถึงสองเท่าเมื่อแจสเปอร์ใช้ความ สามารถของเขาในระดับสูงสุด แต่การเปรียบเทียบแบบนั้นกับคนที่สามารถเทเลพอร์ตได้บ่อยๆในช่วงเวลา สั้นๆนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ว่าโนอาห์สามารถโจมตีจากทั้งไกลและใกล้ได้เรื่อยๆ
เขาพูดถูกจริงๆพรของโนอาห์ไม่เคยสนับสนุนเขาในการเป็นนักเวทย์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบว่าอะไรดีกว่าระหว่างนักเวทย์หรือนักฆ่า แค่ดูจากจํานวนครั้งการเทเลพอร์ตก็น่าจะรู้คําตอบแล้ว นักเวทย์ที่ดีสามารถจัดการกับศัตรูได้หลายตัว แต่นักฆ่าที่ดีสามารถจัดการกับศัตรูตัวใดก็ได้
หลังจากที่แจสเปอร์แทงตาของมอนสเตอร์ไปข้างหนึ่งแล้ว มอนสเตอร์ตัวนั้นก็ฉลาดขึ้นมากและไม่ปล่อยให้แจสเปอร์ละสายตาจากมันเพื่อไปโจมตีตาอีกข้างของมันอีก
เนื่องจากแจสเปอร์ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายเหมือนโนอาห์ ในท้ายที่สุดเขาจึงต้องพึ่งพานักเวทย์และนักธนูของกลุ่มเพื่อโจมตีมอนสเตอร์เกือบทั้งหมด
เมื่อมอนสเตอร์ได้รับความเสียหายในจุดที่ทุกคนสามารถรับมือได้ มาร์เซลและนักรบคนอื่นๆก็เข้าไปใกล้มัน เพื่อจบการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตัวนี้ทันที และ แจสเปอร์ก็เข้าไปสนับสนุนโนอาห์ต่อ
การต่อสู้จึงจบลงค่อนข้างง่าย สิ่งเดียวที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าผากของโนอาห์ที่มีเหงื่อออก และแจสเปอร์ที่กําลังหอบ หายใจแรงอยู่บนพื้นหลังจากที่เขาหลบการโจมตีจํานวนมาก
“นายคือปีศาจ!” แจสเปอร์ตะโกนเมื่อเขาชี้ไปที่โนอาห์
เสี้ยววินาทีนั้นโนอาห์คิดว่าแจสเปอร์ค้นพบความ เกี่ยวข้องของเขากับลูซิเฟอร์ แต่เมื่อเห็นว่าเขารู้สึกประ ทับใจ โนอาห์ก็ผ่อนคลายและหัวเราะกับ สิ่งที่เพื่อนของเขาพูด เช่นเดียวกับในครั้งอื่นๆโนอาห์ใช้ค วามสามารถของเขาในการเผาศพของมอนสเตอร์ ในขณะที่ ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆกําลังพูดคุยกันอย่างอบอุ่นเกี่ยวกับการต่อ สู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น และพยายามค้นหาว่าโนอาห์ได้เทเลพ อร์ตไปทั้งหมดกี่ครั้ง
โนอาห์รู้ว่าเขาใช้การเทเลพอร์ตมาแล้ว 100 ครั้ง แต่หลังจากนั้นเขาก็หยุดนับ ในท้ายที่สุดค่าประสบการณ์ที่เขาจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับระยะทางที่เขาเคลื่อนย้าย น่าเสียดายที่เขามีระยะทางจํากัด ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ต้องการรถเลยด้วยซ้ํา เขาจะสามารถเคลื่อนย้ายจากบ้านของเขาไปที่ใดก็ได้ที่เขาต้องการ แต่นั่นยังเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้เขาสามารถไปได้ไกลแค่ 100 เมตรเท่านั้น และเขารู้สึกเหนื่อยมากทุกครั้งที่เขาทําอย่างนั้น การทําเช่นนั้นบ่อยๆไม่สามารถทําได้เลย
อย่างน้อยก็เป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แต่ในอนาคต? …ใครจะ ไปรู้?” โนอาห์คิดด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะจินตนาการว่าเขาจะสามารถไปที่ไหนก็ได้ในทันที บางทีเขาอาจจะไปถึงดาวดวงอื่นได้ในชั่วพริบตาก็ได้
น่าเสียดายที่สิ่งนี้ยังคงเป็นความฝันอันแสนไกล หากเขายังไม่ได้พัฒนาทักษะของเขาถึงระดับ 02 ก่อนเขาก็ยังไม่มีพื้นฐานสําหรับการจะทําแบบนั้นในอนาคต
ขณะที่เขาเผามอนสเตอร์ โนอาห์สังเกตเห็นว่าศพแต่ละศพมีชิปควบคุมอยู่ที่ท้องด้วย
อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่มีแผลเป็นและรอยเย็บที่ท้องเหมือนมอนสเตอร์ตัวแรก และทําให้การต่อสู้มีปัญหามากขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ทําให้กลุ่มของเขาไม่ สามารถฆ่ามอนสเตอร์ทั้งสามได้
สิ่งเดียวที่ควรสังเกตคือชิปเหล่านี้ในท้องของมอนสเตอร์ตัวนี้ก็เหมือนกับชิปในท้องของมอนสเตอร์ตัวแรก ซึ่งมันเพิ่มความสงสัยของผู้ถูกเลือกทั้งกลุ่มกับสิ่งที่อยู่ เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี่
ทั้งกลุ่มของเขาลงความเห็นว่ามอนสเตอร์พวกนี้ด้อยการพัฒนาด้านสติปัญญา และพวกมันไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่ จะทําชิปแบบนี้ และนี่ทําให้พวกเขามั่นใจในทฤษฎี การค วบคุมความอยากอาหาร” ของโนอาห์ ปัญหาคือโนอาห์เริ่ม กังวลเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้
ตั้งแต่แรกจนกระทั่งถึงตอนนี้พวกเขาไม่พบอะ ไรนอกจากความสงสัย ในตอนที่พวกเขาเดินในป้อมปราการนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพบคนแคระในป้อมปราการแห่งนี้ ตอนนี้พวกเขายังพบว่ามอนสเตอร์พวกนี้ถูกควบคุม และสิ่งที่พวกเขากลัวจริงๆคือแล้วใครที่เป็นคนควบคุมมอนสเตอร์เหล่านี้ และเมื่อมองดูที่พื้น โนอาห์ก็เริ่มที่จะนึกออกแล้วว่าเป็นใครที่ควบคุมเรื่องทั้งหมดนี้
แต่ในขณะที่เขากําลังไตร่ตรองถึงสิ่งเหล่านี้อยู่นั้น โนอาห์ก็ได้รับการแจ้งเตือนที่เขารอคอยทันทีที่มอนสเตอร์ตัวที่สองถูกไฟเผา
โดยที่เขาไม่ได้อ่านข้อความ โนอาห์รู้สึกสบายมากขึ้น ในควบคุมเปลวไฟของเขา หากก่อนหน้าที่เขาควบคุมเปลวไฟได้ยากตอนนี้เขากลับสามารถสร้างลูกไฟสอง ลูกพร้อมกันได้โดยไม่ยากเลย
ในขณะนั้นเองที่โนอาห์ก็มีอีกความคิดหนึ่งเข้ามาในหัว ของเขา เขาตัดสินใจทดสอบอะไรบางอย่าง เนื่องจากการส ร้างลูกไฟสองลูกพร้อมกันดูเหมือนจะไม่ท้าทายพอสําหรับเขา
“ฉันต้องการทดสอบขีดจํากัดของฉัน”
ขณะเผามอนสเตอร์ตัวสุดท้าย โนอาห์ตัดสิน ใจทดสอบการใช้เปลวไฟของเขา
เขาใช้การควบคุมของเขาทีละเล็กทีละน้อยเพื่อเปลี่ ยนเปลวไฟซึ่งก่อนหน้านี้มันดูเหมือนลูกบอลให้กลายเป็น เส้นหลายเส้นที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
คนอื่นๆในกลุ่มมองดูมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายที่กําลังลุกไหม้ และเห็นเปลวไฟที่กําลังส่ายไปมาและสร้างขาเหมือนแมงมุม ทําให้อัตราการเผาไหม้เพิ่มขึ้นมากยิ่งขึ้นเนื่อง จากพื้นผิวสัมผัสที่มากขึ้น เมื่อพวกเขามองไปที่โนอาห์ พวก เขาตระหนักว่าเขากําลังจดจ่อและดูเหมือนจะหมดแร งมากกว่าตอนที่เขาเทเลพอร์ต
“เขาทุ่มเทอย่างมากในการทําให้ตัวเองสมบูรณ์แบบ บางที่ถ้าฉัน
ทําแบบเดียวกัน ฉันอาจจะมีทักษะที่ทรงพลังมากกว่านี้ในทักษะของฉัน…”
นั่นคือสิ่งที่ผู้ถูกเลือกมากมายรอบตัวเขาคิดในขณะที่พวก เขากําลังพักผ่อนอยู่
โนอาห์ซึ่งมีสองทักษะที่ทรงพลังอยู่แล้ว ไม่ยอมเลิกฝึกและอุทิศตัวเองอย่างต่อเนื่องในการฝึกฝนของเขาและอาจถึงกับปลดล็อกทักษะใหม่
เมื่อทุกคนรู้ว่าโนอาห์กําลังทําอะไรอยู่ บรรยากาศที่สงบ และผ่อนคลายตามปกติของกลุ่มก็ถูกแทนที่ด้วยบรร ยากาศที่หนักหน่วงและแข่งขันกันมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครอยาก ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เมื่อโนอาห์ได้รับเลือก ให้เป็นนักเวทย์หลักของกลุ่ม นักเวทย์คนอื่นๆก็เริ่มฝึกฝน มากขึ้นเพื่อที่จะได้ตําแหน่งนี้จากโนอาห์ในสักวันหนึ่ง
เมื่อพวกเขาเห็นโนอาห์มีพลัง พวกเขาก็รู้สึกกระหายในพ ลังเช่นเดียวกัน พวกเขากระหายการพัฒนาเพื่อที่จะทําให้ เขามีพลังแบบโนอาห์ และนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีต่อขวัญกําลังใจ ของกลุ่ม
ก่อนหน้านี้โนอาห์เป็นเพียงนักเวทย์ของกลุ่มเท่านั้น แต่ตอนนี้โนอาห์แสดงออกมาให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นได้ทั้งนักสู้และนักเวทย์ เขาสามารถโจมตีได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลแม้แต่นักรบที่อยู่แนวหน้าก็รู้สึกกดดันให้พวกเขาฝึกฝนมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้พวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
โนอาห์ไม่รู้ว่าการฝึกฝนของเขาทําให้เกิดอะไรขึ้นกับกลุ่ม เขาเพียงแค่ต้องการทดสอบการควบคุมเปลวไฟของเขาเท่านั้น และเขาก็รู้สึกประหลาดใจกับมัน บางทีในระดับถัดไปของทักษะของเขา เขาอาจจะสามารถสร้างตัวอักษรแห่งเปลวไฟได้ เห็นได้ชัดว่ามันจะไม่ละเอียดอ่อนเท่าตัวอักษรข องระบบ แต่ก็ยังเป็นตัวอักษรที่ทําขึ้นด้วยการควบคุมเปลวไฟของเขา
เป็นอีกครั้งที่โนอาห์เริ่มจินตนาการถึงเรื่องต่างๆเพื่อกระ ต้นตัวเองให้ฝึกฝนและได้หาทางทําให้ตัวเองได้รับค่าประสบ การณ์ที่มากขึ้น การพัฒนาที่ระบบทําให้เกิดขึ้นกับเขานั้น มหาศาลเป็นอย่างมาก และโนอาห์รู้ว่าในอนาคตมันจะดียิ่ง ขึ้นไปอีก
“ฉันหวังว่าค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้เพื่อเพิ่มเลเวลข องทักษะของฉันจะไม่เพิ่มขึ้นมากเท่ากับครั้งที่แล้ว… โน อาห์คิดอย่างกังวลเล็กน้อยขณะที่เขาเปิดหน้าต่างสถานะ เพื่อดูว่ามันเป็นยังไง
ผู้ใช้: โนอาห์ สเติร์น]
[เลเวล: 03]
[ประสบการณ์: 16/1,600]
[HP: 14/14]
[ความแข็งแรง: 14]
ความคล่องตัว: 14]
[ความแข็งแกร่ง: 14]
[สกิล:เปลวไฟจากนรก เลเวล: 03 : 18/2,500]
คําอธิบายสกิละ เทคนิคที่ประกอบไปด้วยการอัญเชิญเปล วไฟแห่งนรกขึ้นมา เปลวไฟแห่งนรกไม่ต่างไปจากเปลวไฟ ธรรมดา แต่หลังจากชําระคนบาปและบาปมากมายมันก็ก ลายเป็นเปลวไฟที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถเผาได้กระทั้งเทพ เจ้าแห่งเปลวเพลิง เพื่อเพิ่มพลังของความสามารถนี้คุณจะ ต้องเผาบาปหรือคนบาป]
[** หลังจากถึงเลเวล 03 ร่างกายของผู้ใช้จะปรับตัว ให้เข้ากับเปลวไฟได้ดีขึ้นและควบคุมเปลวไฟได้เป็นธรรม ชาติยิ่งขึ้น นอกจากนี้เปลวไฟยังสามารถชําระล้างม นุษย์ที่สึกกร่อนจากบาปได้แล้ว ยิ่งบาปของมนุษย์มากเท่า ใด ผลประโยชน์ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น **]
[หลักแห่งไฟ เลเวล: 02 ร่างกายของผู้ใช้จะปรับตัว ให้เข้ากับเปลวไฟได้ดีขึ้นและการควบคุมมันก็เป็นธรรมชาติ มากขึ้นเล็กน้อยนอกจากนี้ยังทําให้มนุษย์ได้ รับการกัดกร่อนจากบาป มนุษย์ที่มีบาปเพียงเล็กน้อยก็ไม่ สามารถชําระล้างได้)
[อุโมงค์นรก เลเวล: 01 : 286/300
ทักษะที่สามารถทําให้เปิดอุโมงค์สู่นรกและออกไปที่อื่น ได้ในเสี้ยววินาทียิ่งระยะทางไกลมากเท่าไหร่พลังงานที่จะ ใช้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น)
นรกได้กักขังวิญญาณของคนบาปไว้ในอุโมงค์นี้มาตั้งแต่ ทุกสิ่งมีชีวิตถือกําเนิดขึ้น และกังขังมาชั่วนิรันดร์ เพื่อรองรับ ปีศาจและวิญญาณจํานวนมากพื้นที่นี้จึงขยายตัวมากกว่า โลกของสิ่งมีชีวิตหลายเท่า เมื่อใดก็ตามที่ลูซิเฟอร์เดินผ่านอุ โมงค์เหล่านี้ผู้คนก็จะรู้ว่าเขากําลังเคลื่อนย้ายไปที่ไหนสัก แห่ง และเขาก็สามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้ที่อุโมงค์นี้ไป ถึงเหล่าผู้คนจะคิดว่าเขากําลังเทเลพอร์ต
“อืม…ถึงแม้ฉันจะแบ่งปันค่าประสบการณ์กับคนอื่นๆ แต่การฆ่ามอนสเตอร์สองตัวนี้ยังทําให้ได้รับค่าป ระสบการณ์แปดหน่วยต่อหนึ่งตัว ป้อมปราการระดับ D ให้ ค่าประสบการณ์ได้มากกว่าจริงๆ ตอนนี้ให้ฉันดูค่าป ระสบการณ์ที่ต้องใช้ในการพัฒนาในขั้นถัดไป.สองพัน ห้าร้อย..ค่าประสบการณ์ โนอาห์อ้าปากค้าง เมื่อเขาเห็นจํานวนค่าประสบการณ์ที่เขาต้องใช้เพื่อเพิ่มระ ดับทักษะของเขาอีกครั้ง
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วฉันจะไปถึงระดับ S ได้จริงๆ ไหมเนี่ย” โนอาห์คิดอย่างตกตะลึงเล็กน้อย
แต่เมื่อเขาอ่านคําอธิบายของทักษะนี้ โนอาห์ก็ก้มหน้า ลงอย่างรวดเร็ว โดยลืมนึกถึงเรื่องค่าประสบการณ์ที่ทํา ให้เขาท้อแท้
“นี่หมายความว่ายังไง? ตอนนี้ฉันสามารถชําระมนุษย์ให้ บริสุทธิ์ได้?!?!” โนอาห์ถามตัวเองด้วยความแปลกใจ
เมื่อมองดูร่างของคนแคระที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น โนอาห์ก็มีความคิดขึ้นมาทันที…