กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1036
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1036
“ข้าก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็พระสวามีรองนี่เอง ได้ยินมาว่าช่วงนี้เจ้ามอบเงินบริจาคให้กับราชสำนักจำนวนมาก ข้ากำลังคิดอยากจะขอบคุณเจ้า ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าจะได้เจอเจ้าที่นี่”
น้ำเสียงของเหวินเส่าอี๋ดูเย้ยหยันและยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็กุมมือของกู้ชูหน่วนราวกับกำลังขอบคุณเยี่ยจิ่งหานแทนกู้ชูหน่วน
ผู้ที่สังเกตจะฟังออกว่าเขาพูดเน้นคำว่าพระสวามีรองหนักแน่นกว่าคำอื่น แถมยังจงใจแสร้งทำเป็นพลอดรักเพื่อเป็นการตักเตือนเยี่ยจิ่งหานว่าเขาต่างหากที่เป็นสามีตัวจริงของนาง และเยี่ยจิ่งหานเองก็เป็นได้เพียงสามีน้อยเท่านั้น
ต่อให้เยี่ยจิ่งหานบริจาคเงินมากแค่ไหน หนึ่งในนั้นก็เป็นของเขา เพราะเขาคือพระสวามีของจักรพรรดินี
หากเป็นปกติ เยี่จิ่งหานไม่มีทางสนใจว่าเขาจะสนิทสนมกับกู้ชูหน่วนมากแค่ไหน แต่ตอนนี้…..
เยี่ยจิ่งหานกุมมืออีกข้างหนึ่งของกู้ชูหน่วนและดึงกู้ชูหน่วนไปข้างเขา
พร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้ม “เจ้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก เจ้าเข้าวังมาก็นานทว่ากลับไม่เคยได้มีอะไรกับฝ่าบาท? แต่ข้ากลับได้นอนกับฝ่าบาทอยู่หลายคืน ต่อให้ได้ชื่อว่าเป็นสามีตัวจริง แต่ก็ได้แค่ในนามเท่านั้น”
กู้ชูหน่วนตกใจ
เยี่ยจิ่งหานกำลังอิจฉาอย่างนั้นหรือ?
เหวินเส่าอี๋ก็ตกตะลึงเช่นกัน
เขาแค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น เยี่ยจิ่งหานกลับคิดจริงจัง?
หรือว่า……
เขามีอะไรกับมู่หน่วนแล้วจริงๆ?
“ไม่ว่าจะมีอะไรกันอย่างสามีภรรยากันหรือไม่ ถึงยังไงข้าก็เป็นพระสวามีของจักรพรรดินีตลอดไปและถือเป็นสามีตัวจริงของฝ่าบาท อีกร้อยปีคนที่จะได้อยู่ร่วมหลุมศพเดียวกับฝ่าบาทก็คือข้า”
เหวินเส่าอี๋ดึงกู้ชูหน่วนกลับไปและเยี่ยจิ่งหานก็ดึงนางกลับไปอีกครั้ง
ทั้งสองโต้เถียงกันไปมาโดยไม่มีใครยอมใครจนทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกเวียนหัว
นางสะบัดทั้งสองคนออกไปและกล่าวอย่างไร้ความปรานี
“พอได้แล้ว ข้ากำลังทำงาน หากพวกเจ้าไม่มีธุระอะไรก็ออกไปได้แล้ว”
ทั้งสองต่างพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน “มีธุระ”
กู้ชูหน่วนจ้องมองด้วยความสงสัย
วันนี้พวกเขากินยาผิดหรือเปล่า?
ปกติก็ไม่เคยเห็นพวกเขาจะดีกับนางขนาดนี้
พูดเถียงกันจนนางรู้สึกเวียนหัวไปหมดแล้ว
“ฝ่าบาท หากไม่ฝังเข็มให้กระหม่อม เกรงว่าการรักษาก่อนหน้านี้ต้องสูญเปล่าแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“งั้นเจ้าอยู่รอข้าก่อน เดี๋ยวข้าจะตรวจดูดวงตาให้เจ้า”
“ฝ่าบาท หากยังไม่รักษาขาของกระหม่อม ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนขาของกระหม่อมจึงจะกลับมาหายดี”
สองคนนี้กำลังหาเรื่องให้นางชัดๆ
พวกเขาอยากทะเลาะกัน ทำไมไม่ไปทะเลาะกันที่อื่น
นางจำได้
ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังคิดจะไล่พวกเขาออกไป
เยี่ยจิ่งหานก็กล่าวว่า “ฝ่าบาทรับปากกับกระหม่อมเองว่าจะรักษาขาทั้งสองข้างให้กระหม่อม”
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทก็รับปากว่าจะรักษาดวงตาให้กระหม่อม”
“ได้ งั้นเข้ามาทีละคน”
“ข้าเป็นพระสวามีเอก ถึงอย่างไรข้าก็ต้องได้ก่อน”
“ฝ่าบาทรับปากข้าก่อน แน่นอนว่าควรเป็นข้าได้รักษาก่อน”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าฝ่าบาทรับปากเจ้าก่อน หรือว่ารับปากข้าก่อน”
“ขาของข้าพิการมาก่อนเจ้าเสียอีก”
“ดูจากตำแหน่งที่สูงกว่าในวังหลังต่างหาก”
กู้ชูหน่วนลูบหน้าผากของตัวเอง
มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นตลอด แต่ช่วงนี้กลับมีจำนวนมาก
หรือเพราะชีวิตนางมีเคราะห์ ทำให้ทำอะไรไม่ราบรื่นไปทุกอย่าง
ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังคิดว่าจะไล่พวกเขาไปอย่างไร จากนั้นนางกำนัลก็เข้ามารายงาน “ฝ่าบาท หวงกุ้ยจวินเชิญให้เสด็จไปพบเพคะ”
“หวงกุ้ยจวิน? องค์ชายของรัฐอี้?”
“เพคะ หวงกุ้ยจวินเชิญฝ่าบาทเสด็จไปชมจันทร์ด้วยกันเพคะ”
“ตกลง บอกหวงกุ้ยจวินว่าข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
“เพคะ”
“รัฐอี้ให้การสนับสนุนต่อรัฐปิงเป็นอย่างดี ข้าจำเป็นต้องไปและวันนี้ข้าจะไม่อยู่กับพวกเจ้า แล้ววันหลังข้าค่อยหาเวลาไปรักษาขาและดวงตาให้พวกเจ้า……”
“ฝ่าบาท หวงกุ้ยจวินเข้าวังมาก็หลายวันแล้ว กระหม่อมไม่เคยเจอเขาเลย ไม่เช่นนั้นให้กระหม่อมตามฝ่าบาทไปด้วยดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
กู้ชูหน่วนอ้าปากค้าง
เยี่ยจิ่งหานอาการหนักมาก
“ฝ่าบาท กระหม่อมถือเป็นผู้นำของวังหลังและหวงกุ้ยจวินเองก็ร่างกายอ่อนแอ ทำให้กระหม่อมไม่มีโอกาสได้เข้าไปทักทาย ไม่เช่นนั้นวันนี้ให้กระหม่อมตามฝ่าบาทไปด้วยดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
ดูเหมือนว่าเหวินเส่าอี๋ก็อาการหนักไม่ต่างกัน……