กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1045
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1045
ภายในตำหนักเฟิ่งอี๋
เหวินเส่าอี๋ยืนอยู่ข้างหน้าต่างพร้อมกับมองไปทางทิศทางของเรือนอี้หยุนอย่างเหม่อลอย
ลมยามค่ำคืนพัดปอยผมบนหน้าผากของเขา ในคืนอันเงียบสงัดทำให้แผ่นหลังของเขาดูโดดเดี่ยวเดียวดายและอ้างว้างอย่างมาก
“แม้ว่าจักรพรรดินีแห่งรัฐปิงจะชอบกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่น แต่จิตใจของนางกลับไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด”
จู่ๆ ก็มีเสียงพูดขึ้นมา ทำให้เหวินเส่าอี๋ที่ตกอยู่ในภวังค์ตื่นขึ้นจากความเหม่อลอยและความอ้างว้างในใจก็มลายหายไป
“เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร?”
“มาตั้งนานแล้ว อาจเป็นเพราะช่วงนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ทำให้หัวหน้าเผ่าไม่ได้สังเกตข้า”
รองหัวหน้าเผ่าเทเหล้าหนึ่งจอกและยื่นให้เหวินเส่าอี๋ จากนั้นก็เทให้ตัวเองและนั่งลงข้างหน้าต่างกับเขา
หัวหน้าเผ่าเป็นคนหูไวมาก เขาเข้ามาตั้งนานแต่หัวหน้าเผ่ากลับไม่รู้ตัวและยังคงยืนเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่าง หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องให้คิดในใจ เขาจะประมาทเช่นนี้ได้อย่างไร
“เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”
“ไม่มีอะไร แค่อยากดื่มเหล้า แต่ไม่มีเพื่อนดื่มก็เลยนึกถึงหัวหน้าเผ่าขึ้นมา”
เหวินเส่าอี๋ดื่มหมดจอกพร้อมกับเทเหล้าให้ตัวเองอีกครั้ง
“หัวหน้าเผ่าไม่ชอบดื่มเหล้าไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าเข้ามาหาข้าในวังหลวงดึกๆ ดื่นๆ เช่นนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการดื่มเหล้ากับข้าหรอกหรือ?”
รองหัวหน้าเผ่าดื่มจนหมดจอกและกล่าว “หากหัวหน้าเผ่าชอบนาง เหตุใดถึงไม่ลองคบกับนางดูล่ะ”
ทั้งสองต่างรู้ว่านางคนที่พวกเขาพูดถึงนั้นคือกู้ชูหน่วน
จากนั้นเหวินเส่าอี๋ก็ดูเย็นชาขึ้นทันที
“ช่วงนี้เจ้าไม่มีอะไรทำอย่างนั้นหรือ?”
“อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านไป เพราะอาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีก”
“ชีวิตนี้ข้าจะไม่มีวันชอบใครได้อีก”
“ถ้างั้นเจ้าจะนั่งเสียใจอะไรกับการที่นางไปที่เรือนอี้หยุน?”
เหวินเส่าอี๋กำลังจะพูด รองหัวหน้าเผ่าก็กล่าวขึ้นว่า “ฉ่ายเหนียงได้จากไปแล้ว”
เมื่อพูดจบ อากาศก็ดูเหมือนจะหยุดลงทันที
เหวินเส่าอี๋รู้สึกเจ็บปวดขึ้นในใจเล็กน้อย “เจ้าไม่คิดจะไปหานาง?”
รองหัวหน้าเผ่าส่ายหน้าและดื่มเหล้าเข้าไปหลายจอก สุดท้ายก็ยกไหเหล้าขึ้นมากรอกปากคิดจะดื่มให้เมามาย
“หัวหน้าเผ่า การล้างแค้นและเรื่องความรักมันคนละเรื่องกัน”
“เจ้าเสียใจอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ แต่แค่รู้สึกละอายใจต่อนางเท่านั้น”
ฉ่ายเหนียงรอเขาอยู่หลายปี รอตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จากผมดำจนผมขาว วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า
แม้แต่ก่อนจะตายนางก็เฝ้ารอแต่เขาอยู่เสมอ
น่าเสียดาย…..
เขาไปที่รัฐอี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นหน้าของฉ่ายเหนียงเป็นครั้งสุดท้าย
เหวินเส่าอี๋ไม่รู้ว่าควรปลอบใจเขาอย่างไร ทำได้เพียงนั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา
เขาเคยเตือนเขาแล้ว แต่รองหัวหน้าเผ่าคิดแต่จะทำเพื่อเผ่าเพลิงฟ้าเท่านั้น
เดิมทีคิดอยากจะหาขวานผานกู่และแผ่นอักษรสีเหลืองให้เจอเร็วๆ เพื่อจะหาทางเปิดรอยแยกของห้วงมิติเวลาและกลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่และทำลายเผ่าอวี้ลง
เพียงแค่ภารกิจเหล่านี้สำเร็จ เขาก็สามารถไปหาฉ่ายเหนียงได้
ทว่าเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
“เผ่าเพลิงฟ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจ้าไปคอยดูแลนางเถอะ”
“ฉ่ายเหนียงเป็นคนจิตใจดี นางรู้ว่าข้ายังมีภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จ ฉะนั้นนางยังไม่ต้องการให้ข้าไปอยู่ด้วย รอให้…..รอให้จัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ข้าค่อยไปอยู่กับนาง”
“นางจากไปเพราะอะไร?”
“ป่วยตายด้วยเป็นโรคซึมเศร้า”
“ข้าขอโทษด้วย”
เพราะรองหัวหน้าเผ่าได้สัญญากับอดีตหัวหน้าเผ่าเอาไว้ว่าจะเฝ้ารอคนของดินแดนเยี่ยอวี้ที่เดินทางมาถึงดินแดนวิญญาณเยือกแข็งและเข้ามาดูแลเผ่าเพลิงห้าอีกครั้ง เขาได้มอบชีวิตและอุทิศตัวเองให้กับเผ่าเพลิงฟ้าอย่างสุดความสามารถ
“หัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าข้าไม่มีสิทธิ์จะไปยุ่งเกี่ยวชีวิตส่วนตัวของเจ้า แต่…..แต่ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเป็นเหมือนอย่างข้าที่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
“ผู้หญิงคนนั้นได้ตายไปแล้ว เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็เป็นเพียงอดีต ต่อให้รู้สึกโกรธแค้นมากแค่ไหน…..ก็ควรจะปล่อยวางลงและพยายามใช้ชีวิตต่อไปให้ได้”
“แม้ว่าจักรพรรดินีแห่งรัฐปิงจะดูไม่ได้ความอะไร แต่นางกลับเป็นคนละเอียดอ่อนและฉลาดหลักแหลมมาก เจ้าและนาง…..”
“รองหัวหน้าเผ่า ข้าไม่อยากพูดเรื่องนี้”
“หัวหน้าเผ่ายังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
เหวินเส่าอี๋กำมือแน่นและความเสียใจก็ค่อยๆ มลายหายไป
ต่อให้ไม่อยากคิดถึงเรื่องราวในอดีตแค่ไหน แต่หลายๆ เหตุการณ์กลับยังคงสะท้อนอยู่ในหัวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับมันได้หยั่งรากลึกเอาไว้ซึ่งไม่สามารถตัดออกไปได้
แน่นอนว่าเขายังลืมไม่ลง
เขาไม่มีทางปล่อยวางได้ไปตลอดชีวิต
เขารักนางมากแค่ไหน เขาก็เกลียดแค้นนางมากเท่านั้น