กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1051
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1051
เยี่ยจิ่งหานทำสัญญาณให้เจี้ยงเสวี่ยหุบปาก
กู้ชูหน่วนเป่าคบไฟให้ดับและเดินข้ามเยี่ยจิ่งหานไป โดยใช้ความรู้สึกเพื่อเดินไปข้างหน้า
เจี้ยงเสวี่ยเห็นดังนั้นจึงรีบเป่าคบไฟให้ดับและเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหน จากนั้นเบื้องหน้าก็มีเสียงดังเกิดขึ้น
“น้องเฉินหลิง เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้ด้วย เพื่อผู้ชายคนเดียว ทว่าเจ้ากลับต้องคอยติดตามข้าอยู่เช่นนี้กว่าสองเดือน แถมยังเอาอายุขัยของตัวเองเข้าแลก มันคุ้มค่าแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“เพียงแค่เจ้าปล่อยชายชุดฟ้าครามไป จากนั้นข้าจะไม่คอยติดตามเจ้าอีก”
“ข้าตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ วันนี้ข้าอารมณ์ดี หากเจ้ายอมออกไปแต่โดยดีและจะไม่คอยมาตอแยอะไรข้าอีก ข้าจะปล่อยเจ้าไป ไม่งั้น…..ฮึ….เจ้าอย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้าก็แล้วกัน”
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการทำอะไร เจ้าเรียนทักษะมนตร์ดำไป เพราะเจ้าต้องการให้ความสามารถของพี่ชายชุดฟ้าครามมาใช้กับตัวเองใช่ไหม”
“เด็กน้อย เจ้าก็รู้มากเหมือนกันนี่นา ปู่ของเจ้าถูกถ้าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว เจ้าคิดว่าตัวเองสมควรอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าได้ทำสำเร็จหรอก”
“ปัง…..”
“ครื่น ครื่น…..”
เส้นทางใต้สุสานเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่องจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนไปมา
เจี้ยงเสวี่ยกังวลว่าเส้นทางใต้ดินนี้จะถล่มลงมา
พี่ชายชุดฟ้าคราม?
ปู่หลาน?
หรือจะเป็นปู่หลานสองคนที่เจอที่โรงน้ำชา?
ในที่สุดทั้งหมดก็เดินมาถึงทางแยกแห่งหนึ่งและสุดท้ายก็ได้พบกับผู้หญิงสองคนที่กำลังทะเลาะเบาะแว้งกัน
ข้างในมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ทว่ายังพอเห็นได้ว่าผู้หญิงที่อายุมากกว่าคนหนึ่งกำลังทำร้ายทุบตีผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า
อันที่จริงนางสามารถตบผู้หญิงอายุน้อยให้ตายลงได้ ทว่ากลับทำเหมือนเหมือนหมาหยอกไก่ จนทำให้ร่างกายของนางเต็มไปด้วยบาดแผลและเจ็บปวดอย่างมาก
ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าคนนั้นก็คือเด็กผู้หญิงที่เจอที่โรงน้ำชา
ปู่ของนางนอนอยู่กับพื้นและมีเลือดนองเต็มตัว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
เจี้ยงเสวี่ยขมวดคิ้วและรู้สึกโกรธขึ้นมา
“ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต นางใช้วิธีสกปรกและน่าอับอายเช่นนี้ทำร้ายผู้หญิงอายุน้อยกว่าคนนั้น นายท่าน ให้ข้อน้อยเข้าไปช่วยดีไหมขอรับ”
เยี่ยจิ่งหานไม่พูดอะไร ทำให้เจี้ยงเสวี่ยไม่กล้าเข้าไป
ทำได้เพียงมองดูชุดกระโปรงของเฉินหลิงถูกกรีดและจากนั้นก็ยกมีดขึ้นมาแทงทะลุร่างกายของนางจนมีเลือดไหลเอ่อนอง
ทว่าไม่ว่าเฉินหลิงถูกกรีดถูกแทงมากเท่าไร นางก็ลุกกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง และคิดเพียงต้องการช่วยพี่ชายชุดฟ้าครามและคุณปู่ของนางออกไป
เจี้ยงเสวี่ยมองไปที่กู้ชูหน่วน
จากนั้นก็เห็นสายตาของกู้ชูหน่วนมองไปยังคนที่นอนหมดสติไปที่มุมหนึ่ง
ทว่าชายคนนั้นหันหลังให้ ทำให้ไม่เห็นใบหน้าของเขา และรู้เพียงว่าเขาไม่น่าใช่ซือม่อเฟย
เพราะชุดของซือม่อเฟยไม่ได้ขาดและชำรุดมากเช่นนั้น
“ตุ่บ…..”
เฉินหลิงล้มลงอีกครั้งและมีเลือดไหลที่มุมปาก
เสื้อผ้าของนางก็แทบไม่สามารถปกปิดร่างกายของนางได้แล้ว
“น้องเฉินหลิง เจ้ามีโอกาสแก้ตัวเพียงครั้งเดียวแล้วเท่านั้น หากเจ้ายังลุกขึ้นมาอีก ฮึ….มีดในมือของข้าจะทิ่มแทงไปที่หัวใจของเจ้า”
“ผู้หญิงชั่วช้า เจ้าทำแต่เรื่องชั่วๆ วันนี้ต่อให้ข้าเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้กับคนเหล่านั้นที่ถูกเจ้าใส่ร้าย”
ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินคำว่าผู้หญิงชั่วช้าหรือเพราะอะไร ทำให้ผู้หญิงที่อายุมากกว่าก็ดุร้ายขึ้น
“ให้เมื่อเจ้าอยากตายเช่นนี้ งั้นข้าจะทำตามความต้องการของเจ้า แต่….ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าตอนนี้ เจ้าให้ความสำคัญกับผู้ชายคนนี้มากไม่ใช่หรือ? งั้นข้าจะให้เจ้าได้เห็นเขาตายลงต่อหน้าเจ้าและพละกำลังของเขาก็จะตกเป็นของข้าทั้งหมด”
“เจ้ากล้าอย่างนั้นหรือ”
“เจ้าก็ดูเองแล้วกันว่าข้ากล้าไหม ฮึๆ…..วรยุทธระดับหกหรือ ทั้งดินแดนวิญญาณเยือกแข็งมียอดฝีมือวรยุทธระดับหกไม่กี่คน คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะได้เจอแถมสิ่งนี้ยังต้องตกเป็นของข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…….”