กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1115 จับมือกันต่อสู้
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ 1115 จับมือกันต่อสู้
สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไป
“วรยุทธของเขาอยู่ระดับเจ็ดแล้ว บางทีอาจจะเป็นขั้นสูงสุดของระดับเจ็ดแล้วด้วยซ้ำ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา รีบหนีไปซะ”
“ฉันกับเขา
ไม่ช้าก็เร็วต้องต่อสู้กันอยู่แล้ว”
เซียวอวี่เซวียนยิ้มด้วยความเศร้ารันทด
เมื่อมองย้อนกลับไปตอนนั้น เขาถูกความเกลียดชังเข้าครอบงำ จึงได้ลงมือฆ่าผู้คนมากมายของเผ่าเทียนเฝิน
หลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เขานึกถึงโศกนาฏกรรมที่เขาก่อไว้ เขาก็มักจะเสียใจและโทษตัวเองไม่หยุด
ถึงจะตายด้วยเนื้อมือของเวินเซ่าอี้ เขาก็สมควรแล้ว
เพียงแต่…
ตอนนี้เขายังไม่ยอม
ไม่ยอมที่จะต้องตาย
เป็นการยากที่จะกำหนดผลลัพธ์ของชีวิต
อีกอย่าง…เขากลัวว่ากู้ชูหน่วนจะฟื้นความทรงจำกลับมา
ถ้าเธอฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้ ร่างกายของเธอก็จะหายไปเช่นกัน
เว้นแต่จะรวบรวมวิญญาณทั้งเจ็ดเข้าไว้ด้วยกัน
แต่ตอนนี้วิญญาณทั้งเจ็ดนั้นเหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งเดียว
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในมือของอี้อวิ๋นเฟย
เจ้าเด็กน้อยไม่มีทางให้อี้อวิ๋นเฟยต้องมาเสียสละชีวิตเพื่อฟื้นคืนความทรงจำของเธอแน่นอน
“ตูม…”
พัดกระดูกสีดำบินร่อนขึ้นไปกลางอากาศ เพื่อต่อสู้กับเสียงพิณของเวินเซ่าอี้อย่างเต็มกำลัง
มีเพียงแค่คนที่อยู่ตรงนั้นที่เห็นว่าพัดกระดูกสีดำมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะต่อสู้ แต่ลำแสงเสียงพิณนั้นมีพลังล้นหลาม ยิ่งเขาต่อสู้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งกล้าหาญมากขึ้นเท่านั้น
เซียวอวี่เซวียนถ่ายทอดพลังงานภายในของเขาทั้งหมดให้กับพัดกระดูกสีดำ
กล่าวคือถ้าพัดถูกทำลาย ชีวิตของเขาก็คงไม่เหลือ
พัดร่วงตกลงมา นั่นหมายถึงเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เจ้าเด็กน้อย รีบหนีไป”
“คนที่ควรหนีไปคือนาย เซียวอวี่เซวียน ฉันขอสั่งให้นายรีบหนีจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“เอื้อก…”
เลือดไหลออกจากมุมปากของเซียวอวี่เซวียน แต่ร่างกายของเขายังยืนตรง และเขายังคงสะบัดพัดกระดูกสีดำด้วยมือทั้งสองข้าง
เวินเซ่าอี้เกลียดเซียวอวี่เซวียนมาก
เขาไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด
กู้ชูหน่วนพยายามลุกขึ้น เพื่อเข้าไปขว้างเวินเซ่าอี้
เธอเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี
เกล็ดหิมะเหล่านั้นกำลังรวมตัวกันเพื่อโจมตี
ถ้าเกล็ดหิมะรวมตัวเข้าด้วยกันแล้ว เซียวอวี่เซวียนจะไม่มีทางออกไปจากภายใต้การโจมตีที่รุนแรงครั้งนี้ได้
แต่ร่างกายกลับต่อต้านเธอ พละกำลังทั้งหมดก็อ่อนแอลงในช่วงเวลาที่สำคัญ
แม้แต่จะยกมือก็ยังไม่มีแรง เสียงพูดยังไม่มี แล้วจะให้ไปต่อกรกับเวินเซ่าอี้ได้อย่างไร
“ตูม…”
เกล็ดหิมะสีเลือดระเบิดเข้าที่ร่างของเซียวอวี่เซวียน ทำให้ร่างกายของเขาก็ร่วงลงมา
เขายืนบังอยู่ตรงหน้าเธอ ไม่ว่าข้างหน้าจะอันตรายแค่ไหน เขาก็จะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว
“เซียวอวี่เซวียน ฉันขอร้องล่ะ นายหนีไปซะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป นายจะตายได้นะ”
“เวินเซ่าอี้ หยุด หยุดได้แล้ว…”
เซียวอวี่เซวียนขมวดคิ้ว
ด้วยความเจ็บปวด
เกล็ดหิมะแทบจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว
เขาไม่สามารถต้านรับมันเอาไว้ได้
เมื่อเห็นว่าเกินกว่าที่ตัวเองจะต้านไว้ เซียวอวี่เซวียนก็เลิกต้านทานและใช้กำลังภายในทั้งหมดที่เหลืออยู่ผลักกู้ชูหน่วนออกไป
“ตูม…”
รูม่านตาของกู้ชูหน่วนหดตัวเล็กลง เธอเห็นเซียวอวี่เซวียนถูกใบมีดเกล็ดหิมะนับพันทิ่มแทงเข้าร่างของเขา
ความเงียบเกิดขึ้น
ดูเหมือนเวลาจะหยุดนิ่งอยู่กับที่
กู้ชูหน่วนล้มลงกับพื้นแต่กลับไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
ดวงตาเหล่านั้นมองเห็นแต่ร่างที่ไร้เรียวแรงของเซียวอวี่เซวียนล้มลง
และตอนนั้น
สายตาที่หวาดกลัวของเธอสะท้อนเข้าไปในดวงตาที่เปื้อนน้ำตาและยิ้มของเขา
“ไม่…นายยังตายไม่ได้…นายยังตายไม่ได้…”
กู้ชูหน่วนพยายามลุกขึ้นอย่างบ้าคลั่งและเดินโซเซ
ไปหาเซียวอวี่เซวียน
อีกด้านหนึ่ง
หยางเหมยและเฉินหลิง ก็มาถึงและได้เห็นฉากที่เซียวอวี่เซวียนล้มลงกับพื้นพอดี
เฉินหลิงรีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยพยุงร่างเซียวอวี่เซวียนขึ้น
“พี่หลานอี ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมพี่ถึงมีเลือดออกมากขนาดนี้ ฉันจะพาพี่ไปหาหมอ”
หยางเหมยมุมปากกระตุก แต่เขายังคงปิดปากเงียบไม่พูดอะไร
ร่างกายที่ถูกทิ่มแทงด้วยเกล็ดน้ำแข็งขนาดนั้น จะมีชีวิตรอดได้อย่างไร…
ไม่มีทาง…
เซียวอวี่เซวียนไม่ได้มองไปทางเฉินหลิงเลยด้วยซ้ำ สายตาคู่นั้นมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความอาลัย
จนกระทั่ง…
กู้ชูหน่วนเดินมาตรงหน้าเขาและห้ามเลือดด้วยความตื่นตระหนก
เขาแทบไม่เคยเห็นเธอลุกลี้ลุกลนและทำอะไรไม่ถูกแบบนี้มาก่อน
นอกเสียจาก…
นอกเสียจากตอนนั้นที่คำสาปเลือดของชาวเผ่าหยกแตกออก…
เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…
การฆาตกรรมที่เขาก่อไว้…
เขาควรได้รับโทษนั้น
ในใจเธอยังมีเขาอยู่ เขาก็มีความสุขแล้ว
“เสี่ยวเซวียนเซวียน…นายสัญญากับฉันแล้วว่านายจะไม่ตาย ฉันจะไม่ปล่อยให้นายตาย อดทนไว้นะ”
“ทำไม..ทำไมต้องไม่ตาย”
“เพราะนายอยู่ที่นี่ พวกเราเคยสัญญากันว่าเราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน”
เลือดนั้นไหลเหมือนสายน้ำที่ไม่สามารถหยุดได้ ไม่ว่าจะมีอะไรจะมาขว้างกั้น
กู้ชูหน่วนตื่นตระหนกอย่างมาก
ไม่ว่ามันห้ามเลือดตรงไหน ก็ไม่สามารถหยุดเลือดของเขาได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้สามารถที่จะรักษาบาดแผลที่เต็มไปด้วยรูของเขาได้
หรือว่า…
เธอจะทำได้แค่มองเท่านั้น
มองเซียวอวี่เซวียนตายต่อหน้าเธอ?
เวินเซ่าอี้ถือพิณหิมะไว้ในอ้อมแขนของเขาและดูฉากนั้นอย่างเย็นชา
การตายของเซียวอวี่เซวียน ไม่ได้ทำให้เขาไม่รู้สึกผิดในใจเลยสักนิด
เขาสมควรตาย
แต่ก็ไม่ได้มีความสุขเช่นกัน
เพราะถึงจะฆ่าเขาได้ แต่ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีพของคนเผ่าเทียนเฝินที่ตายไปแล้วกลับมาได้
ในระยะไกล เยี่ยจิ่งหันรีบร้อนและมาถึงในที่สุด
ทันทีที่เขามาถึง เห็นเซียวอวี่เซวียนนอนจมอยู่ในกองเลือด
กู้ชูหน่วนกำลังช่วยเขาห้ามเลือด ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
รวมไปถึงบาดแผลบนร่างกายของกู้ชูหน่วน
เขาก็ระเบิดความโกรธออกมา
“เวินเซ่าอี้ แกกล้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน แกต้องตาย”
“ตูม…”
สงครามปะทุขึ้นอีกครั้งและรุนแรงกว่าเดิม