กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1119 ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของนาย
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1119 ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของนาย
เยี่ยจิ่งหานกอดกู้ชูหน่วนไว้อย่างแน่น ราวกับต้องการให้นางละลายเข้ามาในหัวใจของเขา เขาเอาคางเกยบนผมของนางพร้อมกับยิ้มแล้วกล่าวว่า “เจ้าเคยทิ้งข้าไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีก ถ้า… ถ้าเจ้าไปที่ใต้ธรณีจริงๆ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย
จอมมารโกรธ “เยี่ยจิ่งหาน เจ้าจะมาแย่งงานข้าทำไม พี่หญิงเป็นของข้า และแม้ว่าพี่หญิงจะตาย นางก็ยังเป็นผู้หญิงของซือม่อเฟย”
จอมมารกล่าวพร้อมกับคว้ากู้ชูหน่วนไป
เยี่ยจิ่งหานดึงรั้งเอาไว้
“อือ…”
กู้ชูหน่วนเปร่งเสียงออกมาอย่างเจ็บปวด และเลือดก็ไหลออกจากหน้าอกอีกครั้ง
อี้หยุนเฟยตะโกน “เจ้าสองคนจะพอกันได้หรือยัง น้องหญิงจะไม่ไหวแล้ว ร่างกายของนางเริ่มจะจางหายไปแล้ว”
“อาหน่วน…บอกข้ามาสิ ว่าต้องทำอย่างไร
ถึงจะช่วยชีวิตเจ้าไว้ได้”
“ไม่…ไม่มีแล้ว”
กู้ชูหน่วนมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอี้หยุนเฟยที่คล้ายกับอี้เฉินเฟยด้วยความคิดถึง
ความทรงจำยังวนเวียนอยู่ไม่จางหาย
ถ้าพูดถึงว่านางมีความผูกพันกับผู้ชายคนไหนมากที่สุด?
คนคนนั้นก็คืออี้เฉินเฟย …นั่นเอง
นางและอี้เฉินเฟยเติบโตและรักกันมาตั้งแต่เด็ก
ถ้าหากนางไม่ได้รับมอบหมายให้ตามหาลูกแก้วมังกรและทำลายคำสาปโลหิต นางคงจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับอี้เฉินเฟยไปนานแล้ว
ไม่ต้องมีการแบ่งแยกระหว่างหยินและหยาง
เมื่อก่อนนางคิดอยู่เสมอว่านางนั้นทะลุมิติจากยุคปัจจุบันมายังดินแดนเยี่ยอวี่ และได้อยู่ในร่างของกู้ชูหน่วน คุณหนูสามตระกูลกู้
แต่หลังจากได้ฟื้นความทรงจำกลับคืนมา ถึงได้รู้ว่าวิญญาณในยุคปัจจุบันนั้นเป็นของนางจริงๆ
มันไม่ใช่การทะลุข้ามมิติอะไร แต่มันเป็นเพียงการกลับมาบ้านเท่านั้นเอง
แต่ทำไมวิญญาณถึงไปยุคปัจจุบันได้
นางยังค้างคาใจจนถึงตอนนี้
ภาพจำที่อี้เฉินเฟยกระโดดลงมาจากเตากลั่นยานั้นเจ็บปวดเหลือเกิน
นั่นมันคือความเจ็บปวดในใจของนางที่ไม่มีวันบรรเทาได้
“เสี่ยวหยุนเฟย”
“น้องหญิง”
อี้หยุนเฟยยื่นมือออกไปจับมือของนาง
“เจ้ากับเขา…หน้าเหมือนกันมาก”
“เขา? เขาคนไหน? อี้เฉินเฟยที่พวกเขาพูดถึงใช่ไหม? เจ้าชอบเขาหรอ?
“ถ้าเขารู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เขาคงจะดีใจมาก”
กู้ชูหน่วนไม่ได้ตอบว่าชอบเขาหรือไม่
แต่ทุกคนรู้ว่าไม่มีใครสามารถแทนที่ตำแหน่งของอี้เฉินเฟยในหัวใจของนางได้เลย
แม้แต่เยี่ยจิ่งหานก็ไม่สามารถจะแทนที่ได้
“เป็นเพราะข้าหน้าเหมือนเขา เจ้าจึงทำดีกับข้าใช่ไหม?”
กู้ชูหน่วนลูบไล้ใบหน้าที่คล้ายอี้เฉินเฟยอย่างสั่นเทา
ราวกับอี้อหยุนเฟยกำลังมองอะไรบางอย่าง
จากนั้นไม่นาน นางก็กล่าวขึ้นว่า “เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ใช้ชีวิตให้ดีมีความสุข อย่า…อย่าให้แผ่นอักษรสีเหลืองกับใคร”
“น้องหญิง…”
“แค่กแค่ก…”
กู้ชูหน่วนมองไปยังเหวินเส่าอี๋หน้าซีดเซียวด้วยสายตาที่ซับซ้อน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“เผ่าเพลิงฟ้ากับเผ่าหยกมีความบาดหมางกันมานาน ข้ายอมรับว่าข้าใช้ปิ่นหยกที่เจ้าให้ข้าเพื่อทำลายการก่อตัวของเผ่าเพลิงฟ้า และปล่อย…ปล่อยให้พวกเขาใช้โอกาสนี้ทำลายเผ่าเพลิงฟ้า”
“เผ่าหยกก็เข้าร่วมด้วย…แต่เผ่าหยกฆ่าเฉพาะศิษย์ของเผ่าเพลิงฟ้า ไม่ได้ฆ่าประชาชนพลเมืองของเผ่าเพลิงฟ้าแม้แต่คนเดียว”
เหวินเส่าอี๋หัวเราะเยาะ ร่างกายของเขาเย็นจนไม่มีความอบอุ่นเลย
“ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความผิดที่ทำลายเผ่าเพลิงฟ้าไปได้
พูดให้ถูกก็คือข้าสร้างเรื่องขึ้นมาเอง และมันก็ไม่มากจนเกินไปที่จะได้รับผลนั้น แค่กแค่ก…”
“พี่หญิง หยุดพูดเถอะ ร่างกายของท่านเริ่มโปร่งแสงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ข้าจะช่วยท่านได้ยังไง”
กู้ชูหน่วนเพิกเฉยต่อจอมมาร แต่ยังคงกล่าวต่อ “มีสิ่งหนึ่ง ข้า…ข้าต้องบอกให้รู้ความจริงว่าคนที่ฆ่าพ่อนายคือ…ฮวาอิ่ง ฮวาอิ่งเป็นคนที่ทรมานพ่อของนาย เขามีพลังชั่วร้าย ถ้าไม่ตัดหัวของพ่อนาย ร่างของพ่อนายก็จะถูกนางจัดการ”
“ตอนที่ข้าไปถึงนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว พ่อของนายถูกทรมานจนไม่ใช่คน เขาเป็นคนขอร้องให้ข้าฆ่าเขา ข้า…ข้าเลยต้องตัดหัวเขาทิ้ง”
ตูม…
ทุกประโยคที่กู้ชูหน่วนพูดออกมานั้น ทำให้เหวินเส่าอี๋มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ฉินหิมะที่อยู่ในมือของเขาร่วงหล่นลงบนพื้นเสียงดัง
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่ พ่อของข้าถูกเจ้าฆ่า เห็นชัดๆว่าเจ้าเป็นคนฆ่าเขา”
“ข้าขอโทษ วรยุทธ์ของพ่อนายสูงเกินไป ตอนนั้นข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดหัวเขา เขาถูกวางยา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ตัดหัวเขา เขาก็คงไม่รอดอยู่ดี”
“สำหรับเรื่องการทำลายล้างเผ่าเพลิงฟ้า ข้า…ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้าและเซี่ยวอวี่เซวียนต้องขอโทษสำหรับชีวิตของผู้คนนับพันของเผ่าเพลิงฟ้าที่ต้องเสียชีวิต ข้าหวังเพียงว่าเจ้าจะได้ปลดปล่อยความเกลียดชังในใจ และ…ปลดปล่อยเผ่าหยกด้วยเช่นกัน”
“เจ้าเป็นคนที่จิตใจดีและสุภาพ เจ้าไม่ควร…เจ้าไม่ควรใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเกลียดชัง”
เหวินเส่าอี๋ถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น
สิ่งที่ก้องอยู่หัวตอนนี้คือ
คำพูดของกู้ชูหน่วน
พ่อของเขาไม่ได้ถูกนางฆ่า
แต่เป็นฮวาอิ่ง
เป็นไปได้อย่างไร…
ฉากความทรงจำที่สดใส
รองหัวหน้าเผ่าซือคงก่อกบฏ เขาเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมา
กู้ชูหน่วนใช้ปิ่นหยกที่เขามอบให้เพื่อเปิดประตูของเผ่าเพลิงฟ้า
เซี่ยวอวี่เซวียนได้นำกองทัพตระกูลเซี่ยว ค่อยๆโจมตีทุกคนจนถึงเผ่าเพลิงฟ้า
แล้วเผ่าหยก ก็ฆ่าผู้คนของเผ่าเพลิงฟ้า…
นางตัดหัวพ่อของเขาด้วยมือของนางเอง…
เหวินเส่าอี๋กำหน้าอกของเขาไว้แน่น “คำพูดของผู้หญิงอย่างเจ้ามันไม่ใช่ความจริง ข้าไม่เชื่อ”
จอมมารพูดด้วยความโกรธ “เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ ต่อให้พี่หญิงจะสังหารเผ่าเพลิงของเจ้าจริงๆแล้วยังไง สิ่งที่เผ่าเพลิงฟ้าของเจ้าทำไว้กับเผ่าหยก นั้นมันไม่โหดร้ายเหรอ?
เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าคำสาปโลหิตเกิดขึ้นในวันที่ 15 ของทุกเดือน ชีวิตของเผ่าหยกนั้นต้องเลวร้ายยิ่งกว่าความตายอีก เจ้าลืมไปแล้วหรือไง? ”
“เป็นเวลานับพันปี และตลอดพันปีที่คำสาปโลหิตได้เกิดขึ้นกับเผ่าหยก การตายดีกว่าต้องมาโดนคำสาปนี้ ข้าคิดว่านี่มันเป็นผลจากการกระทำของเผ่าเพลิงฟ้าของพวกเจ้าที่ต้องได้รับผลกรรมนั้น”
เหวินเส่าอี๋เอามือบีบหน้าอกเอาไว้แน่น
กฎแห่งกรรมยังคงวนเวียนอยู่…
เหอะ…
กฎแห่งกรรมอะไร…
เขาเดินโซเซและค่อยๆเดินห่างออกไป
เยี่ยจิ่งหานกล่าวด้วยความโกรธ “เอาวิญญาณของอาหน่วนคืนมา”
“เสี่ยวเยี่ยเยี่ย อย่า… มันเป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณที่เบาบาง เขาสามารถจัดการกับมันได้ตามที่เขาต้องการ ข้าเป็นหนี้บุญคุณเขา”
“อาหน่วน…”
กู้ชูหน่วนจับมือเยี่ยจิ่งหานด้วยมือข้างหนึ่งและจับมือของจอมมารด้วยมืออีกข้าง
“พวกเจ้าว่าข้าทำบุญด้วยอะไรถึงทำให้ข้าได้รู้จักกับพวกเจ้า ถ้าข้าตายไป พวกเจ้าไม่ต้องชุบชีวิตข้านะ ข้าไม่อยาก… ไม่อยากที่จะเปื้อนเลือดอีกแล้ว”
ฟึบ…
ทุกคนแทบจะไม่สามารถสัมผัสกู้ชูหน่วนได้แล้ว
ร่างกายของนางโปร่งใสเกินไป
โปร่งใสจนแทบมองไม่เห็น
“ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุข อย่าตายเพื่อข้า ถ้าชาติหน้ามีจริง ข้าขอใช้หนี้บุญคุณพวกเจ้า”
“พี่หญิง พี่หญิง…”
“อาหน่วน…”
“เสี่ยวเยี่ยเยี่ย ข้าขอโทษ ข้าทำให้เจ้าผิดหวังในโลกนี้อีกแล้ว”
“เจ้าหมาน้อย อย่าเที่ยวไปฆ่าคนอย่างไม่เลือกหน้าหล่ะ ข้าไม่ชอบเห็นเจ้าฆ่าใคร”
“อี้หยุนเฟย อย่าลืมใช้แผ่นอักษรสีเหลืองเพื่อรักษาอาการป่วยของตัวเองด้วยนะ”
“เหวินเส่าอี๋…ดูแลตัวเองด้วย…”
ตูม…
สมองของทุกคนเหมือนถูกฟ้าผ่า
พวกเขาได้แต่เฝ้าดูร่างของกู้ชูหน่วนสลายไป
สุดท้ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เหลือเพียงเสี้ยววิญญาณที่หลงเหลืออยู่
เยี่ยจิ่งหานเดินโซเซล้มลงไปกับพื้น เขาไม่สามารถยอมรับความจริงได้
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…ข้ากว่าจะได้พบกับเจ้า ทำไมเจ้าต้องจากข้าไปอีก”
จอมมารเก็บวิญญาณเพียงเสี้ยวเดียวของกู้ชูหน่วน ราวกับว่าได้สูญเสียวิญญาณไปแล้ว
อี้หยุนเฟยปิดปาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเรื่องจริง
เหวินเส่าอี๋หยุดเดินชั่วคราว
หัวใจที่เจ็บปวดอยู่แล้วเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ