กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 199
“เช่นนั้นแล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เยี่ยเฟิงถูกกักขังอยู่ที่ไหน?”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้ถือธงลั่วชนะเงินไปมากมายหรืออย่างไร เพียงแค่กู้ชูหน่วนถาม เขาพูดทุกอย่างที่เขารู้ โดยไม่ปกปิดเลยแม้แต่นิดเดียว
“อยู่ในส่วนลึกของคุกนักโทษ อีกประเดี๋ยวก็จะถูกส่งไปยังยอดเขาสูง”
“ส่งไปยังยอดเขาสูงของหัวหน้ากองธองกล้วยไม้ที่นั่นหรือ?”
“แน่นอน เห็นแก่ที่เจ้าและข้ามีวาสนาต่อกัน ข้าจะบอกอะไรกับเจ้าอย่างหนึ่ง หัวหน้ากองธงกล้วยไม้คิดจะจัดการกับเยี่ยเฟิงเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นจะมอบให้กับผู้นำกองธงสาวเย่า ผู้นำกองธงสาวเย่าก็เหมือนกับผู้นำกองธงกล้วยไม้ของเรา ต่างก็มีความชอบที่แปลกพิลึก แต่ผู้นำกองธงสาวเย่าโหดเหี้ยมยิ่งกว่า เพียงแค่คนที่เขาเล่นจนเบื่อแล้ว มักจะถลกใบหน้าของพวกเขาออกมาและแขวนไว้ในห้องลับ ได้ยินมาว่า ภายในห้องลับของเขาล้วนเต็มไปด้วยหนังของมนุษย์ ช่างน่ากลัวมาก”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกู้ชูหน่วนรู้สึกเหน็บหนาวหรือไม่ ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของนางเมื่อสักครู่ได้เลือนหายไป
ผู้ถือธงลั่วรู้สึกสงสัยและกล่าวว่า “น้องชาย เจ้าเป็นอะไรหรือ ทำไมดูเหมือนสีหน้าของเจ้าไม่ดีเอาเสียเลย”
“อ้อ……ไม่มีอะไรน่ะ แค่รู้สึกว่าช่างโหดร้ายเหลือเกิน”
“ใช่ไหมล่ะ ข้าก็รู้สึกว่าช่างโหดร้ายเหลือเกิน แต่ความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้ ใครให้เขาเป็นผู้ปรนนิบัติ ผู้ปรนนิบัติก็เป็นคนที่ฐานะต่ำต้อยที่สุดในเผ่าปีศาจนี้ นอกเหนือจากคนใช้ หลายปีมานี้ที่เยี่ยเฟิงได้รับความรักและความโปรดปรานจากผู้นำกองธงกล้วยไม้ของเราก็ถือว่าไม่เลวแล้ว เจ้าลองดูผู้ปรนนิบัติคนอื่นสิ มีกี่คนที่มีจุดจบที่ดี”
“เช่นนั้นแล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าคืนนี้เยี่ยเฟิงจะถูกส่งไปที่ยอดเขาสูงเวลาไหน?”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจนัก น่าจะยามจื่อกระมัง (2300-0100 น.)”
“พี่ลั่ว ทำไมปรมาจารย์เจียงถึงเกลียดชังเยี่ยเฟิงถึงเพียงนัั้นหรือ”
“เมื่อก่อนปรมาจารย์เจียงก็เคยเป็นคนใช้ แต่เขาโชคดี แต่ทำอย่างไรถึงไปถึงตำแหน่งปรมาจารย์ได้นั้นข้าก็ไม่ค่อยรู้เท่าไรนัก รู้แต่เพียงว่าพ่อของปรมาจารย์เจียงนั้นตายไปอย่างน่าอนาถเพราะเยี่ยเฟิง ฉะนั้นปรมาจารย์เจียงจึงเกลียดชังเยี่ยเฟิงอย่างมากและมักหาเรื่องเยี่ยเฟิงตลอด ไม่รู้ว่าเยี่ยเฟิงต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนในเงื้อมมือของปรมาจารย์เจียง คนที่รับผิดชอบในการเฝ้าเยี่ยเฟิงก็คือ ปรมาจารย์เจียง เฮ้อ ช่างน่าอดสู……อ้อใช่ ทำไมเจ้าถึงสนอกสนใจในเรื่องของเยี่ยเฟิงหรือ?”
“ฟังมาเยอะก็เลยเกิดความรู้สึกสนใจน่ะ”
จู่ๆ ผู้ถือธงลั่วก็พูดจาลามกและยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ลูบฝ่ามือ “หรือว่าเจ้าชอบเยี่ยเฟิงเข้า? พูดตามตรง มีหลายคนที่ชอบเยี่ยเฟิง รวมไปถึงตัวข้าเอง ลองคิดดูว่าจะมีความสุขมากแค่ไหน หากสามารถร่วมรักหลับนอนกับเขาได้”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเย็นชา
อยากจะร่วมรักหลับนอนกับเขา?
นางไม่รังเกียจที่จะให้ค่ำคืนที่น่าจดจำแก่เขา
กู้ชูหน่วนตะโกนออกมาด้วยเสียงดัง “พี่ลั่ว อีกประเดี๋ยวก็จะต้องเปลี่ยนเวรยามแล้ว เราต้องรีบไปเข้าเวรแล้ว”
ผู้ถือธงลั่วถอนหายใจ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร เขาแพ้และเสียเหงื่อท่วมตัว
เขาอยากจะหยุดตั้งนานแล้ว แต่ทุกคนกำลังจ้องมองอยู่ เขาจึงไม่กล้าที่จะตะโกนออกมาว่าหยุด ตอนนี้มีข้ออ้างแล้ว เขาจึงรีบออกมา
“ในเมื่อคืนนี้ต้องเฝ้าเวรยาม เช่นนั้นก็รีบไปกันเถอะ จะได้ไม่เป็นเรื่องเข้า”
ผู้ถือธงลั่วนั้นไม่รู้จักพอ ดังนั้นเขาจึงรีบห้ามเขา “เวลาเปลี่ยนเวรยามยังอีกนาน เล่นต่ออีกหน่อยหน่า”
อี้เฉินเฟยบิดตัวอย่างเกียจคร้านและหาวออกมา “เมื่อคืนหลับไม่ดี วันนี้จึงรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย พรุ่งนี้ค่อยเล่นเถอะ ข้ากลัวว่าเข้าเวรยามแล้วจะไม่กระปรี้กระเปร่าน่ะ”
“เดี๋ยวก่อนๆๆ น้องอี้ ไม่เช่นนั้น เจ้าช่วยเล่นแทนข้าหนึ่งครั้ง ครั้งสุดท้าย ดีหรือไม่”
“นี่……” อี้เฉินเฟยมองไปที่ผู้ถือธงลั่วด้วยความลำบากใจ
ผู้ถือธงลั่วยังคงไม่ลดละ “ขอร้องล่ะ ครั้งสุดท้าย ใช้เวลาไม่นานหรอกหน่า”
“เล่นอีกหนึ่งครั้งก็ได้ แต่ข้ากลัวข้าไม่สดใสเช่นนี้จะทำให้แพ้”
“ไม่ต้องกลัว หากแพ้ครั้งนี้ก็นับที่ข้า เจ้าเล่นได้อย่างสบายใจเลย” ผู้ถือธงลั่วไม่เชื่อว่าเขาชนะมาตลอดทั้งคืนและจะมาแพ้เอาได้ในตาสุดท้าย
“ไม่ได้หรอก หากข้าไม่สดใสมักจะแพ้ ข้ากลัวว่าแพ้แล้วเจ้าจะโทษข้า”
“ไม่โทษเจ้าหรอก ข้าสัญญา ข้าสาบานว่าข้าจะไม่โทษเจ้า ที่เจ้าแพ้นั้นก็นับที่ข้า”
ผู้ถือธงหลิวหัวเราะเยาะ “น้องลั่ว นี่เจ้ากำลังบีบบังคับคนอื่นหรือ?”
“ข้าบีบบังคับเขาที่ไหนกัน เจ้าต่างหากที่ไม่กล้าพนัน”
“ทำไมข้าจะไม่กล้าล่ะ”
“เช่นนั้นเรามาเล่นสักครั้ง ครั้งสุดท้าย พนันด้วยเงินทั้งหมดที่ข้าชนะในคืนนี้และนำเงินตำลึงของข้าตรงนี้พนันไปด้วย”