กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 286
อีกด้านหนึ่ง กู้ชูหน่วนพาฝูกวงไปยังหุบเขาพิศวิญญาณ
หุบเขาพิศวิญญาณสั่นสะเทือน นางเดินโซเซ และมองสัตว์ที่ใหญ่มหึมาด้วยความตกใจ
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง นางก็คงไม่เชื่อว่ามีคนสามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นมังกรได้ เปลี่ยนใบไผ่ให้กลายเป็นหงส์ได้ และยังกระเหี้ยนกระหือรือ ราวกับว่าเป็นมังกรและหงส์ที่มีชีวิตจริง ๆ
“ช่างทรงพลังเสียจริง” กู้ชูหน่วนตื่นตกใจ
ต้องเป็นยอดฝีมือพลิกฟ้า จึงจะมีความสามารถเช่นนี้
สีหน้าของฝูกวงดูไม่น่ามอง มีความเกลียดชังปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอันอ่อนโยนของเขาแวบหนึ่ง
“เป็นเผ่าเพลิงฟ้า คนของเผ่าเพลิงฟ้ากำลังต่อสู้กับเทพแห่งสงคราม นั่นเป็นวิชาของนายน้อยเผ่าเพลิงฟ้า”
“น้ำแข็งผนึกหมื่นลี้?”
“ขอรับ พลังของเขาแข็งแกร่ง สามารถทำให้น้ำแข็งปิดผนึกไปทั่วทั้งหุบเขาพิศวิญญาณได้ และบุกยึดทุกอย่างที่นี่ได้ในพริบตาเดียว” แต่หลังจากการน้ำแข็งปิดผนึกแล้ว เขาก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน จึงไม่ง่ายเลยที่เขาจะใช้วิชานี้
และในชีวิตของเขา เขาเคยใช้มันแค่เพียงครั้งเดียว และครั้งนั้นก็ใช้เพื่อจัดการกับผู้นำของพวกเขา
“แท้จริงแล้วเผ่าเพลิงฟ้าอยู่ที่ไหนกันแน่?” ความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัว
“คนของเผ่าเพลิงฟ้าชำนาญเรื่องเวทมนตร์คาถา พวกเขาต่ำช้าไร้ยางอาย โหดเหี้ยมอำมหิต และฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ”
กู้ชูหน่วนลูบคางและมองไปที่หุบเขาพิศวิญญาณ
นางเห็นว่าตอนที่ฝูกวงพูดถึงเผ่าเพลิงฟ้า นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เสี่ยวฝูกวง เจ้ามีความแค้นอะไรกับเผ่าเพลิงฟ้า”
“ท่านอาจารย์ ท่านจะทราบภายหลัง”
นางจำครั้งที่แล้ว นางยังถามคำถามนี้กับฝูกวง ฝูกวงปฏิเสธที่จะตอบ คราวนี้เขาไม่ยอมตอบ เขามีอะไรปิดบังกันแน่?
“เหตุใดวันนั้นคนของเผ่าเพลิงฟ้าถึงต่อสู้กับเยี่ยจิ่งหาน?”
“ดูเหมือนว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าจะฆ่าเสด็จแม่ของเทพแห่งสงคราม ดังนั้นระหว่างพวกเขาจึงมีความแค้นกัน ส่วนทำไมคนของเผ่าเพลิงฟ้าถึงฆ่าเสด็จแม่ของเทพแห่งสงครามนั้น ข้าน้อยก็ไม่แน่ใจ”
นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจสำหรับกู้ชูหน่วน
นางไม่คิดว่าเสด็จแม่ของเยี่ยจิ่งหานจะถูกฆ่าตาย
กู้ชูหน่วนมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดด้วยความกังวล มีเสียงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง หินก้อนใหญ่ระเบิดเหมือนเต้าหู้และเศษหินก็กระเด็นไปทั่ว
แม้แต่ท้องฟ้าก็เกือบจะถูกพวกเขาทำให้ทะลุ
เปรี้ยงปร้าง……
หมื่นลี้ไร้เมฆ แสงจันทร์กระจ่าง
ฟ้าร้องเสียงดังสนั่นและมีเสียงลมหอน
กู้ชูหน่วนหยุดเดิน
ต่อสู้กันอย่างดุเดือดขนาดนั้น
เยี่ยจิ่งหานจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่?
เป็นนางที่เข้าใจเยี่ยจิ่งหานผิดไป
เขามาที่หุบเขาพิศวิญญาณด้วยตนเอง แต่เขาไม่ได้พาเจี้ยงเสวี่ยมาด้วย อาจเป็นเพราะคาดการณ์ไว้มาคนของเผ่าเพลิงฟ้าจะฉวยโอกาสมารุกราน
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด คนกลุ่มหนึ่งก็เดินมาจากไกล ๆ
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าคนเหล่านั้นเป็นคนของเยี่ยจิ่งหาน
คนเหล่านี้กำลังคุ้มกันชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูอ่อนล้า รวมทั้งหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังถอยออกมาจากหุบเขาพิศวิญญาณ
นัยน์ตาของกู้ชูหน่วนเป็นประกาย เมื่อเห็นเยี่ยเฟิง นางก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“เยี่ยเฟิง”
ชุดสีเขียวครามของเยี่ยเฟิงเปื้อนเลือด และไม่รู้ว่าร่างกายของเขาถูกฟันมากี่แผล ใบหน้าซีดเซียวและตัวสั่นเทา เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นกู้ชูหน่วน
ข้าง ๆ เย่เฟิง ยังมีท่านยายตาบอดของเขา ท่านยายเยี่ยได้รับบาดเจ็บและถูกทหารอารักขาพาตัวมา
“ผู้น้อยคารวะพระชายา พระชายาทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี” ทหารอารักขาทยอยกันคุกเข่า
“ลุกขึ้นเถอะ” กู้ชูหน่วนเดินผ่านพวกเขาไปหาเยี่ยเฟิง
“ทำไมเจ้าถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ รีบกินยาเถอะ นี่เป็นยาห้ามเลือด ข้าจะห้ามเลือดให้เจ้าก่อน”
“รีบไป เร็วเข้า……” ไม่รู้ว่าเยี่ยเฟิงกำลังกลัวอะไร เขากวาดสายตามองกลับไปเป็นระยะ ๆ
ใบหน้าของทหารอารักขาดูตื่นตระหนก และแบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปคอยคุ้มกันกู้ชูหน่วน
“พระชายา ที่นี่อันตราย เชิญเสด็จออกไปกับผู้น้อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะโง่แค่ไหน นางก็เข้าใจ
ด้านหลังมีทหารไล่ล่า และเป็นทหารไล่ล่าที่เก่งมาก