กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 294
เยี่ยเฟิงลุกขึ้นอย่างยากลำบาก “นางคือพระชายาของเทพสงคราม หากพวกเจ้าสังหารนาง เทพสงครามไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่”
“ปัง”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้ง้างมือตบหน้าเขาเต็มแรง ทำให้หูของเยี่ยเฟิงมีเลือดสดไหลพราก และไม่รู้ว่าแก้วหูของเขาจะเสียหายหรือเปล่า
ผู้นำกองธงกล้วยไม้คว้าคอเสื้อเขา แล้วดึงเข้าใกล้ใบหน้าเหลี่ยมอันโหดร้ายของตน ผู้นำกองธงกล้วยไม้คล้ายกับภูตผีที่โผล่มาจากนรก พูดลอดไรฟันทีละคำ
“เจ้าใส่ใจนางขนาดนี้เลยรึ? เพื่อนางแล้ว เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า เพื่อนางแล้ว เจ้ายอมสละชีวิตของตัวเอง เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ ข้าว่าเจ้าคงลืมฐานะของตัวเองแล้วจริง ๆ”
เสียงเสื้อฉีกขาด
เสื้อที่เต็มไปด้วยเลือดของเยี่ยเฟิงถูกกระชากออก
ยามนี้ผู้นำกองธงกล้วยไม้ใช้แววตากระหายเลือดระคนอหังการจ้องมองเขา
เยี่ยเฟิงกระวนกระวายใจ ภาพในอดีตโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง
เขาบังร่างกายตัวอย่างทุรนทุราย “เจ้าจะทำอะไร”
“เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรล่ะ”
“ปล่อยข้า ปล่อย……”
เยี่ยเฟิงรู้สึกอยากตาย
ในป่าหนาทึบแห่งนี้มีคนอยู่มากมาย โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้ากู้ชูหน่วนด้วย หากยามนี้ถูก…….ยังไม่สู้ปลิดชีพเขาทิ้งเลย
“หุบเขาพิศวิญญาณมีคนปรนนิบัติมากมาย แต่ข้าก็โปรดปรานเจ้าคนเดียว แต่เจ้ากลับบังอาจสมคบคิดกับคนนอก บุกโจมตีหุบเขาพิศวิญญาณ และยังคิดจะเอาชีวิตข้าด้วย เสียแรงที่ข้าโปรดปรานเจ้าเพิ่มขึ้นทุกวัน”
ได้ยินคำว่าโปรดปราน ดวงตาเยี่ยเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล
“คำโปรดปรานที่เจ้าว่าก็คือการทรมานข้าซ้ำ ๆ เจ้าเคยดีต่อข้าเมื่อไหร่? อยู่ในหอคุมขังพญาหงส์สิบสามปี ไม่มีวันไหนเลยที่เจ้าไม่เฆี่ยนตีข้า หากสิ่งที่เจ้าเรียกว่าโปรดปรานคือการทำร้ายข้า ข้าไม่เอาจะดีกว่า”
“สารเลว ข้าเฆี่ยนเจ้าถือว่าเป็นเกียรติของเจ้า เจ้าควรซาบซึ้งใจถึงจะถูก”
เดิมทีอาการเยี่ยเฟิงก็สาหัสแล้ว แล้วจะทานต้านผู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่งได้เยี่ยงใด ผู้นำกองธงกล้วยไม้ที่มีพละกำลังมหาศาล ลงมือไม่กี่ที เขาก็กระดุกกระดิกไม่ได้แล้ว
เขาไม่อาจทนความเจ็บปวดจากการหยามเหยียบได้ เขาอ้าปากเตรียมจะกัดลิ้นตัวเองตาย
ทว่าผู้นำกองธงกล้วยไม้เห็นแล้วก็รีบตัดกรามเขาทิ้ง
เจ็บ……
เจ็บจนน้ำตาไหลริม
แต่ถึงจะเจ็บกายเพียงใดก็สู้ความเจ็บปวดในใจไม่ได้
ทำไม ทำไมเขาถึงหนีไม่พ้น ทำไมต้องเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ๆ เช่นนี้กับเขาด้วย
ทำไมความตายยังเป็นสิ่งที่เขาเอื้อมไม่ถึงด้วย
ผู้นำกองธงกล้วยไม้ตักเตือน “ถ้าเจ้ากล้าตาย ข้าจะให้กู้ชูหน่วนกับยายเฒ่าตาบอดตายไม่สู้อยู่”
น้ำตาไหลพรู ทัศนียภาพพร่าเลือนของเยี่ยเฟิงมองสวีซานเหนียงกำลังต่อสู้กับกู้ชูหน่วนอยู่
กู้ชูหน่วนหลบไปพลาง จ้องมายังเขาพลาง ซึ่งดวงตานางกำลังมีเพลิงโกรธลุกโชน คล้ายกับรู้สึกโกรธขึ้งแทนเขา
นางอยากเข้าไปช่วยเขาหลายครั้ง ทว่าสวีซานเหนียงดันขวางทางนางเสียทุกครั้ง
เยี่ยเฟิงเยียดยิ้มเย้ยหยัน หลับตาอย่างสิ้นหวัง หางตามีน้ำตาหยดลงไป เขารอให้ผู้นำกองธงกล้วยไม้ทารุณเงียบ ๆ
“ไร้ยางอาย”
กู้ชูหน่วนปาลูกดอกชิ้นสุดท้ายออกไป
ทว่าลูกดอกไปไม่ถึงตัวผู้นำกองธงกล้วยไม้ก็กระเด็นลอยไปอีกทางเสียแล้ว
สวีเจิ้นกับประมุขวิญญาณมืดยืนดูละครอย่างหน้าระรื่น
สวีซานเหนียงแย้มยิ้มกล่าว “แม่หนู คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า อย่าสนใจสิ่งอื่นสิ”