กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 383
นี่มันใช่การทุบงูเสียที่ไหน มันคือการเอามือเปล่าทุบเหล็กชัดๆ
เซี่ยวอวี่เซวียนถูกหางงูโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
กู้ชูหน่วนก็ถูกงูเหลือมปะทะเข้ามาด้วยเช่นกัน
การต่อสู้กับอสุรกายระดับสองยังมีช่องว่างของพละกำลังที่ใหญ่พอตัว การจัดการพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
กู้ชูหน่วนเช็ดเลือดที่มุมปากและพยายามสะกดความพลุ่งพล่านภายในเอาไว้
นางรู้ดีว่าถ้าวันนี้ยังจัดการงูน่ารังเกียจตัวนี้ไม่ได้ เรื่องเกล็ดหิมะพันปีก็ไม่ต้องพูดถึง เกรงว่าแม้แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังยากที่จะรักษาเอาไว้
แม้ว่าภายในถ้ำจะกว้างขวาง แต่ร่างของงูเหลือมก็ยังใหญ่เกินไป กู้ชูหน่วนใช้ประโยชน์จากวิชาตัวเบาหลบหลีกไปเรื่อยๆ พยายามทำให้งูเหลือมเสียแรงให้ได้มากที่สุด
หลังจากต่อสู้อยู่นานกู้ชูหน่วนก็พบว่าจุดอ่อนเพียงจุดเดียวของงูตัวนี้อยู่ที่หน้าท้อง เพียงแค่พลิกฝ่ามือ กริชอันคมกริบก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง
กู้ชูหน่วนมองหาโอกาสเพื่อกรีดท้องของมัน กรีดอวัยวะภายในทั้งหมดและจบชีวิตของมันเสีย
แต่นางไม่คาดคิดเลยสักนิดว่าภายในส่วนลึกของถ้ำ อยู่ๆ จะมีสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์โผล่มาและอ้าปากกลืนอสุรกายระดับสองที่ตัวยาวกว่ายี่สิบเมตรลงไปในคราวเดียว
แววตาของกู้ชูหน่วนสั่นสะท้าน นางก้าวถอยหลัง
สัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ที่ดูเหมือนภูเขาสูงตรงหน้าเป็นงูเหลือมยักษ์อีกตัวหนึ่ง งูตัวนี้มีเก้าหัว ลำตัวยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรและมีความกว้างพอๆ กับอ่างล้างหน้า
ใช้เวลาเพียงครู่เดียว งูยักษ์สองหัวที่น่าเกรงขามก็ถูกกินจนหมดไม่เหลือแม้แต่เศษซาก
เซี่ยวอวี่เซวียนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เขายืนขวางอยู่ข้างหน้ากู้ชูหน่วนและเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “นี่คืออสุรกายชั้นสูงสุดระดับสี่ แม้ว่าเราสองคนรวมกันก็ยังไม่พอให้มันกิน เจ้ารีบหนีไปซะ”
“ขั้นสูงสุดระดับสี่ เป็นครั้งแรกที่ข้าพบเจอกับอสุรกายระดับสูงขนาดนี้ แต่เจ้าคิดว่าคนที่มีวรยุทธ์แค่ระดับสองอย่างข้าจะหนีมันพ้นรึ”
เซี่ยวอวี่เซวียนเข้าใจ
แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีทางออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ถ้ำแห่งนี้ยาวเกินไป นอกจากนี้ระฆังวิญญาณสะบั้นยังมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ ฉะนั้นนางไม่มีทางยอมแพ้แน่ๆ
ขณะที่กู้ชูหน่วนกับเซี่ยวอวี่เซวียนกำลังคิดหาวิธีจัดการกับวิกฤติตรงหน้า อยู่ๆ ความทรงจำที่ซับซ้อนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของนางไม่หยุด
มันคืองูน้อยเก้าหัว งูที่นางให้กำเนิดและเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ มันอยู่กับนางตั้งแต่เกิด แต่เพราะมันโตเร็วเกินไปรวมทั้งมีขนาดใหญ่เกินไป สุดท้ายนางจึงนำมันมาที่ภูเขาสวินหลงและให้มันคอยเฝ้ารักษาสิ่งของบางอย่าง
นางลืมไปแล้วว่าสิ่งที่เฝ้ารักษาคืออะไร แต่ยังจำได้ว่างูน้อยเก้าหัวชอบกินเนื้อ
ฟ่อๆๆ
งูเก้าหัวชูหัวขนาดใหญ่มหึมาขึ้นมาอย่างหยิ่งผยอง มันกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเลื้อยเข้าไปหากู้ชูหน่วน
เซี่ยวอวี่เซวียนชักดาบอ่อนออกมาจากเอวและดึงพลังออกมาในระดับสูงสุด ถึงขนาดจะปลดพันธนาการของกำลังภายในและต่อสู้กับงูเก้าหัวจนตัวตาย
แต่กู้ชูหน่วนกลับยิ้มแสยะและเอ่ยล้อๆ ว่า “หมุนตัวหน่อยสิ ดูสิว่าน้ำหนักขึ้นไปแค่ไหนแล้ว”
ฟ่อๆๆ
งูเหลือมขนาดยักษ์ยืดตัวขึ้นจริงๆ และหมุนตัวขนาดมหึมาของมันไม่หยุด ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ได้อ้วนขึ้นมากนัก
แต่ถึงอย่างไรตัวของมันก็อ้วนเกินจนไม่กล้าเอ่ยชม
“ลงมาเถอะ เงยหน้ามองจนข้าปวดคอไปหมด”
งูเหลือมลดตัวลงมาทันทีราวกับเข้าใจภาษาของมนุษย์
เซี่ยวอวี่เซวียนทำปากพะงาบไม่หยุด
“ทะๆๆๆ… ที่เจ้าพูด ทำไมงูถึงเชื่อฟังล่ะ แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้าเป็นใครกันแน่”
“ข้าก็คือข้านะสิ จะเป็นใครไปได้ มันน่ารักจะตาย ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย มานี่มา มาให้ข้าลูบที”
งูเหลือมมาตามคำเรียกอย่างเชื่อฟัง มันวางหัวลงตรงหน้ากู้ชูหน่วนและหลับตาพริ้มอย่างพอใจ รอให้กู้ชูหน่วนลูบหัวมัน