กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 488
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 488
“ไปตอนนี้เลยหรือ?” รีบร้อนเช่นนั้นเลยหรือ?
“ท้องฟ้ายังสว่างอยู่เลยนี่ กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ข้าอยู่แต่ในจวนท่านอ๋องจนรู้สึกเบื่อหน่ายมานานแล้ว อีกอย่างวันนี้ข้าก็รู้สึกอารมณ์ดีที่ได้เงินมาเป็นจำนวนมาก”
“ได้” เยี่ยจิ่งหานยิ้มอย่างมีเลศนัย
และเขาก็ไม่ซักถามนางว่าไปเรียนวิชาการกลั่นยามาจากที่ไหน และไปหาตัวยาสมุนไพรมาจากที่ไหน เหตุใดถึงปรุงยาอายุวัฒนะที่วิเศษและเยอะมากมายเช่นนี้
ตั้งแต่ที่กู้ชูหน่วนย้อนเวลามาที่นี่ นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้เข้าวังหลวงอย่างจริงจัง
ที่นี่มีคานไม้แกะสลักและอาคารทาสีงามสง่า สีเหลืองทองแสดงความรุ่งโรจน์ และพระตำหนักก็เชื่อมต่อกันและเรียงรายกระจัดกระจาย
นางเดินเข้าไปพร้อมกับเยี่ยจิ่งหาน ผู้ที่เดินผ่านไปมาต่างคุกเข่าแสดงความเคารพ และร่างกายของพวกเขาก็สั่นด้วยความหวาดกลัว
ในพระราชวังที่กว้างใหญ่นี้ ทางที่พวกเขาผ่านตลอดทางราวกับว่าเข้าสู่ดินแดนที่ไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขาได้
กู้ชูหน่วนคิดหาวิธีปลีกตัวออกจากเยี่ยจิ่งหาน
เมื่อเข้าไปยังห้องเก็บสมบัติ นางไม่กล้าที่จะพูดออกไปตรงๆ ว่านางต้องการหัวใจของเข็มทิศ
นางพยายามอยู่หลายครั้งให้เยี่ยจิ่งหานมีเรื่องอื่นต้องจัดการ และให้นางไปยังห้องเก็บสมบัติคนเดียว และเดินเล่นภายในวังหลวง
แต่ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งหานเป็นอะไร เขากลับไม่หนีห่างไปไหนเลย และพยายามจะเข้าไปยังห้องเก็บสมบัติกับนาง
ไม่รู้ว่าเดินอ้อมไปกี่ถนนหนทางในวัง แต่ในที่สุดก็มาถึงห้องเก็บสมบัติ
ห้องเก็บสมบัติมีการจัดกำลังเฝ้าคุ้มกันอย่างหนาแน่น เมื่อเข้าไปข้างในจะมีคนคอยเปิดกับดักแต่ละด่านเข้าไป จากนั้นพวกเขาจึงจะสามารถเข้าไปได้
ภายในมีประตูหินทั้งหมดห้าประตู
หลังจากเข้าประตูหินสุดท้าย แม้ว่านางจะได้เห็นสมบัติล้ำค่ามามากมาย แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
ที่นี่มาชั้นวางเรียงรายกันเป็นแถว ชั้นวางอันแรกเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าที่ส่องประกายด้วยแสงประหลาด
มีสมบัติละลานตา ไข่มุกทะเลตะวันออกที่มีขนาดใหญ่ราวกับนกพิราบ แต่ละเม็ดนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากัน เป็นวงกลมเปล่งประกายเงางาม แต่ละเม็ดนั้นมีมูลค่ามากถึงทองคำนับหมื่นชั่ง
นอกจากนี้ยังมีตำราและภาพวาดในสมัยโบราณอีกจำนวนมาก อัญมณีโมราและอื่นๆ มากมาย
กู้ชูหน่วนร้องออกมาด้วยความตกใจ “สมบัติมากมายเช่นนี้เลยหรือ?”
“ถูกใจสิ่งไหน เจ้าเลือกได้เลย”
อะไรคือเรียกว่าถูกใจสิ่งไหน ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ นางล้วนต้องการทั้งสิ้น
แต่เมื่อเทียบกับหัวใจของเข็มทิศแล้ว นางต้องการหัวใจของเข็มทิศมากกว่า
“ได้ ข้าจะรีบไปเลือกเดี๋ยวนี้”
ในใจของกู้ชูหน่วนมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
นางคิดไม่ถึงเลยว่าหัวใจของเข็มทิศจะตกมาอยู่ในมือของนางได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
หลังจากเปิดกล่องหีบมาแล้วนับไม่ถ้วน ภายในมีทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่มีก็คือหัวใจของเข็มทิศ
ที่มีก็แค่เพียงจี้สร้อยหยกที่มีรูปทรงเป็นรูปหัวใจ
แต่รูปหัวใจที่มีขนาดเท่ากับเข็มทิศของนางกลับไม่มี และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นหัวใจเข็มทิศที่นางต้องการ
กู้ชูหน่วนกลัวว่าเยี่ยจิ่งหานจะสงสัย ตอนเริ่มแรกนางก็ยังพอทำทีท่าหาสิ่งที่ชอบ แต่ยิ่งหาไปเรื่อยๆ หัวใจของนางก็รู้สึกว้าวุ่นขึ้นมา
แต่หลังจากที่ค้นหาอยู่นาน กลับไม่มีหัวใจของเข็มทิศเลย
“เป็นอย่างไรบ้าง มีสิ่งที่ถูกใจหรือไม่?” เยี่ยจิ่งหานนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เขานั่งจิบชาพลางและมองไปที่นาง
“ท่านอ๋อง ที่นี่มีของดีเยอะแยะมากมายเหลือเกิน ข้าเลือกจนตาลายไปหมดแล้ว รู้สึกว่าข้าจะชอบแทบทุกอย่างเลย ท่านให้เวลาข้าอีกหน่อยนะ ข้าขอเลือกอีกประเดี๋ยว”
กู้ชูหน่วนเพิ่มความเร็วมากขึ้นและทำการหาใหม่อีกครั้ง แม้แต่มุมอับต่างๆ ก็ค้นหาอย่างละเอียด และนางยังแอบสังเกตว่ามีห้องลับที่แยกออกไปหรือไม่ แต่น่าเสียดายที่ทำให้นางต้องผิดหวังอีกครั้ง
ที่นี่ยังคงไม่มีอะไรทั้งนั้น
“เจ้ากำลังหาอะไรอยู่หรือ?”
“แน่นอนว่าท่านเป็นคนระแวงระวังเช่นนี้ หากมีสมบัติล้ำค่าหลบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ เพื่อจงใจไม่ให้ข้าหาเจอ เช่นนั้นข้าก็เสียดายแย่” กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเขินอาย
“ห้องเก็บสมบัติไม่มีห้องลับที่แยกออกไป ที่นี่ หากไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ไม่สามารถเข้ามาได้” คำพูดนี้เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจ
กู้ชูหน่วนทำการค้นหาเป็นครั้งที่สามก็ยังหาไม่พบ จากนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะลองถามเยี่ยจิ่งหานต่อหน้า “ของทุกสิ่งที่มีมูลค่าจะถูกเก็บเอาไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือ หรือว่าท่านเห็นว่าเพราะข้าต้องการมาที่นี่ จึงได้แอบเก็บสมบัติมีค่าบางอย่างเอาไว้”
“พระชายาคิดว่าข้าจะแอบอะไรอย่างนั้นหรือ? โลกนี้ข้าอยากได้อะไรข้าก็ได้มา ข้าจำเป็นต้องแอบซ่อนด้วยหรือ? แต่พระชายาเองหรือไม่ที่มีเจตนาอื่นแอบแฝง”
“พูดจาเหลวไหล ข้าแค่กลัวว่าท่านจะนำสมบัติอะไรไปแอบซ่อนเอาไว้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าก็เอาสิ่งนี้”
กู้ชูหน่วนเลือกไข่มุกราตรีที่มีขนาดใหญ่โตอันนั้นขึ้นมา
ในตอนกลางคืน ไข่มุกราตรีนี้จะเรืองแสงเปล่งประกายขึ้นช้าๆ และสามารถส่องสว่างทุกสิ่งรอบๆ ตัวได้ นอกจากนี้ ไข่มุกราตรียังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ส่องสว่างในเวลากลางคืนได้อีกด้วย และที่สำคัญมูลค่าของมันก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าสิ่งอื่นภายในห้องนี้เลย
เพียงแต่กู้ชูหน่วนไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด
หัวใจของเข็มทิศไม่ได้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นแล้วจะไปอยู่ที่ไหนได้นะ?
หรือว่า……
ข้อมูลที่เสี่ยวลู่ได้มาผิดพลาด?
“ได้ เช่นนั้นข้าจะมอบไข่มุกราตรีนี้ให้กับพระชายา”
“เช่นนั้นยังสามารถมอบสิ่งอื่นให้ได้อีกหรือไม่?”
“ไม่ได้”
“มอบให้ข้าเพิ่มอีกหนึ่งชิ้นเถอะนะ”
“ชิ้นเดียวก็ไม่ได้”
“ใจร้าย”
“ได้ยินมาว่าภายในวังหลวงมีงานเลี้ยง หากเจ้าชอบและอยากเข้าร่วมงานเลี้ยง เช่นนั้นข้าก็สามารถพาเจ้าไปได้”
กู้ชูหน่วนคิดอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อนึกถึงดวงตาของเข็มทิศแล้วนั้น นางจึงได้พูดออกไป “ก็ดีเหมือนกัน ข้ายังไม่เคยเห็นงานเลี้ยงในวังหลวงเลย ข้าอยากจะไปเห็นสักหน่อย เป็นงานเลี้ยงอะไรหรือ?”
“งานฉลองวันคล้ายวันเกิดขององค์หญิงตังตังน่ะ เมื่อวันนี้ผ่านไปนางก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว”
“สิบแปดปีแล้วหรือ?”
“สิบห้า” เยี่ยจิ่งหานกลอกตาใส่นาง
ผู้หญิงของรัฐเยี่ยไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่ในวัยสิบหกปี แต่เป็นสิบห้าปี เหตุใดเรื่องแค่นี้นางก็ไม่รู้ อีกทั้งยังกล้าพูดว่าสิบแปด?
ผู้หญิงที่อายุสิบแปดปี ส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่งงานมีครอบครัวกันหมด
คิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนนางหรือที่แต่งงานช้า?
“อ้อ……ก็ได้ เป็นเช่นนี้นี่เอง” กู้ชูหน่วนพยายามคิดหาทางปลีกตัวออกจากเขา
คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจิ่งหานจะพูดขึ้นมาก่อน “ข้ายังมีธุระต้องจัดการในตอนค่ำ เจ้าไปร่วมงานเลี้ยงด้วยตัวเองและมีชิงเฟิงติดตามเจ้าไป”
“ตกลง”
นางแทบไม่ได้ร้องขอเลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานแยกจากกัน กู้ชูหน่วนตบไหล่ของชิงเฟิง “นี่ ช่วงนี้ท่านอ๋องของเจ้าทำอะไรหรือ เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเขามักเอาแต่ทำงานยุ่งทั้งวัน หรือว่าเขาคิดทำเรื่องไม่ดีอะไรหรือไม่”
“ข้าน้อยเป็นเพียงคนใช้คนหนึ่ง เรื่องของนายท่าน ข้าน้อยไม่ทราบเลยขอรับ”
เขารู้แต่เพียงว่า เขาไม่ต้องการดูแลและคอยปรนนิบัติพระชายา
แต่ทุกครั้งกลับกลายเป็นเขาที่ต้องคอยดูแลและปกป้องพระชายา
“งานเลี้ยงอยู่ที่ไหนหรือ พาข้าไปเดี๋ยวนี้”
“ขอรับ”
ชิงเฟิงเดินนำทางนางไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง
กู้ชูหน่วนให้เขาเดินนำหน้าเพื่อแนะนำทิวทัศน์และงานอดิเรกของเจ้านายแต่ละคนในวังหลวง
ชิงเฟิงทำตามความต้องการของนาง แต่เมื่อเดินไปๆ เมื่อหันมองกลับหลังก็ไม่รู้กู้ชูหน่วนหายไปตั้งแต่เมื่อไร
ชิงเฟิงรู้สึกโกรธมาก
เขาถูกพระชายาหลอกและแอบหลบหนีไปได้อีกแล้ว
พระชายามักจะกลั่นแกล้งเขาเช่นนี้ทุกครั้ง
หากนางเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาในวังหลวง เช่นนั้นแล้วเขาจะอธิบายกับนายท่านอย่างไร
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ชิงเฟิงก็สั่งให้คนรีบออกติดตามหาพระชายาโดยด่วน
ภายในอุทยานสวนดอกไม้หลวง
กู้ชูหน่วนเดินเล่นพลางสังเกตสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ
นางรู้สึกค้างคาใจอย่างมากที่ไม่สามารถหาหัวใจของเข็มทิศเจอ
ทันใดนั้นก็มีเสียงก่นด่าด้วยความโกรธดังขึ้นข้างหน้า
“อะไรนะ แพ้อีกแล้วหรือ? เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าเลี้ยงดูพวกเจ้ามานานเช่นนี้ ช่างเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ?”
“ฝ่าบาทได้โปรดเย็นพระทัย เป็นเพราะกองกำลังทหารของรัฐหวามีความแข็งแกร่งอย่างมาก เราที่นี่ไม่มีแม่ทัพใหญ่ ดังนั้น……”
“ฝ่าบาท ไม่เช่นนั้นก็เชิญเทพแห่งสงครามกลับมา เพียงแค่เขาไปออกรบ หรือคนของเขาไปออกรบ รัฐเยี่ยของเราจะสามารถได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้รับชัยชนะ? ต่อให้ได้รับชัยชนะ เช่นนั้นแล้วตำแหน่งจักรพรรดิของข้าก็สั่นคลอนอย่างแน่นอน เจ้าไม่ดูความโลภของเทพแห่งสงครามบ้างเลยหรืออย่างไร”