กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 505
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 505
“เช่นนั้นพวกเราจะรอพระชายาอยู่ที่หน้าประตู”
“นี่ ข้าว่าพวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ไหน?ที่นี่คือจวนหานอ๋อง เพียงแค่ท่านอ๋องมีคำสั่ง พวกเจ้าก็จะต้องหัวขาด”
“พวกเราได้ยินมาว่าท่านอ๋องไปที่พระราชวังชิวเฟิง และไม่ได้อยู่ในจวนหานอ๋อง”
“อ้อ ท่านอ๋องไม่อยู่ พวกเจ้าก็เลยกำเริบเสิบสานงั้นหรือ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะปล่อยให้สุนัขออกไปกัดพวกเจ้าให้ตายเดี๋ยวนี้”
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด
นางส่องกระจก และเห็นว่ารอยคล้ำใต้ตาของนางคล้ำมากขึ้น
นอนไม่พอทรมานกว่าไม่ได้นอน
เมื่อเห็นว่าข้างนอกเสียงดังเอะอะมากขึ้นเรื่อย ๆ และนอกจากที่หน้าประตูแล้ว ยังมีเสียงดังมาจากข้างนอกกำแพงของลานบ้านอีกด้วย
นางขมวดคิ้วและลุกขึ้นไปล้างหน้าบ้วนปาก
“พระชายาหาน ท่านได้โปรดเขียนนิยายต่อเถิด ท่านพ่อของข้าป่วยหนัก เป็นเพราะนิยายของท่านจึงหมดอาลัยตายอยาก เขาอยากรู้ตอนจบของเรื่อง”
“พระชายาหาน ท่านแม่ของข้าก็พร่ำพูดถึงในตอนท้ายของเรื่อง หากท่านไม่เขียน ท่านแม่ของข้าก็คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ และซูบผอมลง”
“พระชายาหาน ข้าก็เช่นกัน ภรรยาของข้าหลงใหลในการอ่านนิยายเรื่องนี้ จึงให้ข้าออกมาขอร้องท่าน หากขอร้องไม่สำเร็จ นางจะพาลูกกลับไปที่บ้านเดิม ท่านได้โปรดสงสารข้าด้วย และเขียนนิยายเรื่องนี้ต่อเถิด”
กู้ชูหน่วนวางตะเกียบลงอย่างเสียงดัง
“เสียงดังเอะอะ จนข้ากินข้าวไม่ลงแล้ว พ่อบ้าน พ่อบ้าน……”
“กราบทูลพระชายา พ่อบ้านคนก่อนถูกท่านอ๋องปลดออกจากต่ำแหน่งแล้ว จนถึงตอนนี้ในจวนก็ยังไม่มีพ่อบ้านขอรับ”
อ้อ……
นางลืมไปว่าก่อนหน้านี้นางลากพ่อบ้านเข้ามามรส่วนเกี่ยวข้องด้วย จนทำให้พ่อบ้านถูกปลดออกจากตำแหน่ง
“เช่นนั้นในตอนนี้ใครเป็นผู้ดูแลจวนอ๋อง ยังไม่รีบไปไล่ผู้คนที่เสียงดังเอะอะอยู่ข้างนอกออกไปอีก เสียงดังจนข้าปวดหัวไปหมดแล้ว”
“พระชายา บ่าวไล่แล้วขอรับ แต่พวกเขาไม่ยอมไป ราษฎรกว่าครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงมารวมตัวกันที่นี่ พวกเราไล่กลุ่มหนึ่งไป ไม่นานอีกกลุ่มหนึ่งก็มาอย่างไม่จบไม่สิ้น นี่……หากไม่ฆ่าพวกเขาเสีย จวนอ๋องก็คงจะไร้อำนาจจริง ๆ ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นราษฎรที่ไร้ทางสู้”
ไอ้โง่เง่าเต่าตุ่น
เขายุยงให้ราษฎรจำนวนมากมาก่อความวุ่นวายที่นอกจวนของนาง
เพิ่งผ่านไปเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น นางไม่เชื่อว่าราษฎรเหล่านี้จะกล้ามาปิดล้อมจวนหานอ๋อง เพราะต้องการอ่านนิยายเรื่องนี้
“ชิวเอ๋อร์ เตรียมตัวไปที่พระราชวังชิวเฟิง”
จวนอ๋องถูกผู้คนทยอยกันมาปิดล้อม มีราษฎรจำนวนไม่น้อยข้างนอกสามารถมองเห็นด้านในของจวนอ๋องได้
เยี่ยจิ่งหานให้นางไปที่พระราชวังชิวเฟิงไม่ใช่หรือ?
เช่นนั้นนางจะใช้โอกาสนี้ หลบหนีระหว่างการเดินทาง เพื่อหากุญแจรูปดาวที่เผ่าปีศาจ
พระราชวังชิวเฟิงมียอดฝีมือนับไม่ถ้วน และมีองครักษ์คอยเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา ลานด้านหน้าและทุกหนทุกแห่งล้วนแต่เป็นค่ายกล ต่อให้นางสู้ตายก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้
ภายใต้การอารักขาของคนรับใช้ กู้ชูหน่วนออกจากลานด้านหลังและขึ้นไปนั่งบนรถม้า
แต่ในทันทีที่นางขึ้นไปบนรถม้า นางก็รู้สึกเสียใจภายหลัง
มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยยืนอยู่นอกรถม้า และจ้องมองมาที่นาง ราวกับคาดไว้แล้วว่านางจะหลบหนีไป
รถม้าทำมาจากเหล็กกล้า และไม่สามารถเปิดออกได้จากด้านในหรือด้านนอก
ใบหน้าของกู้ชูหน่วนหม่นหมองลงในทันที “พวกท่านคิดจะกบฏหรือ ถึงได้กล้ากักขังข้าไว้ในรถม้า”
“พระยาชาได้โปรดระงับโทสะ นี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋อง ผู้น้อยไม่อาจขัดขืนได้”
กู้ชูหน่วนแทบอยากจะสาปแช่งเยี่ยจิ่งหานให้ตาย
ระหว่างทาง กู้ชูหน่วนไม่สามารถหาโอกาสที่จะหลบหนีได้เลย และทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาพานางไปที่พระราชวังชิวเฟิง
ไม่นานหลังจากที่เข้าไปในพระราชวังชิวเฟิง ข้างนอกก็มีเสียงตีกลองดังขึ้น
เสียงครึกครื้นดังสนั่น ไม่เพียงแต่พระราชวังชิวเฟิงเท่านั้นที่ได้ยินอย่างชัดเจน แต่ยังดึงดูดผู้คนมากมายมาตลอดทาง
ไม่รู้ว่าชิวเอ๋อร์เจอเรื่องประหลาดอะไร นางยิ้มกว้าง “คุณหนู ไม่รู้ว่าตระกูลใหญ่ตระกูลไหนจะไปสู่ขอ งานช่างยิ่งใหญ่มากนัก”
“อ้อ……มากขนาดไหน?”
“ได้ยินมาว่ามีหีบเครื่องประดับและของเก่าเพียงหนึ่งร้อยแปดหีบเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผ้าไหมชั้นดีและหินหยกโมรา ผู้คนที่ถือสินสอดทองหมั้นเดินไปตามถนนหลายสาย”
กู้ชูหน่วนตกใจเล็กน้อย
งานยิ่งใหญ่มากขนาดนี้?
แม้กระทั่งงานอภิเษกสมรสของฝ่าบาท ก็ยังไม่มีงานที่ยิ่งใหญ่มากขนาดนี้?
หรือว่าจะเป็นองค์ชายพระองค์ไหน?
ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด มีเพียงเยี่ยจิ่งหานท่านั้นที่มีอำนาจมากที่สุด นอกจากเขาก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำเกินขอบเขต งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ภายใต้ผู้เป็นโอรสสวรรค์
หรือว่า……
เป็นเยี่ยจิ่งหานที่ไปสู่ขอบุตรสาวบ้านไหน?
ไม่ เป็นไปไม่ได้
“ทำไมรู้สึกเหมือนว่าความครึกครื้นจะใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ?”
“ชิวเอ๋อร์ก็รู้สึกสงสัยเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่าจะอยู่ด้านนอกพระราชวังชิวเฟิง หรือว่าผู้ที่จะมาสู่ขอกำลังมาที่พระราชวังชิวเฟิง?”
ไม่ใช่ชิวเอ๋อร์เท่านั้นที่สงสัย แต่ทุกคนก็สงสัยเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าพระราชวังชิวเฟิงจะไม่มีหญิงสาวคนใดที่ยังไม่ได้ออกเรือน งานที่เอิกเกริกเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมาสู่ขอสาวใช้”
เสียงของปี่มอญดังมากจนพวกเขาไม่อาจเพิกเฉยได้
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “ไป ไปดูกันเถอะ”
“คุณหนู คงไม่ดีกระมังเจ้าคะ ถึงอย่างไรท่านก็เป็นพระชายาหาน”
“เจ้าจะรู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็เพราะข้าเป็นพระชายาหาน และเป็นนายหญิงของพระราชวังชิวเฟิง ข้าจึงควรจะออกไปดู บางทีอาจจะมีคนมาสู่ขอข้าก็ได้”
“คุณหนู ท่านเลิกล้อเล่นได้แล้ว ลูกไม้นี้ไม่ตลกนะเจ้าคะ”
กู้ชูหน่วนจิ้มจมูกเล็ก ๆ ของนาง
“แค่อยากเห็นเจ้าตกใจ ข้าแต่งงานแล้ว ใต้หล้านี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้หญิงของเยี่ยจิ่งหาน ยังจะมีใครกล้ามาสู่ขอข้าอีก”
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านอ๋องของเราเป็นบุรุษที่ดีที่สุดในใต้หล้า ไม่เพียงแต่จะรูปโฉมงดงาม แต่ยังมีอำนาจ มีเงิน และสง่าผ่าเผยอีกด้วย ชายอื่นจะเทียบกับท่านอ๋องได้อย่างไร หากทั่วทั้งใต้หล้านี้มีใครกล้ามาสู่ขอท่าน ชิวเอ๋อร์จะยอมตัดหัวแล้วให้เขาเอาไปแตะเล่น”
ทั้งสองพูดไปพลางหัวเราะไปพลาง จนมาถึงหน้าประตูของพระราชวังชิวเฟิง
เมื่อมองออกไปข้างนอก ความมืดข้างนอกเต็มไปด้วยผู้คนที่สู่ขอ และดูไม่ออกว่ามีถนนกี่สายที่เรียงรายกันอยู่
สิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้คือมีสินสอดทองหมั้นมากมายจนนางไม่สามารถนับได้
ผู้คนทั้งสองข้างทางต่างพากันอิจฉา และผู้หญิงทุกคนก็แทบอยากจะแต่งงานกับเขา
กู้ชูหน่วนถาม “พวกเจ้ามาปิดล้อมประตูบ้านของข้า ไม่ไร้คุณธรรมไปหน่อยหรือ รีบไปซะ จะไปสู่ขอที่ไหนก็รีบไป”
“พวกเรามาที่นี่เพื่อสู่ขอ”
“อ้อ..มาสู่ขอใครหรือ?” กู้ชูหน่วนปุ้ยปากไปทางชิวเอ๋อร์
หรือว่าตอนที่นางไม่อยู่ที่นั่น มีใต้เท้าที่ไหนมาชอบพอชิวเอ๋อร์?
“คุณหนูสามตระกูลกู้ กู้ชูหน่วน”
“หา……”
กู้ชูหน่วนเกือบจะกัดลิ้นของตัวเอง
ชิวเอ๋อร์ตกตะลึง
และผู้คนในพระราชวังชิวเฟิงก็ตกตะลึงเช่นกัน
มาสู่ขอพระชายาหานของพวกเขา?
คนผู้นี้สติไม่ดีหรือไม่
พระชายาของพวกเขาเป็นสตรีของเทพแห่งสงคราม
“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ มาสู่ขอใคร?” กู้ชูหน่วนถามอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
“มาสู่ขอคุณหนูสามตระกูลกู้ กู้ชูหน่วน”
“ช้าก่อน……ใครเป็นนายของพวกเจ้า?”
“แน่นอนว่าเป็นข้าเอง”
เสียงอันมีเสน่ห์เย้ายวนดังขึ้น จากนั้นชายรูปงามผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น