กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 51
“ชู่ว… คุณหนูสามตระกูลกู้เป็นพวกหัวขี้เลื่อย คุณหนูห้าเป็นผู้หญิงหยำฉ่า ข้าว่าคุณหนูรองอาจจะไม่ใช่คนดีนักก็ได้”
“ข้าก็ว่างั้น ต่อไปถ้าพวกเราจะต้องแต่งงานละก็ อย่าแต่งกับพวกคุณหนูจากจวนอัครเสนาบดีเด็ดขาด เจ้าวัดไม่ดี หลวงชีสกปรก* กู้ชูหน่วนกับกู้ชูหลานเป็นแบบนี้ กู้ชูอวิ๋นจะดีสักเท่าไหร่กันเชียว”
กู้ชูหน่วนไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าคนอื่นจะพูดถึงนางอย่างไร นางเพียงแค่จ้องมองไปยังแท่นแข่งขันอย่างไม่ละสายตา
ในบรรดาการเดิมพันทั้งหมด มีคนเดิมพันฝ่ายเจ๋ออ๋องมากที่สุด ส่วนของกู้ชูอวิ๋นค่อนข้างน่าเห็นใจเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะผลกระทบจากเรื่องของกู้ชูหลานหรือเปล่า
ส่วนตัวนางเอง… ไม่มีใครสักคนเดิมพันข้างนาง
และผู้คนในสำนักศึกษาต่างก็ตะโกนเสียงดังเอะอะ
“พนันข้างคุณหนูสามตระกูลกู้ หนึ่งต่อห้าร้อย ทุกคนเร่เข้ามา ถ้าพลาดโอกาสนี้ต้องรออีกห้าปีเชียวนา”
กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย
หนึ่งต่อห้าร้อยงั้นหรือ
นั่นไม่ได้หมายความว่าถ้านางชนะ นางจะได้เงินห้าร้อยตำลึงจากการลงเดิมพันหนึ่งตำลึงงั้นหรือ
กู้ชูหน่วนพรวดพราดหันกลับมาพลางยื่นมือออกมาด้วย “วันนี้พวกเจ้าต้องพกเงินมาอยู่แล้วใช่หรือไม่ เอามาให้ข้ายืมก่อน ข้ารับรองว่าจะทำให้พวกเจ้าชนะได้เงินเต็มถุงเต็มถัง”
เซี่ยวอวี่เซวียนระแวงเล็กน้อย “เจ้าคงไม่ได้คิดจะเดิมพันว่าตัวเองจะชนะอีกหรอกนะ”
“เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดนั้นเลยหรือ”
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ เซี่ยวอวี่เซวียนและอีกสองคนก็เริ่มสนใจ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าบอกมาสิว่าเราจะลงเดิมพันใคร เยี่ยเฟิง? เจ๋ออ๋อง? หรือว่ากู้ชูอวิ๋น”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างชั่วร้าย ซ่อนแผนการบางอย่างไว้ภายใต้ดวงตาอันเป็นประกายกล้าคู่นั้น
“เอาเงินมาให้ข้าก่อน”
หลิ่วเย่ว์หันไปมองเซี่ยวอวี่เซวียน ถามด้วยสายตาว่าจะให้ดีหรือไม่
เซี่ยวอวี่เซวียนลูบคางและบ่นออกมา “แม่สาวอัปลักษณ์เจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก มีแต่นางที่เอาเปรียบคนอื่นมาตลอด ยังไม่เคยเห็นใครทำอะไรนางได้สักคน เอาละ เราจะลองเชื่ออีกสักครั้ง”
หลิ่วเย่ว์และอวี๋ฮุยพยักหน้า เช่นนั้นพวกเขาก็จะลองเชื่อดู
ทั้งสามคนหยิบเงินออกมาจากในอก เซี่ยวอวี่เซวียนห้าหมื่น หลิ่วเย่ว์สองหมื่น และอวี๋ฮุยอีกหนึ่งหมื่นตำลึง
กู้ชูหน่วนกลอกตา “มีแค่นี้เนี่ยนะ” ถ้ารู้แต่แรก เมื่อวานนางคงไม่ให้เงินทั้งหมดแก่พวกเขาเร็วขนาดนั้น
“ไม่ใช่ว่าให้คนที่เรือนไปแล้วหรอกนะ”
กู้ชูหน่วนรับเงินมาและเดิมพันข้างตัวเองหมดหน้าตัก
“ข้าเดิมพันว่ากู้ชูหน่วนจะชนะที่หนึ่ง”
เซี่ยวอวี่เซวียนและอีกสองคนตะลึงตาค้าง จากนั้นจึงเอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “เจ้าบอกว่าจะไม่เดิมพันข้างตัวเองมิใช่รึ”
“ข้าบอกว่าข้าไม่ได้โง่ เหตุใดจึงจะไม่เดิมพันข้างตัวเองล่ะ”
“เจ้า… เจ้าโกหกพวกข้า ข้าไม่เอาด้วย เอาเงินข้าคืนมาเลยนะ”
“พนันแล้วจะคืนได้อย่างไร ถ้าคนของสำนักศึกษาวังหลวงยอมคืนให้พวกเจ้า ข้าก็ไม่มีปัญหา”
“แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้าเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาทรมานข้าหรืออย่างไร”
แววตาของทางสามคนที่อยู่ต่อหน้านางเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ กู้ชูหน่วนคว้าไหล่ของเขาแล้วยิ้มอย่างสดใส “อย่ากังวลน่า ไว้ข้าชนะเมื่อไหร่ พวกเจ้าทุกคนจะได้เงินกลับไปอย่างน้อยก็คนละห้าล้านตำลึงเชียวนะ”
“ช่างมันสิ สิ่งที่เจ้าจะเป็นที่หนึ่งได้คือเป็นหัวไชเท้าหัวผักกาด อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
กู้ชูหน่วนหัวเราะฮึฮึพลางลูบเนื้อตัว ลูบไปลูบมาก็พบเงินอีกห้าร้อยตำลึงและนำไปลงเดิมพันเพิ่ม “ข้านำทรัพย์สินทั้งหมดที่มีรวมถึงชีวิตของข้ามาเดิมพันหมดแล้ว สวรรค์จะต้องอวยพรให้ข้าได้ที่หนึ่งแน่”
ผู้คนที่มุงอยู่รอบๆ ขี้เกียจแม้แต่จะแขวะและได้แต่รอดูว่ากู้ชูหน่วนจะทำให้ตัวเองตายด้วยวิธีไหน
ทันใดนั้นใครคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาจนทำให้ทุกคนแตกฮือ
“ท่านอาจารย์ซั่งกวนมา ให้ตาย เหตุใดท่านอาจารย์ซั่งกวนจึงมาที่แท่นแข่งขันด้วยเล่า อย่าบอกนะว่าเขาก็จะเดิมพันด้วย”
กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองและเห็นซั่งกวนฉู่ที่อยู่ในชุดสีขาวราวกับหิมะ ดูประหนึ่งเทวดาที่ออกมาจากฝุ่นสกปรก มุมปากของเขาเผยอขึ้นเล็กน้อยจนเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นละมุนละไม
รูปโฉมของเขางดงามไม่เป็นสองรองใคร สง่างามมีเสน่ห์ แม้กระทั่งท่วงท่าการเดินก็ยังโดดเด่นน่ามอง
“คารวะท่านอาจารย์ซั่งกวน”
ทุกคนต่างตะโกนทำความเคารพและเปิดทางให้โดยพร้อมเพรียง
ซั่งกวนฉู่พยักหน้าเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์”
กู้ชูหน่วนยิ้มและกล่าวว่า “เหตุใดท่านอาจารย์จึงมาที่แท่นแข่งขันได้ล่ะเจ้าคะ หรือว่าท่านอยากก็จะเล่นสนุกด้วย”
“วันนี้นักเรียนของข้าสามคนได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ข้าย่อมต้องมาให้กำลังใจเป็นธรรมดา”
ทุกคนอดขยับเข้าไปใกล้ไม่ได้ ตะโกนถามเสียงดังเอะอะว่า “ท่านอาจารย์ซั่งกวนอยากจะเดิมพันด้วยรึขอรับ พระเจ้า ท่านอาจารย์ซั่งกวนเป็นคนมีวิสัยทัศน์โดดเด่น พนันข้างใครคนนั้นจะต้องชนะที่หนึ่งเป็นแน่ เรายังตัดสินใจไม่ได้ งั้นก็ลงตามท่านอาจารย์ไปเลยซี”
“จริงด้วย ถ้าเดิมพันตามท่านอาจารย์ซั่งกวนจะต้องชนะแน่ๆ”
## เจ้าวัดไม่ดี หลวงชีสกปรก สุภาษิตไทยหมายถึง เจ้านายมีนิสัยหรือพฤติกรรมเป็นอย่างไร ลูกน้องก็เป็นอย่างนั้น