กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 516
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 516
จอมมารเยาะเย้ยอย่างเฉยเมย “ก็เป็นเพียงแค่ฝูงมดเท่านั้น ตายไปแล้วก็ตายไปสิ”
“สรรพสัตว์ทั้งหลายใครบ้างที่ไม่เปรียบเสมือนมดตัวหนึ่ง เฮอะๆ……”
กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมาจนทำให้จอมมารและเยี่ยจิ่งหานตกใจอีกครั้ง
หมอหลวงทำการตรวจวัดชีพจรและกล่าวด้วยความสั่นเกร็ง “พระชายาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก กระหม่อม……ทักษะการรักษาของกระหม่อมมีขีดจำกัดและเกรงว่า……เกรงว่าจะไม่สามารถช่วยชีวิตพระชายาได้ ตุ่บ……”
จอมมารทำการทุบต้นคอของหมอหลวงจนหมดสติลงทันที
และพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ “หมอหลอกลวง พูดจาข่มขู่ให้คนอื่นตื่นตระหนก ท่านพี่หญิง ท่านอย่าไปฟังที่เขาพูดไร้สาระเลย”
จอมมารหันหน้าไปมองกู้ชูหน่วน แต่กลับเห็นว่ากู้ชูหน่วนหมดสติและผลุบลงไปกับพื้นและถูกเยี่ยจิ่งหานอุ้มเอาไว้
เขาโกรธมาก ที่เยี่ยจิ่งหานแย่งไป “เยี่ยจิ่งหาน ปล่อยมืออันสกปรกของเจ้าเดี๋ยวนี้นะ”
เยี่ยจิ่งหานกอดร่างกายที่เย็นเฉียบของนางและค่อยๆ เดินไปข้างๆ เขายื่นมือออกมาเพื่อปัดป้องและขัดขวางจอมมาร
จอมมารหัวเราะเยาะไม่หยุด จากนั้นระเบิดพลุก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อเรียกสาวกของเผ่าปีศาจที่อยู่ใกล้เคียง “ได้ เจ้าจะได้เห็นดี ความขัดแย้งของเจ้าและข้าได้ก่อตัวขึ้นมาแล้ว ส่งคนมาฆ่ากำจัดคนที่นี่ให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
คนของจอมมารต่างชักดาบออกมาและเตรียมต่อสู้
เสียงที่เย็นชาของเยี่ยจิ่งหานค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ “เจ้าพานางหนีออกไปเถอะ”
“อะ……อะไรนะ……” จอมมารคิดว่าเขาฟังผิดไป
เยี่ยจิ่งหานลูบใบหน้าที่ซีดเซียวของนางและมุมปากของเขาเผยความขมขื่นที่ปวดร้าว
คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาหลับตาสนิทและลมหายใจอ่อนแรง ดูนางไม่มีความร่าเริงสดใสเหมือนก่อนเลย
นางได้รับบาดเจ็บสาหัส บนร่างกายของนางแทบไม่มีตรงไหนเลยที่ไร้บาดแผล เมื่อได้เห็นก็ทำให้เกิดความสงสารและเจ็บปวดใจ
นางโกหกเขา ทำร้ายเขาและหลอกใช้เขา
เขาอดไม่ได้ที่จะบีบคอนางให้ตายไปเสียเลย
แต่เมื่อเห็นนางหมดสิ้นเรี่ยวแรงและหายใจอ่อนล้า แถมยังกระอักเลือดออกมาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกอ่อนใจ
เขารู้ว่านางบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก และหากเขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่นนั้นเขาก็ยังสามารถช่วยชีวิตนางได้
แต่เขา……
ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และอาการพิษเหมันต์กำเริบขึ้น จึงทำให้ไม่สามารถปกป้องดูแลนางได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็ควรปล่อยให้นางไปกับซือม่อเฟย
“เยี่ยจิ่งหาน ที่เจ้าพูดไปเมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริงหรือ? เฮ้ มือของเจ้าสัมผัสไปตรงไหนน่ะ ยังไม่รีบปล่อยมืออันสกปรกของเจ้าอีก”
เยี่ยจิ่งหานไม่อยากปล่อยนางลง ในใจของเขานั้นทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวด
แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยกู้ชูหน่วนให้กับจอมมารไปและกล่าวอย่างแผ่วเบา “นางบาดเจ็บสาหัส เจ้ารีบพานางไปรักษาเถอะ”
“เหลวไหล หากไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าคอยขัดขวาง เช่นนั้นแล้วข้าก็สามารถพานางไปรักษาได้นานแล้ว”
จอมมารอุ้มกู้ชูหน่วนขึ้นและหันหลังเดินออกไป
เยี่ยจิ่งหานโบกมือและลูกน้องทุกคนก็เปิดทางเพื่อให้จอมมารและคนอื่นๆ ออกไป
ชิงเฟิงกล่าวขึ้นอย่างโกรธเคือง “นายท่าน ที่นี่เป็นอาณาเขตของเรา หากเราไม่เปิดทาง ต่อให้เขาเป็นถึงจอมมารก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ เหตุใดเราต้องปล่อยให้พวกเขาหนีไปด้วยหรือขอรับ?”
ถึงแม้ว่าท่านผู้เฒ่าฮวาจะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างกู้ชูหน่วนและจอมมาร แต่จากแววตาที่ดูเป็นกังวลและตื่นตระหนกของจอมมารก็สามารถมองออกว่า เขาจะไม่ทำอันตรายใดๆ กับกู้ชูหน่วนอย่างแน่นอน
เพียงแต่……
“ท่านอ๋อง หลานสาวของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น เขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของหลานสาวของข้าได้จริงหรือ?”
ชิงเฟิงกล่าว “ไม่เช่นนั้น ข้าน้อยจะนำคนไปแย่งตัวพระชายากลับมาขอรับ”
และสิ่งที่ตอบพวกเขากลับมาคือการที่เยี่ยจิ่งหานกระอักเลือดอีกครั้ง
ร่างกายของเขาเย็นยะเยือกและสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ พิษเหมันต์ที่ถูกระงับเอาไว้ได้ระเบิดกำเริบขึ้นโดยสมบูรณ์ ร่างกายและรวมไปถึงเสื้อผ้าของเขาก็เย็นเป็นน้ำแข็ง
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
เจี้ยงเสวี่ยรีบพูดขึ้นมา “เร็วเข้า รีบประคองท่านอ๋องกลับเข้าไปในห้อง หมอหลวง รีบไปตามหมอหลวงทุกคนมาที่นี่”
“ขอรับ……”
พระราชวังชิวเฟิงเกิดความวุ่นวายอลหม่าน
คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่ไม่สงบ
เมื่อรอจนกู้ชูหน่วนค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา สิ่งที่นางเห็นก็คือจอมมารจับคางของนางและจ้องมองนางด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
เมื่อเห็นว่านางฟื้นขึ้นมาแล้ว ดวงตาของจอมมารก็สว่างไสวเปล่งประกายขึ้นมาและความสุขของเขาเกินคำบรรยาย
ดวงตาคู่นั้นไม่มีความชั่วร้าย มันชัดเจนมากจนแทบไม่มีสิ่งเจือปนและสว่างกว่าดวงดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า
“ท่านพี่หญิง ในที่สุดท่านก็ฟื้นขึ้นมา”
เหตุการณ์ก่อนที่จะหมดสติไปหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของนางราวกับภูเขาพังทลาย
กู้ชูหน่วนกวาดสายตาไปโดยรอบในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้และถามขึ้นมา “ที่นี่ที่ไหนหรือ?”
“หุบเขาอวิ๋นฉี เป็นหน่วยย่อยของเผ่าปีศาจ”
“เจ้าพาข้าออกมาหรือ? เช่นนั้นแล้วเยี่ยจิ่งหานล่ะ พวกเจ้าต่อสู้กันหรือ?” กู้ชูหน่วนถามด้วยความร้อนใจ และไม่อยากคาดคิดว่าจะมีคนต้องล้มตายลงกี่คนหลังจากการบุกจู่โจมของพวกเขา
“เปล่า เขากลัวข้าจนหัวหดเลยและยอมจำนน จากนั้นก็ปล่อยพวกเราออกมาแต่โดยดี”
กู้ชูหน่วนไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
เยี่ยจิ่งหานกลัวจนหัวหด?
แถมยังยอมแพ้และยอมจำนน?
ต่อให้เป็นความฝันก็ไม่มีทางเป็นไปได้
“พูดความจริงออกมา” นางพูดเตือน
จอมมารพูดขึ้นมาอย่างเฉยเมย “ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไร หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่อยากทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้กระมัง”
กู้ชูหน่วนนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
เป็นเพราะนางได้รับบาดเจ็บสาหัสและเยี่ยจิ่งหายกลัวกว่านางจะได้รับการรักษาล่าช้า จากนั้นจึงยอมปล่อยให้พวกเขาออกมา
เมื่อนึกถึงเยี่ยจิ่งหาน ในใจของกู้ชูหน่วนก็รู้สึกหายใจติดขัด
“เป็นอะไรหรือ หรือว่ายังรู้สึกเจ็บตรงบาดแผลหรือ?”
จากนั้นกู้ชูหน่วนก็สังเกตเห็นว่าทั้งตัวของนางถูกพันด้วยผ้าพันแผลหนาหลายชั้น แทบจะเหมือนกับมัมมี่
บาดแผลทั้งหมดลึกลงไปในกระดูก นางไม่รู้ว่าซือม่อเฟยใช้ยาอะไรกับนาง แม้ว่าจะไม่เจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากทีเดียว
แต่ผ้าพันแผลทั่วร่างกายของนาง ทำให้นางมองไม่เห็นบาดแผล และแม้แต่ขยับก็ยาก
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง “ซือม่อเฟย เจ้าพันแผลให้ข้าเช่นนี้ เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”
“อ้อ……หมอบอกว่า เลือดของท่านพี่ไหลออกมาเป็นจำนวนมากและต้องการจะทำการห้ามเลือด ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องพันแผลเอาไว้ ข้ากลัวว่าพวกเขาจะพันได้ไม่ดี จึงได้สั่งให้พวกเขาพันให้ท่านพี่หลายๆ ชั้น”
กู้ชูหน่วนโกรธมาก “นี่หรือหลายๆ ชั้นของเจ้า ข้าคิดว่านี่มันหลายสิบชั้นไปแล้วนะ?”
“เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เลือดของท่านพี่จะได้หยุดไหลยังไงล่ะ”
“ขอร้องล่ะ ตอนนี้เป็นฤดูร้อน เจ้าพันแผลให้ข้าหลายชั้นเช่นนี้ เพราะต้องการให้บาดแผลของข้าเน่าเป็นหนองติดเชื้ออย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนไม่รู้เลยว่าตัวเองไปรู้จักคนโง่งี่เง่าเช่นนี้ได้อย่างไร
เขาได้รับตำแหน่งจอมมารมาได้อย่างไรกันนะ?
สติปัญญาเพียงเท่านี้ เหตุใดถึงยังมีชีวิตรอดอยู่บนโลกนี้จนถึงตอนนี้นะ?
อาการบาดเจ็บภายในของนางนั้นสาหัสอย่างมาก เมื่อโกรธโมโหขึ้นมาเช่นนี้ นางรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บภายในยิ่งสาหัสขึ้นมาก
ซือม่อเฟยตระหนักขึ้นได้ในทันที “ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น หากบาดแผลเกิดติดเชื้อและเน่าเปื่อยเป็นหนองจะทำอย่างไร?”
“ยังจะทำอะไรได้ รีบแกะผ้าพันแผลออกเร็วเข้าสิ” นางพูดขึ้นมาอย่างไร้ความอดทน
“แต่หมอได้บอกเอาไว้ว่าหากเปิดออก เช่นนั้นอาจประสบกับการเสียเลือดอีกครั้ง”
“เช่นนั้นเจ้าก็ให้พวกเขาพันเพียงสองรอบก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ เพียงแค่พันแผลให้ดี พันแค่สองรอบก็พอแล้ว”
“ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนพันแผลให้ท่านเอง”
“เหตุใดถึงเป็นเจ้า?”
“ร่างกายของท่านมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด หากให้พวกเขาพันแผล เช่นนั้นพวกเขาก็จะเห็นร่างกายของท่านพี่นะสิ หญิงชายมีความต่างกันไม่สามารถใกล้ชิดเกินไปได้”
เจ้าลูกสุนัข
เขาเองไม่รู้หรือว่าหญิงชายมีความต่างกันไม่สามารถใกล้ชิดเกินไปได้
เช่นนั้นแล้วเขาไม่ได้เป็นผู้ชายหรอกหรือ?
“เจ้าไปตามหมอหญิงมาเถอะ ที่นี่เป็นถึงเผ่าปีศาจจะต้องมีหมอหญิงอย่างแน่นอน”
“อ๋า ข้าลืมไปได้อย่างไรกัน มานี่ ไปตามหมอหญิงมาที่นี่เดี๋ยวนี้”
กู้ชูหน่วนกลอกตาอย่างอดไม่ได้
และเกือบจะเป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง
“ฉะนั้น เจ้าเป็นคนพันแผลให้ข้าทั้งหมดเลยหรือ?”
“ใช่นะสิ ใช้เวลาพันแผลเสียนานเลย เอ๊ะ เหตุใดถึงไม่สามารถแกะปมของผ้าพันแผลอันนี้ได้นะ หรือเป็นเพราะข้าผูกแน่นเกินไป จนทำให้มันไม่สามารถแกะได้อีก”
กู้ชูหน่วนปิดปากสนิท
พูดกับคนโง่เขลาเช่นนี้ นางเกรงว่าสติปัญญาของนางจะลดลง