กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 545
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 545
ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานเกรงว่าทุกคนจะถกเถียงกันอีกครั้งจึงรีบแนะนำว่า “นี่เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยชุดแรก อีกสักครู่ผู้อาวุโสของหุบเขาตันหุยของเราจะกลั่นยาต่อหน้าทุกๆคนอีกครั้งและยาที่กลั่นออกมาทั้งหมดก็จะเข้าสู่การประมูลซึ่งราคาที่สูงก็จะได้ไป”
ทั้งที่นั้นต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน
“ข้าก็ว่าแล้วครั้งนี้หุบเขาตันหุยได้จัดการชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะอันยิ่งใหญ่เป็นไปได้อย่างไรที่จะเพียงแค่ให้พวกเรามามาดูการทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆของผู้เยาว์ ที่แท้สิ่งสำคัญที่สุดรออยู่เบื้องหลังหน่ะ”
“ผู้อาวุโสของหุบเขาตันหุยล้วนเป็นยอดฝีมือในการกลั่นยา โดยพื้นฐานแล้วไม่มีผู้ใดในใต้หล้าสามารถเทียบได้ พวกเขากลั่นยาด้วยตนเองน้อยนักเมื่อพวกเขาออกโรงในครั้งนี้ต้องสามารถผลิตยาอายุวัฒนะได้มากมายอย่างแน่นอน”
“ก็ไม่ใช่หรอกหรือ เฮ้อ ครานี้หุบเขาตันหุยถือว่าไม่ได้มาเสียเที่ยว”
“แม้ว่าจะถูกผู้เยี่ยมยอดหลายท่านทำให้ตกอกตกใจก็คุ้มค่าแล้ว”
เพิ่งกล่าวจบลงค่ายกลแยกตัวก็สั่นสะเทือนสองสามครั้งซึ่งทำให้ใจของพวกเขาตะลึงกันขึ้นมาอีกครั้ง
“ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานไม่รู้ว่ายาล้างไขกระดูกทั้งห้าเม็ดนี้จะจัดการอย่างไร? หากว่ายาล้างไขกระดูกทั้งห้าเม็ดนี้ต้องการออกมาก็ขายให้พวกเราเถอะนะ”
“พวกท่านมาไกลเป็นพันลี้ถึงที่หุบเขาตันหุยของเราโดยเดินทางกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยแล้วยังจะให้พวกท่าน……เอ่อ……ตกใจกลัว ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก”
ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกล่าวพร้อมเงยหน้าขึ้นมองด้านบน ไม่รู้ว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยกต่อสู้กันไปถึงที่ใดกันแล้วอยู่ ส่วนเยี่ยจิ่งหานและจอมมารยังคงต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง
ทุกคนไม่ได้โง่ซึ่งก็เข้าใจที่ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกล่าวว่ารู้สึกละอายใจหมายความว่าอะไร
ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกล่าวต่อว่า “ดังนั้น ยาล้างไขกระดูกห้าเม็ดนี้ก็ตีกลองส่งดอกไม้ซึ่งส่งไปที่ใดผู้นั้นก็จะได้รับไป ถือเป็นการขออภัยทุกๆท่านจากหุบเขาตันหุย
ผู้คนที่มีกำลังน้อยและกลางมีความยินดียิ่งนัก
เช่นนี้ก็ยิ่งเป็นการดี หากว่าดอกไม้ส่งมาถึงในมือพวกเขา พวกเขาก็สามารถได้ยาล้างไขกระดูกเม็ดหนึ่งมาแบบเปล่าๆได้อีกด้วย
ลูกศิษย์ของหุบเขาตันหุยเริ่มตีกลองซึ่งเริ่มจากเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเริ่มดำเนินการตีกลองส่งดอกไม้ขึ้นพร้อมกัน
“ตึงตึงตึง……”
ดอกไม้สองดอกถูกส่งไปอยู่ในมือของผู้มีกำลังน้อยและกลางทั้งสองที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้พวกเขาหัวเราะออกมาไม่หยุดด้วยความตื่นเต้นยินดี
กู้ชูหน่วนเพียงแค่รู้สึกโศกเศร้าเท่านั้น คนเหล่านี้นะยาล้างไขกระดูกเม็ดเล็กๆหนึ่งเม็ดก็สามารถมีความสุขได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะกล่าวว่าช่างน่าเศร้าหรือช่างน่าขันดี
ยาล้างไขกระดูกเหล่านั้นมอบให้แก่นาง นางยังรู้สึกว่าเปลืองเนื้อที่
“ตึงตึงตึง……”
หลังจากที่ดอกไม้ดอกที่สามถูกส่งผ่านไปหนึ่งรอบก็ส่งมาถึงยังในมือของฮวาฉี่หลัว
ฮวาฉี่หลัวกล่าวด้วยความรังเกียจว่า “ก็ไม่ใช่เพียงแค่ยาล้างไขกระดูกหนึ่งเม็ดเท่านั้น ยังไม่พออุดฟันเลยจะนำไปทำสิ่งใดได้?”
ดอกไม้ดอกที่สี่ถูกส่งไปอยู่ในมือของหุบเขานรก ซึ่งหุบเขานรกยังมีรอยยิ้มสดใสแขวนอยู่บนใบหน้า แต่ละนิกายใหญ่ซึ่งอยู่ด้านข้างโดยตลอดรู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูกกับคำพูดนั้นที่กล่าวออกมาของฮวาฉี่หลัว คนของหุบเขานรกเขินอายยิ่งนักจึงทำได้เพียงยิ้มเจื่อนๆและนำยาล้างไขกระดูกกลับไปนั่งลงยังตำแหน่งของตน
พวกเขาได้ยาล้างไขกระดูกมาหนึ่งเม็ดก็มีความสุขเช่นนี้ แต่คนของเผ่าน้ำแข็งกลับดูถูกดูแคลน เมื่อทั้งสองเปรียบเทียบกันขึ้นมาดูเหมือนว่าหุบเขานรกของพวกเขาช่างดูขัดสนยิ่งนัก
ทุกคนต่างมองไปยังเผ่าน้ำแข็งด้วยความอิจฉา
ได้เปรียบแล้วยังอวดความฉลาดอีก ยาล้างไขกระดูกสามารถทำให้เส้นวรยุทธ์เก้าขั้นเข้าสู่ชั้นที่หนึ่ง อยู่ภายนอกแม้ว่าจะมีเงินก็หาซื้อได้ยากเย็นยิ่งนัก
อย่างไรเผ่าน้ำแข็งก็เป็นเผ่าเก่าแก่แม้แต่ยาล้างไขกระดูก็ไม่เข้าตา
กลับเห็นฮวาฉี่หลัวโยนกลับหลังด้วยท่าทางเกียจคร้านโดยที่ไม่ได้เห็นค่าของยาล้างไขกระดูก เพียงแค่ตบๆมือและมองดูกู้ชูหน่วนกลั่นยาอย่างสนใจ
ผู้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังฮวาฉี่หลัวซึ่งเป็นลูกศิษย์นิกายจำนวนไม่น้อยต่างวิ่งไปแย่งชิงกัน
แม้แต่ผู้นำนิกายหนึ่งก็อยากไป เพียงแต่ด้วยสถานะก็เกรงใจที่จะไปด้านหน้าแย่งชิงกับลูกศิษย์
ไป๋จิ่นด้านหนึ่งดื่มชาอีกด้านหนึ่งเตือนว่า “เสี่ยวฉี่เอ๋อร์ นี่คือหุบเขาตันหุยอย่าได้เอาแต่ใจตน”
ฮวาฉี่หลัวทำหน้าตาราวกับโดนหลอกพร้อมกับยิ้มแล้วกล่าวว่า “ก็ได้ก็ได้ ฉี่หลัวรู้แล้ว ข้าจะดูการแข่งขันอย่างเชื่อฟังก็แล้วกัน”
ฮวาฉี่หลัวทำเช่นนี้หน้าตาของผู้นำแห่งน่าหลานก็อับอายอยู่บ้าง ยาล้างไขกระดูกเม็ดที่ห้าให้ก็ไม่ใช่ไม่ให้ก็ไม่ใช่
น่าหลานหลิงลั่วส่งสัญญาณทางสายตา ผู้ตีกลองก็เข้าใจในทันทีและกลองก็ถูกตีดังตึงตึงตึงขึ้นมา
ในขณะที่ทุกคนจ้องมองดูให้ดอกไม้ส่งมาถึงยังตรงหน้าของตนเองเสียงกลองก็ได้หยุดลง
พวกเขาผู้ที่ต้องการดันไม่ได้
ผู้ที่ไม่ต้องการกลับได้ดอกไม้สีแดงดอกนั้นอีกครั้ง
ฮวาฉี่หลัวมองดูดอกไม้ดอกนั้นในมือของตนเองจากนั้นก็กระพริบตาแล้วกะพริบอีกและกล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า “ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานข้าดูขัดสนเช่นนั้นหรือ?”
“เอ่อ……เผ่าน้ำแข็งเป็นเผ่าสูงส่งที่ซ่อนตัวอยู่ผู้ใดกล้าบอกว่าพวกท่านขัดสน?”
“เช่นน้้นเหตุใดพวกท่านถึงได้ส่งดอกสีแดงให้ข้าอยู่ตลอด? ข้าไม่ได้ขาดแคลนยาล้างไขกระดูกหรอกนะ”
น่าหลานหลิงลั่วลูบหน้าผากและจ้องไปยังผู้ตีกลองสายตาหนึ่ง
ผู้ที่ตีกลองรู้สึกไม่เป็นธรรม เขาเพียงแค่ตีตามแต่ใจคิดไม่ถึงจริงๆว่าขณะที่เสียงกลองหยุดลงดอกไม้สีแดงได้ถูกส่งไปยังในมือของเผ่าน้ำแข็ง
ไป๋จิ่นกำหมัดและยิ้มอย่างสง่าผ่าเผยและสุภาพเย็นชา”ไป๋จิ่นขอบคุณท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานแทนฉี่หลัว ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานมีใจแล้ว”
“หึหึ……ด้วยความยินดี”
ดวงตาโตของฮวาฉี่หลัวเต็มไปด้วยความสงสัยพร้อมลดเสียงลงแล้วถามว่า “ท่านพี่ไป๋จิ่น แต่ว่าพวกเราจะเอายาล้างไขกระดูกไปทำอะไรดี ยาล้างไขกระดูกของเผ่าน้ำแข็งของเรากองอยู่เต็มไปหมดจนไม่มีที่วางแล้ว”
แม้ว่าเสียงของนางจะเบาแต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือจึงได้ยินคำพูดของนางอยู่แล้วเป็นธรรมดา
ทุกคนอ้าปากค้าง
ยาล้างไขกระดูกกองจนไม่มีที่วางแล้ว?
จริงหรือว่าหลอก?
นั่นคือยาล้างไขกระดูกซึ่งหลายนิกายใหญ่ๆก็ต้องการกันทั้งนั้น
หากว่าที่นางกล่าวเป็นความจริง เผ่าน้ำแข็งจะร่ำรวยเพียงใด?
ความโม้นี้ช่างมากมายเกินไปจนทุกคนแทบไม่เชื่อ
มีเพียงเผ่าหยก เผ่าเพลิงฟ้า หออันดับหนึ่งในใต้หล้า เผ่าปีศาจและคนอื่นๆที่ใช้สายตาครุ่นคิดถึงคำพูดของฮวาฉี่หลัว
เผ่าน้ำแข็ง……
เป็นไปได้หรือว่าเผ่าน้ำแข็งก็มีนักกลั่นยาชั้นสูงด้วย?
ไป๋จิ่นจ้องมองฮวาฉี่หลัวครั้งหนึ่งในที่ที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น
ฮวาฉี่หลัวปิดปากอย่างหงุดหงิด
ก่อนจะมาลานแสดงยุทธ์ท่านพี่ไป๋กำชับนักกำชับหนาให้นางอย่าได้พูดจาไร้สาระ พอนางร้อนรนก็ลืมเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างจ้องสายตามองยังตัวนาง ฮวาฉี่หลัวก็เขวี้ยงยาล้างไขกระดูกออกไปเลยและมองนักกลั่นยากลั่นยาอย่างเชื่อฟังพร้อมหยุดพูดจาใดๆอีก
ผู้คนทั้งหลายก็ยื้อแย่งกันขึ้น
ผู้มีกำลังขนาดใหญ่ตาโตขึ้นทีละคนๆ แย่งชิงกันประมูลยาที่ยังไม่ได้ออกมาจากเตาหม้อต้มกลั่นยา
หม้อต้มกลั่นยาจำนวนไม่น้อยประมูลได้ในราคาที่สูงเสียดฟ้า มีแต่ของกู้ชูหน่วนเพียงผู้เดียวที่ไร้ซึ่งผู้สนใจ
ฮวาฉี่หลัวตบโต๊ะและกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ผู้คนเหล่านี้มีวิสัยทัศน์เช่นไรกันเหตุใดถึงไม่มีผูัใดซื้อหม้อต้มกลั่นยานั้นที่ท่านพี่กู้กลั่นหล่ะ? พวกเขาตาบอดกันหมดหรืออย่างไร?”
นางเป็นผู้ที่เสียงดังอยู่เสมอ ประโยคนี้ได้ด่าทอทุกคนในที่นั้นเข้าไปด้วย
สีชิ่นปิดปากด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์และกล่าวว่า “ผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์ไป๋ น้องฉี่หลัวของเผ่าท่านนั้นช่างตรงไปตรงมาน่ารักจริงๆจนทำให้คนเห็นแล้วมีความสุขทั้งสิ้น”
เดิมทีมีคนต้องการต่อว่าฮวาฉี่หลัว
เมื่อเห็นว่าหออันดับหนึ่งในใต้หล้ามีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาจึงทำได้เพียงระงับความไม่พอใจเอาไว้
จองหองเกินไป ช่างหยิ่งผยองนัก ไม่ว่าเผ่าน้ำแข็งจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถดูถูกดูแคลนคนเช่นนี้ได้
ฮวาฉี่หลัวกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ท่านพี่กู้ พวกเขาไม่ซื้อยาอายุวัฒนะของท่านข้าซื้อเอง ท่านคิดว่าข้าควรซื้อในราคาเท่าใดถึงจะเหมาะสม? หรือไม่ท่านเสนอราคามาไม่ว่าเท่าใดข้าก็จะซื้อ”
กู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะมองนางตรงๆก็กล่าวอย่างเกียจคร้านว่า”เกรงว่าเจ้าจะซื้อไม่ไหวนะ”
“ช่างน่าขัน มีสิ่งใดที่เผ่าน้ำแข็งของเราไม่สามารถซื้อไหวได้ ท่านสนใจเพียงแค่เสนอมาก็พอแล้ว”
“ไม่ขาย มากเท่าใดก็ไม่ขาย”
“เอ่อ……แต่ว่าของพวกเขามีคนซื้อหมดแล้ว”
“ยาอายุวัฒนะของข้าไม่ขายเป็นหม้อขายเพียงเป็นจำนวนเม็ด รอให้ออกจากเตาค่อยว่ากัน”