กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 566
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 566
รองหัวหน้าเผ่าซือคงเงยหน้าขึ้นมาทันทีทันใด
เขาไม่พอใจกับการตัดสินใจของผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ย แต่เมื่อมองไปรอบๆ และนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เขาจึงระงับความในใจเอาไว้
“เริ่มการประลองรอบที่สอง ผู้ลงแข่งคือกู้ชูหน่วนกับซ่งอวี้”
หลังจากมีคำประกาศ ชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยชุดแบบขงจื๊อจึงก้าวออกมาช้าๆ
มีดาบเคลือบเจ็ดสมบัติอยู่บนหลังของชายผู้นั้น เขาเป็นคนรูปงามสง่าผ่าเผย มีพลังเหลือล้น ทุกอิริยาบถดูงดงามราวกับสวรรค์สรรค์สร้าง อ่อนละมุนราวกับหยกสมชื่อของเขา (อวี้แปลว่าหยก)
“แม่นาง วรยุทธของซ่งอวี้สูงส่งกว่าท่าน ถึงจะโชคดีได้รับชัยชนะในการต่อสู้ก็ไม่ใช่ชัยชนะที่น่าภูมิใจ ทว่าเมื่อรองหัวหน้าเผ่ามีคำสั่งมาเช่นนี้ ซ่งอวี้ก็มิกล้าปฏิเสธ ถ้าแม่นางไม่รังเกียจ ซ่งอวี้จะยอมให้ก่อนเจ็ดกระบวนท่า และรับรองว่าจะไม่ดึงดาบออกจากฝัก ถ้าดึงดาบออกมา จะถือว่าซ่งอวี้แพ้”
“เจ้าโง่ เจ้ากำลังต่อสู้ในนามของเผ่าเพลิงฟ้า คิดจะทำเป็นเล่นงั้นรึ” รองหัวหน้าเผ่าซือคงตำหนิเขาทันที
เยี่ยจิ่งหานเหมือนจะยิ้ม “หรือว่ารองหัวหน้าเผ่าจะไม่มั่นใจในตัวซ่งอวี้”
เหล่าสาวกของเผ่าเพลิงฟ้าพากันกระซิบกระซาบ
ด้วยความสามารถของซ่งอวี้ ต่อให้เขาจะยอมก่อนเจ็ดกระบวนท่า ต่อให้เขาจะไม่ชักดาบออกจากฝัก แต่เขาก็ยังจัดการกู้ชูหน่วนได้ภายในไม่กี่นาทีอยู่ดี
พวกเขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดรองหัวหน้าเผ่าซือคงจึงต้องหวาดกลัวขนาดนี้
หรือว่าเพราะนางเอาชนะหวางเฟิงกับหวางอวี่ได้
ที่นางชนะหวางเฟิงกับหวางอวี่ได้เป็นเพราะนางวางยาพิษ เอาชนะด้วยความฉลาดแกมโกง
แต่เมื่อเทียบระดับวรยุทธ วรยุทธของซ่งอวี้สูงกว่าวรยุทธของหวางเฟิงกับหวางอวี่มิใช่น้อย
มีเพียงสมาชิกระดับสูงของเผ่าเพลิงฟ้าเท่านั้นที่เข้าใจว่าเหตุใดรองหัวหน้าเผ่าซือคงจึงกังวลเช่นนี้ ถ้ากำจัดแม่สาวน้อยผู้นี้ไม่ได้ พวกเขาคงจะอยู่อย่างไม่สงบไปตลอดชีวิต
กู้ชูหน่วนหรี่ตามองอย่างพินิจพิเคราะห์ ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่เพียงแต่หน้าตาดี แต่ยังสุภาพและสง่างาม พลังรอบกายเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมอันน่าเกรงขาม ไม่เหมือนกับหวางเฟิงและหวางอวี่ที่ชั่วร้ายโหดเหี้ยมท่าทางเหมือนโจร
นางแย้มยิ้มราวกับดอกท้อที่เบ่งบาน มีเสน่ห์ชวนให้ลุ่มหลงจนหลายคนอดไม่ได้ที่จะหลงใหล
“เผ่าเพลิงฟ้ารักษาคำพูดเสมอ พี่ใหญ่ซ่งเป็นศิษย์คนใกล้ชิดของหัวหน้าเผ่า ข้าเชื่อว่าที่ท่านพูดมาเมื่อครู่นี้เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้ ถูกต้องหรือไม่”
คำพูดของนางแทบจะปิดตายทางหนีที่ไล่ของรองหัวหน้าเผ่าซือคง
ถ้าไม่ยอมรับคำพูดของซ่งอวี้ เกียรติที่มีอยู่ของเผ่าเพลิงฟ้าและเกียรติของหัวหน้าเผ่าคงจะไม่มีเหลือ ถึงอย่างไรซ่งอวี้ก็เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของหัวหน้าเผ่า
ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยไม่พอใจซ่งอวี้เป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็ยังคงเอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “สิ่งที่เผ่าเพลิงฟ้าพูดออกไปย่อมเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้”
“เช่นนั้นคงต้องขอบคุณพี่ใหญ่ซ่งอวี้สำหรับความเอื้อเฟื้อ” กู้ชูหน่วนหัวเราะหึๆ
นางเปิดฉากโจมตีทันทีหลังจากกล่าวขอบคุณ ทันทีที่ลงมือนั่นคือหนึ่งกระบวนท่า นางหวังจะเอาชนะให้ได้ภายในเวลาอันสั้นที่สุดเพื่อยุติการแข่งขัน
ดาบของนางดึงดอกดาบขึ้นมาหลายดอก และดอกดาบเหล่านั้นก็พุ่งโจมตีจุดบัญชาการของซ่งอวี้ ความจริงมันพุ่งตรงไปที่ดวงตาของเขา ดาบทุกเล่มไร้ความปรานี ทั้งรวดเร็วแม่นยำและโหดเหี้ยม
ซ่งอวี้คิดไม่ถึงว่านางจะชิงลงมืออย่างรวดเร็วและดุดันเช่นนี้ นอกจากนี้เพลงยุทธของนางยังเปลี่ยนไปมาก ทั้งรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาประเมินนางต่ำไปจนเกือบจะถูกนางเล่นงาน
พลังของเขาเกือบจะอยู่ในระดับห้า ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะรวดเร็วแค่ไหนเขาก็ยังหลบได้
ปึงๆๆ
ห้ากระบวนท่าผ่านไปในพริบตา ซ่งอวี้ยังไม่เริ่มลงมือและปล่อยให้นางลงมือต่อ
แววตาของกู้ชูหน่วนหนักแน่น
ห้ากระบวนท่าผ่านไปแล้ว นางเหลือโอกาสอีกแค่สองกระบวนท่าเท่านั้น
ชายผู้นี้แข็งแกร่งกว่าหวางเฟิงและหวางอวี่หลายเท่า
ไม่แปลกใจเลยที่คนของเผ่าเพลิงฟ้าไม่กลัวนาง
เยี่ยจิ่งหานกับสีชิ่นและคนอื่นๆ อดกังวลแทนนางไม่ได้
ตอนที่จัดการกับกระบวนท่าที่แข็งแกร่งของหวางเฟิงกับหวางอวี่ กู้ชูหน่วนไม่สนเรื่องความเป็นความตายและฝืนใช้ฝ่ามือ แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนไม่เป็นไร แต่ภายในคงได้รับบาดเจ็บ
และไม่ใช่การบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
ตอนนี้นางจะเป็นคู่ต่อสู้ของซ่งอวี้ได้อย่างไร
เป็นไปได้หรือที่นางจะใช้พิษอีกครั้ง
ซ่งอวี้ไม่เหมือนหวางเฟิงและหวางอวี่ หลังจากเรียนรู้ความผิดพลาดของพวกเขา ซ่งอวี้มีหรือจะไม่ระวังตัว
ดอกดาบปลิวไสวราวกับเทพธิดาและปกคลุมไปทั่วร่างของซ่งอวี้ พลานุภาพของมันแข็งแกร่งจนคนที่ดูอยู่ข้างๆ ยังอกสั่นขวัญหาย
คนของเผ่าเพลิงฟ้าต่างหวาดกลัว
ความแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นฝีมือของผู้ที่อยู่ในระดับสองจริงๆ รึ
แววตาที่อบอุ่นของซ่งอวี้หรี่แสงลง เขายกดาบในมือและรวบรวมกำลังภายในเพื่อสลัดดอกดาบที่ปลิวว่อนอย่างบ้าคลั่งออกไป
ขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการสลัดดอกดาบ กู้ชูหน่วนและดาบก็รวมเป็นหนึ่งเดียวและจู่โจมช่วงล่างของซ่งอวี้อย่างฉับพลัน การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ
ฟึบ!
ผู้ชายหลายคนในที่แห่งนั้นจับช่วงล่างของตัวเองไว้แน่นราวกับดาบนั้นพุ่งเข้าใส่พวกเขา
กู้ชูหน่วนเคลื่อนไหวเร็วมากและใช้ความเจ้าเล่ห์โจมตีอีกฝ่าย ถ้าถูกดาบเล่มนั้นแทงจริงๆ ต่อให้ไม่ตาย ซ่งอวี้ก็คงจะหมดความเป็นชายไปตลอดชีวิต
ซ่งอวี้ดึงกำลังภายในกลับอย่างกังวลและปกป้องช่วงล่างของตัวเอง และนั่นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจากดอกดาบ ผมและชายเสื้อบางส่วนของเขาถูกไฟไหม้
ในสถานที่ประลองแห่งนี้นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะใช้กระบวนท่าที่สกปรกเช่นนี้ ซ่งอวี้ที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้จึงหน้ามืดไปพักใหญ่
แต่สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิมก็คือกู้ชูหน่วนโจมตีร่างกายส่วนล่างของเขาไม่ได้ นางจึงเปลี่ยนไปตีก้นของเขาแทน
ถ้าเขาตอบโต้และยอมแพ้เรื่องเจ็ดกระบวนท่า เขาจะกลายเป็นคนผิดคำพูด และถ้าผิดคำพูด เขาจะแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ทันที
ถ้าเขาไม่โต้กลับและปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องชีวิต แต่เขาจะเสื่อมเสียชื่อเสียงจนหมดสิ้น
ทุกคนรอดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ซ่งอวี้กระแทกดาบลงกับพื้นและดึงขึ้นมา หลบเลี่ยงได้อย่างหวุดหวิด
ฟึ่บ
เส้นผมปลิดปลิว
เส้นผมของซ่งอวี้ถูกตัดโดยปราณดาบของกู้ชูหน่วน ลอยลิ่วอยู่กลางอากาศ ก่อตัวเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม
เอ่อ…
นี่มัน…
ซ่งอวี้แพ้แล้วหรือ
คนของเผ่าเพลิงฟ้าอดสบถออกมาไม่ได้ “กู้ชูหน่วน เจ้ามันขี้โกง”
“เป็นสตรีที่ไร้ยางอายยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้”
“จริงด้วย นางคงโยนเกียรติของสตรีทิ้งไปหมดแล้ว”
“นางทำเรื่องน่าอายโดยไม่ละอายใจ ตีตรงไหนไม่ตี แต่ดันไปตีตรงนั้น”
“การประลองครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ ท่านรองหัวหน้าเผ่า ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ขอให้มีการแข่งใหม่ด้วยเถิด”
จอมมารลูบเส้นผมสีดำของตนเองอย่างเนิบช้าพลางเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “แพ้แล้วก็คือแพ้ หรือเผ่าเพลิงฟ้ายอมรับไม่ได้ว่าพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคน…”
จอมมารหยุดคำพูดไว้แค่นั้น
เพราะเห็นว่าซ่งอวี้ถือบางอย่างไว้ในมือ
ในไม่ช้าเขาก็คลายมือออก ในมือของเขาคือผ้าผูกผมสีขาวของกู้ชูหน่วนและเส้นผมเส้นเล็กๆ ของนาง
ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
กู้ชูหน่วนเผาชายเสื้อและเส้นผมของเขา นอกจากนี้ยังตัดเส้นผมที่นุ่มสลวยของเขาด้วย
แต่ซ่งอวี้ก็ได้ผ้าผูกผมและเส้นผมของนางไปเช่นกัน
พวกเขาเสมอกัน ไม่มีใครได้เปรียบใคร
เจ็ดกระบวนท่าผ่านไป
ซ่งอวี้จู่โจมกลับได้ทุกเมื่อและไม่กลายเป็นฝ่ายรับเหมือนเมื่อครู่
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อกู้ชูหน่วนเลย
คนของเผ่าเพลิงฟ้าพากันส่งเสียงโห่ร้อง มีเพียงสีชิ่นและคนอื่นๆ เท่านั้นที่เงียบ
ซ่งอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยน “แม่นางทำให้ข้าไม่พอใจ”
กู้ชูหน่วนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย จากนั้นริมฝีปากสีแดงจึงเผยอออก “ถ้าท่านไม่อยากขุ่นเคืองใจ เช่นนั้นท่านก็ควรเห็นแก่หน้าข้าและยอมแพ้ง่ายๆ จะดีกว่า”
ซ่งอวี้ชะงัก
เขาแค่สุภาพด้วยนิดหน่อย คิดไม่ถึงว่านางจะหน้าด้านหน้าทนถึงขนาดบอกให้เขายอมแพ้ต่อหน้าทุกคน
ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองเลยหรือ
สาวกของเผ่าเพลิงฟ้าบางส่วนมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“เป็นผู้หญิงแบบไหนกัน เหตุใดจึงไร้ยางอายพูดเช่นนี้ออกมาได้ คนแบบนี้เห็นจะเข็นไม่ขึ้นแน่แล้ว”
เผียะ!
สาวกผู้นั้นถูกตบที่มุมปากอย่างแรงหลังจากพูดจบ แรงจนกระทั่งมีเลือดไหลออกมาจากฟันสองซี่ เจ็บปวดจนเขาต้องร้องโอดโอย